ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทเพลงรักแห่งกอนโดลิน [ Love lysics of Gondolin ]

    ลำดับตอนที่ #15 : Littlest Prince 11 : ภายในหอดูดาว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 279
      0
      6 ม.ค. 56

    เออาเรนดิล :  กลับมาแล้วครับ เย้ๆๆๆ

    มายกลิน :  อ่านต่อครับ 55+





     ++++++++++

    แม้ด้านนอกฝนจะตกหนัก  แต่ในกอนโดลินหาความสงบได้จาก หอดูดาวที่มีเส้นทางเชื่อมต่อจากพระราชวัง   หอคอยแห่งนี้ได้ตั้งนามว่า  “ เอเลนทารี”

    แปลว่า ราชินีแห่งดาราเพื่อเป็นการยกย่องพระแม่วาร์ดาที่ทรงประดิษฐ์

    กลุ่มดาว ให้ความสว่างแก่พิ้นพิภพ  ซึ่งก็คล้ายกับนครทิริออนที่อยู่ฟากฝั่งหนึ่งของทะเล  ด้านในเป็นโดมสีดำสนิทที่ประดับด้วยดาราที่ทอประกายระยิบระยับ

    ดุจท้องฟ้าจริงๆ  รอบด้านคือเสาหินอ่อนที่มีความกว้าง มหึมาที่สลักเสลาอย่างชวนมอง  และทำเป็นกำแพงกั้นเสียงสะท้อนที่ดีเยี่ยม

    ฝ่ายทูออร์ก็มองเห็นท่านลอร์ดเอคเธลิออนกำลังยืนหันหลังให้อยู่

    “ ท่านลุงเอคธี่ “ เออาเรนดิลน้อยเรียกเสียงใส   และบอกกับผู้เป็นบิดาว่า

      อดา  หนูจะไปหาเขา “

    ชายหนุ่มจึงวางตัวเด็กน้อยลงจากหลัง  ให้เขาไปจับมือแกร่งของขุนนางหนุ่ม

    “ องค์ชายน้อย  ทานของเสวยเสร็จเร็วจังขอรับ “

    “ เออา  กินไม่อิ่มหรอกครับ  แม่กับน้าทะเลาะกันแหละ “

    เอคเธลิออนยิ้มอ่อนโยนและยกตัวเด็กชายขึ้น “ ไม่หรอก เดี๋ยวก็ดีกันแล้ว “

    “ จริงนะ ? “  เออาเรนดิลกล่าว และมองขึ้นบนเพดาน  “ ดาวสวยเนอะ “

    “องค์ชายน้อยรู้ไหม  ? ดวงดาวคือตัวตนของความเป็นชาวเอลดาร์อย่างเราขอรับ “

    ทูออร์เดินมาใกล้  พร้อมกับยิ้มให้ลอร์ดหนุ่มที่อุ้มบุตรชายของตน

    “ พวกท่านเป็นเผ่าพันธุ์ที่รักของพระแม่วาร์ดา  แต่ข้าเป็นเพียงมรรตักชน

    หรือ เอไดน์  เท่านั้น “

    เอคเธลิออนเข้าใจจิตใจของชายหนุ่มดี ใช่ ! พวกเอลดาร์หรือเอลฟ์นั้น

    ไม่มีวันตายด้วยความชราหรือโรคภัย  แต่ทูออร์นั้นมีอายุได้ 35 ปีแล้ว

    อีกไม่เกิน 50 ปี  เขาก็อาจจากโลกนี้ไป และนั้นคือสิ่งที่ทุกคนกังวล

    “ สหายข้าเอ๋ย  ท่านคือมนุษย์ที่เป็นที่รักของพวกเราชาวนครกอนโดลิน

    และเป็นพ่อแท้ๆ ขององค์ชายน้อยนี้ด้วยนะ “

    ฝ่ายเออาเรนดิลน้อย ยังมองหมู่ดาวอย่างเพ่งพิจ ก่อนหันมาที่ทูออร์

    “ อดาจ๋า  เออาอยากอยู่บนฟ้าจังเลย เพราะจะได้อยู่กับดาวเต็มฟ้าล่ะ “

    “ เจ้าอยากบินได้งั้นเหรอลูก  เจ้าไม่ใช่นกนะ “  เขาลูบผมสีทองของเด็กชาย

    เอคเธลิออนก็กล่าวว่า  “ ก็ไม่แน่สหายทูออร์  ดารามากถึงเพียงนี้

    ลูกของเจ้าก็อาจจะได้เป็นดาวดวงหนึ่งก็ได้นะ “

    ชายหนุ่มหัวเราะเสียงขรึม  “ ท่านไม่ใช่หมอดูหรือนักทำนายเสียหน่อย

    ท่านคือเสนาบดี  และแม่ทัพเอกแห่งกอนโดลิน “

    “ ใช่ๆ  ท่านลุงเอคธี่ก็เป็นเพื่อนของเสด็จตาด้วยแหล่ะ “  เออาเรนดิลเสริม

    ท่านลอร์ดก็มองที่ดวงตาสีฟ้าของเด็กน้อยในอ้อมแขนแกร่ง

    “ องค์ชายเออาเรนดิล  ท่านคือความหวังของเราขอรับ “

    “ ความหวัง  เออามีอะไรน่าหวังเหรอ “

    เอคเธลิออนยิ้มอย่างอบอุ่นใจ แล้วจึงกล่าวว่า

     “ ข้าเชื่อว่าท่านน่าจะเป็นผู้ล้างคำสาปซิลมาริลได้เพราะท่านคือฮาล์ฟเอลฟ์  เลือดชาวเอไดน์และเอลดาร์ที่สูงศักดิ์อยู่ในตัวของท่าน   องค์ชายน้อยคือ คนพิเศษของพวกเรา ข้าเชื่อว่าในอนาคต  ท่านต้องรูปงามและกล้าหาญยิ่งกว่าใครในโลกนี้ “

    “ ท่านตั้งค่าเออาสูงไปมั้ง  ท่านเอคธี่ “ ทูออร์พูดเนือยๆ

    “ ไม่หรอก  พ่อหนุ่ม “  แล้วเขาก็ยืนมองกลุ่มดาวบนเพดานอีกครั้ง

    “ ถ้าเออาเป็นดาวได้  เออาก็อยากเป็นดาวที่สวยและใครๆก็จำได้ล่ะ “

    เด็กน้อยยิ้มให้กับตัวเอง  และนึกถึงเสียงทะเลที่เขาชอบก็เกิดในใจขึ้นอีกครั้ง

     

    ++++++++

    กลินคุง : บทนี้ข้าไม่โผล่  ให้ทูออร์เออา และพี่เอคธี่พูดๆๆแทน >_<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×