คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 6 : วาทะของทูออร์
วาทะของทูออร์นี้ได้สร้างความไม่พึงพอใจกับเขา แม้ว่าน้ำเสียงดังกังวานนี้จะได้รับมาจาก
เทพวาลาร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในพิ้นพิภพ เป็นรองเพียงองค์บุพราชมานเวผู้สถิตในแดนวาลินอร์เท่านั้น
เจ้าคนนี้...ก็ไม่ได้ดูแตกต่างไปจากเจ้าฮูรินและฮูออร์ทีี่เคยมาอยู่ที่นี้หรอก...พวกมนุษย์เอ๋ย...
...กอนโดลินคือภาพจำลองของนครทิริออนแห่งแผ่นดินเบเลริอันด์...นครอันห่างไกลจากดินแดนแห่งนี้...
แต่ว่าชายหนุ่มก็ได้กล่าวย้ำอีกครั้ง “ องค์ราชา ! ถึงนครของพระองค์จะต้านทานอำนาจมืดของมอร์กอธ
ไว้ได้ก็จริง หากคำนายเป็นจริงว่า หายนะจะเกิดแก่นครแห่งนี้ อย่าได้มัวหลงในผลงานของพระองค์เลย
อย่าได้ทรงลืมว่าความหวังของชาวโนลดอร์ได้ถูกวางไว้ยังแดนตะวันตกโน้น ! ”
เจ้าชายพรายจึงได้สังเกตมนุษย์เอไดน์อีกครั้ง และพบว่านัยน์ตาสีฟ้าล้ำลึกคู่นั้นได้จ้องมองมายังใบหน้าของตน
...ราวกับมีความสับสนอะไรบางอย่างอยู่ในใจ...และนั้นก็ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบเอาเสียมากด้วย...
และนั้นทำให้ความคิดของเจ้าชายพรายผลักดันให้เขาตอบโต้วาจาของบุรุษผมทองทันควัน
“ ทูออร์ บุตรแห่งชาวเอไดน์ วาจาของเจ้าช่างรุนแรงเสียจริง ! ”
เขาได้ยินน้ำเสียงอันหวานไพเราะของพรายหนุ่มผมดำผู้นี้...เสียงดังที่ปนด้วยความขุ่นเคือง
“ คำพูดนี้มาจากปากของมรรตักชนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งไม่สมควรจะมาเยือนบ้านเมืองของเราด้วยซ้ำ ”
อุปราชหนุ่มก็ได้ยืนกอดอกของตนเอง พลางได้ยินเสียงพูดคุยของเหล่าพรายดังไปทั่วท้องพระโรง
“ ลูกรัก อย่าเพิ่งพูดเช่นนี้เลยจ๊ะ ” สตรีในชุดกระโปรงสีขาวเรียกเขา แต่ดวงตาสีนิลกลับหันไปทางอื่น
ทูออร์จึงกัดฟันกรอดอยู่ข้างในด้วยความโกรธ ศักดิ์ศรีแห่งบรรพชนตระกูลฮาดอร์ไม่มีทางยอมแพ้!
“ คำของกระหม่อมมาจากองค์อุลโมอย่างแท้จริง ไม่ได้หลอกลวง เทพเจ้าผู้พิทักษ์อาณาจักรของท่าน ”
ประโยคนี้ทำให้เจ้าชายพรายรู้สึกว่าร่างกายของตนกำลังสั่นระริก
“ พระองค์ทรงให้เจ้ามาก็จริง แต่ว่าการตัดสินขึ้นอยู่กับองค์ทัวร์กอนพระมาตุลาของข้า
ขอเดชะ ! พระองค์ได้โปรดวินิจฉัยเถิด ”
องค์กษัตริย์พรายก็ทรงสบตาของผู้เป็นบุตรของพระน้องนางและทรงหันมามองยังพระธิดาอีกครั้ง
“ อย่าเพิ่งด่วนใจเลย ! หลานรัก ลุงจะให้เวลาได้พิจารณาอีกครั้งเถอะ ”
แล้วองค์ทัวร์กอนก็ทรงลุกจากบัลลังก์ ทำให้ราชสกุลได้ลงตามเสด็จมาจากบันไดหินอ่อน
ข้าราชบริพารทั้งหมดต่างค้อมศีรษะลงด้วยความเคารพ ในที่สุดพระองค์ก็มายืนตรงหน้าของชายหนุ่ม
“ แต่ข้าก็ขอต้อนรับเจ้า บุตรแห่งฮูออร์ เจ้าเองก็เป็นบุตรชายของสหายข้า และข้าจะเมตตาเจ้า
เพื่อระลึกถึงความดีของพวกเขาฮูรินและฮูออร์ด้วย ”
หัตถ์เรียวแกร่งมาอยู่ตรงหน้า ทูออร์จึงได้คุกเข่าและจุมพิตบนหลังพระหัตถ์แกร่งเบาๆ
“ เป็นพระกรุณายิ่งพระเจ้าข้า ”
ทัวร์กอนทรงพยักพักตร์รับด้วยความยินดี พระองค์ก็ผายมือไปที่สตรีชุดขาวผู้นั้น
“ และนี่คือ อาเรเดล อาร์เฟย์นีเอล คือขนิษฐาองค์เดียวของข้า ท่านหญิงขาวแห่งกอนโดลิน ”
อาเรเดลก็ทรงยืนหัตถ์ขาวนวลให้เขาได้จุมพิต พร้อมกับรับสั่ง “ ยินดีที่ได้พบเจ้า หนุ่มน้อยชาวเอไดน์ ”
ใบหน้าของทูออร์ก็มีสีแดงขึ้นบนโหนกแก้มหนา เมื่อได้ยลพระโฉมอันโสภาของท่านหญิงขาวผู้นี้
“ ข้าก็ยินดีที่พบกับลูกชายของฮูออร์ เจ้ามีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับเขามากทีเดียว
ข้าชื่อ อิดริล เคเลบรินดัล ราชธิดาขององค์กษัตริย์ ” นางได้มอบรอยยิ้มแสนอบอุ่นให้เขา
ดวงตาสีฟ้าของชายหนุ่มก็มีแววสดใส และได้ฉายรอยยิ้มผ่านริมฝีปากหนาได้รูปของตน
มือแกร่งได้ยกหัตถ์เรียวบางราวกับกลีบดอกไม้ และประทับจุมพิตอย่างสุภาพและนุ่มนวลอย่างที่สุด
อิดริลก็ได้สรวลในอาการเคอะเขินของบุรุษหนุ่มผู้นี้ ...ดวงตาของทั้งสองสบกันไปครู่หนึ่ง...
องค์ทัวร์กอนก็ทรงผายมือไปยังพรายหนุ่มผมดำซึ่งยังคงเมินหน้าหนีไปยังนอกกระจกแก้ว
“ ตาหนูกลิน รับการทักทายจากเขาซิลูก ”
ผู้ถูกขานชื่อจึงได้ยอมหันมาโดยดี และยังคงทำสีหน้าที่นิ่งเฉยต่อครอบครัวของตนเอง
ขณะนั้นทูออร์ก็ได้กลับมาตะลึงงันอีกครั้ง เมื่อได้เห็นแสงสีทองจากกระจกกระทบเรือนผมสีดำขลับ
ราวกับมีรัศมีเรืองรองออกมาจากกาย และดวงหน้านั้น...งามวิจิตรนัก...และก็เหมือนพี่ชาย...ท่านพี่...
แต่พรายหนุ่มก็รู้สึกอึดอัดใจ ก่อนที่จะยื่นมือเรียวของตนให้กับบุรุษตรงหน้า เพื่อให้เขาก็ได้ทาบริมฝีปากลง
พลางรำพึง...กลิิ่นนี้ช่างประหลาดและคุ้นเคยนัก...กลิ่นของแร่เหล็กกล้า...เหล็กกล้า ...หรือว่าเขาก็คือ...
ทันใดนั้น พรายหนุ่มก็ดึงมือกลับทันที พร้อมกับแสดงสีหน้าเคืองใจมากยิ่ง
“ มายกลิน ! อย่าเสียมารยาทซิ ! ” เจ้าหญิงพรายทั้งสองอุทานพร้อมกัน ทัวร์กอนก็ถอนหายใจ
...ข้าไม่ได้มีเจตนาให้เสียมารยาทหรอก...ท่านแม่และพี่หญิง...แต่ข้าไม่ชอบสายตาของเจ้านี้เลย !...
พรายหนุ่มจึงได้เอ่ยขึ้นว่า “ ข้าเป็นพระภาคิไนยขององค์ราชาแห่งแดนลับแล บุตรมนุษย์ เพราะฉะนั้น
อย่าได้นึกว่าข้าจะเชื่อคำสารจากคนธรรมดาอย่างเจ้าเลยนะ ”
ด้วยเหตุนี้ ทูออร์จึงค้อมศีรษะของตนลง หากในใจของเขาคิดว่า...ในเมืองนี้ก็มีผู้ที่ไม่ชอบหน้าเขาแล้ว
...บุคคลที่ข้านึกว่า เป็นผู้สร้างประตูเหล็กกล้าอันงดงามนั้น...ที่แท้ก็เป็นเจ้าชายหนุ่มที่แสนจะน่าชัง...
...แต่ว่า...ทำไม...ข้าถึงรู้สึกถึงพันธะบางอย่างกับ...มายกลิน...เมื่อดวงตาสีดำประกายใสคู่นั้นก็มองมายังข้า...
อีกฝ่ายก็รู้สึกว่า..ข้ากำลังเจออุปสรรคของชีวิตผ่านชายผู้นี้...เพราะพี่หญิงของข้ามองที่ทูออร์ด้วยสายตา
ที่ใกล้เคียงกับคำว่า...ความรัก...และความหวัง...ซึ่งข้าต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายมอบให้นางเท่านั้น !...
ความคิดเห็น