ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Little Lord Of Nan-Elmoth~ ( ลอร์ดน้อยแห่งพนานันเอลม็อธ )

    ลำดับตอนที่ #4 : Sweet Child Of Twilight : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 56


    สิบสองปีต่อมา...

     

    ภายในห้องนอนสีเทาของพรายตัวน้อยในชุดสีน้ำเงินเข้มกำลังจะฝืนจากภวังค์แห่งการหลับใหลของตน

     

    เมื่อได้ยินเสียงปลุกของท่านหญิงขาวแห่งป่านันเอลม็อธว่า “ ลูกแม่ ตื่นได้แล้วจ๊ะ ”

     

    นานา...นานา โลมิอยากนอนต่อ ฟ้ายังไม่สว่างเลย ”

     

    ร่างระหงก็นั่งลงบนเตียงขาวแสนอบอุ่นของบุตรชาย มือเรียวก็ลูบเรือนผมสีดำของเอลฟ์น้อยเบาๆ

     

    ท้องฟ้าของบ้านเรา ไม่มีแสงสว่างอยู่แล้ว นอกจากแสงจันทร์และแสงดาวเท่านั้นจ๊ะ ”

     

    ผู้เป็นบุตรชายก็ยังคงซุกหน้าใต้ผ้าห่ม...เรายังไม่อยากลุกเลย....

     

    จนเมื่อรู้สึกถึงอ้อมกอดนิ่มหากแข็งแรง พลางเสียงกระซิบว่า “ วันนี้ พ่อเจ้าจะไปเหมืองคนแคระ

     

    แม่จะสอนหนังสือภาษาเควนยาให้เจ้านะ โลมิน้อย ”

     

    คำบอกของผู้เป็นมารดาทำให้เด็กชายทำตาลุกวาวและคลานออกจากผ้าห่มสีนวลของตน

     

    อาเรเดลจึงได้เห็นดวงหน้าขาวนวลของผู้เป็นลูกแดงระเรื่อด้วยความยินดี

     

    เสียงเล็กใสราวกับกระจกแก้วก็อุทานว่า “ หนูตื่นแล้วล่ะ นานาจ๋า ”

     

    ~!~!~!~!~!~!~

     

    เสียงของม้าหนุ่มสองตัวกำลังดังขึ้นหน้าคฤหาสน์สีดำของลอร์ดเอโอล ผู้ปกครองป่าแห่งนี้

     

    ตอนนี้พรายหนุ่มผิวคล้ำสองนาย กำลังเตรียมตัวไปยังหมู่บ้านของเหล่าคนแคระ

     

    ซึ่งตัั้งอยู่ในเทือกเขาสีน้ำเงิน ซึ่งนับว่าไกลมากสำหรับผู้ไม่รู้เส้นทาง

     

    ข้าจะไปราวห้าวัน อาเรเดล ข้าฝากบ้านด้วยนะ ”

     

    ร่างสูงระหงในชุดขาวก็ตอบกลับว่า “ ท่านพี่บอกแต่ประโยคนี้เหมือนเคยซินะ ”

     

    พรายหนุ่มก็ได้เดินมาอุ้มบุตรชายเรือนผมสีดำของตนมากอดไว้แนบอกแกร่ง

     

    เจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดี เพราะพ่อจะไม่อยู่หลายวัน อิออน ”

     

    เอลฟ์ตัวน้อยก็โอบรอบคอ และจูบลาผู้เป็นบิดาตรงแก้ม “ แล้วเจอกันนะจ๊ะ อดา ”

     

    ฝ่ายเด็กชายที่ตัวสูงกว่าก็ได้มายืนข้างผู้เป็นนาย “ นายท่านไม่ต้องห่วงนะครับ ข้าจะปกป้อง

     

    นายน้อย เวลาวิ่งเล่นไม่ให้มีแผลเด็ดขาดเลยครับ ”

     

    เด็กชายในอ้อมกอดของเอโอลก็กล่าวว่า “ พี่โดรอน พี่น่าจะเฝ้าคาเลนมากกว่านะ ดูซิ นางวิ่งมาแล้วล่ะ ”

     

    แล้วพวกเขาก็เห็นเอลฟ์สาวน้อย เรือนผมสีเงินอมน้ำตาลเหมือนของผู้เป็นพี่ชาย

     

    หากดวงตากลมโตของนางเป็นสีอำพันใส อยู่ในชุดกระโปรงสีเทาวิ่งเร็วราวกวางน้อย

     

    หนูอยากไปด้วย หนูอยากไปด้วยคน ”

     

    คาเลน ! คาเลน ! เจ้ายังไม่ได้เปลี่ยนชุดนอนเลยนะ ” ผู้เป็นมารดาปรามเสียงแข็ง

     

    เด็กหญิงร่างบางก็ถลามาเกาะแขนผู้เป็นบิดา “ ท่านพ่อ นานาจะตีหนูอีกแล้วอ่ะ ”

     

    ซาร์นก็ยกบุตรสาวของตนกอดไว้ และจูบแก้มนิ่มของนางเบาๆ “ ถ้าซนนักล่ะ พ่อจะตีเจ้าอีกคน ”

     

    ไม่เอา อดาต้องช่วยหนูจากท่านแม่ ถ้าพวกท่านตี หนูจะอยู่กับท่านหญิงขาวแล้ว ”

     

    อาเรเดลก็ยิ้มพลางลูบผมนุ่มของคาเลน และรับนางจากผู้เป็นบิดามาส่งคืนให้เลนเวน

     

    อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นสตรี งานเหมืองแร่ไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ หรอกนะจ๊ะ ”

     

    สาวน้อยก็พยักหน้ารับ “ เจ้าค่ะ ท่านหญิง ”

     

    บุตรแห่งเอโอลก็ถามขึ้นว่า “ แล้วเมื่อไร หนูจะได้ไปที่นั้นกับท่านพ่อและอาซาร์นบ้างล่ะ ? ”

     

    ดวงตาสีนิลเรียวคมของพรายหนุ่มสบกับของผู้เป็นบุตรชายด้วยความแน่วแน่

     

    บางที พ่อจะพาเจ้าไปเร็วกว่าที่คิดก็ได้นะลูก ”

     

    ริมฝีปากอบอุ่นประทับจูบลงบนขมับและพวงแก้มขาวของบุตรชาย

     

    แล้วพบกัน เอโอลิออน ลูกพ่อ ”

     

    ซาร์นเองก็ได้กำชับให้โดรอน ผู้เป็นบุตรชายดูแลน้องสาวและนายน้อยให้ดีตามประสาผู้เป็นบิดา

     

    แล้วดาร์กเอลฟ์หนุ่มก็ได้กระโจนขึ้นม้าสีดำสองตัว และเดินทางบนถนนในป่ามืดที่ทอดยาวไกล

     

    แล้วเจอกันนะ ! อดา แล้วเจอกันนะ ! ”

     

    เด็กทั้งสามคนก็โบกมือลาผู้ใหญ่ทั้งสอง ในที่สุดพวกเขาเร่งความเร็วของม้าจนหายออกไปจากสายตา

     

    พรายน้อยคาเลนก็ร้องว่า “ นานา หนูจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนะ ”

     

    ไปได้แล้ว บุตรีแห่งซาร์น ”

     

    ผู้เป็นมารดากำชับ พลางจูงมือน้อยของคาเลนกลับไปยังคฤหาสน์สีดำหลังนั้น

     

    อาเรเดลก็มองมาที่เด็กชายทั้งสองคน พร้อมกับมอบรอยยิ้มแสนงามให้ “ หนุ่มน้อย เข้าบ้านกันเถอะ ”

     

    จ๊ะ นานา ” เมื่อบุตรแห่งเอโอลจะก้าวเดิน แล้วเผลอสะดุดก้อนหินหกล้ม

     

    โอ๊ย ! ”

     

    โดรอนก็ตกใจจึงพยุงร่างเล็กขึ้นมา “ นายน้อย ไม่เจ็บนะครับ ”

     

    ลอร์ดน้อยแห่งป่านันเอลม็อธก็รู้สึกเขินก็เลยส่งรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มสองข้างออกมา

     

    หนูไม่เป็นไรหรอกนะ พี่รอน แค่นี้สบายมาก ! ”

     

    เด็กชายผิวคล้ำที่โตกว่าก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแดงระเรื่อ เมื่อได้เห็นลักยิ้มแสนน่ารักทั้งสองข้าง

     

    ของนายน้อย บุตรแห่งท่านหญิงขาวอาเรเดล นายหญิงของตน

     

    ...นายน้อยช่างน่ารักเหลือเกิน ขนาดเราเป็นผู้ชายเหมือนกันยังอดเขินไม่ได้แปลกจัง...

     

    ...ตั้งแต่นายน้อยเกิด เราก็อายุสิบหก ตอนนี้ เราก็จะสามสิบแล้ว...เราเริ่มโตขึ้นเหรอเนี่ย ?...

     

    หนูไม่เป็นไร ” แต่พอจะก้าวเดิน เด็กชายผมดำก็เริ่มรู้สึกเจ็บมากขึ้น

     

    โดรอนจึงคุกเข่าลงแล้ว ขอเปิดดูแผลปรากฎว่า หัวเข่าสีขาวนวลได้มีเลือดไหลออกมาซิบๆ

     

    นายน้อย มีแผลซะแล้ว ไม่เป็นไรนะครับ  ข้าจะช่วยนายน้อยเอง ”
     

    แล้วเด็กชายก็ยกร่างบางของบุตรแห่งเอโอลมาขึ้นหลังของตน

     

    พี่โดรอน หนูเดินเองได้นะ ! ” เขาทักท้วง

     

    ก็นายน้อย ผิวขาวจัด เดี๋ยวก็เป็นแผลอีก ข้าจะนำไปให้ท่านแม่ทำแผลแล้วกันครับ ”

     

    พรายน้อยผมดำก็เลยแอบยิ้ม พลางโอบรอบคอของโดรอนไว้ “ ขอบคุณนะ พี่ชาย ”

     

    เด็กชายเจ้าของผมสีเงินก็ยิ้มให้ตัวเองอีกครั้ง แล้วก้าวฝีเท้าเข้าคฤหาสน์หลังนั้น

     

    ~!~!~!~!~!~

     

    ว้าวๆ โลมิน้อยมาแล้ว คาเลนก็น่ารัก..ส่วนพี่โดรอนก็แสนดีจริงๆ

     

    มายกลิน...นี่ช่าง...เสน่ห์แต่เล็กเลย >O<

     

    ขอย้ำนิสหนึ่ง...พรายจะเติบโตช้ากว่ามนุษย์ครับ ช้าประมาณ 2 – 3 เท่า

     

    นั้นคือ โลมิน้อย 12 ขวบจะประมาณมนุษย์อายุ 6 ปี

     

    ส่วนโดรอนอายุ 28 ปีก็มีขนาดของร่างกายประมาณมนุษย์ 10 ปีครับผม ^__^

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×