คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #53 : ดอกไม้ที่ร่วงหล่น 25 ( fallen flower ) * romantic scene * 1
สวัสดีครับ กลินคุงขอบอกว่า “ ข้านี่มีแผนเด็ดอยู่ในใจบางอย่างแล้วล่ะ ขอรับท่าน ”
เจ้าทูจังน่าหมั่นไส้ ดูเหมือนจะมีความลังเลใจมากไปหน่อย ช่างหัวมัน !! เค้าจะอ้อนพี่หญิงอิดริล …....
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ฝ่ายพระธิดาแห่งองค์ทัวร์กอน นึกถึงอนุชาและชายผู้เป็นที่รักแล้ว จะกลับมากันได้หรือยัง ?
ฝีเท้าขาวผ่องได้ก้าวเดินออกจากระเบียงหินอ่อนนั้น และทอดพระเนตรไปที่มุมด้านล่าง
จากหอคอยแห่งกษัตริย์อันสูงส่ง และเปล่งประกายเป็นสีกุหลาบในยามเย็น
ดวงตาสีเทาครามที่สามารถแลเห็นสิ่งต่างๆ ได้ไกลก็เห็นร่างสูงสองร่างที่กำลังควบม้ามาจาก
จากทุ่งหญ้าทุมลาเดนทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองแร่อังฮาบาร์
" ทูออร์และโลมีออน กลับมาพร้อมกัน งั้นหรือ ? "
อิดริลยิ้มให้กับองค์เอง.....ถ้าพวกเขาไม่มีปัญหาอะไรต่อกันก็คงดีไม่น้อย....
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เมื่อได้กลับมาถึงวังหลวง เจ้าชายเอลฟ์รูปงามก็ไม่ได้เอ่ยกับชายหนุ่มเจ้าของผมทองเป็นลอนคนนั้นอีก
และปฏิเสธที่จะทานอาหารเย็นด้วย เพราะไม่อยากพบกับพี่หญิงอิดริล ตอนนี้เลย...
แม้จะถึงยามราตรีแล้ว ร่างสูงโปร่งของเขาก็มานั่งที่หมู่โต๊ะหินอ่อนที่เคยนั่งเล่นในเวลากลางวัน
ทูออร์...รักข้า...รักพี่หญิง....รักพี่หญิง....รักมายกลิน....รักอิดริล...รักข้า
โธ่....อะไรกัน บ้าจริงเชียว ข้าสับสนไปหมดแล้วนะ !!
จนกระทั่ง พรายหนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้าของบุคคลหนึ่งที่ไม่ใช่ทูออร์เป็นแน่
แต่เป็นของ บุรุษที่เขาเคารพรักมากที่สุดในชีวิต นั้นคือ พระมาตุลาทัวร์กอน
" เป็นไรบ้าง ตาหนูกลิน " พระสุรเสียงอ่อนโยน จากร่างสูงใหญ่ในชุดสีทับทิมและสีทองคำ
ทำให้ผู้เป็นหลานหลวงนั้น ก้มศีรษะลงด้วยความเคารพ
" เสด็จลุง กระหม่อมขออภัยที่..."
นัยน์ตาสีดำขลับลุกวาวกว่าเดิม เมื่อแลเห็นองค์กษัตริย์ทรงถือถาดอาหารสีเงิน ด้านบนคือ อาหาร
อันได้แก่ ซุปร้อนๆสีขาวนวล สลัดผัก กับเนื้อย่างที่ตั้งเป็นสำรับ แถมยังมีผลไม้สดคือ บลูเบอร์รี่และราสเบอร์รี่
.....ของโปรดทั้งนั้นเลย....อือ.......ไปอยู่ที่เหมืองแร่กลับมา...มันก็...อือ...
" กระหม่อม...ใต้ฝ่าพระบาท...ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทรงถืออาหารมาเองเลยพระเจ้าข้า "
ใบหน้าเรียวยาวนั้นแสดงถึงความละอายใจอย่างมาก
" โธ่ๆ พ่อหนุ่มน้อยของลุง เจ้าไม่ยอมมาทานข้าว เพราะอะไรล่ะ ลุงเป็นห่วงเจ้า
แม่เจ้าก็บ่นใหญ่เลยนะ ว่า โลมีออนกลับมาไม่ยอมทักแม่และก็หนีมานั่งรับลมคนเดียว "
องค์ทัวร์กอนทรงพระสรวลเล็กน้อย ก่อนที่จะทรงวาดถาดอาหารบนโต๊ะนั้น
" แต่ว่า หม่อมฉัน ไม่อยาก..."
องค์ทัวร์กอนทรงแตะที่ไหล่บางของพระภาคิไนย " เสวยเถิด องค์ชายคนดีของลุง "
" หม่อมฉันไม่หิว..."
" เดี๋ยวก็นอนไม่หลับ พรุ่งนี้ก็ตื่นมาเป็นลมไป รู้ไหม ? "
เอลฟ์หนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าเป็นพันปี ก็ไม่อยากจะโต้คารมต่อหรอก...
" ก็ได้พระเจ้าข้า "
มือเรียวทั้งสองข้างจึงเช็ดด้วยผ้าขาวนวลก่อนที่จะประคองถ้วยซุปสีครามอ่อนและตักทานอย่างเรียบร้อย
" กินเถอะนะ พ่อหลานรัก และก็อย่าคิดมากด้วย "
" หลานของพระองค์ไม่ได้คิดมากเสียหน่อย เสด็จลุงทรงเป็นห่วงหลานคนนี้เกินไปแล้วต่างหาก "
มายกลินกำลังหั่นชิ้นเนื้ออยู่ แต่ว่าเนื้อมันเหนียวจริง ต้องออกแรงมากเสียด้วย !!
พระหัตถ์แกร่งขององค์ราชันแห่งกอนโดลินก็ทรงยกขึ้น " มานี่ ลุงหั่นให้ก็ได้ "
แล้วก็ทรงทำตามที่รับสั่ง ด้วยว่า เนื้อย่างสีน้ำตาลไหม้ก็กลายเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพองาม
" ขอบพระทัยพระเจ้าข้า ทอร์เอน - นานา ( เสด็จลุง ) "
" ทานให้หมดเลยนะ หนุ่มน้อยของลุง เราต้องมีเรื่องคุยกันสองคนหน่อยล่ะ "
เรื่องอะไรอีกนะ ? เสด็จลุงของหม่อมฉัน
หลังจากที่ เจ้าชายแห่งนครกอนโดลินได้เสวยต่อเบื้องพระพักตร์เสร็จแล้ว
ก็ตรงเข้าหยิบเม็ดของบลูเบอร์รี่สีน้ำเงินขึ้นมารับประทานเพียงเม็ดเดียว
" แม่เจ้า ตอนนี้นั่งเล่นอยู่กับอิดริล ลุงก็มาอยู่กับเจ้าแทน "
เจ้าชายอุปราชพยักหน้า และองค์กษัตริย์ก็ตรัสขึ้นด้วยพระสุรเสียงทุ้มกังวาน
" มายกลิน ทำไมเจ้าต้องโกรธผู้นำสารแห่งองค์อุลโมล่ะ ? "
ผู้รับฟังสะดุ้งทันที " หม่อมฉันไม่ชอบที่เขาเป็นมนุษย์เอไดน์ "
" ทีตอนฮูรินและฮูออร์มาอยู่ที่ เมื่อหลายปีก่อนนี้ เจ้าก็สนิทกับพวกเขา เด็กคนนี้คือลูกของฮูออร์ "
" นั้นล่ะ ที่หม่อมฉัน....เสด็จลุง...เขารักกับพี่หญิงอิดริล และนางก็รักและอยู่กับเขา "
คราวนี้ องค์ทัวร์กอนก็ทรงถอนพระทัยบ้าง " เจ้าหวงพี่ ? "
" ถ้าทูออร์แก่ตายไป พี่หญิงก็ต้องเป็นแม่ม่าย และทนทุกข์อยู่เช่นนั้นตลอดไป
พระองค์ทรงชอบเขาที่เขาได้รับหมวกเกราะปีกหงส์ โล่สีเงิน และดาบของพระองค์มา
แถมเขายังเป็นผู้นำสาสน์ของเทพอุลโม ที่พระองค์ทรงรักและเทิดทูนแบบนั้น ?
ในพระทัยของพระองค์ ก็ทรงรักทูออร์มาก ราวกับว่า เป็นพระโอรส "
พระราชาเอลฟ์ผู้สูงศักดิ์ก็ทรงลุกขึ้น และทอดพระเนตรที่ดวงจันทร์ข้างแรมบนท้องนภา
" คืนนี้ ทิริออน เทพจันทราปรากฏไม่งามเลยนะ "
" พระองค์บ่ายเบี่ยง ? "
" ลุงน่ะมีเหตุผล เจ้าจำไม่ได้เหรอ ตอนที่เราอยู่ในสงครามเนียร์นายธ์ ฯ ฮูออร์บอกอะไรไว้กับเรา ? "
มายกลินก็ตอบทันที " ดาวดวงใหม่จะมาบังเกิดจากวงศ์วานของเราทั้งสอง "
" ถูกต้องแล้ว พ่อหนุ่มน้อย...เจ้าเป็นหลานคนแรก และเป็นลูกชายของลุง "
พระหัตถ์แกร่งได้รูปงาม ลูบเรือนผมสีดำขลับของเอลฟ์หนุ่ม " ลุงอยากให้เจ้าเข้าใจในเจตนานี้ "
" หม่อมฉันไม่อยากเห็นเด็กจรจัดคนนั้นมาเทียบเคียงหม่อมฉัน "
" ตาทูออร์ อ่อนกว่าเจ้ามาก และเขาเองก็ถ่อมตนพอ...เขาจะไม่กล้าเหนือเจ้าหรอก โลมีออน "
" ทอร์เอน - นานา ..."
องค์กษัตริย์แห่งราชสกุลฟิงโกลฟิน ก็ทรงเด็ดบลูเบอร์รี่นั้นออกเป็นเม็ดเล็กๆ
" ทานเถอะ ของโปรดเจ้าทั้งนั้น และก็ของโปรดของลุงด้วย "
ว่าแล้วก็ทรงเด็ดเม็ดใหญ่ขึ้นเสวย " อือม..ไม่เปรี้ยวเท่าไรเลย "
" นั้นซิ พระเจ้าข้า " มายกลินก็ยิ้มขึ้น และเอ่ยว่า " ราสเบอร์รี่ลูกนี้ พี่หญิงไม่ทานเหรอ? "
เพราะราสเบอร์รี่เป็นของโปรดของอิดริล มายกลินจำได้ดี
" ก็ หญิงอิดริลนั้นแหล่ะ ที่ห่วงเจ้าเลยเหลือเก็บไว้ นางก็กังวลแบบเจ้านี่ล่ะ "
" พี่หญิงกังวลเรื่องทูออร์และหม่อมฉันใช่ไหม ? "
" ตาหนูกลิน ชาวเอลดาร์ ผองชนอมตะอย่างเราๆ และมนุษย์เอไดน์ ก็เสมือนญาติสนิท
ลุงอยากให้เราทุกคนมีความสุข ทั้งเจ้า อิดริลและก็บุตรแห่งฮูออร์ เป็นครอบครัวเดียวกัน "
เจ้าชายหนุ่มก็มองดูท้องฟ้าด้วยสายตาเป็นประกาย " งั้นเหรอ ? "
" ลุงผิดพลาดในเรื่องพวกนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เรื่องเอเลนเว และก็น้องชายอาร์กอน
ที่เสียไป เพราะว่า ลุงดูแลพวกเขาไม่ดีเอง...ที่สำคัญ ลุงก็เสียทั้งพ่อ และพี่ชายไปแล้วด้วย "
มายกลินก็เข้าใจ...ถึงแม้เสด็จลุงจะทรงเป็นพระราชาผู้องอาจ แต่ว่า เบื้องลึกในพระทัยนั้น
ต้องโศกาเป็นอย่างมาก เพราะว่าเสียพระชายา และเหล่าญาติที่ตนรักไป.....เพราะคำสาปซิลมาริล
" พ่อไม่อยากให้เจ้าไปยุ่งกับเอลฟ์โนลดอร์ เราเป็นเอลฟ์ซินดาร์ ควรอยู่ในแบบของเรา "
วาจาของพ่อยังคงดังก้องอยู่ในหูของข้า...ทำไมกัน ?..อดา..อดา..
ถ้ากระหม่อมมีลูกแล้ว...จะยกเขาให้ท่าน พูดได้ดีนี่นา...ทูออร์
ถึงข้าจะต้องทนเห็นภาพที่แสนบาดตาบาดใจก็ตาม แต่ข้าก็ต้องรับการตอบแทนบ้าง !
" หลานลุง "
" หม่อมฉันอยากบอกว่า...หม่อมฉันจะไม่ขัดขวางความรักของพี่หญิงและทูออร์..
แต่ว่า ถ้าพวกเขามีบุตรด้วยกันแล้ว หม่อมฉันขอรับเป็น " บิดาทูนหัว " ของเขาได้ไหม ? "
องค์กษัตริย์ก็ทรงตกพระทัยเล็กน้อย " ลูกทูนหัวอย่างนั้นเหรอ ? "
" พระองค์ก็ทรงเป็น " พระบิดาทูนหัว " ของหม่อมฉันนี่นา พระเจ้าข้า "
เมื่อเจอวจีที่แสนตรงไปตรงมาของพระภาคิไนยที่ทรงรักเช่นนี้ ก็ถอนพระทัยดัง
" ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย จะเร่งให้พี่เจ้ามีลูกแล้วเหรอ ? "
ริมฝีปากบางได้รูปสวยก็ฉายรอยยิ้มที่ชวนมอง " พระองค์ไม่อยากเป็นเสด็จตาเหรอ ? "
" โอ้ๆ เจ้าก็อยากเป็น " ท่านน้า " แล้วหรือไร เอาเถอะ ! ผลไม้หมดแล้ว ก็หมดเรื่องคุย "
พระหัตถ์ใหญ่หนาก็กุมที่มือซึ่งเล็กกว่า " ขอบใจ เซลเล - ยอนโด ( หลานชาย ) "
" หามิได้ " ร่างสูงโปร่งก็ลุกขึ้นและโค้งคำนับอย่างสง่างาม ชายผ้าคลุมสีดำตวัดลง
" มารา โลเม อารานยา ( ราตรีสวัสดิ์ องค์ราชา ) "
แล้วพรายหนุ่มก็เดินออกจากโต๊ะไป องค์พระมาตุลามองด้วยรอยยิ้มที่พระโอษฐ์ได้รูป
" มารา โลเม พิดยา คุนดูยา ( ราตรีสวัสดิ์ เจ้าชายหนุ่มน้อย )
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
โทษทีขอรับ ยาวมาก และรีดเดอร์สงสัย โรแมนติกตรงไหน ก็ลุง - หลาน คุยกันแบบนี้
ไม่โรแมนซ์เหรอ ฮ่าๆๆ// แทะๆ มีสปอย์ส่งท้ายต่อ...
องค์ทัวร์กอนเพิ่งทอดพระเนตรว่า " มายกลิน เจ้ากินหมดเลย และไม่ยอมเก็บจานด้วย
ให้ลุงทำเนี่ยนะ ที่แท้ หลอกลุงเก็บจานเหรอเนี่ย !!!!! โธ่เอ๊ยยยยยยยย !!!!! "
เจ้าชายหนุ่มในชุุดดำก็คิดในใจ " เด็จลุงอยากยกมาให้กลินทานเอง ทำไมล่ะ ฮ่าๆๆ "
* ประโยคที่คุยกันคือ ภาษาเควนยา ซึ่งเป็นภาษาเอลฟ์โนลดอร์นะครับ *
ความคิดเห็น