ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทเพลงรักแห่งกอนโดลิน [ Love lysics of Gondolin ]

    ลำดับตอนที่ #190 : Gondolin Fic : Lasselanta with you

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 76
      1
      25 พ.ย. 58

    Gondolin Fic : Lasselanta with you

     

    **** All characters are belong to Tolkien ‘s   works ****

    Summary :  Maeglin and his cousin-son , Little Eärendil  have reading tales together

     

    ในยามบ่ายของฤดูไบไม้ร่วงแห่งนครสัตตนามกอนโดลิน น่ากลัวจะเป็นเช่นนั้น...มายกลิน อุปราชหนุ่มแห่งกอนโดลินหรือมายกลิน  กำลังนั่งบนระเบียงที่เขาพอใจริมอุทยานหลังวัง เขามองที่หนังสือเล่มเล็กหน้าปกสีแดงที่เจ้าหญิงอิดริล เคเลบรินดัล ผู้เป็นพระพี่นางของเขามอบให้นั่นเอง

    “ ทำไม พี่หญิง ต้องให้นิทานเล่มนี้กับข้าด้วย ข้าไม่ใช่เด็กซะหน่อย “

    พรายหนุ่มถอนใจแผ่วเบา ก่อนจะรู้สึกถึงมือเล็กที่มาปิดตาเขาจากด้านหลัง

    “ ใครน่ะ “

    “ ท่านน้ามายกลินจ๋า “ เสียงหวานน่ารักแบบนี้มาจาก...

    “ เออาน้อย น้ามองไม่เห็นเจ้า “

    เด็กชายหัวเราะก่อนจะปล่อยและลดตัวลงมานั่งข้างน้าชาย

    “ กวานัวร์-นานา อ่านอะไรอยู่เหรอ “ เออาเรนดิลถาม เมื่อมองน้าชายที่ลูบปลายผมสีดำที่ถักเปียยาวสลวย

    “ นิทานของพี่หญิงไง เจ้าอยากอ่านด้วยมั้ย “

    มายกลินขยับกายเพื่อให้เออาเรนดิลน้อยได้นั่งข้าง

    “ อยากอ่านเหมือนกัน “

    “ งั้นเอาเรื่องกำเนิดของชาวเอลดาร์อย่างเราๆไหม “

    มือเล็กของเออาเรนดิลวางบนหน้าตักใหญ่ของน้าชาย

    “ ดีจังเลยที่ท่านแม่ให้นิทานกับท่านน้า “

    มือแกร่งของพรายหนุ่มลูบเรือนผมสีทองนุ่มของเออาเรนดิล

    “ เริ่มล่ะนะ ....”

    ตำนานแห่งการกำเนิดชาวเอลดาร์นั้น ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า พวกเขาตื่นขึ้นที่ริมทะเลสาบคุยวิเอเนน ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในดินแดนไกลโพ้นทางฟากตะวันออกของทวีปมิดเดิลเอิร์ธ กลุ่มที่ตื่นขึ้นเป็นกลุ่มแรกคือชาววันยาร์ กลุ่มที่สองคือชาวโนลดอร์ และกลุ่มที่สามคือชาวเทเลริ เวลานั้นโลกอาร์ดายังไม่มีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มีแต่เพียงแสงสว่างจากแสงดาว พวกเอลฟ์จึงมองเห็นแสงดาวเป็นสิ่งแรก และหลงรักในแสงดาวเหล่านั้น

    เมื่อเทพโอโรเม เทพเจ้าแห่งพงไพรได้เสด็จประพาสมิดเดิลเอิร์ธคราวหนึ่ง จึงมาพบพวกเอลฟ์เข้า เหล่าวาลาร์ จึงมีดำริให้ชักชวนพวกเอลฟ์ให้เดินทางไปอยู่ด้วยกันกับพวกพระองค์ที่วาลินอร์ เพื่อให้รอดพ้นจากการรังควานของเมลคอร์ เกิดเป็นการอพยพครั้งใหญ่ของเอลฟ์ ซึ่งเป็นจุดแบ่งกลุ่มตระกูลของเอลฟ์อีกมากมายในเวลาต่อมา...”

    ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ เรือนผมสีทองหยักศกยาวประบ่าก็เดินมาใกล้ที่สองน้าหลานกำลังอ่านหนังสือกัน

    “ อดามาแล้ว ”

    เออาเรนดิลวิ่งไปหาบิดาบังเกิดเกล้าของเขา ทำให้มายกลินเริ่มหน้าฉุน

    “ เออาลูกรัก ทำอะไรอยู่เหรอจ้ะ ”

    “ อ่านนิทานกับท่านน้าคับ อดาไปนั่งด้วยกัน ”

    ทูออร์เป็นพ่อที่ดี เขาไม่ปฏิเสธลูกชายคนเดียวของตนหรอก หากว่าดวงตาสีนิลของพรายหนุ่มผู้เป็นญาติเขยนั่นแหละที่ทำท่าจะไม่พอใจ...

    “ เออาเรนดิล มาหาน้าเถอะ ”

    ทูออร์จึงดันหลังลูกชายของตนเบาๆ “ เออาไปสิลูก”

    “ เออาหลานรัก มาหาน้า ”

    เมื่อพรายหนุ่มกวักมือเรียก เออาเรนดิลน้อยก็กลับไปนั่งข้างเช่นเดิม

    “ เจ้าเป็นเด็กดีอยู่แล้ว งั้นเราอ่านหนังสือของเรากันต่อ ”

    ทูออร์ก็ขยับมานั่งข้างเจ้าชายพรายผมดำด้วย

    “ ให้ข้านั่งด้วยคนนะ องค์ชาย ”

    เอลฟ์หนุ่มอยากจะแลบลิ้นใส่ แต่เออาเรนดิลทักว่า “ ท่านน้าๆ อ่านกันต่อ “

    มายกลินจึงกระแอมอีกรอบหนึ่ง

    การอพยพครั้งใหญ่ หรือ การเดินทางครั้งใหญ่ เป็นการเดินทางออกจากริมทะเลสาบคุยวิเอเนน อันเป็นสถานที่ที่พวกเขาตื่นขึ้นเป็นครั้งแรก แล้วมุ่งหน้าไปสู่วาลินอร์

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากการสงครามครั้งใหญ่ระหว่างปวงเทพวาลาร์ กับจอมมารเมลคอร์ ทำให้โลกมิดเดิลเอิร์ธส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพพังพินาศ ปวงเทพจึงมีดำริให้ชักชวนเหล่าเอลฟ์ไปอยู่ด้วยกันที่ทวีปอามัน อย่างไรก็ดี มีเอลฟ์จำนวนหนึ่งที่ไม่ยินดีเข้าร่วมการอพยพครั้งนี้ เอลฟ์กลุ่มนี้ต่อมาเรียกว่า ชาวอวาริ ซึ่งหมายถึง "ผู้ไม่เต็มใจ"

    เทพโอโรเม เป็นผู้นำพาพวกเอลฟ์เดินทางไปสู่วาลินอร์ พระองค์พาพวกเขาเดินทางขึ้นไปทางเหนือของทะเลเฮลคาร์ ผ่านป่าใหญ่ไพศาล) จนมาถึงแม่น้ำใหญ่อันดูอิน เอลฟ์ชาวเทเลริส่วนหนึ่งละทิ้งการเดินทางที่จุดนี้ ตั้งหลักปักฐานสร้างบ้านเรือนอยู่ในหุบเขาแห่งอันดูอิน เอลฟ์กลุ่มนี้ต่อมาเรียกว่า ชาวนันดอร์

    เอลฟ์ที่เหลือเดินทางข้ามเทือกเขาฮิธายเกลียร์ไปได้ โดยข้ามช่องเขาที่ต่อมาเป็นที่ตั้งอาณาจักรริเวนเดลล์ เดินทางข้ามผ่านแผ่นดินกว้างใหญ่เอเรียดอร์ ตามเส้นทางถนนสายตะวันตก ข้ามเทือกเขาสีน้ำเงินหรือ เอเร็ดลูอิน เข้าไปสู่แผ่นดินเบเลริอันด์ อันเป็นแผ่นดินสุดท้ายทางฟากตะวันตกของมิดเดิลเอิร์ธ อยู่ริมมหาสมุทรใหญ่หรือทะเลเบเลกายร์

    ที่แผ่นดินเบเลริอันด์นี้ เอลฟ์อีกจำนวนหนึ่งตกค้าง ตั้งถิ่นฐานขึ้นที่นี่ เนื่องจากมัวอยู่ติดตามหาธิงโกล ผู้นำของตน เอลฟ์กลุ่มนี้ต่อมาคือ ชาวซินดาร์

    “ แต่ชาวซินดาร์ก็เป็นพรายที่มีความรู้สูงเหมือนกันนี่นา เออารู้ว่า หลายคนในบ้านเราก็เป็นชาวซินดาร์หรือเอลฟ์เทาด้วย ”

    มายกลินถอนใจแผ่วเบา เพราะว่าเขาเองก็เป็นลูกครึ่งชาวซินดาร์เหมือนกัน เพราะลอร์ดเอโอล ดาร์กเอลฟ์นั้นเป็นนายช่างที่เก่งกล้าคนหนึ่งในหมู่ชาวซินดาร์นั่นเอง...แต่เขาจะไม่พูดถึงบิดาของเขาให้เออาเรนดิลฟังหรอก....

    “ ท่านน้า จากนั้นล่ะ “

    ทูออร์ก็กล่าวขึ้นมาแทนพรายหนุ่ม

     

    “ ชาววันยาร์และชาวโนลดอร์ รวมทั้งชาวเทเลริ อีกจำนวนหนึ่ง เดินทางข้ามทะเลเบเลกายร์ โดยขึ้นไปอยู่บนเกาะโทลเอเรสเซอา แล้วเทพอุลโม จึงเคลื่อนเกาะนั้นข้ามมหาสมุทรไป พวกวันยาร์และโนลดอร์เดินทางล่วงหน้าไปก่อน และได้ขึ้นฝั่งทวีปอามันจนหมดทุกคน แต่พวกเทเลริที่เดินทางข้ามไปทีหลัง ได้ร้องขอให้เทพอุลโมหยุดเกาะนั้นไว้ที่อ่าวเอลดามาร์ ด้วยเห็นแก่คำร้องขอของเทพออสเซ ชาวเทเลริกลุ่มนี้ตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะโทลเอเรสเซอา ต่อมาภายหลังจึงได้ต่อเรือเดินทางไปจนถึงฝั่งทวีปอามันได้ และตั้งนครของพวกตนขึ้นที่ริมฝั่งเอลดามาร์ มีชื่อว่า อัลควาลอนเด นครแห่งสายน้ำ...พ่อรู้มาตามที่องค์ทัวร์กอน เสด็จตาของเจ้ารับสั่งถึง...”

    เออาเรนดิลน้อยยิ้มและหนุนตักของน้าชาย

    “ ฟังดูแล้ว แดนนิรันดร์อยู่ไกลเหลือเกิน  แต่วันหนึ่ง เออาจะไปที่นั่น...”

    “ เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องไป น้าอยากให้เจ้าอยู่ที่นี่ “

    “ งั้นเหรอ “ ดวงตาสีน้ำเงินใสทำท่าเหม่อลอย “อยู่ที่นี่ตลอดไปเหรอ “

    แล้วเออาเรนดิลน้อยก็หลับตาลง

    จากนั้น เสียงสตรีสองนางก็เรียกพวกเขา “ หนุ่มๆอยู่ที่นี่กันเอง “

    สตรีพรายนางหนึ่งอยู่ในชุดกระโปรงสีขาว และอีกนางหนึ่งอย่ในชุดสีม่วงอ่อน

    “ ว่าไงจ้ะ น้องชายมายกลิน “ อิดริลถามพระอนุชา “ อ่านนิทานกับหลานสนุกไหม “

    “ สนุกจนหลับเลยมั้ง พี่หญิง “

    อาเรเดล ท่านหญิงขาวแห่งกอนโดลิน ก็ทรงหันมายังทูออร์

    “ พ่อหนุ่มคนดี ไปหาอะไรทานในยามบ่ายกันเถอะ “

    ทูออร์ยิ้มตอบ “ ขอรับ ท่านหญิงขาว “

    ฝ่ายพรายหนุ่มมายกลินก็คืนหนังสือนิทานให้พี่หญิงของตน ส่วนเออาเรนดิลก็ยังหลับอยู่นั่นเอง

    “ วันนี้ พี่ให้เจ้าดูแลหลาน และเจ้าทำได้ดี น้องชาย “

    เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มงดงามของอิดริล เขาก็พอใจมากแล้ว...

    “ องค์ชายมายกลิน  วันนี้ฤดูใบไม้ร่วงงดงามจับตาจริงๆนะ ”

    ดวงตาสีเดียวกับท้องฟ้าในยามเย็นของเขามีประกายสดใสขึ้นมาเหมือนกัน

    “ เดินตามข้ามาเถอะ ทูออร์ ”

    ท่านหญิงขาวอาเรเดลพึงพอใจที่โอรสของนางอารมณ์ดีในวันนี้

    นางมองไปยังใบไม้สีทองที่ตกลงมาใกล้นางอย่างสบายใจ

    “ ใบไม้ร่วงงดงามจริงๆนะ ลูกรัก ”

    มายกลินจึงฉายรอยยิ้มสดใสบนริมฝีปากบางแล้วตอบว่า

     “ ลาสเซลันตา วิท ยู นานา “

    Note

    Lasselanta  เป็นภาษาเควนยา แปลว่า ใบไม้ร่วงจ้ะ

    นี้คือเรื่องสั้นเรื่องแรกที่ข้าน้อยเขียนให้กับกอนโดลิน มันเลยเป็นฟิคเบาๆสั้นๆเช่นนี้แหละ ><

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×