ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทเพลงรักแห่งกอนโดลิน [ Love lysics of Gondolin ]

    ลำดับตอนที่ #108 : Lily Of The Valley : Part 36

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 178
      1
      7 ก.พ. 56

    เจ้าหญิงพรายแห่งกอนโดลินและลอร์ดทูออร์ต่างก็รีบเดินกลับไปยังห้องนอนของตน เพื่อนำเอาศิลาพราย

     

    เอเลสซาร์ออกมาจากหีบไม้ใบน้อยสีน้ำตาลสลักสีทอง ซึ่งเป็นหนึ่งในของขวัญวันแต่งงานของตน

     

    แม่อิดริล เจ้าว่ามันจะใช้ได้จริงเหรอ ? ”

     

    แล้วอ้อมแขนอรชรก็ต้นแขนแกร่งของผู้เป็นสามี “ เราไม่มีทางเลือกแล้วนะ เราต้องช่วยพวกเขา ”

     

    ข้า...คิดว่าเราต้องกราบทูลฝ่าบาทอีกเรื่องหนึ่งด้วย เรื่องนี้คงช่วยให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ ”

     

    เจ้าหญิงผู้เป็นภรรยาก็เงยหน้าเรียวหมดจดของนาง แล้วก็มอบจูบโหนกแก้มหยาบของเขา

     

    ทูออร์ที่รัก เจ้าเป็นถึงตัวแทนขององค์อุลโม เราเชื่อว่าเจ้าต้องทำได้แน่จ๊ะ ”

     

    แล้วร่างสูงใหญ่ก็โอบกอดร่างบางระหงในชุดกระโปรงสีครามอ่อนไว้แนบอก

     

    เราก็ต้องมีความหวังเสมอกับทุกเรื่องเสมอซินะ เคเลบรินดัล ดวงตะวันอันเจิดจรัสของข้า ”

     

    อิดริลก็มองสามีนิ่งครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยว่า “ พูดเหมือนมายกลิน..แอบคุยอะไรกันนะจ๊ะ? ”

     

    เปล่านะ ที่รักของข้า ” แล้วชายหนุ่มผมทองก็รีบมอบการจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มบางคู่นั้น

     

    ล้อเล่นแค่นี้ ถึงกับจูบปิดปากด้วยเหรอ...เฮ่อออ พ่อมนุษย์...พ่อของลูกชายข้า ”

     

    อิดริลกอดหีบใบนั้นไว้แนบอกของตน ดวงตาสีเทาอมครามเริ่มมีความหวังขึ้นมากกว่าเดิม

     

    ~!~!~!~!~!~!~!~

     

    ลอร์ดเคเลบริมบอร์ก็ได้มานั่งข้างเตียงน้อยของเออาเรนดิล พร้อมกับลูบมือบางคู่นั้นเบาๆ

     

    เออาน้อย เจ้าต้องไม่เป็นอะไรนะ เจ้ายังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เทพมานดอสคงไม่รั้งให้เอลฟ์น้อยไปอยู่ท้องพระโรง

     

    แห่งการรอคอยของพระองค์ เออาเรนดิล นัดดาแห่งทัวร์กอน จงรีบนำดวงจิตของเจ้ากลับมาเถิด ”

     

    พรายหนุ่มนายช่างไม่กล้าถือยศเรียกเด็กคนนี้เป็นหลานชายหรอก...เขาได้แต่ให้กำลังใจแค่นี้...

     

     

    แต่ว่าเด็กผู้ชายคนนี้ก็ทำให้ข้านึกถึงอีกคนหนึ่งมากกว่า...พ่อหนุ่มน้อยเอเรย์นิออน...ผู้สดใส...ผู้จากไปอยู่ท่าเรือ...

     

    ท่านพี่เทลเป ท่านก็ยังเมินเฉยกับทุกเรื่องเช่นเคย ”

     

    เพราะว่าข้านะเป็นแค่ผู้ว่าการของเจ้า มายกลิน ข้าไม่ได้เป็นเจ้าชายแห่งนครกอนโดลิน

     

    เหมือนกับเจ้าและก็เออาเรนดิล ตั้งแต่ฮาล์ฟเอลฟ์เกิดมา ใต้ฝ่าพระบาทก็ทรงดูร่าเริงขึ้นมาก ”

     

    ดวงตาสีเทาเข้มสบกับสีนิลของมายกลิน เพราะว่าเขาทราบดี...เออาเป็นยอดดวงใจของใครหลายคน..

     

    องค์ทัวร์กอนซึ่งนั่งประทับข้างร่างของพระน้องนางและยังคงกุมมือซีดไว้แน่น

     

    ได้สดับฟังการสนทนาของสองพรายหนุ่มก็ตรัสว่า “ เทลเป อย่างไรเสียเจ้าก็ได้ชื่อว่าเป็นหลานคนหนึ่งของข้า

     

    ข้าก็อยากให้เจ้ามาเล่นกับเออาเรนดิลน้อยบ้าง และเจ้าต้องรักเขามากดังที่ข้าและมายกลินรัก..”

     

    เคเลบริมบอร์ก็ส่ายหน้าไปมา “ กระหม่อมเข็ดการเลี้ยงเด็กแล้ว ไว้ให้เขาโตเร็วๆ จะดีกว่า จริงไหม ธิล ? ”

     

    พรายหนุ่มผมน้ำตาลอ่อนดังสีเปลือกไม้ก็พยักหน้า “ ครับผม แต่ข้าว่าองค์ชายน้อยช่างน่ารักเหลือเกิน

     

    ข้ามองเห็นเขาแล้วก็ยังอยากได้แต่ภาวนาว่า...อยากจะเล่นด้วยจัง...”

     

    ธิลเอ๋ย ถึงเจ้าสมองดีในงานของตัวเอง แต่คิดอ่านให้เป็นผู้ใหญ่ซะทีซิ ” เคเลบริมบอร์ปรามเสียงขรึม

     

    ในที่สุด เจ้าชายราชบุตรเขยและภรรยาก็ได้มาถึงห้องอภิบาล

     

    ทูออร์ ! อิดริล ! มาแล้วซินะ ” องค์ราชาทรงรับสั่งขึ้น มายกลินก็มองดูพวกเขา

     

    ดีแล้ว ” ลอร์ดเคเลบริมบอร์ก็ยกร่างน้อยของเออาเรนดิลขึ้น และนั้นทำให้เจ้าชายพรายและชายหนุ่ม

     

    ตระกูลฮาดอร์ถึงกับตาค้าง ...ไหนบอกว่าเข็ดต่อการเลี้ยงเด็กไม่ใช่เหรอ????.....

     

    ท่านพี่เทลเป ท่านจะทำอะไร ? ”

     

    ให้เออานอนข้างท่านหญิงขาวซิ ” พรายหนุ่มผู้มีอายุมากกว่าเอ่ยเรียบๆ

     

    เคเลบริมบอร์ก็ได้วางเด็กชายลงข้างผู้เป็นพระน้องนางแห่งองค์กษัตริย์อย่างนุ่มนวล

     

    พร้อมกับดึงมือซ้ายๆน้อยมาจับมือขวาของท่านหญิงขาวอาเรเดล พร้อมกับกระดิกนิ้ว

     

    แนร์ธิลก็เข้าใจสัญญาณของผู้เป็นนายจึงไปรับหีบซึ่งมีศิลาพรายอยู่ในนั้นจากเจ้าหญิงอิดริล

     

    นำมันออกมาเถอะ แนร์ธิล ”

     

    แนร์ธิลก็เปิดหีบนั้นออกมา ปรากฎว่า ศิลาก้อนสีเขียวก็ได้ส่องแสงสว่างเป็นประกายไปทั่วห้องอภิบาล

     

    จนทั้งห้องสว่างไสวจนเหมือนกลางวัน ที่สำคัญมีกลิ่นของต้นไม้สีเขียวขจีในทุ่งหญ้าออกมา

     

    สดชื่นจังเลย ” ทูออร์ถึงกลับจะเคลิ้ม...และนึกถึงป่าไม้ที่ตนเคยอาศัย

     

    เจ้าเคยได้ใส่มันไหม อิดริล ? ”

     

    เจ้าหญิงพรายก็อมยิ้มเล็กน้อย “ ครั้งหนึ่งข้าเคยลองสวมมันไว้ที่สร้อยคอ ตอนที่เห่กล่อมเออาเรนดิล

     

    ซึ่งก็ทำให้เขาหลับได้อย่างมีความสุข แต่ก็ไม่คิดว่า มันจะมีพลังอะไรเป็นพิเศษขนาดนี้”

     

    .พี่หญิงไม่เคยบอกข้าในเรื่องนี้เลย...น่าแปลกนะ...

     

    เอเลสซาร์จะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อผู้ที่ต้องการการรักษา มิฉะนั้นร่างกายจะรองรับพลังของมันไม่ได้ ”

     

    พี่ท่านก็สมเป็นผู้สืบทอดความสามารถจากพระอัยกาเฟอานอร์จริงๆ ”

     

    ดวงตาสีเทากระจ่างใสก็มองที่เจ้าชายพรายด้วยความเอ็นดู “ ขอบใจที่ชมนะ น้องเรา ”

     

    ทูออร์รู้สึกรำคาญที่เอาแต่พูดโน่นพูดนี้กัน “ เร่งเข้าเถอะท่านลอร์ด ”

     

    เคเลบริมบอร์ได้แตะหน้าผากของตนเองก่อนแล้วหยิบเอเลสซาร์ขึ้นมาวางไว้ในมือของเออาเรนดิล

     

    และนำมือของท่านหญิงขาวมาทับอีกรอบหนึ่ง “ ท่านมีพวกใบไม้หรือดอกไม้ติดมาไหม ”

     

    องค์ทัวร์กอนไม่รอช้ารีบนำช่อลิลลี่หุบผาออกจากเสื้อคลุมของพระองค์ทันที

     

    ขอบพระทัย ” เคเลบริมบอร์ก็วางลิลลี่มาวางตรงอกของผู้ป่วยทั้งสององค์ละดอก

     

    องค์ราชาพรายก็ถอนพระทัย “ แค่นี้เองเหรอ ? นายช่างเทลเป ”

     

     

     

    แต่ข้ามีเรื่องกราบทูลอีกอย่างหนึ่ง ฝ่าพระบาท เราต้องไปสวดมนต์ต่อพระพักตร์ของเหล่าเทพวาลาร์

     

    ให้ปาฎิหาริย์ได้เกิดขึ้น กระหม่อมคิดว่า มันน่าจะดีกว่าวิธีของท่านเทลเป ”

     

    เคเลบริมบอร์ก็มองที่ชายหนุ่มคนนั้นอย่างนิ่งเฉย “ มันต้องดีอยู่แล้ว ทายาทแห่งตระกูลฮาดอร์ ”

     

    ตกลง ข้าจะไปวิหารการ์ไอนิออน เรียกขุนนางทุกคนมาสวดมนต์จนถึงอรุณรุ่งแล้วกัน ”

     

    แต่เจ้าหญิงพรายกลับมานั่งข้างผู้เป็นเสด็จอาของนาง “ พวกท่านไปกันเถิด ข้าจะดูแลพวกเขาเอง ”

     

    อิดริล...พี่หญิง ” ทูออร์และเจ้าชายมายกลินกล่าวพร้อมกัน

     

    อดาและทุกคนไปโดยเร็วเถิด อาเรเดลและเออาเรนดิลกำลังขอความช่วยเหลือจากพวกท่าน..”

     

    ข้าเข้าใจ...ข้าเข้าใจ...ดี ลูกหญิง ไปกันเร็ว ! ”

     

    ฝีเท้าของเหล่าพรายและฝีเท้าหนักของมนุษย์ก็ก้าวเดินออกจากห้องนั้น เพื่อไปยังวิหารแห่งเหล่าเทวา

     

    ~*~*~*~*~*~*~*~

     

    อาหญิงขา ได้ยินหนูไหมค่ะ ? ” อิดริลยกมือเรียวของพระปิตุจฉาขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบา

     

    พลางลูบเรือนเกศาสีดำสนิทของนาง...ข้ากำลังจะร้องไห้อีกแล้วซินะ...น้ำตาของข้าไหลออกมาอีกครา

     

    อาหญิงอิริสเซของหนู...โธ่เอ๋ย...” แล้วนางก็ซบแขนเรียวขาวตัวเองพลางสะอื้นไห้

     

    เมื่อมองที่เออาเรนดิลน้อย นางก็อยากจะกอดจูบเขาเหลือเกิน..ลูกแม่จ๋า..ลูกแม่...ฮือ..

     

    นิ้วเรียวงามลูบพวงแก้มนวลและวางจูบทั่วใบหน้าและก็มืออันว่างอยู่ของพระโอรสองค์เดียว

     

    เออา..ลูกแม่..กลับมา...ได้แล้วนะ...กลับมาเถอะ...กลับมาหาแม่อิดริลของลูกนะจ๊ะ..

     

    อาร์ดามีเร...อัญมณีแห่งพิภพ....อย่างไรเสียเจ้าก็คงมีวันที่ได้เป็น...สักวันหนึ่ง...

     

    เจ้าหญิงพรายก็ร้องเพลงหวานใสที่นางยังจำได้ดี เพราะอาหญิงก็เคยร้องให้นาง...

     

    ตอนนี้นางจะมอบให้แต่เออาเรนดิล อาร์ดามีเร ยอนโดยา..ลูกชายของแม่ ยอดดวงใจของแม่..

     

    Baby mine, don't you cry
    Baby mine, dry your eyes
    Rest your head close to my heart
    Never to part, baby of mine

    Little one when you play
    Don't you mind what you say
    Let those eyes sparkle and shine
    Never a tear, baby of mine

    If they knew sweet little you
    They'd end up loving you too
    All those same people who scold you
    What they'd give just for
    The right to hold you

    From your head to your toes
    You're not much, goodness knows
    But you're so precious to me
    Cute as can be, baby of mine

     

    เออาเรนดิล อาร์ดามีเร ลูกรักของแม่ และอาเรเดล อิริสเซ ท่านหญิงขาวแห่งโนลดอร์ได้โปรด...เหล่าเทพวาลาร์...

     

    ตอนนั้นอิดริลจะรู้สึกเคลิ้มหลับ ก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะของใครคนหนึ่งออกมาจากด้านนอก

     

    นางจึงรีบลุกออกจากเตียงขาวและถามว่า “ ใครกันที่กล้าทำแบบนี้นะ ”

     

    อิดริลจึงรีบไปเปิดประตูออก นางต้องประหลาดใจมาก เพราะด้านนอกไม่ใช่ทางระเบียงหินอ่อนคุ้นตา

     

    แต่กลับเป็นระเบียงที่ติดอยู่กับริมทะเล นางได้กลิ่นเกลือและแสงแดดร้อนผ่าว...อะไรกัน..

     

    แล้วนางก็ได้เห็นเด็กสาวคนหนึ่ง...หน้าตา...งดงามเหลือเกิน... อิดริลรู้ดีว่าตนเองมีสิริโฉมยิ่งนักกว่านางใด

     

    เช่นเดียวกับอาหญิงอาเรเดลของนางแต่ว่านางดูจะทาบไม่ติดกับสาวน้อยคนนั้นเลยด้วยซ้ำ

     

    ดวงตาสีเทาใสและดูเยาว์วัยนัก เรือนผมสีดำประกายวาบวับ ใบหน้าชมพูระเรื่อดังกุหลาบมาแต้มแต่ง

     

    นางอยู่ในชุดกระโปรงสีนวลอมชมพู กำลังวิ่งมากอดชายหนุ่มผมสีทองเข้มซึ่งหันหลังให้นางอยู่

     

    เด็กสาวคนนั้นได้สะกิดมอบช่อดอกไม้เล็กๆ ให้กับชายคนนั้น เขาก็โอบกอดและหมุนร่างของเธอไปรอบๆ

     

    พวกเขาหัวเราะเสียงใสให้กันและกันดังที่อิดริลได้ยินเมื่อครู่..และนางก็จำได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นมีดวงตาสีไพลิน

     

    และมอบรอยยิ้มให้แก่นางด้วยความรู้สึกผูกพัน...ผูกพันกันมาอย่างอธิบายไม่ได้...

     

    เจ้าหญิงพรายแห่งกอนโดลินก็หลับตาลงอีกครั้ง ภาพของสองหนุ่มสาวก็หายวับไปกับตา...

     

    ~!~!~!~!~!~!~

     

    ใกล้ได้เวลาแล้วนะครับ...อร๊ายยย...ชอบพี่เทลเปจังเลย ^___^ และก็ฝากเพลง Baby Mine อีกรอบนะครับ




     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×