คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #166 : Blue Blossom in the heart 9
ขณะนั้นลอร์ดหนุ่มผมสีแดง ร่างหนากำยำ เจ้ากรมสกุลค้อนแห่งโทสะกำลังขับม้าสีน้ำตาลเข้มคู่ใจของตน
เพื่อจะได้ไปพบกับเสนาบดีหนุ่มเอคเธลิออน ถึงการสร้างฝายกั้นน้ำท่วม ประจวบเวลานั้นเอง
เขาก็พบกับลอร์ดดุยลิินแห่งสกุลนกนางแอ่นผู้ว่องไวคล่องแคล่วที่สุดในการยิงธนูแห่งกอนโดลิน
“ ร็อค! เจ้าจะไปไหน ? ” ร่างสูงสันทัดในชุดจำลองวิหคเหินถาม
“ ข้าจะไปหาท่านเอคธี่นะซิ ช่วงนี้ฝนตกหนักมากเลยนะ ว่าไหม ? ”
ดุยลินทำหน้าตกตะลึงไปเพียงอึดลมหายใจเดียว “ เจ้าไม่ได้ยินเหรอ ? พวกคนงานกลับมาจากอังฮาบาร์ ”
“ เหมืองอังฮาบาร์ของเจ้าชายนะเหรอ ? ”
ขุนนางพรายทั้งสองจึงรีบขับม้าผ่านสายฝนไปยังหออภิบาลประจำนคร
แล้วพวกเขาก็ได้รับข่าวน่าสะพรึงว่าเหล่านายเหมืองต่างได้รับบาดเจ็บกันทั่วหน้าจากเหมืองถล่ม
และผู้ที่มีอาการหนักที่สุดคือพระภาคิไนยแห่งองค์ทัวร์กอน และผู้นำสารแห่งเทพวาลาร์บาดเจ็บสาหัสยิ่ง
~*~*~*~*~*~
ซัลกันท์มาถึงเหล่ากลุ่มพรายที่กำลังนำร่างผู้บาดเจ็บออกมาจากรถม้า ลอร์ดหนุ่มร่างอ้วนไม่อยากจะเชื่อว่า
คนงานในสกุลนรานิลรัตน์จะได้รับบาดเจ็บจนมีบาดแผลใหญ่ แขนขาหัก อยู่ในภาวะโกลาหลเช่นนี้
“ ดีจังที่เราไม่ได้ไปเหมือง...เหมือง...เหมืองขององค์ชาย !! ”
พรายหนุ่มร่างอ้วนจึงรีบควบม้าเตี้ยของตน และใช้สายตาสอดส่องก็เห็นร็อคและดุยลินมาถึงก่อนหน้าตน
กำลังสนทนากับพรายหนุ่มผมสีดำร่างสูงซึ่งก็คือเคเลบริมบอร์ ซัลกันท์จึงได้เห็นร่างเพรียวซึ่งนอนในรถม้านั้น
“ องค์ชาย ! องค์ชายรูปงามสุดหล่อของซัล ! ” พรายหนุ่มในชุดสีน้ำตาลจึงรีบทำหน้าตาตื่น
“ ท่านลอร์ดเคลเบริมบอร์บอกข้ามา องค์ชายเป็นอะไร องค์ชาย ฮือๆ ”
ร็อคและดุยลินนั้นได้แต่ทำหน้ารำคาญอากัปกิริยาแสนฟุ้งซ่านของเจ้ากรมพิณพราย
“ ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน องค์ชายมายกลินต้องรีบไปหออภิบาลโดยเร็ว รวมถึงทูออร์ด้วย ”
“ อะไรนะ ทูออร์ก็ด้วยเหรอ เขาไปสะเออะที่เหมืองทำไมล่ะเนี่ย ? ”
เคเลบริมบอร์ถอนหายใจ มือเรียวแตะบนไหล่ของเจ้าชายพรายซึ่งบาดเจ็บและยังไม่ฟื้น
“ บุตรมนุษย์ตามมายกลินไป และข้าก็ผิดเองที่ไม่ดูแลพวกเขาทั้งสองให้ดี ”
ซัลกันท์ก็ไม่ยอมเสียหน้า “ พวกท่านไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะเฝ้าประชวรของพระภาคิไนยเอง ”
~*~*~*~*~*~
เอคเธลิออนเพิ่งได้รับข่าวใหญ่มาเช่นเดียวกัน ลอร์ดหนุ่มจึงเร่งมาถึงหออภิบาลซึ่งก็ได้เห็น
ร่างสูงล่ำสันของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ผมทองนอนสลบไสล พร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง
“ ทูออร์ อุลโมดิล ” ร่างสูงโปร่งถอดผ้าคลุมไหล่สีครามของตนมาห่มร่างให้
นัยน์ตาเรียวคมก็มองเห็นบาดแผลทั่วร่าง โดยเฉพาะรอยแผลบนไหล่และทรวงอกกว้างก็อดตกใจไม่น้อย
...เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่ ???....ลางร้ายจากเจ้าจอมมารนั้นเหรอ ???
เอคเธลิออนจึงกลั้นลมหายใจและส่งพลังกายที่แฝงอยู่ในร่างพรายเชื้อสายเทเลรีไปยังชายหนุ่ม
ในที่สุดทูออร์ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น มือทั้งสองข้างพอยกขึ้นได้แต่ก็ต้องวางลงไปอีก..
“ ทูออร์...ทูออร์...”
ริมฝีปากหนาเผยอขึ้น มือหยาบหนาประคองมือของลอร์ดหนุ่มสกุลน้ำพุไว้ “ องค์ชาย...องค์ชาย...”
“ เจ้ารู้สึกตัวขึ้นแล้ว โอ...ค่อยยังชั่ว พ่อหนุ่มแห่งตระกูลฮาดอร์ ”
เมื่อเจอเสียงทุ้มที่ไม่ใช่คนที่เขาเรียก ชายหนุ่มจึงลืมตาขึ้นโดยพลัน
“ ท่านเอคธี่ใช่ไหม ? ท่านเอคธี่ ! องค์ชายอยู่ไหน ? องค์ชาย..โอ้ยยยยยยย...”
เอคเธลิออนประคองให้ร่างสูงแกร่งนอนลงบนเตียงอีกครั้ง
“ ไม่เป็นไรๆ พ่อหนุ่ม องค์ชายทรงปลอดภัยแล้ว อยู่ที่ห้องข้างๆ นี่เอง เจ้าน่ะอากาศหนักมากนะ ”
“ พวกมัน...สัตว์ร้ายใต้เหมือง...ตาสีเลือด พวกมันทำร้ายเขา!! โอ้ยยย !! ”
ลอร์ดเสนาบดีตะลึงงันอีกครั้ง เมื่อได้ยินคำว่าสัตว์ร้าย อะไรกัน ???
“ ทูออร์ เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ อาการของเจ้าไม่สู้ดี ประเดี๋ยว ฝ่าพระบาท ท่านหญิงขาวและองค์หญิงอิดริล
จะเสด็จมาแล้ว....”
ใบหน้าคมสันของทูออร์ก็ซีดลง...ข้าคงถูกลงอาญาเป็นแน่...ข้าปกป้ององค์ชายไม่ได้...ข้าปกป้องเขาไม่ได้...
เขาจึงซบหน้าลงกับหมอนหนุน พลางหลับตาแน่น...
“ แซร์เวน ” เอคเธลิออนเรียกพรายสาว ซึ่งเป็นพยาบาลประจำหออภิบาลคนหนึ่ง
“ เจ้าค่ะ ท่านลอร์ดเสนา ”
เอคเธลิออนยิ้มจางๆ “ ช่วยดูแลทูออร์ให้ทีนะ ข้าจะไปหาองค์ชายก่อน ”
“ เจ้าค่ะ ”นางตอบรับอย่างสุภาพ แม้ว่านางจะเป็นพยาบาลฝึกหัด แต่นางก็ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดี
~*~*~*~*~*~
ช่วงค่ำแล้ว หออภิบาลของลอร์ดเพนลอธก็ยังอบอ้าว พยาบาลหลายคนจุดเทียนประจำหัวเตียง
เพื่อให้การรักษาได้อย่างเต็มที่ แสงเทียนกระจ่างจริง แต่ก็ทำให้ห้องนั้นร้อนและมีกลิ่นขี้ผึ้งคละคลุ้ง
ซัลกันท์แทบอยากจะหลับให้ได้เชียว แต่ว่าองค์ชาย...แขนเรียวทั้งสองข้างมีรอยแผลเหวอะหวะ...
แถมร่างทั้งร่างยังกะถูกรอยฟันอะไรกระชากมาแบบนี้...อีกนานกว่าจะกลับไปเหมือง...
“ อะ...อ๊า...”
ลอร์ดหนุ่มร่างอ้วนจึงได้สติกลับมา “ องค์ชายมายกลินรู้สึกตัวแล้ว ”
เมื่อดวงตาสีดำใหญ่คู่นั้นลืมขึ้นพลางงุนงงอยู่ไม่จางหาย เมื่อได้กลิิ่นหอมของสมุนไพรและขี้ผึ้ง
“ ที่นี้ไม่ใช่เหมืองข้านี่นา ”
ซัลกันท์ทำหน้าบานอย่างยินดี “ องค์ชายสุดหล่อ ท่านสลบไปนานจนถึงค่ำเลยรู้ไหม ? ”
“ เจ้าเหรอ ? ” เจ้าชายพรายก็พบว่าตัวเองอยู่ในชุดผ้าฝ้ายนุ่มสีขาว “ ทำไม..ข้าถึง..”
“ ก็..เพราะว่า...”
ฝีเท้าหนึ่งก็ก้าวเข้ามา พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มไพเราะ “ องค์ชายมายกลิน ”
“ พี่เอคธี่ ท่านก็มาเหรอ ? ” ร่างเพรียวพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็หมดแรง แถมอาการบาดเจ็บทั่วร่าง
เอคเธลิออนขยับมานั่งอีกด้านของเตียง มือแกร่งวางบนมือเรียวซีด“ องค์ชายทรงเป็นไรบ้าง ? ”
“ อือม..ก็เจ็บมาก...ข้ากับทูออร์ เจอกับสัตว์ร้ายที่ข้ามองไม่เห็น แล้วข้าก็..โอ้ย...”
ลอร์ดหนุ่มแห่งสกุลน้ำพุปลอบโยนเบาๆ “ ทรงพักผ่อนเถอะ ”
“ นั้นซิ องค์ชาย แล้ว...”
มายกลินก็ยังถามว่า “ คนอื่นๆ ล่ะ พวกคนงานของข้า...”
“ องค์ชาย พวกเขาบาดเจ็บจากเหตุเหมืองถล่มแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก ”
พรายหนุ่มผมดำขลับจึงยิ้มเล็กน้อย “ พี่เทลเปก็ไม่เป็นไรแล้ว...เจ้านั้นล่ะ?...”
...อ้อมแขนแกร่งและดวงตาสีฟ้าใส...รวมถึงสัมผัสอบอุ่น...ก่อนจะหมดสติไป...
ซัลกันท์กำลังจะยกถ้วยยาบรรเทาความเจ็บปวดให้ วินาทีนั้นเองนั้นเอง
ขุนนางหนุ่มโนลดอร์ทั้งสองก็ต้องโค้งคำนับให้แก่อาคันตุกะทั้งสาม
นั้นคือ องค์ทัวร์กอน , เจ้าหญิงอาเรเดลและเจ้าหญิงผู้เลอโฉมอิดริล เคเลบรินดัล
~*~*~*~*~*~*~*~
ตอนนี้ลุ้นมาก เพราะยอดชายทั้งสองน่วมแหลกเหลว >O<
แต่ว่าซัลกันท์ก็ช่างมาแทรกไหนจะท่านเอคธี่อีกนะเนี่ย ??
คราวนี้แหละ หัวใจเราจะเป็นของใครเอ่ย ? ^__^
ความคิดเห็น