ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานอันสาบสูญของทูริน {The Lost Legend Of Turin Blacksword}

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 4 : เข้าสู่นครสัตตนาม

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56



    นัยน์สีท้องนภาใสของชายหนุ่มได้มองไปยังหุบเขาทุมลาเดนอันงดงามที่ตั้งอยู่ดุจดวงมณีสีเขียว

     

    ท่ามกลางขุนเขาวงแหวนล้อมรอบไกลออกไปเหนือศิลาอะมอนกวาเร็ธ จึงเป็นนครกอนโดลินอันเกรียงไกร

     

    นี้คือนครสัตตนาม ซึ่งมีความรุ่งโรจน์เรืองนามยิ่งใหญ่เป็นที่สุด เป็นที่ร่ำลือในบทเพลงขับขาน

     

    ของเหล่าเอลฟ์ทั้งปวงในมิดเดิ้ลเอิร์ธของยุคนั้น กำแพงสีขาว และหอคอยสูงเสียดฟ้าส่องแสงตระการให้กับนคร

     

    ทูออร์ก็ได้เห็นบันไดศิลาแข็งและหินอ่อนงามกระจ่าง มีสายธารประดับล้อมรอบเนินที่ตั้งของกอนโดลิน

     

    เอคเธลิออนจึงได้ออกคำสั่งแก่เอเลมมาคิลว่า “ น้องมาคิล จงเป่าแตรสัญญาณออกไปเถิด ”

     

    ขอรับ ท่านลอร์ด ” พรายหนุ่มผู้อารักษ์ประตูตอบ และเขาก็ปฏิบัติตามหน้าที่

     

    เสียงนั้นจากประตูเหล็กกล้าสะท้อนก้องไปในหุบเขา ครั้นแล้วก็มีเสียงแตรกังวานใสตอบกลับมาจากกำแพงสีขาว

     

    ของนครที่อาบรัศมีสีกุหลาบของยามรุ่งอรุณ

     

    เมื่อละจากสายตาของภาพเบื้องหน้า ดวงใจก็มีแต่ความสดใสและความเหน็ดเหนื่อยก็มลันหายไป

     

    ทูออร์ก็ถามขึ้นว่า “ นามทั้งเจ็ดของเมืองมีอะไรบ้างเหรอ ? ท่านลอร์ดเอคเธลิออน ”

     

    อยากรู้ซินะ นครของเรามีนามเจ็ดนามดังนี้ กอนโดลิน ศิลาลับแล ซึ่งใช้เป็นภาษาซินดาริน

     

    กอนโดบาร์ เคหาสน์แห่งศิลา กอนโดธลิมบาร์ เคหาสน์แห่งกองศิลา

     

    กวาเรสทิน หอคอยแห่งการคุ้มกัน การ์ธูริออน สถานแห่งความลับ

     

    ลอธ มาลีงาม ลอเธงโกรล ผกาผลิบาน มีดอกไม้ประจำคือ อินดิลลอนเด ลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ ”
     

     

    ชายหนุ่มจึงหัวเราะเสียงใสกับรายนามทั้งหมด “ขอบคุณที่บอกมา แต่ข้ายังจำไม่ได้หมดเป็นแน่ ! ”

     

    โวรอนเวก็ได้รับม้าสีเทาหนึ่งตัว พลางมองทิวทัศน์อันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า “ ข้าได้กลับบ้านแล้วล่ะ ”

     

    มือแกร่งของทูออร์จึงได้ปรบมือให้สหาย “ ข้าดีใจด้วยนะ โวรอน แล้ว... ท่านเสนาข้าอยากถามเรื่องหนึ่ง ”

     

    ว่ามาได้เลย บุตรแห่งฮูออร์ ” เอคเธลิออนกล่าวแก่ร่างสูงในชุดเกราะ

     

    ใครเป็นผู้สร้างประตูเหล็กเหล้าที่ท่านประจำการขอรับ ? ”

     

    ดวงตาสีเงินคู่นั้นดูสดใสขึ้นมา ราวกับได้ฟังข่าวสารที่น่ายินดี “ พระภาคิไนยขององค์ทัวร์กอน ”

     

    พระภาคิไนย ? ใครหรือท่าน ?  ข้าว่าเขาเก่งนักที่สร้างประตูเหล็กกล้าแห่งนี้ได้ ”

     

    ยังไม่ทันที่จะได้กล่าวต่อ ชายหนุ่มก็ได้รับม้าสีเทาปนน้ำตาลตัวหนึ่งมาอยู่ตรงหน้า

     

    ฝ่ายเอคเธลิออนก็ได้ขึ้นประจำอาชาสีขาวตัวเดิมของตน “ ไปเถิด บุตรมนุษย์เอ๋ย กอนโดลินรอเจ้า ”

     

    ทูออร์ก็ส่งยิ้มตอบ และขึ้นม้าตัวนั้นตามหลังพรายหนุ่ม โวรอนเวได้โบกมือลามาคิลผู้เป็นสหาย

     

    แล้วบุรุษทั้งสามก็ได้ขับผ่านถนนสายยาวแห่งทุมลาเดน ดาษดาด้วยหิมะขาวโพลนเพื่อเข้าสู่อาณาจักรแห่งนี้

     

    ...เสียงแตรสีเงินที่อยู่เบื้องหน้า...ทำให้ต้องเร่งการขับม้ามากกว่าเดิม...ความงดงามอันพิลาสแห่งศิลาลับแล...

    และข้าจะได้พบผู้สร้างนครแห่งนี้...องค์ทัวร์กอน...และใครคือพระภาคิไนยของเขา...นั้นคือสิ่งที่ข้าปรารถนาทราบ...

     

    ~*~*~*~*~*~*~

     

    เป็นความจริงแล้วซินะ ” ร่างสูงสง่าร่างหนึ่งกล่าว ขณะที่ดวงตาสีเทาอมครามมองยังทิวทัศน์ของพระนคร

     

    จากกระจกเงาบานใส มือเรียวใหญ่ยังคงถือเอกสารเล่มหนึ่งไว้ และอีกข้างหนึ่งก็ยกแก้วไวน์สีแดงขึ้นดื่ม

     

    เสียงหนึ่งก็เป็นของอิสตรีร่างสูงในชุดกระโปรงขาวประดับริ้วสีเงิน นางยืนอยู่เบื้องหลังของบุรุษผู้นี้อย่างเคารพ

     

    พี่ชายข้า เราคงต้อนรับเขา เพราะเขาเป็นผู้ที่เทพอุลโมส่งมา และต้องการให้เรา...”

     

    ข้าเป็นกษัตริย์ของเมืองกอนโดลิน ข้าจัดการได้เอง เจ้าเองก็ไปตามเด็กๆของเรามาที่ท้องพระโรงเถิด”

     

    อิสตรีผู้นั้นจังได้ถอนสายบัวลงต่อเบื่้องพระพักตร์ของผู้เป็นเชษฐา “ รับด้วยเกล้าเพค่ะ ”

     

    พรายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำขลับร่างสูงได้ตระหนักในใจว่า...วันนี้คงเป็นตามคำทำนายของพระองค์...

     

    ...เขาผู้นี้มาจากเนฟรัสต์มาเตือนข้า เขาจะเป็นกำเนิดแห่งความหวังใหม่ระหว่างสองเผ่าพันธุ์

     

    เอลฟ์และมนุษย์ เป็นผู้ล้างคำสาปซิลมาริล ดาราดวงใหม่แห่งอนธกาลทั้งปวง

     

    ท่ามกลางความพินาศและเพลิงกาฬจากจอมมารมอร์กอธ ข้าจะได้รู้ทันทีว่าผู้มาเตือนคือผู้ใด...

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×