คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : ดอกไม้ที่ร่วงหล่น 15 ( fallen flower )
ทูออร์รู้สึกว่า ตัวเองได้เดินอยู่ที่ปราสาทสีขาวขององค์ราชา ฝีเท้าของเขาก้าวเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
และเขาก็ได้ยินเสียงเรียกหวานใสของเด็กเล็กๆ คนหนึ่งมาอยู่เคียงข้าง
“ อดา อดา “ และมือเรียวเล็กทั้งสองก็มาจับกับมือหนาของเขา ชายหนุ่มจึงหันไปมอง
เด็กคนนี้ มีผิวพรรณที่ขาวผุดผ่องราวกับสำลี เรือนผมสีทองมัดปลายเป็นจุกข้างเดียว
และมีดวงตากลมโตสีฟ้าใสราวกับสีของน้ำทะเล...ดวงตาของเขานี่นา....
เค้าหน้าก็ดูคล้ายกับคนสองคนที่เขาคุ้นเคยมากเสียด้วย ทูออร์ก็ยิ้มให้และอยากจะกอดเจ้าตัวน้อย
แต่แล้ว เด็กคนนั้นก็ผละตัวไปจากเขา และหัวเราะระรื่นกังวาน
“ เดี๋ยวก่อนๆ “ ชายหนุ่มเรียกเสียงดัง
ร่างเล็กก็ไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มในชุดสีดำแทน และหญิงสาวที่มีเรือนผมทอง
อร่ามตายาวสลวยปลิวตามสายลมนั้นก็กอดร่างของชายผู้นั้นไว้แนบแน่น
และจูบที่ริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มเหมือนเขา...ไม่น่าเชื่อ...นั้นคือ อิดริล ?
และทูออร์ก็เริ่มรู้สึกว่า ร่างของตัวเองห่างไปเรื่อยๆ และใกล้เข้าสู่ความมืด
ดวงตาสีนิลแสนคมเกรียบหันมาที่เขา และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาดุจธารน้ำแข็งมากัดเซาะ
“ เขาและพี่หญิงเป็นของข้า เจ้ามนุษย์อย่าได้มายุ่งกับเรา “
ไม่นะ..องค์ชาย..ท่านพรากเขาและนางไปจากข้าไม่ได้...ลูก ….อิดริล....ลูกของพ่อ...ลูก !!!!
ทันใดนั้น ร่างสูงใหญ่ก็ตกใจตื่น และหยาดเหงื่อก็ไหลจับหน้าผากกว้าง
….ข้าฝันไปเหรอ....ทูออร์ส่ายหน้าและถอนหายใจดังก้องในห้องนอนของตน
~!~!~!~!~!~!~!~!~!~
เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสีครามใส ประดับด้วยเมฆสีขาวสะอาดตา
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะทำอะไรอีก แต่หน้าที่ของเขาก็ต้องเข้าเฝ้าองค์ราชาทัวร์กอนและอิดริล
จึงรีบอาบน้ำ แต่งตัว และขี่ม้ากลับเข้าวัง อย่างที่เป็นกิจวัตรประจำของเขาไปแล้ว
เมื่อถึงประตูเหล็กกล้านั้น ด้านหน้าคือลานประลองอาวุธ ซึ่งเป็นสนามดินสีเทาที่เรียบลื่น
เขาก็มองเห็นร่างสูงโปร่งของเอลฟ์หนุ่มสองคนกำลังซ้อมดาบกันอยู่อย่างขะมักเขม้น
“ องค์ชาย ก้าวเท้ามาใกล้อีกขอรับ “ เอคเธลิออนตวัดดาบสีเงินของตนไปทางขวา และรับกับคมดาบ
ของเจ้าชายที่ทำหน้าเคร่งเครียดมาก คิ้วเรียวสีดำขมวดแน่น
“ พี่เอคธี่ ข้าไม่ยอมหรอก! “ ร่างสูงเพรียวยกดาบขึ้นด้วยแรงทั้งหมดของตน
และฟาดที่ดาบสีเงินที่เป็นของท่านเสนาบดีอีกครั้ง และกัดฟันดังกรอด
“ องค์ชายมายกลิน อย่าโมโห ท่านจะเสียหลักนะ “
เอคเธลิออนก็ยกดาบขึ้น และก้าวถอยหลังโดยเร็ว เพราะดวงตาสีเงินคมคายก็เห็นผู้มาใหม่
“ ทูออร์ มารา อารูเร ( สวัสดียามเช้า ) “
“ มารา อารูเร ท่านเอคเธลิออน “ แต่ดวงตาสีฟ้าของเขากลับมองที่พระองค์ชาย
ซึ่งหอบหายใจอยู่ ดวงหน้าซีดขาวนั้นชื้นด้วยเหงื่อและแดงระเรื่อ
แต่ดวงตาสีนิลคู่นั้นก็แสดงถึงความแน่วแน่และมั่นคงต่อดาบของตน
“ พี่เอคธี่ ข้าไปกินน้ำก่อนนะ “ มายกลินไม่ยอมมาทักทายกับชายหนุ่ม
ร่างเพรียวบางทรุดลงบนม้านั่งตัวยาว และยกถุงหนังสีนำ้ตาลขึ้นใกล้ปากของตน
ทูออร์ก็ถามลอร์ดเอคเธลิออนว่า “ เจ้าชายทรงมาซ้อมดาบกับท่านเหรอ ? “
“ ไม่รู้ซิ วันนี้เขาอยากมา ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ลืมวิชาเพลงดาบ “
ไม่คุยกับข้าเลยนะ...แต่ว่าวันนี้..ข้าต้องพูดดีกับเขาให้ได้...แม้ว่าจะต้องเจอกับ...
“ ท่านลอร์ด ข้าจะซ้อมดาบกับท่านได้ไหม ? “
เอลฟ์เสนาบดีก็หัวเราะ “ ก็ได้ สหาย “ เอคเธลิออนก็ยกดาบประจำตัวขึ้น
และดาบของทูออร์ก็ยกขึ้นเช่นกัน บุรุษทั้งสองตะโกนว่า “ ไอยา มาคิลเลตตา ! “
เจ้าชายมายกลินก็มองดูเอลฟ์เสนาบดี ที่ตนรักประดุจพี่ชาย กับ เจ้าคู่แข่งนั้น
เล่นดาบกัน ดวงตาสีนิลก็เพ่งพิศร่างล่ำสันนั้นเคลื่อนเป็นวงกลม และฟาดดาบกับของอีกฝ่าย
เสื้อทูนิคสีเทานั้นก็เปียกจนเห็นกล้ามเนื้อแขนและไหล่ทั้งสองข้างชัดเจน
ผิวสีนำ้ตาลอ่อนสะท้อนแสงอาทิตย์จนเหมือนสีทองแดงประกายงดงาม
...พี่หญิงคงชอบแบบนี้...เพราะข้าและเจ้านั้นช่างต่างจากกัน...
และมายกลินก็รู้สึกว่าตัวเองอัปลักษณ์ขึ้นมาทันที เอลฟ์หนุ่มก็ตริตรอง...จะต้องสนใจทำไมกัน ?
ดวงตาสีนิลแสนเจิดจ้าคู่นั้นจึงปิดลงเสียสนิท
~!~!~!~!~!~!~!~!~
“ โอ้ๆ “
“ ทำไมเหรอ ท่านเอคธี่ ? “ ทูออร์ถาม
“ ข้าขอไปเข้าห้องน้ำ ได้เปล่า จู่มันก็ปวดเองซะงั้น “
เสนาบดีแห่งนครกอนโดลินก็รีบเดินไปและกุมท้องของตน...เสียมาดเท่ซะแล้วเรา....
ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่า...ตนเองได้มีโอกาสที่คุยกับคนนั้น..ดีจริงๆ
เจ้าชายผมดำ ซึ่งนั่งหลับตานิ่งและกำลังผ่อนคลายอิริยาบถ โดยที่ศีรษะซบที่แขน
แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงทุ้มเรียกชื่อ และมือแกร่งมาอยู่บนไหล่ข้างซ้าย
“ ลอร์ดมายกลิน ภาคิไนยแห่งราชาทัวร์กอน “
ดวงตาสีนิลจึงค่อยๆ ลืมขึ้น และพบว่าทูออร์มาอยู่ใกล้ห่างกันไม่ถึงสามนิ้ว
ร่างเพรียวจึงลุกขึ้นทันที “ มานเน ? ฮูออริออน “ ( อะไร บุตรแห่งฮูออร์ )
“ ท่านยังเจ็บแก้ม เมื่อวานนี้ไหม ? กระหม่อม “ เขาถามเสียงหวาน พร้อมยิ้มฉายแววประหลาด
แต่อีกฝ่ายก็เม้มริมฝีปากครู่หนึ่ง และพูดว่า “ ไม่แล้ว เจ้าล่ะ ? “
“ ถ้างั้น “ ปลายดาบของชายหนุ่มผมทองก็มาอยู่ใกล้กับฝักดาบที่เจ้าชายห้อยอยู่ข้างตัว
“ สู้กับข้าซิ มายกลิน โลมีออน “
ริมฝีปากสวยก็คลี่ยิ้มออกมา “ ได้ ! เจ้าคู่รักของพี่หญิง “
" ไอยา ! มาคิลเลตตา ! "
+++++++++++
คำที่กล่าวนั้น " ไอยา มาคิลเลตตา " แปลว่า ดาบนี้ขอสู้ ( โว้ยยยย!!!)
ความคิดเห็น