ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานอันสาบสูญของทูริน {The Lost Legend Of Turin Blacksword}

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 : บทนำที่เล่าขานของรุ่นหลัง

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56



    พรายศักราชปีที่ 3018 แห่งยุคที่สาม

     

    ท้องฟ้าสีครามเข้มในยามราตรีของคฤหาสน์พรายอันงดงามและเงียบสงบ ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำ

     

    กำลังนั่งข้างหนังสือหนาเล่มหนึ่ง โดยที่เขาไม่ได้ทันสังเกตว่า มีใครคนหนึ่งซึ่งร่างเล็กกว่า

    ได้ก้าวฝีเท้าของตนมาใกล้ตน ตามสัญชาตญาณที่มีอยู่ เขาก็ทราบว่านั้นคือใคร
    ...

     

    สไตรเดอร์ ? ท่านน่าจะไปนอนได้แล้วนะ ”

     

    ชายหนุ่มใบหน้าคร้ามเข้มก็ได้หันมายังร่างเล็กผู้นั้น เขารู้ดีว่า โฟรโดหรือฮอบบิท ซึ่งก็คือ ชาวกึ่งมนุษย์

     

    จากดินแดนไชร์บ้านเกิด ต้องเดินทางมาพร้อมกับภารกิจแหวนเอกธำมรงค์ ซึ่งต้องคำสาปร้าย โดยน้ำมือของ

     

    จอมปีศาจเซารอนแห่งอาณาจักรมอร์ดอร์ โฟรโด แบ๊กกินส์ คือ ผู้ถือแหวนคนปัจจุบัน

     

    อีกไม่กี่วันเขาและผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะพันธมิตรแห่งแหวนก็จะต้องออกเดินทางไปยังที่ห่างไกล

     

    ข้ายังไม่ค่อยง่วงหรอก โฟรโด ข้ากำลังอ่านตำนานเก่าในสมัยยุคที่หนึ่งอยู่เลย ”

     

    ร่างเล็กในชุดนอนสีขาว หากมีเสื้อคลุมสีน้ำตาลทับไว้ก็มอบรอยยิ้มให้กับสไตรเดอร์

     

    ท่านเป็นมนุษย์ที่เอาแต่สนใจในเรื่องปรัมปราจังเลย ”

     

    ชายหนุ่มผมดำก็หัวเราะเสียงขรึม ก่อนที่จะถอนหายใจ “ เจ้าเองก็ชอบไม่ใช่เหรอ ? ”

     

    โฟรโดก็พยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าใสได้มองไปยังฟากฟ้าผ่านหน้าต่างที่อยู่ใกล้ตัว

     

    ข้าชอบมองดาวดวงนั้นมาก ดวงดาราของท่านเออาเรนดิล สไตรเดอร์ ! ท่านว่า ตอนที่เขายังเป็นเด็ก

     

    เขาจะชอบฟังนิทานเหมือนข้าไหม ? ”

     

    ชายหนุ่มร่างสูงวางหนังสือลงบนโต๊ะ พลางลูบมือของตนเองไปมา

     

    ไม่ว่าใครที่ยังเด็ก เขาก็ต้องชอบฟังทั้งนั้นแหละ เจ้าเองก็ไม่ใช่เด็กซะหน่อย ”
     

    ฮอบบิทหนุ่มก็ได้กลับมานั่งข้างผู้เป็นสหาย พลางถอนใจ

     

    ท่านเอลรอนด์ ผู้ปกครองริเวนเดลล์แห่งนี้ บอกว่า ถ้าบรรพชนในสมัยโบราณของท่าน เบเรนและทูริน ยังมีชีวิต

     

    อยู่ที่นี้ ข้าก็คงได้รับเลือกให้เป็นสหายพราย เช่นเดียวกับพวกเขา ข้าน่ะรู้เรื่องของเบเรน มนุษย์ยากไร้

     

    ที่ได้รักกับเจ้าหญิงพรายผู้ทรงโฉมเหนือกว่าบุตรแห่งพระผู้เป็นเจ้าอิลูวาทาร์ทั้งปวง อย่างลูธิเอนแล้ว

     

    แต่ข้ายังไม่ได้ทราบเรื่องราวของทูรินเลย ท่านจะเล่าให้ข้าฟังได้ไหม...อารากอร์น ”

     

    เมื่อชายหนุ่มได้รับการเรียกขานชื่อจริงแบบนี้ ริมฝีปากหยักหนาได้รูปก็เผยอรอยยิ้ม

     

    ก็ได้ ...เจ้ารู้อะไรไหม เรื่องนี้เป็นเรื่องความรักระหว่างพรายและมนุษย์...ที่ค่อนข้าง...งดงาม

     

    และก็...”

     

    ดวงตาสีเทาเปล่งประกายคู่นั้น ได้แต่นึกภาพของพรายหนุ่มเรือนผมสีทองสลวย ในชุดสีเขียวใบไม้

     

    ใบหน้างดงามคมคายยิ่งกว่าบุรุษพรายตนใดที่เขาพบพาน...สหายของเขา...สหายรัก...

     

    สหายที่เขารัก...แต่ว่าเขาก็มีอาร์เวน ธิดาของท่านเอลรอนด์อยู่แล้ว..ทำไม..ถึงคิดเช่นนี้...

     

    โฟรโดเหมือนจะเข้าใจบางอย่าง จึงได้หยิบหนังสือปกหนาของอารากอร์นขึ้นมาพลิกไปมา

     

    แต่...ข้า...ชอบเรื่องราวในกอนโดลินมากเลยนะ โดยเฉพาะส่วนของท่านทูออร์กับเจ้าชายมายกลิน

     

    เวลาที่ข้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ข้าก็จะนึกภาพว่า ท่านและเจ้าชายเลโกลัส กรีนลีฟ คล้ายคลึงกับพวกเขา

     

    ต่างรักท่านเอลรอนด์และพี่หญิงอาร์เวน เหมือนรักองค์ทัวร์กอนและเจ้าหญิงอิดริลไม่ผิดเพี้ยนเลย”

     

    ชายหนุ่มจึงรู้สึกตัวทันที และแววตาคมคายแสดงถึงการตำหนิให้แทน

     

    โฟรโด แบ๊กกินส์ เจ้าก็อย่านึกว่าตัวเองเป็นเจ้าชายน้อยเออาเรนดิลแล้วกัน ! ”

     

    ผู้ที่เล็กกว่าจึงหัวเราะเสียงใส “ ข้าไม่ได้เป็นความหวังเท่าท่านเออาขนาดนั้นหรอก อารากอร์น ท่านต่างหากล่ะ

     

    ข้ารู้นะ นามในวัยเยาว์ของท่านก็คือ เอสเตล ความหวังของทุกคนที่รักท่าน...ความหวังที่ท่านจะเอาชนะจอมปีศาจ

     

    ...เป็นดวงดาวที่ส่องแสงสว่างในชีวิตของแม่นางอาร์เวน และก็ท่านเลโกลัสงั้ยล่ะ ”

     

    แล้วแต่เจ้าจะคิดไปก็แล้วกัน... ” อารากอร์นพึมพำเท่านี้

     

    ฮอบบิทน้อยมาจับมือแกร่งของชายหนุ่มไว้ กล่าวว่า “ ท่านจะเล่าให้ข้าฟังได้ไหม ? บุตรแห่งอาราธอร์น ”

     

    อารากอร์นได้แต่ส่ายหน้า พลางเปิดหนังสือปกสีน้ำตาลของตนเองอีกครั้ง

     

    ตำนานรักของทูริน บุตรแห่งฮูริน...ได้เริ่มขึ้นจากความทรงจำในหัวใจของท่านทูออร์

     

    บุตรแห่งฮูออร์ ที่ได้เล่าผ่านเจ้าชายมายกลิน โลมีออน พระภาคิไนยแห่งองค์กษัตริย์พราย

     

    แต่ทว่า ผู้ที่จดบันทึกไว้ในรายละเอียดของความรักต่างเผ่าพันธุ์ระหว่างพรายและมนุษย์คู่นี้

     

    ก็คือ เจ้าชายเออาเรนดิล  ทายาทแห่งพระเจ้าทัวร์กอน ก่อนที่นครลับแลแห่งนั้นจะล่มสลายไปตลอดกาล ”

     

    มือเรียวของโฟรโดก็ทักขึ้น “ อ้าว ! ไม่ใช่ ท่านดีร์ฮาเวล ที่เป็นคนรจนาเหรอ ลุงบิลโบบอกว่า

     

    เขาเป็นคนแต่งมาจากเหล่าสหายของท่านทูรินเองเลยนะ ”

     

    เขาเล่าถึงส่วนนอกเท่านั้น ที่ไม่พึงประสงค์ ก็ต้องตัดออกไป เจ้าคิดว่าจะมีกี่คนที่รับเรื่องความสิเน่หา

     

    ระหว่างพรายและมนุษย์ที่ต่างก็เป็นบุรุษเพศด้วยกัน นอกจากคนในครอบครัวล่ะ...จริงไหม...”

     

    ฮอบบิทหนุ่มก็พยักหน้า “ ก็คง...จริง ท่านก็เล่ามานะซิครับ ”

     

    หลังจากนั้น ดวงตาสีฟ้าของโฟรโดก็ได้สบกับดวงตาสีเทาสุกใสของอารากอร์น

     

    ข้านับถือท่าน ต่อไปนี้ ข้าขอให้ท่านเป็นพี่ชายข้านะ สไตรเดอร์ ”

     

    มือแกร่งก็กุมมือเรียวขาวบางไว้ “ ได้ซิ เจ้าก็เป็นเหมือนน้องชายที่ข้าต้องดูแล...เรียกข้าว่า

     

    อารากอร์น หรือ เอสเตล ก็ได้เลยนะ โฟรโด ”

     

    ฮอบบิทน้อยก็ตอบรับและกอดแขนแกร่งของร่างสูงในชุดสีดำไว้แน่น “ อือม...เริ่มเถอะนะ พี่ชาย ”

     

    ในหน้าแรกได้เขียนว่า...”

     

    ~*~*~*~*~*~*~

     

     

    อร้ายยยยย ~!!! โฟรโดและอารากอร์นมาแย่งซึนซะได้ กลับไปอยู่เรื่องลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ เถอะ !




    โฟรโด  :  ฝากติดตามหน่อยแล้วกันครับ// ส่งยิ้ม ^^



    อารากอร์น  :  ก็มันเป็นเพราะว่าข้ากำลังอ่านฟิควายอยู่ต่างหากล่ะ  เห็นไหม ???? !!!!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×