คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #190 : Gondolin Fic : Lasselanta with you
Gondolin Fic : Lasselanta with you
**** All characters are belong to Tolkien ‘s works ****
Summary : Maeglin and his cousin-son , Little Eärendil have reading tales together
ในยามบ่ายของฤดูไบไม้ร่วงแห่งนครสัตตนามกอนโดลิน น่ากลัวจะเป็นเช่นนั้น...มายกลิน อุปราชหนุ่มแห่งกอนโดลินหรือมายกลิน กำลังนั่งบนระเบียงที่เขาพอใจริมอุทยานหลังวัง เขามองที่หนังสือเล่มเล็กหน้าปกสีแดงที่เจ้าหญิงอิดริล เคเลบรินดัล ผู้เป็นพระพี่นางของเขามอบให้นั่นเอง
“ ทำไม พี่หญิง ต้องให้นิทานเล่มนี้กับข้าด้วย ข้าไม่ใช่เด็กซะหน่อย “
พรายหนุ่มถอนใจแผ่วเบา ก่อนจะรู้สึกถึงมือเล็กที่มาปิดตาเขาจากด้านหลัง
“ ใครน่ะ “
“ ท่านน้ามายกลินจ๋า “ เสียงหวานน่ารักแบบนี้มาจาก...
“ เออาน้อย น้ามองไม่เห็นเจ้า “
เด็กชายหัวเราะก่อนจะปล่อยและลดตัวลงมานั่งข้างน้าชาย
“ กวานัวร์-นานา อ่านอะไรอยู่เหรอ “ เออาเรนดิลถาม เมื่อมองน้าชายที่ลูบปลายผมสีดำที่ถักเปียยาวสลวย
“ นิทานของพี่หญิงไง เจ้าอยากอ่านด้วยมั้ย “
มายกลินขยับกายเพื่อให้เออาเรนดิลน้อยได้นั่งข้าง
“ อยากอ่านเหมือนกัน “
“ งั้นเอาเรื่องกำเนิดของชาวเอลดาร์อย่างเราๆไหม “
มือเล็กของเออาเรนดิลวางบนหน้าตักใหญ่ของน้าชาย
“ ดีจังเลยที่ท่านแม่ให้นิทานกับท่านน้า “
มือแกร่งของพรายหนุ่มลูบเรือนผมสีทองนุ่มของเออาเรนดิล
“ เริ่มล่ะนะ ....”
“ ตำนานแห่งการกำเนิดชาวเอลดาร์นั้น ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า พวกเขาตื่นขึ้นที่ริมทะเลสาบคุยวิเอเนน ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในดินแดนไกลโพ้นทางฟากตะวันออกของทวีปมิดเดิลเอิร์ธ กลุ่มที่ตื่นขึ้นเป็นกลุ่มแรกคือชาววันยาร์ กลุ่มที่สองคือชาวโนลดอร์ และกลุ่มที่สามคือชาวเทเลริ เวลานั้นโลกอาร์ดายังไม่มีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มีแต่เพียงแสงสว่างจากแสงดาว พวกเอลฟ์จึงมองเห็นแสงดาวเป็นสิ่งแรก และหลงรักในแสงดาวเหล่านั้น
เมื่อเทพโอโรเม เทพเจ้าแห่งพงไพรได้เสด็จประพาสมิดเดิลเอิร์ธคราวหนึ่ง จึงมาพบพวกเอลฟ์เข้า เหล่าวาลาร์ จึงมีดำริให้ชักชวนพวกเอลฟ์ให้เดินทางไปอยู่ด้วยกันกับพวกพระองค์ที่วาลินอร์ เพื่อให้รอดพ้นจากการรังควานของเมลคอร์ เกิดเป็นการอพยพครั้งใหญ่ของเอลฟ์ ซึ่งเป็นจุดแบ่งกลุ่มตระกูลของเอลฟ์อีกมากมายในเวลาต่อมา...”
ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ เรือนผมสีทองหยักศกยาวประบ่าก็เดินมาใกล้ที่สองน้าหลานกำลังอ่านหนังสือกัน
“ อดามาแล้ว ”
เออาเรนดิลวิ่งไปหาบิดาบังเกิดเกล้าของเขา ทำให้มายกลินเริ่มหน้าฉุน
“ เออาลูกรัก ทำอะไรอยู่เหรอจ้ะ ”
“ อ่านนิทานกับท่านน้าคับ อดาไปนั่งด้วยกัน ”
ทูออร์เป็นพ่อที่ดี เขาไม่ปฏิเสธลูกชายคนเดียวของตนหรอก หากว่าดวงตาสีนิลของพรายหนุ่มผู้เป็นญาติเขยนั่นแหละที่ทำท่าจะไม่พอใจ...
“ เออาเรนดิล มาหาน้าเถอะ ”
ทูออร์จึงดันหลังลูกชายของตนเบาๆ “ เออาไปสิลูก”
“ เออาหลานรัก มาหาน้า ”
เมื่อพรายหนุ่มกวักมือเรียก เออาเรนดิลน้อยก็กลับไปนั่งข้างเช่นเดิม
“ เจ้าเป็นเด็กดีอยู่แล้ว งั้นเราอ่านหนังสือของเรากันต่อ ”
ทูออร์ก็ขยับมานั่งข้างเจ้าชายพรายผมดำด้วย
“ ให้ข้านั่งด้วยคนนะ องค์ชาย ”
เอลฟ์หนุ่มอยากจะแลบลิ้นใส่ แต่เออาเรนดิลทักว่า “ ท่านน้าๆ อ่านกันต่อ “
มายกลินจึงกระแอมอีกรอบหนึ่ง
“ การอพยพครั้งใหญ่ หรือ การเดินทางครั้งใหญ่ เป็นการเดินทางออกจากริมทะเลสาบคุยวิเอเนน อันเป็นสถานที่ที่พวกเขาตื่นขึ้นเป็นครั้งแรก แล้วมุ่งหน้าไปสู่วาลินอร์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากการสงครามครั้งใหญ่ระหว่างปวงเทพวาลาร์ กับจอมมารเมลคอร์ ทำให้โลกมิดเดิลเอิร์ธส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพพังพินาศ ปวงเทพจึงมีดำริให้ชักชวนเหล่าเอลฟ์ไปอยู่ด้วยกันที่ทวีปอามัน อย่างไรก็ดี มีเอลฟ์จำนวนหนึ่งที่ไม่ยินดีเข้าร่วมการอพยพครั้งนี้ เอลฟ์กลุ่มนี้ต่อมาเรียกว่า ชาวอวาริ ซึ่งหมายถึง "ผู้ไม่เต็มใจ"
เทพโอโรเม เป็นผู้นำพาพวกเอลฟ์เดินทางไปสู่วาลินอร์ พระองค์พาพวกเขาเดินทางขึ้นไปทางเหนือของทะเลเฮลคาร์ ผ่านป่าใหญ่ไพศาล) จนมาถึงแม่น้ำใหญ่อันดูอิน เอลฟ์ชาวเทเลริส่วนหนึ่งละทิ้งการเดินทางที่จุดนี้ ตั้งหลักปักฐานสร้างบ้านเรือนอยู่ในหุบเขาแห่งอันดูอิน เอลฟ์กลุ่มนี้ต่อมาเรียกว่า ชาวนันดอร์
เอลฟ์ที่เหลือเดินทางข้ามเทือกเขาฮิธายเกลียร์ไปได้ โดยข้ามช่องเขาที่ต่อมาเป็นที่ตั้งอาณาจักรริเวนเดลล์ เดินทางข้ามผ่านแผ่นดินกว้างใหญ่เอเรียดอร์ ตามเส้นทางถนนสายตะวันตก ข้ามเทือกเขาสีน้ำเงินหรือ เอเร็ดลูอิน เข้าไปสู่แผ่นดินเบเลริอันด์ อันเป็นแผ่นดินสุดท้ายทางฟากตะวันตกของมิดเดิลเอิร์ธ อยู่ริมมหาสมุทรใหญ่หรือทะเลเบเลกายร์
ที่แผ่นดินเบเลริอันด์นี้ เอลฟ์อีกจำนวนหนึ่งตกค้าง ตั้งถิ่นฐานขึ้นที่นี่ เนื่องจากมัวอยู่ติดตามหาธิงโกล ผู้นำของตน เอลฟ์กลุ่มนี้ต่อมาคือ ชาวซินดาร์ ”
“ แต่ชาวซินดาร์ก็เป็นพรายที่มีความรู้สูงเหมือนกันนี่นา เออารู้ว่า หลายคนในบ้านเราก็เป็นชาวซินดาร์หรือเอลฟ์เทาด้วย ”
มายกลินถอนใจแผ่วเบา เพราะว่าเขาเองก็เป็นลูกครึ่งชาวซินดาร์เหมือนกัน เพราะลอร์ดเอโอล ดาร์กเอลฟ์นั้นเป็นนายช่างที่เก่งกล้าคนหนึ่งในหมู่ชาวซินดาร์นั่นเอง...แต่เขาจะไม่พูดถึงบิดาของเขาให้เออาเรนดิลฟังหรอก....
“ ท่านน้า จากนั้นล่ะ “
ทูออร์ก็กล่าวขึ้นมาแทนพรายหนุ่ม
“ ชาววันยาร์และชาวโนลดอร์ รวมทั้งชาวเทเลริ อีกจำนวนหนึ่ง เดินทางข้ามทะเลเบเลกายร์ โดยขึ้นไปอยู่บนเกาะโทลเอเรสเซอา แล้วเทพอุลโม จึงเคลื่อนเกาะนั้นข้ามมหาสมุทรไป พวกวันยาร์และโนลดอร์เดินทางล่วงหน้าไปก่อน และได้ขึ้นฝั่งทวีปอามันจนหมดทุกคน แต่พวกเทเลริที่เดินทางข้ามไปทีหลัง ได้ร้องขอให้เทพอุลโมหยุดเกาะนั้นไว้ที่อ่าวเอลดามาร์ ด้วยเห็นแก่คำร้องขอของเทพออสเซ ชาวเทเลริกลุ่มนี้ตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะโทลเอเรสเซอา ต่อมาภายหลังจึงได้ต่อเรือเดินทางไปจนถึงฝั่งทวีปอามันได้ และตั้งนครของพวกตนขึ้นที่ริมฝั่งเอลดามาร์ มีชื่อว่า อัลควาลอนเด นครแห่งสายน้ำ...พ่อรู้มาตามที่องค์ทัวร์กอน เสด็จตาของเจ้ารับสั่งถึง...”
เออาเรนดิลน้อยยิ้มและหนุนตักของน้าชาย
“ ฟังดูแล้ว แดนนิรันดร์อยู่ไกลเหลือเกิน แต่วันหนึ่ง เออาจะไปที่นั่น...”
“ เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องไป น้าอยากให้เจ้าอยู่ที่นี่ “
“ งั้นเหรอ “ ดวงตาสีน้ำเงินใสทำท่าเหม่อลอย “อยู่ที่นี่ตลอดไปเหรอ “
แล้วเออาเรนดิลน้อยก็หลับตาลง
จากนั้น เสียงสตรีสองนางก็เรียกพวกเขา “ หนุ่มๆอยู่ที่นี่กันเอง “
สตรีพรายนางหนึ่งอยู่ในชุดกระโปรงสีขาว และอีกนางหนึ่งอย่ในชุดสีม่วงอ่อน
“ ว่าไงจ้ะ น้องชายมายกลิน “ อิดริลถามพระอนุชา “ อ่านนิทานกับหลานสนุกไหม “
“ สนุกจนหลับเลยมั้ง พี่หญิง “
อาเรเดล ท่านหญิงขาวแห่งกอนโดลิน ก็ทรงหันมายังทูออร์
“ พ่อหนุ่มคนดี ไปหาอะไรทานในยามบ่ายกันเถอะ “
ทูออร์ยิ้มตอบ “ ขอรับ ท่านหญิงขาว “
ฝ่ายพรายหนุ่มมายกลินก็คืนหนังสือนิทานให้พี่หญิงของตน ส่วนเออาเรนดิลก็ยังหลับอยู่นั่นเอง
“ วันนี้ พี่ให้เจ้าดูแลหลาน และเจ้าทำได้ดี น้องชาย “
เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มงดงามของอิดริล เขาก็พอใจมากแล้ว...
“ องค์ชายมายกลิน วันนี้ฤดูใบไม้ร่วงงดงามจับตาจริงๆนะ ”
ดวงตาสีเดียวกับท้องฟ้าในยามเย็นของเขามีประกายสดใสขึ้นมาเหมือนกัน
“ เดินตามข้ามาเถอะ ทูออร์ ”
ท่านหญิงขาวอาเรเดลพึงพอใจที่โอรสของนางอารมณ์ดีในวันนี้
นางมองไปยังใบไม้สีทองที่ตกลงมาใกล้นางอย่างสบายใจ
“ ใบไม้ร่วงงดงามจริงๆนะ ลูกรัก ”
มายกลินจึงฉายรอยยิ้มสดใสบนริมฝีปากบางแล้วตอบว่า
“ ลาสเซลันตา วิท ยู นานา “
Note
Lasselanta เป็นภาษาเควนยา แปลว่า ใบไม้ร่วงจ้ะ
นี้คือเรื่องสั้นเรื่องแรกที่ข้าน้อยเขียนให้กับกอนโดลิน มันเลยเป็นฟิคเบาๆสั้นๆเช่นนี้แหละ ><
ความคิดเห็น