ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~~* Bittersweet Story Of Sharp - Glance *~~

    ลำดับตอนที่ #3 : black & white yaoi การวิวาทของเรา

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 58


     

    ตัดบทมาที่เจ้าชายเออาเรนดิล และซัลกันท์  ลอร์ดแห่งตระกูลพิณก่อนนะครับ

     

    เออาเรนดิล จะเรียกตานั่นว่า ลุงซัลลี่ เรียกแบบง่ายๆ

     

    ไม่ต้องห่วงไม่มีการพรากผู้เยาว์  หลานข้า ใครอย่าแตะ !!!

     

    ------------------------

     

    เออาเรนดิล ถูกพากลับเข้ามาในวัง  โดยไม่รู้ว่า ท่านพ่อและท่านน้าเป็นเช่นไร

     

    เด็กน้อย  บุตรชายของทูออร์ ก็นั่งเล่นอยู่บนโซฟา  ขณะที่ลุงซัลกันท์หยิบคุกกี้ที่ตัวเอง

     

    ทำใส่จานสีเหลืองเบ้อเริ่มมาวางบนโต๊ะไม้มะฮออกกานีตรงด้านหน้าของเขา

     

      “ องค์ชายน้อย  เสวยซิ “  เออาเรนดิลยิ้ม  แล้วหยิบขนมนั้น เข้าปาก  หวานไปหน่อยนะครับ

     

    ก็ขนมนี่นา  องค์ชายเออา “  เขาก็หยิบเข้าปากตนเอง “  อั้มๆ  ฝีมือของข้าไม่ตกเลย

     

    เออาเรนดิลก็กินแค่สองสามชิ้น  จึงหยุดโดยพลัน

     

    องค์ชายน้อย  ทำไมไม่เหวยล่ะ  “  เขายังเคี้ยวกรุบๆ  แล้วเช็ดปากของตัวเอง

     

    เออาเรนดิลก็มองเห็นกระดาษ  และจานสีที่โต๊ะข้างๆ

     

     “ ลุงซัลลี่ “    เด็กน้อยกล่าวอย่างหวานๆ  หนูขอวาดรูปเล่นได้ไหม ? ”

     

    พรายหน้าอ้วนก็กล่าวต่อ ท่านยังไม่ตอบข้านะ ว่าเหตุใด จึงไม่เหวย ขนมให้หมด

     

    ท่านเป็นเด็กกินง่าย อยู่ง่ายนี่นา

     

    เออาเรนดิลก็ขยับตัว   เออา จะรอท่านพ่อ  และท่านน้ามายกลิน

     

    ลอร์ดแห่งตระกูลพิณ ก็เมินหน้า เฮ่ออ  ท่านน้าของท่านก็คงจะ...สวีทหวานอยู่...

     

    “  หนูขอเล่นวาดรูปได้ไหม  ระหว่างรอ

     

    ก็ได้ พะย่ะค่ะ “  เออาเรนดิลจึงไปหยิบกระดาษสีขาว และดินสอ  เด็กชายยังไม่กล้าใช้จานสี

     

    เพราะกลัวมันเลอะเทอะ    มือเรียวเล็ก ถือกระดาษขาว และเขาก็จ้องที่สีดำของแท่งไม้

     

    ......สีขาว เหมือนสีชุดเกราะของอดา  แต่กวานัวร์ –  นานา  ใช้สีดำตลอดเลยเหรอ ??.....

     

     ซัลกันท์เห็นเด็กชายยืนอึ้ง   ก็เรียกทัก  แต่เออาเรนดิลก็หันมา

     

    ลุงซัลลี่    เออาขอถามหน่อยได้ไหม? ”

     

    ..........................

     

    เอาล่ะ ฉากของมายกลินบ้างล่ะ  ระวังเครียดนิดๆ  >_<

     

    “  ไอย เบเลน นิน // คนงามของข้า ”   ทูออร์กล่าว  และริมฝีปากก็โน้มลงมาแต่ว่า...

     

    เจ้าชายพรายหนุ่มก็ผลักใบหน้าหยาบกร้านของเขาออก

     

    องค์ชาย !! ”

     

    เราทำอย่างนี้ อีกไม่ได้  ข้าไม่เอา “  เจ้าชายหนุ่มร้อง และเดินหนี ห่างไปสองก้าว

     

     “ ทูออร์   เจ้าเป็นพ่อคนแล้วนะ

     

      “ แต่ข้าก็อดใจทำแบบนี้กับท่านไม่ได้  มายกลินที่รัก

     

    พรายหนุ่มก็กัดฟันกรอด เจ้าเป็นสามีของพี่หญิง   ข้าไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็น น้อย ของเจ้า

     

    แต่ข้า รัก ท่าน  องค์ชาย  ข้ารักท่านจริงๆ  นะ ”  ใบหน้าแกร่งของทูออร์ก้มลงมองพิ้นหญ้า

     

    แม้เราจะมีสัมพันธ์ทางกายกันครั้งสุดท้าย   ก่อนข้าแต่งงาน   แต่ข้าก็ลืมมันไม่ได้จริงๆ

     ชายหนุ่มเริ่มโวยวาย

     

    เจ้าได้หัวใจทั้งดวงของนางไปแล้ว  ข้าไม่ต้องการทำลายความรักของเจ้าและนางนะ

     

    มายกลินกล่าวยังยืนนิ่ง  ริมฝีปากบางเม้มหนัก “  และข้าก็เห็นแก่เออาเรนดิล

     

    “  ใช่ซิ  องค์ชาย ท่านรักแต่ลูกชายข้า  แต่ท่านไม่เคยที่จะรักข้าจริงๆ  เท่าที่ข้ารักท่านเลย

     

    ดวงตาสีครามอมเทาแสนเข้มแต่เป็นประกาย  สบกับสีฟ้าแข็งกร้าว

     

      “ ข้าเคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอ   ทูออร์  เมื่อเจ้าชราและตายเมื่อใด  เออาเรนดิลจะต้องเป็นลูกข้า !!

     

     ชายหนุ่มก็เริ่มขุ่นเคือง  ใบหน้าคมสันแดงก่ำ

     

    ท่านแย่งเขาไปจากข้าไม่ได้หรอก  อย่างดีท่านก็ได้เป็นแค่ น้าชายที่รัก ของลูก

     

    ข้าเป็นพ่อบังเกิดเกล้า  ท่านต้องเข้าใจหัวใจของคนเป็นพ่อซิ

     

     

    ................ทำไมข้า จะไม่เข้าใจ  ข้าสิที่ไม่ได้พบกับท่านพ่อของข้า  นานมากแล้ว......

     

    มายกลินจึงโต้กลับ  และกำมือคู่งามไว้แน่น

     

    "  เจ้า ...ก็รู้นี่ว่า ข้าเข้าใจดี ว่าการพลัดพรากจากพ่อมา  มันเจ็บปวดแค่ไหน ? ”

     

     “  พระนางอาเรเดลบอกว่า  ท่านเอโอลดาร์กเอลฟ์  บิดาท่านใจร้ายกับท่านและนาง

     

    จึงต้องหนีกลับมานครกอนโดลินต่างหาก

     

    พรายหนุ่มนึกถึงใบหน้าดุดัน และหม่นหมองของอดาได้ดี....

     

    อย่ายุ่งได้ไหม !  เรื่องของข้า  ข้าจะบอกอะไรนะ ใช่  เจ้าเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด

     

      จะมาเข้าใจอะไรกับที่พรากจากท่านพ่อไป  ทั้งๆ ที่ยังมีชีวิต

     

    พรายหนุ่มก็ยืนกอดอก  พยายามเถียงไม่กลับ เพราะพ่อของเจ้าตายไปก่อนที่เจ้าเกิด ข้าคิดว่าจะไม่มีมนุษย์หน้าไหนมาที่นี้อีก

     แต่ชะตาของเหล่าเทพวาลาร์ ก็เล่นตลกใส่ ข้า   ให้บุตรแห่งฮูออร์  ชาวมนุษย์ที่ตกต่ำ

    มาได้กับเจ้าหญิงเอลฟ์ผู้โสภาที่สุดแห่งนครกอนโดลิน   และมีใจกับอนุชาของนางด้วย   มันน่าอัปยศที่สุด !!

     

    ขณะนั้น ทูออร์ก็เริ่มเกิดอารมณ์โทสะ   ริมฝีปากหนาก็พลั้งด้วยอารมณ์

     

    “  ท่านก็เป็นแค่ลูกของดาร์กเอลฟ์ ที่รังเกียจแสงตะวันอันเรืองรองแห่งพระผู้เป็นเจ้า

     

    และเป็นลูกที่ไม่ได้เกิดจากการสมรสที่ถูกต้อง เฮอะ....  ถ้าท่านไม่ได้รับความงดงามของท่านหญิงขาว เศวตนารีมาเช่นนี้  ก็น่าสมเพชไม่ใช่น้อย 

     

    และเพลิงความโกรธก็จุดแตก  กำหมัดของเจ้าชายพรายก็ปะทะหน้าของทูออร์

     

    โอ๊ยยยย !! ”  เขาร้องลั่น   ชายหนุ่มลูบใบหน้าที่ถูกชกตัวเอง

     

    “  ข้าเกลียดวาจาเช่นนี้  มรรตักชน ”  แต่เขาก็ไม่ทันระวัง จึงโดนกอดรัดอีกครั้ง

     และริมฝีปากร้อนก็เข้าที่ซอกคอขาว

     

    ปล่อย นะ  ปล่อย !! ”  มายกลินรู้สึกว่าเสื้อทูนิคของตนนั้น เริ่มหลุดรุ่ย

     

    และดวงตาสีฟ้าของชายหนุ่ม ก็เริ่มมีประกายร้อนเร่า เมื่อเห็นไหล่ขาวงามผุดผ่องพ้นจากเนื้อผ้า

     

    เขาจึงจูบและกัดมันอย่างแรง  ถ้าข้าทำแบบนี้  ท่านจะได้ชื่นใจงั้ย 

     

    “   โอ้ย !  หยุดนะ “   คราวนี้มายกลินผลักไหล่แกร่งจนทูออร์  กระเด็น ชนกับต้นเบิร์ช  และใบไม้ร่วงลงมา

     

    องค์ชาย.... ”   และพรายหนุ่มนั้นก็วิ่งหนีไปแล้ว   เขาก็รู้สึกว่าผิดขึ้นมาทันที

     

    .................

     

     

    โอเค ขอบอกเลยนะ  เจ้าทูออร์  มันไม่รู้จักพ่อแม่ของมันเลย  แต่ข้าก็รู้จักพ่อและลุงของมัน

     

    แน่นอน ข้าเป็นพรายหรือเอลฟ์นั้นแหละ  แก่กว่ามัน ตั้งร้อยกว่าปีนะ

     

    ...ชกจูบแบบนี้ชอบไหม ถ้าชอบก็อ่านต่อนะขอรับ ^^

     

    ** ไอ เบเลนิน  (  Ai Bele ‘ nin )  แปลว่า   คนงามของข้า นั่นเอง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×