คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 : การไต่สวน
Chapter 8 : การไต่สวน
เมื่อถึงยามเช้า แสงตะวันสีทองอร่ามจับจ้องใบหน้าของฮอบบิทหนุ่ม โฟรโดไม่รู้สึกตัวว่า
เขาหลับไปตั้งแต่ตอนไหน เมื่อตื่นขึ้นมา เขาก็อยู่ในห้องขังเช่นเดิม ห่ออาหารที่ชายหนุ่มร่างสูง
ที่มาสนทนากับเขาเป็นบิดาของเออาเรนดิลจริงๆหรือ
พอเขาขยับลุกขึ้น ทหารพรายผู้หนึ่งกล่าวว่า “ เจ้าต้องได้รับการไต่สวนแล้ว เจ้าหนู ”
“ ข้าหลงทางมาที่นี้ และข้าไม่เข้าใจว่า การหลงทางมาเป็นเหตุให้ต้องเข้าคุกเชียวหรือ ”
“ เจ้าไม่ใช่คนแรกที่เข้ามาในคุกใต้ดินแห่งกอนโดลิน เอลฟ์มืดผู้หนึ่งก็เคยมา
บางทีชะตาเจ้าอาจดีกว่าเขา ถ้าเจ้าไม่ขัดขืนกฎหมายของเรา ”
พรายผู้นั้นนำตัวโฟรโดออกมาจากคุก ดวงตาสีฟ้าของฮอบบิทได้เห็นแสงสว่างสีขาวมาจากเบื้องบนของคุกแห่งนี้ เขาภาวนาว่า ขอให้ตนเองได้ปลอดภัยและได้กลับบ้าน แต่เขาก็ถูกปิดจาด้วยผ้าสีดำอีกครั้ง พรายผู้เดิมกล่าวว่า “ ขอให้ตอบตามที่องค์เหนือเกล้ารับสั่ง น้อมรับอย่างเดียว ”
สุดท้าย โฟรโดรู้สึกตัวว่าได้มายืนอยู่ยังพิ้นหินอ่อนที่เรียบลื่น เขารู้สึกว่าแสงสีขาวกระทบแก่
ดวงตาใต้ผ้าผิดดวงตามากขึ้น พร้อมได้ยินเสียงของภาษาพรายที่ดังระงมรอบตัว
“ เปิดนัยน์ตาของมันได้ ”
เสียงทุ้มกังวานแสนไพเราะกล่าวขึ้น แล้วโฟรโดก็ได้รับการถอดผ้าผืนนั้นออก
เขาได้เห็นเพดานท้องพระโรงอันแสนงดงาม เพดานที่วาดรูปท้องฟ้าสีครามเข้มและมีดวงดาราที่ทำจากแก้ว โคมไฟระย้าเป็นแก้วคริสตัลสุกสว่างกว่าโคมไฟชนิดไหนที่เขาพบเจอ และเบื้องซ้ายขวา
คือ ผนังที่ทำมาจากกระจกเงาขนาดใหญ่จนสามารถเห็นยอดแหลมของอาคารสูงชันแบบที่
โฟรโดไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อนในชีวิต....มหัศจรรย์นัก...
“ โฟโด แบกกิน ! ” เสียงเจื้อยแจ้วของท่านเออาเรนดิล ฮอบบิทหนุ่มหันไปยังเจ้าของต้นเสียง
เขาเห็นเด็กชายอยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินและมีริบบิ้นสีขาวประดับที่กระดุมต้นคอ
ร่างเล็กนั่งข้างสตรีพรายที่ทำให้โฟรโดแทบหยุดหายใจด้วยความงดงามจรัสตาของนาง
สตรีพรายอยู่ในอาภรณ์สีม่วงครามดังสีของท้องฟ้าในยามสนธยาก่อนเข้าสู่รัตติกาล
เรือนผมสีทองอร่ามตารับแสงอาทิตย์ที่ผ่านเข้ามายังในกระจก ดวงหน้าขาวผ่องนั้นเป็นต้นแบบความงดงามของเด็กชายที่นั่งข้างกับนาง โฟรโดไม่สงสัยเลยว่า
สตรีผู้นี้ต้องเป็นมารดาของเออาเรนดิลแน่นอน เพราะเบื้องหลังของพวกเขาคือ
ท่านทูออร์ ผู้อยู่ในชุดเกราะอ่อนสีเงิน และดูสง่างามกว่าเมื่อคืน
“ ทำความเคารพองค์กษัตริย์โนลดอร์ ”
ทหารพรายนำคทาสะกิดขาของโฟรโดให้ล้มลง ทำให้เขามองยังเบื้องหน้าอีกครั้งหนึ่ง
องค์ราชาแห่งนครลับแลกอนโดลิน...
พระองค์ประทับบนบัลลังก์สีขาว เหนือขึ้นบันไดจากพ้นประมาณเจ็ดขึ้น ในฉลองพระองค์สีแดงเข้ม บนพระเศียรประดับมงกุฎทองคำและมีโกเมนประดับตรงกลาง หัตถ์ขาวประคองคทาสีขาว
นี่คือความสง่างามของพระราชาของหมู่พรายในยุคบรรพกาล ที่ต่างจากของอารากอร์น
แม้เขาตระหนักว่าท่านเอลรอนด์งามสง่าแล้ว แต่กับพระราชาองค์นี้ ดังเปลวไฟในตะเกียงกับแสงรุ่งอรุณโดยแท้ หรือเขาจินตนาการมากไป ผู้ที่ประทับนั่งเบื้องขวาเป็นสตรีพรายในชุดสีขาวผุดผ่อง
ที่เขาเห็นเมื่อวานนี้ดวงตาของนางมองมายังโฟรโดอย่างสนเท่ห์ใจ ถึงกระนั้นใบหน้าเรียวมนก็แย้มริมฝีปากให้เขา บุรุษผู้ยืนเบื้องขวาขององค์กษัตริย์...อา...พรายหนุ่มที่เย้ยหยันเขาเมื่อคืน
แต่ดูสง่างามไม่ใช่น้อย เมื่อมีรัดเกล้าประดับเหนือศีรษะและอาภรณ์สีดำขลิบทอง
กระนั้น เขาต้องได้ขวดแก้วนำทางคืนมาให้ได้!
“ แนะนำตัวก่อน เจ้าหนู ” ทัวร์กอนรับสั่ง
“ ข้าบอกท่านแล้ว เสด็จตา เขาชื่อโฟโด แบกกิน และเขาหลงมาอยู่ในห้องนอนของข้า ”
เมื่อดวงเนตรแววดุขององค์กษัตริย์มองที่เด็กชาย เออาเรนดิลจึงนิ่งทันที
“ แนะนำตัวของเจ้ามา ”
“ ได้ ” โฟรโดกล่าว “ ข้าชื่อ โฟรโด แบ๊กกินส์ หรือ โฟรโด บุตรแห่งโดรโก
ข้าหลงทางมาที่นี้ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจบอกได้พะย่ะค่ะ ”
ด้วยความตื่นเต้น ฮอบบิทหนุ่มเกือบเรียบเรียงการพูดภาษาเควนยาไม่ถูก
แล้วพรายหนุ่มในอาภรณ์สีดำสนิทก็ขัดขึ้น “ บอกไม่ได้หรือ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ไว้เจ้าได้ ”
สตรีพรายในชุดขาวกล่าวว่า “ ลูกข้า นิ่งก่อนเถิด ”
“ เจ้าเป็นใคร เจ้าหาใช่พรายหรือมนุษย์ ” ทัวร์กอนรับสั่งอีกครั้ง
“ ข้าเป็นพวกกึ่งมนุษย์ ฝ่าพระบาท บ้านเกิดของข้าอยู่ดินแดนที่เรียกว่าไชร์ ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ห่างจากจากที่นี้ ข้าไม่ทราบเหตุผลอะไรที่ทำให้ข้ามาที่แห่งนี้ได้นอกจากว่า ข้าพเจ้าทะลุมิติมา ”
ประโยคนี้ทำให้เหล่าทหารพรายที่คอยอารักขาต่างมองตากันอย่างไม่น่าเชื่อ
และโฟรโดเห็นว่า ท่านเออาเรนดิลนำมือป้องปากของตนเองด้วยความไร้เดียงสา
“ ทะลุมิติหรือ ”
“ เสด็จลุง ” พรายหนุ่มผู้เดิมกล่าว “ มันผู้นี้มีเวทมนตร์ประหลาด ”
พรายหนุ่มหยิบขวดแก้วนำทางของโฟรโดและถวายต่อพระหัตถ์ของทัวร์กอน
“ นี่คืออะไร ”
“ ขวดแก้วเรืองแสงพระเจ้าข้า นี่คือ สิ่งที่พระองค์สามารถนำมาตัดสินโทษทัณฑ์ของมันผู้นี้ ”
พรายหนุ่มฉายแววตาที่เหมือนจับผิดผู้ถูกกล่าวหาเต็มที
“ ท่านน้าหยิบของโฟโดแบบนี้ ไม่มีดีเลย ” เด็กชายทักท้วง
พรายหนุ่มสวนทันควัน “ หลานข้า นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ความจริงได้เท่านั้น น้าบอกเจ้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้วมิใช่หรือ จริงหรือมั้ย พี่ข้า ”
เขาหันไปยังสตรีพรายร่างสูงนั้นด้วยสายตาอย่างหยั่งเชิงในจิตใจ
สตรีพรายจึงกล่าวสั้นๆว่า “ รอให้การตัดสินจบลงก่อน มายกลิน ”
และนางโอบไหล่ของบุตรชายและปลอบเขาให้สงบใจลง
“ ขวดแก้วสิ่งนี้เป็นทรัพย์สินของเจ้าหรือ ”
“ พระเจ้าข้า ” ฮอบบิทหนุ่มตอบ “ เป็นสิ่งที่ข้าใช้ในการเดินทางยามไร้แสงสว่าง
สตรีผู้หนึ่ง นางมอบให้ข้าและให้ข้ามีความกล้าหาญ มั่นคงและเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง
ข้าเป็นคนหลงทาง และต้องการกลับบ้าน ได้โปรดให้ข้ากลับบ้านเถิด ”
โฟรโดวิงวอนพร้อมกับคุกเข่าลงกับพิ้น ทำให้องค์ราชาทอดพระเนตรลงยังเขา
แล้วทัวร์กอนรับสั่งว่า “ เราไม่ประหารเจ้า เพราะลักษณะการพูดจาของเจ้าไม่เหมือนพวกออร์คหรือปีศาจร้าย และแววตาของเจ้าก็เข้มแข็ง กล้าหาญไม่ใช่น้อย ข้าไม่เข้าใจถึงการทะลุมิติ
เดินทางไกลของเจ้าหรอก แต่ว่า ข้าจะตัดสินเป็นคำขาดว่า เจ้ามาอยู่นครของข้าแล้ว
เจ้าจะออกไปอีกไม่ได้ เจ้ามาเป็นประชาชนแห่งกอนโดลินแล้ว โฟรโด ”
“ ไม่ พระเจ้าข้า ” โฟรโดปฏิเสธทันควัน “ ข้าต้องการกลับไชร์ กลับไปหาลุงผู้ชราของข้า
และสหายของข้า พวกเขาทั้งหมดรอข้าอยู่ ได้โปรด ฝ่าพระบาท ”
องค์ทัวร์กอนทรงส่งสายเนตรยังพรายหนุ่มผู้เป็นพระโอรสของพระขนิษฐา และมองยังชายหนุ่ม
ผู้มีนามว่า ทูออร์ ว่าควรตัดสินอย่างไร พรายหนุ่มพยักหน้ารับ แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายส่ายไปมา
ทัวร์กอนทรงเข้าพระทัยดีแล้ว
“ เอาล่ะ ข้าจะให้เลือกว่าจะอยู่ที่นี้หรือไม่ ถ้าเจ้าไม่ต้องการ คือ การจำคุกต่อไปหรือ
การประหารชีวิตเท่านั้น ”
เออาเรนดิลอุทานลั่น “ อย่าทำแบบนี้ โฟโด ไม่ได้ทำอะไรผิด ”
“ ข้าตัดสินเพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองเรา หลานชาย ”
กษัตริย์แห่งกอนโดลิน ยกขวดแก้วขึ้นเหนือพระเศียร “ เจ้าตัดสินใจให้ดี มิฉะนั้น
ของสิ่งนี้จะแตกกระจายลงกับพิ้น และเจ้าจะไม่เหลือสิ่งใดติดกายของเจ้า ”
โฟรโดตกใจยิ่งนัก เขาจึงลั่นว่า “ อย่าให้เป็นแบบนี้ ”
“ งั้นก็ดี ” เมื่อพระหัตถ์แกร่งปล่อยขวดแก้วนำทางลง
และภาพต่อมาเป็นภาพที่โฟรโดต้องจำไปอีกนานแสนนานคือ
เออาเรนดิลในวัยเยาว์กระโดดรับขวดแก้วที่เปล่งแสงดาราของตนเองมาไว้ก่อนที่มันจะถึงพิ้น
และนั้นทำให้พรายทุกตนในท้องพระโรงใหญ่ต่างแสดงความตระหนกยิ่ง
“ พระองค์ชายน้อย ! ”
“ เออาเรนดิล ! ” องค์ราชารับสั่งแสนดัง แต่ฝีเท้าของพระนัดดาวิ่งลงจากขั้นบันไดเจ็ดชั้น
แล้วนำมันมาคืนให้ถึงมือเรียวของฮอบบิทหนุ่ม
“ โฟโด รับไป และบอกทุกคนว่า ข้าจะอยู่ที่นี้ อยู่ที่นี้ ”
ฮอบบิทตกตะลึงจนพูดไม่ออก จึงต้องตะโกนแบบสุดเสียงว่า
“ อิม ซิโลเม อิม ซิโลเม // ข้าอยู่ที่นี้ ”
เขาอยากเป็นลมอีกรอบให้ได้เลย...เมื่อกษัตริย์พรายรับสั่ง
“ เอาล่ะ ในเมื่อเจ้ารับปากแล้ว อยู่ที่กอนโดลินต่อไป และหาบ้านไว้ด้วย ”
“ ให้เขาอยู่กับเออา ” เด็กชายโต้ตอบ “ ให้เขาอยู่กับเออาที่นี้ ”
“ เออาเรนดิลของข้า เจ้ากลับมานั่งที่เดิม ”
เมื่อเด็กชายเดินกลับขึ้นไปนั่งข้างมารดาแล้ว องค์ราชาจึงพิพากษาดังนี้
“ ข้าตัดสินใจอาคันตุกะผู้มีนามว่า โฟรโด ผู้มีนามประหลาด เป็นผู้ต่างถิ่น พำนักในกอนโดลินแห่งนี้
และเขาเป็นผู้ที่นัดดาของข้าโปรดปราน เขาได้รับตำแหน่งอันสมควรในวังของข้า ”
เออาเรนดิลก็หัวเราะชอบใจใหญ่ ดวงตาสีน้ำเงินเปล่งประกายมายังสหายใหม่ของตน
โฟรโดเหมือนจะเห็นแววตาคมคายของทูออร์ที่มองมายังเขาด้วยความอุ่นใจ
อย่างน้อยเขาก็พ้นโทษ....นี่เป็นแผนการของท่านทูออร์หรือไม่...หรือเพราะสัญชาตญาณของท่าน
เออาเรนดิล...ขวดแก้วนี้คือที่บรรจุแสงดารานำทางของท่าน...เขาจะกลับไปเล่าให้ลุงบิลโบและแซมให้ฟังว่า เขารอดตายจากนางแมงมุมชีล็อบ เพราะแสงดาราแห่งเออาเรนดิลแล้ว
เขารอดชีวิตจากการปกป้องของเออาเรนดิลผู้ที่ยังเป็นเด็กชายร่างเล็กอีกด้วย...
ความคิดเห็น