ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานอันสาบสูญของทูริน {The Lost Legend Of Turin Blacksword}

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 : การเดินทางของผู้นำสาร

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56



    ข้าได้จดบันทึกเรื่องราวของกวานัวร์ - อดาหรือท่านลุงทูรินไว้ จากคำบอกเล่าของท่านพ่อ ซึ่งเขารัก

     

    ท่านน้ามายกลินหรือกวานัวร์ - นานาของข้า ผู้มีรูปโฉมงามสง่าเฉกเช่นเดียวกับพี่ชายซึ่งได้จากไปของท่าน

     

    เมื่อข้าโตขึ้น ข้ามีเจตนาให้บันทึกเล่มนี้ไว้เป็นอนุสรณ์ของความรักของพวกเขา ไว้ให้ผู้เป็นทายาทของข้า

     

    ตระหนักถึงความกล้าหาญ ความขมขื่น ความโศกเศร้า การแก้แค้น การพลัดพรากจากคนที่รัก

     

    มาจากความทารุณโหดร้ายของจอมมารทมิฬมอร์กอธที่มีต่อทุกคนในครอบครัวแห่งตระกูลฮาดอร์

     

    แม้แต่ข้าเองก็อยู่ในวังวนคำสาปนั้น และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้วตลอดกาล ”

     

    เออาเรนดิล บุตรแห่งทูออร์ ทายาทคนสุดท้ายของทูริน ทูรัมบาร์

     

    บุรุษผู้นั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ เพรียวบางและสง่างามดุจคมดาบเหล็กกล้าในการสงคราม

     

    มีเรือนผมสีดำสนิท ผิวกายสีขาว ดวงตาเป็นสีเทาจรัส ใบหน้างดงามคมคายยิ่งกว่าชายชาวมนุษย์

     

    ผู้ใดในยุคบรรพกาลนั้น แม้ในหมู่พรายเอง หากพบกันครั้งแรกก็ต้องนึกว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้มีตระกูลสูง

     

    ในหมู่ชาวโนลดอร์เลยทีเดียว สูงศักดิ์ราวกับกำเนิดในราชสกุลจอมกษัตริย์ฟิงโกลฟินมหาราช

     

    และเจ้าชายเออาเรนดิลได้รับการกล่าวว่า ถ้าไม่รวมสีของเกศาและดวงเนตร ก็ละม้ายคล้ายคลึงกับเขามากนัก ”

     

    ดีร์ฮาเวล  ผู้ประพันธ์ตำนานบุตรแห่งฮูริน

     

     

    ~!~!~!~!~!~!~!~

     

    พรายศักราชปีที่ 496 แห่งยุคที่หนึ่ง

     

    ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงหยุดนิ่ง...และข้าก็คงไม่มีวันได้พบกับเขาอีกแล้ว...

     

    สายลมอันเย็นเฉียบได้พัดผ่านถนนสายเก่าแก่ ทันใดนั้นมันก็เหมือนเวลาจะหยุดลง ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่

     

    รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในอากาศ ราวกับว่าลมหายใจของแดนปกครองของจอมมารที่อยู่ห่างไกลได้มลายสิ้น

     

    และสายลมที่พัดมาจากทะเลทางทิศตะวันตกในความทรงจำของเขาได้เข้ามาแทนที่...

     

    แต่แล้ว เขาก็ได้ยินเสียงแตรไม้ และฝีเท้าที่ย่ำพิ้นมาอย่างหนัก ไม่ใช่ฝีเท้าของพราย มนุษย์...

     

    ทูออร์ หลบเร็ว ! ” มือเรียวของพรายหนุ่มในชุดสีเทาหม่นได้ดึงแขนแกร่งของเขา

     

    ไปยังพุ่มไม้เล็กข้างต้นโรแวน และต้นเบิร์ช ผู้ถูกเรียกขานจึงได้มาอยู่ข้างกาย

     

    ทูออร์จึงได้รับใช้ผ้าคลุมสีเทาซึ่งได้รับประทานมาจากเทพอุลโมเพื่อซ่อนตัวเขาและสหายผู้นำทาง

     

    จากเหล่าออร์ค อันเป็นพวกอัปลักษณ์ที่รับใช้จอมมารดำ ร่างสูงก็เหมือนจะกระแทกกับก้อนหินข้างกาย

     

    ทำให้เขาเกือบจะอุทานด้วยความเจ็บปวด แต่สายตาของพรายหนุ่มได้เติือนเขาไว้

     

    เสียงร้องของพวกออร์คนักล่าก็คำรามเสียง พวกมันชอบพูดแต่ภาษาหยาบคาย ซึ่งแม้แต่พรายเองก็ยัง

     

    ไม่อาจทนได้ ชายหนุ่มจึงไม่แปลกใจเลยที่ผู้นำทางของเขาจะปิดหูไว้

     

    ทูออร์นั้นผ่านการได้ยินภาษานี้มาแล้วบ้าง และมีความอดทนมากกว่า เขาจึงได้คอยดักฟัง

     

    และต้องสะดุ้ง เหมือนพวกมันเอ่ยว่า “ จอมดาบดำได้หนีไปจากนาร์โกธรอนด์ ฝ่าบาทจอมมารสั่งให้จับเป็น !”

     

    ...พี่ชาย...พี่ชาย...ท่านอย่าได้ผ่านมาทางนี้...ท่านหนีไปให้ไกลที่สุดเลยนะ...

     

    ทูออร์...ทูออร์ ”

     

    เขาจึงได้สบกับดวงตาสีน้ำทะเลปนเทาคู่นั้น และพบว่าตัวเองไม่ต้องอยู่ใต้ผ้าคลุมสีเทาแล้ว

     

    โวรอนเว พวกมันไปแล้วใช่ไหม ? ”

     

    พรายหนุ่มพยักหน้าตอบ “ เหมือนพวกมันจะมาสอดแนมอะไรสักอย่าง เราต้องรีบไปแล้วนะ ”

     

    ~!~!~!~!~!~!~!~

     

    ยามค่ำคืนก็ได้มาถึง ความเงียบทั้งหมดปกคลุมทั่วทั้งดินแดนอันเวิ้งว้างแห่งนี้

     

    ทูออร์ยังคงหลับใหลสิ้นสมประดีจากการเดินทาง ขณะที่โวรอนเวกลับยืนนิ่ง และมองไปข้างหน้า

     

    ดวงตาของเขาผ่านทะลุเงามืดตามอย่างสายตาของเหล่าพราย เมื่อถึงยามอรุณ เขาจึงได้ปลุกให้

     

    ชายหนุ่มได้ลุกขึ้น และยามที่แสงตะวันสีแดงฉานได้ตัดกับขอบสีขาวของเทือกเขาสีขาวสะท้อนแสง

     

    ได้ราวกับเปลวเพลิงทางทิศตะวันออก และโวรอนเวก็ได้อุทานว่า

     

    อัลเอ ! เอเร็ด เอน เอโคธรีอัธ เอเร็ด เอมบาร์ นิน ( นั้น ! เทือกเขาเอโคธรีอัธ ที่ตั้งของบ้านข้า ) ”

     

    ทูออร์ได้เห็นกิริยาของสหายก็ยิ้มเล็กน้อย “เราใกล้จะถึงอาณาจักรขององค์ทัวร์กอนแล้วซินะ ”

     

    ข้าก็จะได้กลับบ้าน ได้พบกับท่านพ่ออีกครั้ง ข้าไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว ทูออร์ ”

     

    ชายหนุ่มชาวเอไดน์ก็ได้มองเห็นเบื้องล่างก็ได้เห็นหุบผาลึกล้ำอันมีนามว่า ซิริออน

     

    ต้นน้ำของแม่น้ำซิริออนอันไหลเชี่ยวกราก “ ข้ารู้สึกว่าตัวเองสบายใจเสมอเมื่อได้เห็นสายน้ำ ”

     

    ข้าก็เช่นกัน แต่ว่าเราต้องระวังให้มากขึ้น และไม่ควรเดินทางในที่แจ้งนัก ”

     

    ทำไมล่ะ ? โวรอน เราก็ใช้ผ้าคลุมขององค์อุลโมได้ในการเดินทางมิใช่หรือ ? ข้าไม่อยากนั่งนิ่งแบบนี้ ”

     

    แต่ว่าพรายหนุ่มไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นอกจากใช้สายตาของตนเองมองไปยังท้องฟ้าสีเทา

     

    เขารู้สึกดีใจนัก เพราะว่าพวกศัตรูที่เหล่าออร์คต่างชิงชังและต้องหลบหนีไปในใต้ดิน

     

    กำลังคุ้มครองลำธารนามว่าบรีธิอัช อยู่นั้นเอง !

     

    โวรอน เจ้าเห็นอะไรเหรอ ? ”

     

    ฮ่าๆ สายตาของมรรตักชนช่างสั้นเสียจริง ! ” โวรอนเวกล่าวเสียงใส “ ข้าเห็นพวกนกอินทรีแห่งคริสซายกริม

     

    พากันบินอยู่บนนั้นแหละ ดูเอาซิ ! ”

     

     

    ดังนั้น ทูออร์จึงได้เห็นปีกกว้างใหญ่สามคู่บินว่อนอยู่บนท้องฟ้านั้น และหลุบหายไปในหมู่เมฆ

     

    โดยพวกมันบินถลาเป็นวงกลมใหญ่ ถ้าโวรอนเวตะโกนเรียก พวกมันจะคงมาถึงริมลำธารนี้

     

    เอาล่ะ ไปกันเถอะ พวกออร์คน่ะ กลัวนกใหญ่ยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง พวกมันก็ได้แต่ซ่อนตัวหนีแหล่ะ”

     

    ชายหนุ่มทั้งสองจึงได้ข้ามลำธารซึ่งเป็นน้ำไหลเย็น ด้วยอาการหนาวและหิมะที่กำลังตกลงมา

     

    ในที่สุดเราก็พบแล้ว นี่คือปากแม่น้ำกันดาร จะเป็นทางที่เราจะเข้าไปสู่กอนโดลิน ! ”

     

    ทูออร์ได้มองตามนิ้วชี้ของพรายหนุ่มก็พบว่าเป็นทางใหญ่ที่สายน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

     

    และมีแต่ก้อนหินขนาดใหญ่วางระเกะระกะเต็มไปหมด

     

    แต่ว่า...โวรอน..ถนน..ขรุขระมากเลยนะ ”

     

    นี่แหล่ะ ทางลัดที่จะพาเราไปเข้าเฝ้าองค์ราชา ” พรายหนุ่มยืนยัน

     

    ข้าก็ประหลาดใจอยู่ดี มันเป็นทางเข้าใหญ่ แต่ไม่มีทหารหรือคนเฝ้าเลยสักคน ”

     

    โวรอนเวจึงได้แตะไหล่กว้างของมนุษย์เอไดน์พลางส่งรอยยิ้มให้

     

    แล้วเจ้าได้เห็นเอง อีกไม่นานหรอก ผู้นำสารแห่งเทพอุลโม และพระองค์จะสถิตอยู่กับเจ้า

     

    ถ้าข้าไม่ได้ถูกลิขิตมาให้นำทางเจ้ามายังกอนโดลิน เราสองคนก็คงหนาวตายไปในกลางป่าเสียแล้ว ”

     

    ชายหนุ่มก็ยิ้มตอบ “ สำหรับข้าแล้ว จะตายที่ไหนก็ไม่สำคัญ เดินทางกันต่อเถอะ ! ”

     

    ~!~!~!~!~!~!~

     

    จบไปหนึ่งบท...ทูออร์จะได้เข้ากอนโดลินแล้วครับ ^^

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×