ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ LOTR & SIL Fic ] Once upon a time in The Hidden Kingdom

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : การรวมตัวอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 57


    Chapter 3 :  การรวมตัวอีกครั้ง

     

    เอลรอนด์เดินมายังระเบียงทางเดิน  และพบว่าพ่อมดขาวกำลังยืนแน่นิ่งดุจศิลาจำหลัก แกนดัลฟ์ผู้ทรงปัญญากำลังมองท้องนภากาศในยามราตรี ลมหายใจทอดยาวผ่านหนวดเราสีขาวโพลน  พ่อมดหันมายิ้มให้เล็กน้อยแก่จอมพรายแห่งริเวนเดลล์ผู้งามสง่า

    “ วันนี้  ดาราแห่งเออาเรนดิลแจ่มชัดกว่าที่เคยเป็น  ท่านเอลรอนด์ ”

    “ ข้ารู้ว่าท่านต้องกล่าวเช่นนี้  เสียดายจัง ” เอลรอนด์กล่าว “ ความจริง ข้าควรไปยังวาลินอร์ได้เสียนานแล้ว  และข้าควรไปหาท่านพ่อท่านแม่  และก็ เคเลบรีอัน ภรรยาที่จากไปของข้า หรือบางที พวกเขาอาจจะจำข้ามิได้เสียเลย ”   “ ไม่มีบิดามารดาผู้ใด ลืมบุตรธิดาของตนได้ลงหรอก  ถึงท่านจะยอมให้อุนโดเมียล บุตรีของท่านสละความเป็นอมตะให้กับเอเลสซาร์  แน่นอน นางยังอยู่ในหัวใจของท่านเสมอ ตราบเท่าที่นางมีชีวิตอยู่ ”   “ นางอยู่กับข้ามานานมาก และนางเป็นลูกที่รักข้าจากใจจริง นางไม่เคยโต้เถียงหรือขัดใจข้าเลย ยอมรับว่านางทระนงในเรื่องความรัก เช่นเดียวกับลูธิเอน บรรพชนของข้า แต่นางมีความทรงจำของข้าอยู่เต็มเปี่ยม อา..แกนดัลฟ์...หากว่าข้าจำบิดาบังเกิดเกล้าของตัวเองแทบไม่ได้เลย...”

    “ ท่านมีส่วนคล้ายบิดาของท่าน  ดาราแห่งผองชน เอลรอนด์  คือ ยอมเสียสละตนเพื่อหน้าที่ในมัชฌิมโลก  เช่นเดียวกับอารากอร์น ”  แกนดัลฟ์กล่าว แววตาสุกใสดังดวงดาวในเวลานี้

    “ อารากอร์น  เอเลสซาร์ หรือเจ้าหนูเอสเตลของข้า กล้าหาญและหัวรั้นเหมือนเอสรอสไม่มีผิด ”

    จอมพรายถอนใจแผ่วเบา  พลางนีกถึงพี่ชายฝาแฝดของตนที่ได้เลือกตนเองให้กลายเป็นมนุษย์  ความสัมพันธ์ของเขาและเอลรอส จบในวันนั้น  เมื่อเอลรอส  พี่ที่คอยปกป้องเขาในวัยเยาว์  พี่ที่คอยเป็นสหายร่วมศึกรับใช้กิล-กาลัด ก่อนที่จะทรงเถลิงราชย์เป็นกษัตริย์พรายโนลดอร์องค์สุดท้ายแห่งมัชฌิมโลก  เอลรอสและเอลรอนด์ต่างได้รับพรจากเหล่าเทพวาลาร์ หลังจากที่บิดาของพวกเขาได้อุทิศตนเพื่อปราบปรามความโหดร้ายของมอร์กอธได้สำเร็จ

    พรผู้เลือก....บุตรหลานของพวกเขาสามารถเลือกจะเป็นพรายและมนุษย์ได้ตามใจต้องการ

    หากว่าเลือกได้เพียงครั้งเดียว  ถ้าเลือเป็นพราย ลูกหลานของเขาจะเป็นอมตชนและสามารถเลือกเป็นสองเผ่าพันธุ์ พรายหรือมนุษย์ตามใจปรารถนา  ถ้าเลือกเป็นมนุษย์ บุตรหลานจะเป็นมนุษย์ และไม่สามารถเลือกเป็นพรายได้อีกต่อไป...ด้วยเหตุนี้ เอลรอสผู้เลือเป็นมนุษย์และได้รับการตั้งตนให้เป็นกษัตริย์แห่งนูเมนอร์พระองค์แรก  จนเมื่ออาณาจักรนูเมนอร์ล่มสลายไปแล้ว  เอลรอนด์ก็ยังให้ความช่วยเหลือทายาทของเอลรอสเป็นเวลาหลายศตวรรษ แต่มีอารากอร์นเพียงผู้เดียวที่เขาเลี้ยงดูมาด้วยความรักเยี่ยงบิดาบังเกิดเกล้า

    “ เอสเตล ทำให้ข้านึกถึงพี่เอลรอส เป็นกษัตริย์ผู้เปลี่ยนอนาคตและก้าวเข้าสู่ยุคใหม่  บางทีข้าอยู่ในแผ่นดินมานานจนข้าหลงลืมไปบางอย่าง  อาร์เวนเลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปตราบที่นางกลายเป็นธุลี ส่วนลูกชายข้า เอลลาดาน เอลโรเฮียร์  พวกเขายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าจะติดตามข้าไปยังแดนนิรันดร์หรือไม่ ”

    “ ท่านจะไม่เสียลูกชายฝาแฝดของท่าน พวกเขาเลือกท่าน เอลรอนด์ ”  แกนดัลฟ์ตอบ

    “ ยังดี  ท่านพ่อจะได้เห็นหน้าหลานของท่านซักคน  ข้ามีความลับที่ไม่อยากเล่าถึงให้ใครฟัง

    คนที่รู้ก็มีเพียงท่านและคนไม่กี่คนในครอบครัว ”

    แกนดัลฟ์นิ่งไปชั่วอึดใจเดียว “ เรื่องราวของเออาเรนดิล บิดาของท่าน ”

    “  มันไม่ใช่ของวิเศษอะไรหรอก  เลดี้กาลาเดรียลกล่าวกับข้า  อดีตที่ห้วนคืนมาไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ มันสูญเปล่าที่จะกลับไปทางเดิม ”  ลอร์ดแห่งริเวนเดลล์ตอบเพียงเท่านี้


    เสียงฝีเท้าดังตุบตับของฮอบบิทผู้หนึ่งวิ่งมาด้วยความรวดเร็ว  แววตาของเขาลุกลนยิ่งนัก

    “ แซมไวส์ แกมจี ”  พ่อมดขาวอุทาน  “ ทำไมเจ้ายังไม่นอนอีกล่ะ ”

    ฮอบบิทหนุ่มร่างกลม ผมสีอ่อน ผู้ที่แสนจะชินกับอาการดุดันของแกนดัลฟ์ในเรื่องซุ่มซ่ามกับหน้าที่ต่างๆ แม้จะเสร็จสิ้นภารกิจทำลายแหวนไปตั้งหลายเดือนแล้ว

     “ คุณแกนดัลฟ์ครับ  ท่านเอลรอนด์ครับ  มีเรื่องแล้วครับ ”

    “ อะไรหรือ แซมไวส์ ” 

    “ คุณโฟรโด หายไปครับ  ผมตามหาทั่วแล้ว  ไม่มีใครเห็นคุณโฟรโดเลยครับ ”

    “ อะไรนะ โฟรโดหายไปอย่างไร เมื่อครู่ เขายังอยู่ในห้องโถงของเขา ”

    เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกล่าว  เอลรอนด์จึงก้าวฝีเท้าพรายของตนกลับไปยังห้องโถง

    โดยมีแกนดัลฟ์และแซมตามมาด้วย และสิ่งที่พวกเขาพบคือ เศษกระดาษที่กระจายปลิวว่อน

    ไปทั่วห้องโถง และสมุดบันทึกที่วางอยู่กลางห้องเท่านั้น  ทำให้จอมพรายแห่งริเวนเดลล์

    ผู้แสนเคร่งขรึมอุทานลั่นว่า

    “ บันทึกของพ่อข้า ให้ตายสิ  โฟรโด เจ้าทำอะไรลงไป ”

    “ หมายความว่าไงครับ ท่านเอลรอนด์ ” แซมถามอีกครั้ง ด้วยความกังวลว่า ถ้าโฟรโดหายไปจริงๆ  แซมจะไม่มีทางอภัยตัวเองอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน  แล้วแกนดัลฟ์ตัดสินใจหยิบมันขึ้นมา  และเอ่ยว่า...

    “ สมุดเล่มนี้สินะ คือความลับของท่าน ”

    “ ใช่ ”

    แกนดัลฟ์พยักหน้ารับ “ ท่าทางเรื่องนี้จะสนุกไม่น้อยเสียแล้ว ”

    พ่อมดขาวกล่าวพร้อมกับมองที่แซม และฮอบบิทหนุ่มก็รู้สึกว่า ภารกิจการเดินทางของเขายังดำเนินต่อไป...แล้วอีกเมื่อไหร่....


    ดังนั้น เอลรอนด์จึงร่างจดหมายเพียงฉบับเดียวไปถึงกษัตริย์แห่งกอร์ดอร์เพื่อกลับมายังริเวนเดลล์อีกครั้ง โดยมีใจความว่า

    ถึง เอสเตล ลูกรัก

    พ่อมีงานบางอย่างที่ต้องให้เจ้ามาช่วยสะสาง   พ่อรู้ว่าเรื่องนี้จะรบกวนใจของเจ้าและอาร์เวน แต่ว่า เรื่องนี้สำคัญและใช้เวลาไม่นานนัก  มันเกี่ยวข้องกับโฟรโด ผู้ถือแหวนขอให้พวกเจ้ากลับมาทีอิมลาดริสด้วยเถิด

    เอลรอนด์  ผู้ปกครองอิมราดริส ริเวนเดลล์

     

    จอมพรายตนสุดท้ายแห่งมัชฌิมโลกตระหนักว่า ทางที่ดีในเวลานี้คือ  ต้องบอกความจริงกับทุกคนด้วยวาจาของตนเอง...จังหวะนั้น  บิลโบเดินก้าวมาหาจอมพรายร่างสูง ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลด้วยความตกใจและหวาดหวั่นยิ่งนัก  แล้วเขาก็ถามว่า

      “ ท่านเอลรอนด์ หลานชายข้าจะได้กลับมาหรือไม่ครับ ”

    “ โฟรโดจะกลับมาแน่นอน บิลโบ แต่ให้เวลาอีกซักพักก่อนเถิด ”

    “ ที่ข้าต้องการถาม  หลานข้าไปอยู่ในสมุดเล่มนั้นได้อย่างไร”

    “ ข้าตอบเจ้าในเรื่องนี้ยังไม่ได้  บางทีข้าควรไปปรึกษาท่านหญิงแห่งไพรทองเสียก่อน  นางรับรู้เรื่องนี้ดี และนางจะมีวิธีแก้ไขได้ เพราะว่าเหตุการณ์นี้ ข้าจนเกล้าจริงๆ ”

    บิลโบจึงกลับไปนั่งปรับทุกข์กับฮอบบิทอีกสามคนที่เหลือ คือ แซม เมอร์รี่และปี๊ปปิ๊น
    แน่นอนว่า พวกเขาเป็นกังวลนัก ยกเว้น ปิ๊ปปิ้นที่ยังใส่ใจกับน้ำชาสมุนไพรที่เขาจะนำกลับไปยังไชร์

    “ ไม่ต้องห่วงหรอก ท่านลุง โฟรโดไม่ได้ไปไหน แค่หลุดไปในหนังสือ ”

    แซมทำหน้าฉุนให้ปิ๊ปปิ๊น  เมอร์รี่ผู้เป็นญาติสนิทจึงกระทุ้งไหล่ให้เขาระวังคำพูด

    “ หนังสือเล่มนั้น เป็นบันทึกของท่านเออาเรนดิลจริงๆเหรอครับ และคุณโฟรโดล่ะ จะเป็นอย่างไร  ข้าเป็นห่วงว่า เขาไม่มีอาวุธป้องกันตัว ดาบสติงก็อยู่ที่นี้ โธ่...”

    เมอร์รี่ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า “ ถ้าโฟรโดไปอยู่ที่กอนโดลินจริงๆ  เขาเอาตัวรอดได้  หลงไปในหมู่เอลฟ์ไม่ใช่พวกออร์ค  อีกอย่างโฟรโดพูดภาษาเควนยาได้ด้วย  เขาไม่เป็นไรอะไรหรอก ”

    แซมลุกขึ้นยืน สีหน้าบึ้งตึง

    “ผมจะไปช่วยคุณโฟรโด  ต่อให้เป็นตัวอันตรายที่ยิ่งกว่าแหวนหรือเจ้ากอลลัม  ผมไม่มีทางให้ใครหรืออะไรมาทำร้ายคุณโฟรโด ”

    “ ใจเย็นก่อนเถิด แซม ” ฮอบบิทผู้ชรากล่าว “ ที่ๆโฟรโดไป ไม่ใช่สถานที่ธรรมดานะ เป็นนครลับแล มีกษัตริย์ที่เป็นบรรพบุรุษของท่านเอลรอนด์เป็นผู้ปกครอง และบันทึกเล่มนั้น...เป็นสิ่งที่ไม่กี่อย่างที่ท่านเออาเรนดิลมอบให้กับท่านเอลรอนด์ ก่อนจากกันไป...ข้ารู้เท่านี้แหละ ”

    “ ย้อนเวลาเหรอ ” เมอร์รี่ถาม  “ ผมอยากย้อนเวลาไปตอนผมเด็กๆเหมือนกัน  ช่วงเวลาที่แสนสุขสันต์ที่สุดของชีวิต  แต่โฟรโดย้อนเวลาไปยังหลายพันปี  ไม่รู้ว่าโลกในตอนนั้นจะเหมือนกับเวลานี้มั้ยนะ และมีของกินมากกว่าที่นี้มั้ย ”

    ดวงตามีเปล่งประกายของสองหนุ่มฮอบบิท ชวนให้นึกถึงอดีตแสนไกลโพ้น ยามที่เอ้นท์ที่มีนามว่า “ ทรีเบียร์ด ” แล้วถึงเรื่องราวประหลาดและภาษาแปลกหูที่พวกเขาฟังมา

    หากว่า แซมเป็นห่วงเจ้านายของตนอยู่  เขาเคยเชื่อว่า เวทมนตร์แห่งพรายมีอยู่จริง  มาตั้งแต่เห็นพลังวิเศษในกระจกเงาแห่งกาลาเดียลแล้ว  สิ่งที่เขาคิดว่าไม่มีวันได้เจอเขาก็พบมาหมดแล้ว  ดังนั้น ฮอบบิทหนุ่มจึงภาวนาแค่ว่า  อย่าให้คุณโฟรโดเป็นอะไร และให้เขาได้ไปสู่เวลานั้นได้  บางทีท่านลอร์ดเอลรอนด์กล่าวถูกต้องก็เป็นได้ว่า...

    ...ภารกิจของพันธมิตรแห่งแหวนยังไม่จบสิ้น...มันกำลังดำเนินต่อไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×