คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #69 : Lily Of The Valley : Part 1
“ เสด็จยาย! ให้หนูขี่ม้า ! หนูจะขี่ม้า! ” เออาเรนดิล เจ้าชายลำดับที่สามแห่งกอนโดลิน
กำลังปรบมือ พร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้เห็นท่านหญิงขาวอาร์เฟย์นีเอล
ทรงขี่ม้าตัวใหญ่สีขาวราวปุยเมฆอยู่บนสนามหญ้าอันแสนกว้าง ตรงด้านหน้าของอุทยานหลวง
“ โอ้! เออาหลานรัก เจ้าสนใจหรือจ๊ะ ? ”
คำกล่าวของสตรีร่างสูงเพรียว ในชุดกระโปรงยาวสีขาวสะท้อนแสง เรือนเกศาสีดำขลับเป็นมันถักเป็นเปียไว้รอบศีรษะ และปล่อยยาวสยายสะบัดปลิวไปตามสายลม
ทำให้เออาเรนดิลต้องร้องเสียงดังลั่นตอบว่า “ เออาอยากให้ท่านสอน! ”
ขุนนางพรายคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ใกล้กับเออาเรนดิล ก็อุทานว่า
“ เจ้าชายน้อย อย่าทรงตะโกนใส่เสด็จยายเสียงดังซิ ไม่สุภาพเลยนะ! ”
เด็กชายร่างเล็กในชุดทูนิคสีฟ้า จึงหันไปที่เจ้าของต้นเสียง “ ลุงกลอร์ฟี่ ! มันไม่สุภาพตรงไหน ? ”
กลอร์ฟี่หรือลอร์ดกลอร์ฟินเดลแห่งสกุลมาลีมาศ ก็ตอบเลยทันที “ กลอร์ฟี่ว่าเด็กชายที่น่ารัก
อย่างพระองค์ไม่ควรตะโกนร้องลั่น กลอร์ฟี่ไม่ชอบเด็กผู้ชายที่พูดดังๆ ”
เออาเรนดิลก็อมยิ้มเล็กน้อย “ เพราะอย่างงี้เอง นานาจึงเล่าว่า ท่านชอบเล่นกับเด็กผู้หญิงนี่เอง ”
ใบหน้าหล่อเหลา แถมออกหวาน ของกลอร์ฟินเดลก็ออกสีแดงระเรื่อ
“ ก็สาวน้อยทั้งหลายชอบตามติดลุงกลอร์ฟี่คนนี้แจนี่นา เจ้าชายน้อยเองก็เถอะ
พอเจริญพระชันษาเป็นหนุ่มก็มีแน่นอน ! ”
“ เหรอ ? แล้วจะเป็นไงล่ะ ? ” นัยน์ตาสีฟ้าของเออาเรนดิลมีแววความสงสัยปรากฏขึ้น
ทันใดนั้น ท่านหญิงขาวก็ทรงควบม้ามาใกล้ และลงจากหลังของมัน พร้อมกับลูบแผงขนสีขาวนวล
“ ริกนา เหนื่อยมากไหม ? ”
แม่ม้าริกนาก็ส่งเสียงเครือ ทำให้อาเรเดลลูบจมูกเบาๆ “ เหนื่อยจริงซิเนี่ย ”
“ พระน้องนาง...เอ่อ... ”
“ กลอร์ฟินเดล อย่าสอนหลานข้าให้แก่แดดเชียวนะ ”
พรายหนุ่มผมสีทองเปล่งประกายก็เม้มริมฝีปากของตัวเอง ขณะที่มองเด็กน้อย
ไปเดินอยู่ข้างท่านหญิงขาว “ เสด็จยายอาเรเดลทรงสอนขี่ม้าให้หนูได้ไหมพระเจ้าค่ะ ? ”
เออาเรนดิลกล่าวประโยคที่คิดว่าสุภาพที่สุดแล้ว
“ ฮ่าๆ ขี่ม้ามันต้องฝึกหนัก เจ้ายังเล็กจะขี่ได้เหรอ ? ” นางกล่าวพลางลูบผมของเด็กชาย
“ หนูขี่ม้าไม้ได้ตั้งนานแล้ว หนูขอให้ท่านสอนขี่ม้าตัวจริงนะๆ นะเสด็จยายจ๋า ”
น้ำเสียงหวานน่ารักประจำตัวของเออาเรนดิลเช่นนี้ ทำให้พระนางอาเรเดลทรงคุกเข่า
มาอยู่ในระดับเดียวกัน “ อ้อนเก่งจังเลย จูบยายซิ ”
เออาเรนดิลก็ทำตาม โดยจูบที่พระปรางด้านขวาของเสด็จยายและท่านหญิงขาวก็จูบตอบกลับ
“ เอาล่ะ! มาเริ่มกันเลย ” อาเรเดลทรงอุ้มเจ้าชายน้อยขึ้นมาบนหลังของริกนา อาชาสีขาวของนาง
กลอร์ฟินเดลก็ชักสีหน้าตกใจ “ พระน้องนางทรงม้าต่ออีกหรือ ? ”
“ ทำไมล่ะ ? ก็ข้าอยากให้เออารู้จักการขี่ เหมือนที่ข้าสอนลูกมาแล้วบ้าง ”
อาเรเดลชักบังเหียนเบาๆ และกระซิบกับร่างน้อยที่อยู่บนพระเพลาว่า “ พร้อมนะ เออาเรนดิล ”
เด็กชายสนองการตอบด้วยการพยักหน้า และรู้สึกว่าสายลมที่พัดอยู่ตัวจะหมุนแรงขึ้น
“ ว้าว !!!!!! ” นัดดาแห่งทัวร์กอนอุทาน เมื่อเสด็จยายทรงทำให้เขาเหมือนลอยบนอากาศได้
ริกนาได้วิ่งไปรอบสนามด้วยความเร็วระดับหนึ่ง ตามสัญชาตญาณว่ามีเด็กเล็กอยู่กับเจ้านายนั้นเอง
“ เสด็จยายทรงม้าเก่งจังเลย ”
“ แน่ล่ะ ! ยายของเจ้าขี่ได้มาตั้งแต่โตกว่าเจ้าสักหน่อย ผ่านมานานปีแล้ว ยายก็ไม่เบื่อหรอก ”
แต่กลอร์ฟินเดลไม่ค่อยพอใจที่ได้พระขนิษฐาและพระนัดดาแห่งองค์กษัตริย์ทรงม้ากันแบบนี้
“ พระนางไม่ควรทรงม้านานนัก มิเช่นนั้น พระองค์จะประชวรอีกครั้งพะยะค่ะ! ”
อาเรเดลก็ตอบกลับมาว่า “ โอ้! ท่านกลอร์ฟินเดล ข้าหาใช่หญิงชราที่ต้องเอาแต่อยู่กับที่นะ
และไม่ต้องมาเตือนข้าเหมือนเสด็จพี่ด้วย! ”
ความดื้อดึงของท่านหญิงขาวแห่งกอนโดลินนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่เข้าใจกัน
กลอร์ฟินเดลก็คงไม่ต้องตกที่นั่งลำบากหรอก ถ้าไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่ใกล้เข้า
“ ลอร์ดกลอร์ฟินเดล ” สุรเสียงเคร่งขรึมดังมาจากข้างหลัง
ทำให้เขาต้องหันไปมองโดยพลัน เพราะนั้นคือเสียงของจอมกษัตริย์เหนือหัวของชาวโนลดอร์
“ ใต้ฝ่าพระบาท! ถวายบังคม! ” ขุนนางพรายรีบโค้งคำนับ และมองที่พรายหนุ่มสูงศักดิ์ที่ตามหลังมา
ซึ่งก็คือ เอคเธลิออนแห่งสกุลอัมพุชพิลาส กำลังส่งยิ้มเจื่อนๆ มาที่เขาด้วย
แต่องค์ราชาทรงลั่นพระโอษฐ์ว่า “ อาเรเดล! น้องมาขี่ม้าเล่นอีกทำไม ? เจ้าไม่แข็งแรงพอที่จะขี่ม้า
ได้อีกแล้วนะ ”
“ เสด็จพี่! ก็ข้าเบื่อที่จะต้องอยู่แต่ในวัง อีกอย่างข้าอยากให้เออาเรนดิลที่รักเล่นกับข้า ”
“ ถ้าเจ้าเป็นลมขึ้นมาล่ะ ? เลิกทำให้พี่เป็นห่วงเจ้าเสียที ”
คำกล่าวเสียงดังแบบนี้ ทำให้เด็กชายรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีแล้ว เหมือนว่าเวลาสนุกกำลังจะหมดไป
“ เสด็จยายลงจากม้ากันเถอะ "
อาเรเดลก็ทรงถอนใจ เพราะไม่ต้องการขัดใจของพระนัดดา “ ก็ได้จ๊ะ ”
ท่านหญิงขาวจึงทรงควบม้าตรงเบื้องพระพักตร์ของพระเชษฐา และพาเออาเรนดิลลงมาอย่างนุ่มนวล
“ หญิงน้อย ! เจ้าไม่ควรมาขี่ม้าในวันที่อากาศร้อนแบบนี้ ถ้าเจ้าอุ้มหลานอยู่แล้วตกม้าพร้อมกัน
จะทำเช่นไร ? ”
“ แล้วเมื่อไรที่จะเลิกห่วงข้าล่ะ ? ข้าหัดลูกสาวท่าน และลูกชายตัวเองมา ก็ไม่เคยตกม้ากันสักครั้งเดียว ”
องค์ทัวร์กอนก็ทรงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เริ่มจะกริ้ว “ เจ้าไม่ได้แข็งแรงเมื่อก่อนแล้วนะ
ถ้าพิษนั้่นกำเริบขึ้นมาอีกล่ะ ? ”
“ ข้าไม่เป็นไรง่ายๆ อยู่แล้ว ฝ่าพระบาท ท่านก็ทราบดี ”
นัยน์ตาสีเทาครามสองคู่สบกันครู่หนึ่ง “ ก็ได้พี่ตามใจ เล่นกับหลานไปก็แล้วกัน ”
แล้วก็ทรงมองที่เด็กชายผมทองที่ยังยืนอยู่ข้างท่านหญิงขาว “ เจ้าชายน้อย มากับตาซิ ”
“ พระเจ้าค่ะ ” เออาเรนดิลตอบรับมือใหญ่ตรงหน้า และเดินจูงไปด้วยกัน
ฝ่ายอาเรเดลก็หันมาที่สองเสนาบดีแห่งนครกอนโดลิน โดยกลอร์ฟินเดลก้มหน้านิ่ง...
“ พวกเจ้าตามพี่ชายข้าไปเถอะ ข้าจะพาริกนาไปที่โรงม้าเอง “
“ พระน้องนาง ให้กระหม่อมไปเป็นเพื่อนนะ “ ดวงตาสีมรกตของกลอร์ฟินเดลมีแวววิงวอน
ส่วนเอคเธลิออนก็กล่าวว่า “ เช่นนี้ พระนางจะกริ้วฝ่าบาทไหม ? ”
“ ข้าไม่แน่ใจหรอกเอคธี่ เพราะข้าก็ทำให้พี่โกรธมาหลายเรื่องแล้ว ”
~~~~~******~~~~~
ว้าว! เสร็จไปตอนหนึ่ง ท่านแม่เป็นสาวมั่นจริงๆ เลย แล้วกลินจะมาได้ยังเนี่ย ? ^^
ความคิดเห็น