ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Little Lord Of Nan-Elmoth~ ( ลอร์ดน้อยแห่งพนานันเอลม็อธ )

    ลำดับตอนที่ #15 : Glancing In The Wood : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 56


    กลับมาแล้ว ! ตอนใหม่ของนายน้อยมายกลินแล้วล่ะครับ

     

    ~!~!~!~!~!~!~!~

     

    พรายน้อยมายกลินและโดรอนได้วิ่งกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น ก็พบว่ามารดาของตนกำลังสนทนาอยู่กับเลนเวน

     

    และนางพรายผู้รับใช้ก็ได้เล่าถึงเรื่องของอาณาจักรโดริอัธ เด็กชายทั้งสองจึงพากันแอบฟังอยู่หน้าห้อง

     

    ข้าก็เห็นด้วยกับเจ้า ”

     

    แล้วท่านหญิงขาว ท่านมีประสงค์จะให้นายน้อยมายกลินไปยังแดนโดริอัธหรือไม่เจ้าค่ะ”

     

    เด็กชายผมสีเงินก็ได้มากระซิบให้ว่า “ นายน้อย รู้ไหม อดาของข้าจะชวนข้าไปเป็นทหารที่เมืองนั้น ”

     

    มายกลินน้อยจึงกระซิบตอบ “ หนูไม่รู้ว่า จะได้ไปที่นั้นไหม พี่รอน แต่ว่าหนูก็อยากไป..อีกที่หนึ่งมากกว่า ”

     

    เด็กชายผมดำก็รู้สึกว่าตนเองได้มีความฝัน...อยากไปเมืองกอนโดลิน...ไปดูน้ำพุกับปราสาทสีขาว....

     

    ทันใดนั้น ลอร์ดเอโอลก็ได้มาแตะไหล่ของหนุ่มน้อยทั้งสองคน “ โดรอน มายกลิน เข้าไปในห้องซิ ”

     

    อดา...คือหนู ”

     

    เด็กชายผู้โตกว่าก็ตอบรับ และจูงมือน้อยเข้าไปในห้องนั่งเล่น เด็กชายต่างก็เดินไปหามารดาของตน

     

    พรายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านก็ได้กล่าวสวนขึ้น “ ข้าไม่ต้องการเขาไปโดริอัธ ! จำคำสั่งของข้าไว้ด้วย !”

     

    นายท่าน ” เลนเวนรีบคุกเข่าลงกับพิ้น “ ประทานอภัยด้วยเจ้าค่ะ ”

     

    ดวงตาสีนิลแข็งกร้าวก็ได้มาสบกับสีอำพันของเลนเวน และนั้นทำให้นางรู้สึกว่า เขาได้นำดาบคมมาใส่นาง

     

    โดรอนก็รู้สึกตกใจไม่แพ้กัน “ นานา ลูกว่า...เอ่อ...”

     

    ในที่สุดเอโอลก็ได้ละสายตาแข็งกร้าวด้วยโทสะของตนมายังผู้เป็นภรรยาของเขาแทน

     

    อาเรเดลเจ้าก็เห็นด้วยกับนางซินะ ”

     

    แต่ร่างระหงในชุดสีขาวก็กลับยืนนิ่งเฉย และนั้นทำให้เอลฟ์น้อยผู้เป็นบุตรชายกอดนางไว้แน่น

     

    ข้าไม่คิดหรอกนะ ว่า ท่านจะให้ปิดกั้นลูกเรามากถึงขนาดนี้ ”

     

    แล้วเจ้าเดิือดเนื้อร้อนใจอะไร ถ้าข้าไม่ส่งลูกไปโดริอัธ ” เอโอลย้ำ

     

    อาเรเดลได้สบตาของผู้เป็นสามี “ ข้าน่ะรู้สึกดีใจมากเพียงไหนที่ท่านพี่ได้ตั้งชื่อให้กับลูกเรา

     

    ข้าเองก็ทราบดีว่าท่านเป็นถึงเจ้าชายแห่งนครโดริอัธ แทนที่ท่านจะสนับสนุนเขา เหมือนอย่างที่ซาร์น

     

    และเลนเวนตั้งใจจะพาสองหนูน้อยไปเพื่อให้พวกเขามีสังคม มีเพื่อนและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

     

    แต่มีท่านผู้เดียวล่ะมั้ง ? ที่ปิดกั้นอนาคตอันสดใสของลูกชายตัวเอง ! ”

     

    ลอร์ดหนุ่มผิวคล้ำก็กำมือหยาบของตนไว้แน่น “ สำหรับข้า มายกลิน จะต้องไปเรียนรู้งานช่างจากท่านลอร์ด

     

    เทลคาร์แห่งโนกร็อด เพราะข้าต้องการให้เขาเป็นวิศวกรหนุ่มที่เก่งกาจที่สุด ไม่ใช่ไปรับใช้พวกนั้น ! ”

     

    ท่านหญิงขาวก็เมินหน้าหนี ส่วนเด็กชายผมสีดำก็ได้แต่ซบกระโปรงนุ่มของนาง

     

    ~!~!~!~!~!~

     

    เวลาทานอาหารค่ำของวันนี้ก็ไร้เสียงหัวเราะเหมือนเคย...

     

    โดรอนกับคาเลนไม่กล้าชวนเข้าไปเล่นในห้องนอน เพราะว่าพ่อแม่ของเขาทะเลาะกัน...โต้เถียงกัน...

     

    ทำไมนะ...” โลมีออนน้อยถามในใจ

     

    ตั้งแต่เวลาที่เขาฝันว่าจะได้ ' ชนกนาม ' คือช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ พ่อเอโอลจะจัดงานเลี้ยงให้ครอบครัว

     

    และเหล่าผู้รับใช้ซึ่งมีไม่มากนัก แต่ก็เป็นความสุขที่สุด พ่อจะยกเขาขึ้นบนโต๊ะแล้วประกาศว่าเขาได้รับชื่อ

     

    นานาเองก็จะยิ้มและโอบกอดพวกเขา ทุกคนในบ้านจะพากันดีใจที่นายน้อยรับนามจากบิดาสักที

     

     

    ...อย่างน้อยวันนี้พี่รอนกับคาเลนก็ยินดีให้กับเขาแล้วนี่นา...

     

     

    แต่ว่า...เขากลับต้องมาได้รับการบอกชื่อจากท่านพ่อ ตอนที่ตื่นจากการหลับ และเขาก็ทะเลาะกับนานาด้วย

     

    เด็กชายจึงแอบมองจากบันไดไปเบื้องล่าง เขาก็ได้ยินเสียงของอาเรเดลที่กำลังล้างจานและเขวี้ยงลงอ่าง

     

    อย่างหงุดหงิดใจ ฝ่ายเอโอลก็นั่งอ่านหนังสือข้างตะเกียงโดยทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    อาซาร์นกับเลนเวนคงจะพาลูกทั้งสองไปนอนกันหมดแล้วซิ...สิ่งหนึ่งที่มายกลินไม่เข้าใจ

     

    โดรอนและคาเลนมีพ่อแม่ที่รักกันและไม่เคยทะเลาะให้ลูกได้เห็นสักครั้ง...ขณะที่อดาและนานากลับ..

     

    เอลฟ์น้อยจึงได้กลับไปในห้องนอน และเปลี่ยนชุดมาใส่เสื้อนอนสีขาวตามปกติ

     

    โดยฟาดเสื้อตัวเก่าไว้บนเก้าอี้ไม้ ก่อนที่จะไปล้างหน้าที่อ่างเล็กๆข้างเตียง

     

    เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาจึงพบว่าอาเรเดลเข้ามา และตรงเข้าโอบกอดร่างน้อยไว้

     

    แม่เสียใจ โลมีออน ” นางเอ่ย “ พ่อเจ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยใจเย็นในเรื่องความรู้สึก

     

    แม่รู้ดีว่า วันนี้ลูกดีใจมากแค่ไหนที่ได้รับนามจากพ่อ แต่ว่าเขากลับทำเป็นไม่สนใจ

     

    และยังกีดกันไม่ให้เจ้าไปนครโดริอัธ ทั้งๆที่เจ้าเองก็เป็น...”

     

    มายกลินน้อยกลับส่ายหน้าไปมา “ นานาจ๊ะ หนูไม่ได้อยากไปเมืองนั้นหรอก หนูอยากไปกอนโดลิน
     

     

    อยากไปดูบ้านสวยๆ มีสวนดอกไม้ ทุ่งหญ้าสีเขียวอ่อน น้ำพุดนตรี ตามที่ท่านเล่า

     

    และหนูอยากเจอเด็จลุงกับพี่หญิงจัง นานา...พวกเขาจะรักหนูไหม ? ”

     

    นางก็ตอบว่า “ แน่นอนจ๊ะ พวกเขาต้องดีใจมากที่ได้พบหนูทีเดียว ”

     

    ริมฝีปากสีแดงเรื่อของโลมีออนก็ได้มีรอยยิ้มอีกครั้ง

     

    ชื่อใหม่ของหนูใช้ได้ใช่ไหม ? นานา ”

     

    แม่จะเถียงกับพ่อเจ้าอีกครั้งดีไหม เจ้าอยากใช้ชื่อนี้ไหม? ”

     

    เอลฟ์น้อยก็สงสัย “ หนูว่ามันก็ดี ไม่รู้ซิ นานา ชอบเปล่าครับ ? ”
     

     

    มายกลิน...เป็นภาษาซินดารินที่มีความหมายดี ประกายตาอันคมกล้า ก็เหมาะกับเจ้าแล้วนี่นา ”

     

     

    ชอบมากกว่า โลมีออน ที่ท่านให้หนูไหม ? ”


     

    อาเรเดลก็เผยอริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบของนาง “ แม่ยังไม่ตัดสินใจหรอกจ๊ะ มายกลิน เป็นชนกนามที่ดีนะ


     

    แต่สำหรับแม่...ชื่อของเจ้าก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้า...ถ้าลูกสบายใจที่จะรักชื่อนี้ แม่ก็ชอบ แต่ถ้าลูกไม่ต้องการ


     

    แม่ก็จะไม่ใช้เรียกเจ้า เพราะว่าลูกคือ โลมิน้อย ของแม่เท่านั้น ”


     

    แต่ว่าหนูชอบนะ หนูจะเป็นมายกลิน โลมีออน บุตรแห่งเอโอลและอาเรเดล ”


     

    อาเรเดลจึงวางจูบบนพวงแก้มนุ่มซ้ายขวาของเด็กชาย “ ดีแล้วจ๊ะ แม่จะไปคุยกับพ่อเจ้านะ ”


     

    แล้วนางก็อุ้มให้ร่างน้อยมาอยู่บนเตียง แล้วเดินออกจากห้องนอนไป


     

    เด็กชายก็ยังคงนอนไม่หลับ ผ่านกำแพง เขาก็ได้ยินเสียงของอาเรเดล เสียงของนางก็แผ่วเบา


     

    แต่เอโอลกลับกล่าวเสียงขรึม ไม่นานนักเขาก็ได้เสียงของท่านแม่ดังลั่น


     

    ทำไม ? ท่านพี่ เขาเป็นเด็กนะ ไม่ใช่ชิ้นงานของท่าน ”


     

    เขาเป็นลูกข้า อาเรเดล ” เอโอลตอบกลับ “ เขาเป็นลูกข้า ข้ามีสิทธ์ที่จะให้นามเขาตามความพึงพอใจ ”


     

    ลูกเราไม่ใช่สิ่งของนะ ท่านพี่ ”


     

    มายกลินพยายามจะกลั้นน้ำตา และมองเห็นเงาสะท้อนมาจากกระจกโลหะดำกัลวอร์นที่ท่านพ่อทำให้


     

    เมื่อเขาแยกตัวออกมานอนเดีี่ยว ซึ่งผ่านมาไม่กี่ปีเท่านั้น แต่ว่าเงาของเขากลับจะทำให้เขารู้สึกแปลกใจนัก


     

    ฝีเท้าน้อยจึงก้าวลงจากเตียง และมองไปยังเงาของตนเองเพื่อดูให้แน่ชัด..


     

    ...ก็พบแต่ใบหน้ากลมนวลผ่อง เรือนผมสีดำยาวประคอแสนยุ่งเหยิง และดวงตาที่เริ่มแดงก่ำเท่านั้น...


     

    เขาเป็นลูกชายของข้า ลูกคนเดียว...ไม่ใช่เหรอ...และนามนี้ก็เหมาะสมกับเขาแล้ว เพราะอะไร


     

    ดวงตาของเขาเป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกว่าเขาเป็นลูกข้า และเขาจะใช้สายตานี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดด้วย”


     

    อย่าเลย ท่านพี่เอโอล ” เสียงแหลมคม ราวกับว่าท่านแม่ทุบโต๊ะ ซึ่งนางทำเป็นเวลาที่นางโกรธมาก


     

    ท่านปิดกั้นลูกเรา ท่านให้ชื่อของลูกท่าน ช้ากว่าลูกๆ ของคนใช้ของท่านด้วยซ้ำ และท่านจะให้เขา


     

    ปิดกั้นตัวเองอยู่แต่ในป่ามืดๆ และให้ลูกรู้สึกว่าพ่อตัวเองเห็นว่าเขาไร้ค่าเหมือนผ้าขี้ริ้วผืนหนึ่ง ! ”


     

    เกินไปแล้วนะ ท่านหญิงโนลดอร์ ! มายกลินคือบุตรแห่งเอโอล บุตรข้า ทุกอย่างที่เขามี


     

    เสื้อผ้าให้สวม อาหารที่กิน และลมหายใจของเขาก็ได้มาจากข้าทั้งสิ้น ข้าไม่มีวันเห็นเขาไร้ค่าหรอก ”


     

    พรายน้อยได้แต่มองในกระจก แสงสลัวจับจ้องดวงหน้าเรียวบางและตากลมโตที่ช้ำจากการร้องไห้


     

    เวลานี้...เขายังเด็กนัก..นิ้วเรียวเล็กแตะที่พวงแก้มและคางเรียวของตน...เขาคิดว่า...โตขึ้น รูปหน้าจะสวยคม


     

    คล้ายกับของนานา เพราะว่าอดานั้น...นอกจากดวงตาแล้ว...ก็ไม่เห็นมีอะไรเหมือนเขาจริงๆ...


     

    ทุกอย่างนะเหรอ หึ! เอโอล ใครกันที่อุ้มท้องเขามาหนึ่งปี ใครที่ต้องทนให้เขาต้องเกิดมาตั้งหลายชั่วโมง


     

    ข้าต้องเจ็บมากแค่ไหนถึงจะคลอดเขาออกมาได้ ! ”


     

    แล้วผู้หญิงคนไหนที่เกือบจะแท้งลูก ตอนที่ตั้งท้อง ถ้าดาร์กเอลฟ์ผู้นี้ไม่ไปตามเจ้ากลับมาอยู่บ้าน


     

    แล้วผู้หญิงคนไหนที่เสียเลือดมากจนเกือบจะไม่รอด ถ้าข้าไม่ทำคลอดให้นางและลูกจนปลอดภัย


     

    เจ้ายังติดหนี้บุญคุณข้า ท่านหญิงขาว อย่าลืมซิ ”


     

    อาเรเดลก็หัวเราะขมขื่น “ ข้าไม่ลืมหรอก เพราะท่านอิจฉาข้าที่ลูกเหมือนแม่ รูปโฉมเป็นชาวโนลดอร์”


     

    พรายหนุ่มก็ขึ้นเสียง “ ข้าไม่ได้อิจฉา เจ้าต่างหากกลัวว่าข้าจะรักมายกลินมากกว่าเจ้า ”


     

    ท่านพี่ไม่ได้รักข้า ท่านต้องการตัวข้า ความงามของข้า ถึงได้เสกมนตร์ให้ข้าออกจากที่นี่ไม่ได้ ”


     

    คำกล่าวนี้ ทำให้เอลฟ์น้อยถึงกับตัวสั่น...นานาไม่ได้รักอดาใช่ไหม...


     

    จากเวลาที่ข้าเห็น ข้ารักเจ้า สตรีร่างเพรียวบาง เรือนผมสีดำสลวยในชุดสีขาวกลางความมืดมิด ข้ารักเจ้า


     

    ข้ารักเจ้า และลูกของเราเหลือเกิน ”


     

    ข้าไม่เชื่อ...ข้าไม่เชื่อ..ว่าท่านพี่รักเรา ”


     

    เสียงของเอโอล ดาร์กเอลฟ์ก็กลายเป็นเสียงเรียบน่าสะพรึง “ งั้นก็ได้ อาเรเดล ข้าจะพิสูจน์รักให้เจ้าเห็น คืนนี้ ! ”


     

    ไม่ ! เอโอล...ไม่ ! เอามือออกไปจาก..โอ้ย ! อย่า ! ”


     

    ให้ข้าพิสูจน์ความรักของข้า อาเรเดล อย่างที่ข้าบอก...ข้าจะไม่ให้เจ้าได้หลับง่ายแน่ !”


     

    ...ท่านแม่...ท่านพ่อ...หนูไม่เข้าใจ...หนูไม่เข้าใจพวกท่านเลย...พวกท่านต้องทำแบบนี้เพราะหนูเหรอ ?...


     

    อย่านะ ! ท่านพี่ ปล่อยข้า ! ข้าไม่อยากให้ลูกต้อง...อ่า...ไม่ ! ”


     

    ข้ารักเจ้า อาเรเดล อาร์เฟย์นีเอล ท่านหญิงขาวผู้เลอโฉมแห่งกอนโดลิน เจ้าต้องรักข้า...รักข้าซิ...”


     

    ข้าจะไป...ข้าจะไป...ข้าจะหนีไปจากที่นี้...”


     

    แล้วเจ้าก็ต้องกลับมาอยู่ดี ! ”


     

    พรายสาวถึงกับครางอีกครั้ง ลูกชายรู้ว่าพวกเขาจุมพิตกันอย่างรุนแรง และเสียงปลดเสื้อผ้าของพวกเขา


     

    พร้อมกับเสียงร้องของนานา...มายกลินไม่ต้องการได้ยินอะไรอีกแล้ว...ร่างน้อยจึงหนีกลับไปบนเตียง


     

    และห่มผ้ากลบทั้งตัว เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงครวญครางของพวกเขา...น้ำตาใสๆอาบลงแก้มแล้วก็...หลับตาลงแค่นั้น...


     

    ~!~!~!~!~!~


     

    อือม...ดราม่าจริง...โลมิน้อย..T^T


     


     


     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×