คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 4 : เข้าสู่นครสัตตนาม
นัยน์สีท้องนภาใสของชายหนุ่มได้มองไปยังหุบเขาทุมลาเดนอันงดงามที่ตั้งอยู่ดุจดวงมณีสีเขียว
ท่ามกลางขุนเขาวงแหวนล้อมรอบไกลออกไปเหนือศิลาอะมอนกวาเร็ธ จึงเป็นนครกอนโดลินอันเกรียงไกร
นี้คือนครสัตตนาม ซึ่งมีความรุ่งโรจน์เรืองนามยิ่งใหญ่เป็นที่สุด เป็นที่ร่ำลือในบทเพลงขับขาน
ของเหล่าเอลฟ์ทั้งปวงในมิดเดิ้ลเอิร์ธของยุคนั้น กำแพงสีขาว และหอคอยสูงเสียดฟ้าส่องแสงตระการให้กับนคร
ทูออร์ก็ได้เห็นบันไดศิลาแข็งและหินอ่อนงามกระจ่าง มีสายธารประดับล้อมรอบเนินที่ตั้งของกอนโดลิน
เอคเธลิออนจึงได้ออกคำสั่งแก่เอเลมมาคิลว่า “ น้องมาคิล จงเป่าแตรสัญญาณออกไปเถิด ”
“ ขอรับ ท่านลอร์ด ” พรายหนุ่มผู้อารักษ์ประตูตอบ และเขาก็ปฏิบัติตามหน้าที่
เสียงนั้นจากประตูเหล็กกล้าสะท้อนก้องไปในหุบเขา ครั้นแล้วก็มีเสียงแตรกังวานใสตอบกลับมาจากกำแพงสีขาว
ของนครที่อาบรัศมีสีกุหลาบของยามรุ่งอรุณ
เมื่อละจากสายตาของภาพเบื้องหน้า ดวงใจก็มีแต่ความสดใสและความเหน็ดเหนื่อยก็มลันหายไป
ทูออร์ก็ถามขึ้นว่า “ นามทั้งเจ็ดของเมืองมีอะไรบ้างเหรอ ? ท่านลอร์ดเอคเธลิออน ”
“ อยากรู้ซินะ นครของเรามีนามเจ็ดนามดังนี้ กอนโดลิน ศิลาลับแล ซึ่งใช้เป็นภาษาซินดาริน
กอนโดบาร์ เคหาสน์แห่งศิลา กอนโดธลิมบาร์ เคหาสน์แห่งกองศิลา
กวาเรสทิน หอคอยแห่งการคุ้มกัน การ์ธูริออน สถานแห่งความลับ
ลอธ มาลีงาม ลอเธงโกรล ผกาผลิบาน มีดอกไม้ประจำคือ อินดิลลอนเด ลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ ”
ชายหนุ่มจึงหัวเราะเสียงใสกับรายนามทั้งหมด “ขอบคุณที่บอกมา แต่ข้ายังจำไม่ได้หมดเป็นแน่ ! ”
โวรอนเวก็ได้รับม้าสีเทาหนึ่งตัว พลางมองทิวทัศน์อันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า “ ข้าได้กลับบ้านแล้วล่ะ ”
มือแกร่งของทูออร์จึงได้ปรบมือให้สหาย “ ข้าดีใจด้วยนะ โวรอน แล้ว... ท่านเสนาข้าอยากถามเรื่องหนึ่ง ”
“ ว่ามาได้เลย บุตรแห่งฮูออร์ ” เอคเธลิออนกล่าวแก่ร่างสูงในชุดเกราะ
“ ใครเป็นผู้สร้างประตูเหล็กเหล้าที่ท่านประจำการขอรับ ? ”
ดวงตาสีเงินคู่นั้นดูสดใสขึ้นมา ราวกับได้ฟังข่าวสารที่น่ายินดี “ พระภาคิไนยขององค์ทัวร์กอน ”
“ พระภาคิไนย ? ใครหรือท่าน ? ข้าว่าเขาเก่งนักที่สร้างประตูเหล็กกล้าแห่งนี้ได้ ”
ยังไม่ทันที่จะได้กล่าวต่อ ชายหนุ่มก็ได้รับม้าสีเทาปนน้ำตาลตัวหนึ่งมาอยู่ตรงหน้า
ฝ่ายเอคเธลิออนก็ได้ขึ้นประจำอาชาสีขาวตัวเดิมของตน “ ไปเถิด บุตรมนุษย์เอ๋ย กอนโดลินรอเจ้า ”
ทูออร์ก็ส่งยิ้มตอบ และขึ้นม้าตัวนั้นตามหลังพรายหนุ่ม โวรอนเวได้โบกมือลามาคิลผู้เป็นสหาย
แล้วบุรุษทั้งสามก็ได้ขับผ่านถนนสายยาวแห่งทุมลาเดน ดาษดาด้วยหิมะขาวโพลนเพื่อเข้าสู่อาณาจักรแห่งนี้
...เสียงแตรสีเงินที่อยู่เบื้องหน้า...ทำให้ต้องเร่งการขับม้ามากกว่าเดิม...ความงดงามอันพิลาสแห่งศิลาลับแล...
และข้าจะได้พบผู้สร้างนครแห่งนี้...องค์ทัวร์กอน...และใครคือพระภาคิไนยของเขา...นั้นคือสิ่งที่ข้าปรารถนาทราบ...
~*~*~*~*~*~*~
“ เป็นความจริงแล้วซินะ ” ร่างสูงสง่าร่างหนึ่งกล่าว ขณะที่ดวงตาสีเทาอมครามมองยังทิวทัศน์ของพระนคร
จากกระจกเงาบานใส มือเรียวใหญ่ยังคงถือเอกสารเล่มหนึ่งไว้ และอีกข้างหนึ่งก็ยกแก้วไวน์สีแดงขึ้นดื่ม
เสียงหนึ่งก็เป็นของอิสตรีร่างสูงในชุดกระโปรงขาวประดับริ้วสีเงิน นางยืนอยู่เบื้องหลังของบุรุษผู้นี้อย่างเคารพ
“ พี่ชายข้า เราคงต้อนรับเขา เพราะเขาเป็นผู้ที่เทพอุลโมส่งมา และต้องการให้เรา...”
“ ข้าเป็นกษัตริย์ของเมืองกอนโดลิน ข้าจัดการได้เอง เจ้าเองก็ไปตามเด็กๆของเรามาที่ท้องพระโรงเถิด”
อิสตรีผู้นั้นจังได้ถอนสายบัวลงต่อเบื่้องพระพักตร์ของผู้เป็นเชษฐา “ รับด้วยเกล้าเพค่ะ ”
พรายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำขลับร่างสูงได้ตระหนักในใจว่า...วันนี้คงเป็นตามคำทำนายของพระองค์...
...เขาผู้นี้มาจากเนฟรัสต์มาเตือนข้า เขาจะเป็นกำเนิดแห่งความหวังใหม่ระหว่างสองเผ่าพันธุ์
เอลฟ์และมนุษย์ เป็นผู้ล้างคำสาปซิลมาริล ดาราดวงใหม่แห่งอนธกาลทั้งปวง
ท่ามกลางความพินาศและเพลิงกาฬจากจอมมารมอร์กอธ ข้าจะได้รู้ทันทีว่าผู้มาเตือนคือผู้ใด...
ความคิดเห็น