คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ...TIME 5... [100%]
Lee junho
********************
Time
5
ร่างบอบบางของผู้จัดการหนุ่ม คิม จุนซูนั่งหน้ามุ่ยหน้าเซ็งอยู่ในร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งย่านใจกลางกรุง
มือเรียวยกกาแฟถ้วยเล็กขึ้นดื่มเป็นระยะๆส่วนมือก็กดโทรศัพท์ปริศนาเล่นๆเผื่อจะมีเบาะแสเกี่ยวกับไอ้ปาปารัซซี่ตัวดีสักหน่อย...แต่ดูเหมือนจะไร้วี่แววแห่งความสำเร็จ
“บ้าเอ๊ย~! ถ้าตอนนั้นเราสงสัยซักนิดแล้ววิ่งตามันไปนะ”
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นเขากับคนร้ายเดินชนกันแล้วแท้ๆ
“ถ้ามีผู้ช่วยซักคนก็ดีสิน๊า”
จุนซูรำพันกับตัวเอง คิดเองก็เหนื่อยเหมือนกันนะ
ยิ่งแค้นก็ยิ่งหิวจุนซูยกมือเรียกพนักงานจะสั่งขนมเค้กซักชิ้นมากินดับความโกรธ
เพราะเขาว่ากันว่าของหวานๆจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นนี่นา
“ครับ”
พนักงานขานรับโดยไม่ลืมหยิบเมนูประจำของร้านมาด้วย
มือหนายื่นเมนูให้คนที่กำลังนั่งอยู่ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ผมเอา...อ้าว!นาย”
จุนซูที่เงยหน้าขึ้นมาเพื่อสั่งอาหารยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าพนักงาน
ส่วนพนักงานคนนั้นถึงกับสะดุ้งไปนิดหนึ่ง
“คุณ...จุนซู”
“เอ๊ะ!นี่นายจำชื่อฉันได้ด้วยหรอ”
“จำได้สิครับ...ยังไงคุณก็มีตำแหน่งเด่นกว่าผมเยอะ”
“พูดเป็นเล่นฮ่าๆว่าแต่นายชื่ออะไรนะ...เอ~”
จุนซูยกนิ้วชี้มาเคาะขมับเพื่อจะนึกชื่อของอีกคน
“ผมชางมินฮะ”
“อ้อ~ใช่ๆชางมิน”
ร่างบางตบมือแสดงท่าทีว่านึกออกแล้ว
“ว่าแต่...นายทำงานที่นี่ด้วยหรอ ขยันจังนะ”
“ครับ...ความจริงบ้านผมอยู่ต่างจังหวัดแต่ต้องมาทำงานที่นี่คนเดียวเลยต้องเก็บเงินให้ได้มากที่สุดครับ...ไม่งั้นอยู่ไม่ได้”
ร่างบางพยักหน้าเข้าใจและยกกาแฟขึ้นมาดื่มอีกรอบ
และนึกหวนถึงคำพูดเมื่อกี๊ของชางมิน...ริมฝีปากยางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นทันที
“นายต้องการเงินใช่มั๊ย”
“ครับ”
“งั้นฉันให้นายเดือนละ300,000วอนนายสนมั๊ย”
ชางมินตาโตกับข้อเสนอนั้นทันที
“สะ...สามแสนวอน”
“ใช่...แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
ร่างสูงขมวดคิ้วหนังตาซ้ายกระตุกเป็นจังหวะราวกับจะมีเรื่องร้ายๆพุ่งเขาหาเขาในไม่ช้า
“ข้อแลกเปลี่ยน...อะไรครับ”
ถึงจะมีลางสังหรณ์แปลกๆแต่ว่าข้อเสนอก็น่าสนใจจนเจ้าตัวต้องถามต่อ
จุนซูยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยคำพูดเล่นเอาชางมินทำให้เมนูหลุ่นจากมือด้วยความตกใจ
“ตัวนาย”
ถัดมาทางโลกเมื่อ50ปีก่อน
“อูยองเดี๋ยวผมออกไปทำงานก่อนนะเดี๋ยวกลับมาตอนเย็นๆ”
อูยองพยักหน้ารับคำของนิชคุณ
เมื่อร่างสูงเดินออกไปแล้วร่างบางก็หันหน้าเข้าครัวด้วยความหิวจึงเปิดตู้เย็นออกดุเป็นอย่างแรก
...ว่างปล่าว...
ใบหน้าหวานยู่ขึ้นนิดหน่อยสงสัยวันที่ทำอาหารกับวิคตอเรียคงใช้วัตถุดิบมากไปจนหมดตู้เย็น
อูยองตัดสินใจหยิบเงินที่นิชคุณให้ไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉินแล้วเดินออกจากบ้านไปหาอะไรกิน
ในขณะเดียวกันร้านขนมหรูหราที่สุดในเมืองมีหญิงสาวร่างเพรียวระหงกำลังนั่งจิบชากับเค้กฝรั่งชั้นดี
หน้าสวยมู่ทู่แสดงให้เห็นชัดว่ากำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างขีดสุด ตาหวานคมกวาดมองไปทั่วบริเวณ แล้วจึงสะดุดกับร่างหนึ่งที่คุ้นตา...นั่นมัน...น้องของคุณนี่!
ก่อนที่อูยองจะเดินผ่านไปเธอกวักมือเรียกโดยทันที
“นาย!นายนะ น้องของคุณ!”
อูยองหันไปตามเสียงเรียก...คุณยูริ!
ตาคมเบิกกว้างนิ้วชี้ตัวเองอย่างงงๆ
“ใช่นายนั่นแหละ มานี่ๆ”
อูยองเดินตามไปอย่างว่าง่าย
“เอ่อ...ครับ”
“นั่งสิ”
เมื่อเดินมาถึงยูริผายมือเชิญให้อีกฝ่ายนั่งลงตรงข้ามเธอ
“ครับ”
อูยองนั่งลงช้าๆ
“กินอะไรหน่อยมั๊ย”
“เอ่อ..ไม่ดีกว่าครับ”อูยองโบกมือปฏิเสธ
“คุณมีธุระอะไรกับผมรึปล่าวฮะ”
“ทำไม...ก็คนรู้จักกันฉันทักนายไม่ได้รึไง”
“ปล่าวครับ”
อูยองก้มหน้างุดๆ
“มาทำอะไร”
ยูริมองอูยองอย่างจับผิด
“เอ่อ...ผมออกมาหาอะไรกินน่ะฮะ”
“อืม...นี่!ฉันขอถามอะไรนายอย่างนึงเถอะนะ เออ...นาย..”
“ผมอูยองครับ”
“เออนั่นแหละอูยอง”
ยูริตัดบท
“ฉันอยากรู้ว่านายเป็นอะไรกับคุณ”
พูดไปก็จิบชาไปอย่างสบายใจ ต่างกับอีกคนที่ก้มหน้างุดๆ
“ผม...ผมเป็นน้องพี่คุณ...”
“ไม่ใช่!”
ยังไม่ทันที่อูยองจะพูดจบดียูริก็ตัดประโยคนั้นเสียก่อน
“นายไม่ใช่น้องคุณ...ฉันเป็นคนฉลาดพอที่จะไม่เชื่ออะไรง่ายๆหรอกนะอูยอง”
“ผม...”
“....”
“ผมบอกไปคุณคงไม่เชื่อ”
ยูริถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างเหนื่อยอ่อน
“เอาเถอะ...นายไม่ยอมบอกก็ตามใจนายแล้วกัน...แต่สักวันฉันต้องรู้ให้ได้จำไว้นะ อูยอง”ยูริวางตังค์แล้วลุกขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“ฉันบอกนายไปแล้ว่าฉันเป็นฉลาดพอที่จะไม่เชื่อคำพูดโกหกบ้าๆของนายกับคุณ...แต่คนที่ฉลาดไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว”
อูยองเงยหน้ามองหญิงสาวที่ลุกขึ้นอย่างสง่างาม
“บางทีอะไรที่นายคิดที่นายเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นหรอกนะ...ถ้าฉันคิดจะร้ายต่อให้ญาติพี่น้องพ่อแม่ฉันยืนอยู่ฉันก็จะร้ายต่อหน้าพวกเขาได้เพราะฉันเป็นแบบนี้”
“....”
“ฉันคิดยังไงก็แสดงออกไปอย่างนั้น...แต่กับบางคนมันไม่ใช่และคนแบบนั้นอาจจะรับมือยากกว่าคนอย่างฉันก็ได้”
“คุณ...หมายความว่าไงครับ”
“ฉันว่ารอให้นายรู้ตัวเองจะดีกว่า...ฉันไปล่ะนะ”
หญิงสาวโบกมือลาก่อนจะเดินออกจากร้านไป
อูยองมองตามร่างนั้นไปจนลับตา...คำพูดนั้น...หมายความอะไรกันแน่นะ
--10%--
ทำไมอูยองดูหงอๆหรอ555+ เพราะว่ายูริในเรื่องเธอเป็นสาวที่ดูมีอำนาจมากๆพยายาม
จินตนาการถึงพวกเจ้าแม่มาเฟียไว้นะคะหรือใครที่ดูดอกส้มสีทองก็ประมาณเด่นจันทร์เมียหลวง
ที่ชมพู่ไปแย่งสามีเขามานั่นแหละ(จะรู้กันมั๊ยนี่?55+)
หลังจากนั้นอูยองก็ก้าวเท้าเดินออกมาจากร้านหรูหรานั้นทันทีสีหน้าหวานครุ่นคิดในคำพูดของยูริ คนๆนั้นคือใคร....
หรือว่า...ไม่!...ไม่มีทาง!
อูยองสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆว่าคนที่ยูริหมายถึงเป็นวิคตอเรีย
เธอดีกับเขาขนาดนั้นแต่เขาก็ยังแอบรักผู้ชายของเธอ...แค่นี้ก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว...แล้วยังมาคิดอะไรแบบนี้อีก
เดินวนไปวนมาสุดท้ายขายาวๆก็มาหยุดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ดูธรรมดาๆค่าอาหารก็ไม่ถึงกับทำเครียดเท่าไหร่นัก
อูยองซื้ออาหารเสร็จก็หันกลับเพื่อเดินกลับบ้านระหว่างทางตาเรียวก็ชมนกชมไม้ไปเรื่อย
ไม่นานนักเขาก็กลับมาถึงบ้านสักทีเมื่อเปิดประตูเข้าไปอูยองก็พบกับนิชคุณที่เดินวนไปรอบบ้าน
“คุณครับหาอะไรอยู่”
“อูยอง!”ว่าเสร็จก็รีบโผเข้ามาทันที
“นายหายไปไหนมา ที่นี่มันไม่ใช่ปีของนายนะ ข้างนอกมีอะไรบ้างก็ไม่รู้ ไปคนเดียวได้ยังไง มันอันตรายรู้มั๊ยแล้ว...”
“พอครับๆ”อูยองยกมือปิดปากอีกฝ่าย
“ผมไปซื้อข้าวมาพอดีของหมดตู้เย็น...แล้วอีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายนะครับ...คุณไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก”
“ผมรู้...ผมรู้”
นิชคุณกุมมือร่างบาง
“แล้วทำไมกลับมาเร็วจังครับไหนว่าไปคุยเรื่องพล๊อตนิยายเรื่องใหม่ไง”
“ก็ผมลืมของกลับมาก็ไม่เห็นคุณ ผมตกใจแทบแย่”
“ฮ่าๆอย่าห่วงเลยครับไปทำงานเถอะเดี๋ยวไม่ทันนะฮะ”
นิชคุณพยักหน้านิดหน่อย
“ผมเอาคุณไปด้วยดีกว่า”
“ห๊ะ!”อูยองทำหน้างง
“อะ...เอ่อ...ผมไม่ออกไปแล้วฮะคุณอย่าห่วงเลย”
“ไปเถอะๆออกไปข้างนอกกันเดี๋ยวผมพาไปสวนสาธารณะด้วยนะ อากาศดีมาก รับรองว่าคุณต้องชอบ”
ว่าจบก็ยิ้มหวานอ้อนอีกคน
“ก็ได้ครับ”
สุดท้ายก็ทนไม่ไหวกับลูกอ้อนน่ารักๆของนิชคุณ
ร่างสูงเดินมาเปิดประตูรถให้ราวกับอีกฝ่ายสาวน้อยบอบบาง อูยองเองก็รู้สึกเขินเกิดมาชาตินี้มีแต่เปิดประตูรถให้ผู้หญิงแต่วันนี้ตัวเองกลับต้องมาให้ผู้ชายหล่อๆเปิดประตูรถให้
ฝนตกปรอยๆแต่ถึงกระนั้นกระจกรถก็ยังมีไอเกาะอากาศในรถอุ่นเป็นผลจากข้างนอกอากาศเย็นมากล่ะมั้ง
อูยองวาดรูปหน้าคนกลมๆเติมตาขีดๆ2ข้างกับปากยิ้มหนึ่งปากที่กระจกรถ
นิชคุณหันเหลือบมองอีกคนที่นั่งใช้นิ้ววาดไอบนกระจกเป็นรูปมากมาย จนตัวเองอดเผลอยิ้มไม่ได้
...น่ารัก...
นิชคุณเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายเบาๆอูยองละจาการวาดรูปหันมามองอีกคนริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กๆ
“หนาวมั๊ย”
คุณหันหน้ามาถามคนที่ตัวเองภุมมืออยู่
“เอ่อ...นิดหน่อยครับ”
“หนาวล่ะสิ”
ร่างสูงยิ้มน้อยๆกับความขี้เกรงใจของอีกคน
นิชคุณจอดรถกะทันหันถอดเสื้อเสวตเตอร์ตัวเก่งสีเทาของตัวเองออกแล้วสวมทับให้กับร่างของคนข้างๆ
อูยองนั่งมองอีกคนก่อนจะยิ้มกว้าง
“ขอบคุณนะครับ”
นิชคุณนั่งมองรอยยิ้มนั้นจนในที่สุดตนเองก็อดที่จะยิ้มตามได้
ในโลกปี2011จาง อูยองนายแบบหนุ่มที่เข้าถึงได้ยากไม่มีใครได้เห็นเขายิ้มนอกพ่อแม่และน้องถ้าเป็นคนนอกสายเลือดก็มีแต่พี่เจย์
.....แล้วนิชคุณเป็นใคร....
อูยองถึงยิ้มกว้างๆที่กลั่นออกมาจากใจให้กับเขาได้....
ในโลกปี1961นิชคุณ หรเวชกุลนักเขียนหนุ่มดาวรุ่งที่อาจยิ้มเกลื่อนให้กับผู้คนมากมายแต่เขาไม่เคยมองรอยยิ้มใครแล้วยิ้มตาม
.....แล้วอูยองเป็นใคร......
นิชคุณถึงยิ้มตามโดยที่ตนเองไม่รู้ตัวได้
-----20%-----
มาทีละนิดๆเนาะ55
ในขณะเดียวกันทางยูริ หลังจากหญิงสาวเดินออกมาจากร้านเรียบร้อยแล้วเธอขับรถเก๋งสีขาวคันโปรดไปตามทางเรื่อยๆจนไปหยุดอยู่ที่ผู้หญิงที่คุ้นตาดีสำหรับเธอ
...วิคตอเรีย...
บ้าที่สุด!ว่าแล้วว่ายัยนี่ต้องไม่ใช่คนดี....ผู้หญิงดีๆที่ไหนเขามานั่งเกาะแกะกับผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนแบบนี้...พี่ชายก็ไม่มีน้องชายก็ไม่มี...ยัยผู้หญิงสองหน้า
ยูริจอดรถและกำลังจะเปิดประตูเข้าไปอาละวาดที่ผู้หญิงคนนี้มาหลอกผู้ชายที่เธอรักได้ลง
....แต่ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของเธอ
ทำอะไรที่มันสนุกกว่านั้นดีกว่า...หึ!
ยูริรอจังหวะให้วิคตอเรียลุกขึ้นมายืน เธอยื่นมือจับกับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นก่อนจะโผตัวเข้าไปจูบที่แก้มเบาๆ
ยูริเบ้หน้ากับการกระทำที่ไม่มียางอายเอาซะเลย!
ทั้งคู่จูงมือกันเดินเหมือนคู่รักช่วงโปรโมชั่นเดินลัดเลาะไปตามขอบถนนอย่างมีความสุขโดยที่ตัวเองไม่รู้เลยว่ากำลังล้อเล่นกับใครอยู่
ยูริออกรถด้วยความเร็วสูงปาดไปยังทั้งคู่ก่อนจะเฉี่ยวให้วิคตอเรียล้มลง
เรียกเสียงกรีดร้องของศัตรูของเธอได้อย่างใจคิดผู้ชายข้างกายวิคตอเรียถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก
ยูริปลดกระจกรถลงยื่นหน้าสวยเข้าท้าทายพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ดูสะใจส่งไปให้วิคตอเรียที่นั่งล้มลงกับพื้นมือกุมข้อเท้าเอาไว้...น้ำตาใสๆไหลด้วยความตกใจ
ส่วนผู้ชายคนนั้นตอนแรกตั้งใจจะเดินเข้ามาหาเรื่องยูริ...แต่เมื่อเห็นหน้าก็ถึงกับหยุดทันควัน
ถูกแล้วที่ผู้ชายไม่คิดจะเข้าไปหาเรื่อง...ใครกล้าก็บ้าแล้วเพราะเธอคนนี้คือ...
.....ควอน ยูริ!.....
ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกจากปากของผู้ใด แม้แต่เสียงไหวของลมกับเสียงร้องของสัตว์ยังต้องหยุดเงียบกับบรรยากาศน่าอึดอัดเช่นนี้
...มีเพียงสายตาเชือดเฉือนระหว่างคนสองคน ราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะลุกได้ทุกเมื่อถ้ามีคนไปจุดเชื้อเพลิงแม้แต่นิดเดียว....
ยูริในชุดกระโปรงสั้นกับส้นสูงสีแดงสวมแว่นกันแดดสีเข้มและทรงผมที่เป็นลอนนิดๆตามแบบฉบับสาวเปรี้ยวก้าวเท้าเข้ามายืนตรงหน้าของศัตรูพร้อมกล่าวประโยคด้วยเสียงเฉียบราวกับจะฆ่าคนฟังให้ตายทั้งเป็น
“เธอจำเอาไว้นะวิคตอเรีย...ถ้าคุณไม่ใช่ของฉัน...ถ้าซักวันฉันต้องยกคุณให้ใคร....คนๆนั้นต้องไม่ใช่เธอ”
วิคตอเรียเงยหน้ามองอย่างโมโหถึงขีดสุดเสียงขบเคี้ยวฟันแสดงถึงความโกรธที่อัดอั้นอยู่ภายใน
.....เธอรู้จักฉันน้อยเกินไปควอน ยูริ...
ในเมื่อเธอประกาศอยากเป็นศัตรูกับฉัน....แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!!!
--25%--
นิชคุณและอูยองนั่งรถไปยังสำนักพิมพ์ชื่อดังของเกาหลีเมื่อนิชคุณก้าวเท้าเข้าไปข้างในก็ทักทุกคนตั้งแต่ยามยันเจ้าของสำนักพิมพ์นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีว่าคนๆนี้มีมนุษยสัมพันธ์ดีขนาดไหน
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนในบริษัทตื่นตาตื่นใจกว่าการมาของนิชคุณในวันนี้เห็นทีจะเป็นข้างๆหนุ่มน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มดูน่ารักข้างกาย
“อ้าวพี่คุณ ใครอ่ะ!”
เด็กหนุ่มคนหนึ่งในบริษัทยักคิ้วหลิ่วตาถาม
“แฟนหรอพี่”
จบคำถามก็เรียกเสียงหัวเราะได้ทั่วเพราะทุกคนต่างก็รู้ว่านิชคุณกับวิคตอเรียเป็นอะไรกัน
“นายอยากรู้หรอ”
ว่าจบก็เอื้อมมือไปโอบไหล่อีกคนทันที
“คนพิเศษ...ล่ะมั้ง”
คนในบริษัทหัวเราะกันยกใหญ่เพราะต่างก็คิดว่าสิ่งที่นิชคุณกล่าวนั้นเป็นเรื่องล้อเล่น....แต่ใครจะรู้นอกจากอูยองกับนิชคุณว่าคำพูดเมื่อครู่เขาเอ่ยออกมาจากใจจริง
“อ้าวๆๆ เสียงดังอะไรกัน”
เสียงเข้มของบรรณาธิการหนุ่มร่างท้วมเอ่ยขึ้น พนักงานทั้งหลายก็รีบวิ่งเข้าที่ของตัวเองและทำงานอย่างขะมักเขม้น
นิชคุณมองหน้ากับอูยองแล้วหัวเราะออกมาเล็กๆเพราะภาพตรงหน้าเหมือนเด็กนักเรียนที่ทำผิดแล้วถูกอาจารย์จับได้ยังไงยังงั้น
“มาแล้วหรอครับคุณนิชคุณ....เชิญๆ....อ้าว!แล้วนั่นใครล่ะครับ”
“อ๋อ...นี่อูยองครับ”นิชคุณยิ้มบางพร้อมแนะนำอูยองให้บรรณาธิการรู้จัก
เมื่อเข้ามาในห้องแล้วนิชคุณนั่งคุยกับบรรณาธิการอยู่ตรงโต๊ะทำงานในขณะที่อูยองนั่งเล่นอยู่ที่โซฟา
“แล้วว่าไงครับ...พล๊อตนิยายเรื่องใหม่”
“ผมอยากให้เป็นรักที่ดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้เท่าไหร่น่ะฮะ”
“แฟนตาซีหรอฮะ”
“อืมมมม...”
นิชคุณขมวดคิ้วนิดๆ
“ประมาณนั้นครับแต่ไม่เอาแนวไซไฟ”
ทั้งคู่นั่งพิงพนักเก้าอี้คิ้วขมวด อูยองมองทั้งคู่อย่างสนอกสนใจจนบรรณาธิการสังเกตเห็น
“ว่าไงครับคุณอูยอง อยากลองเสนออะไรมั๊ย”
“ฮ่าๆๆ...อย่าเลยครับผมไม่ค่อยมีหัวทางด้านพวกนี้”
“เอ้า...ใครจะรู้ล่ะครับฮ่าๆ....ถ้ายังงั้นคุณลองเล่ารักครั้งแรกของคุณให้ผมฟังหน่อยสิฮะเพื่อจะได้เป็นไอเดียให้กับคุณนิชคุณด้วย”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายถามแบบนั้นอูยองก็สะดุ้งหันไปมองนิชคุณนิดนึง
“หึหึ...มันคงดูแปลกนิดนึงล่ะมั้งครับ”
อูยองยิ้ม
“ผมกับเขาเราไม่เคยรู้จักกันสักนิดแต่เพียงแค่เวลานิดเดียวผมกลับรักเขาได้ยังไงก็ไม่รู้”
“เอ~...น่าสนใจจังครับ”
บรรณาธิการร่างท้วมดูตื่นเต้นกับเรื่องราวของอูยอง
นิชคุณนั่งยิ้ม.....หรือว่าคนที่อูยองพูดถึงจะเป็นเขานะ.....คิดแบบนี้เข้าข้างตัวเองเกินไปรึปล่าว....บอกฉันทีเถอะ อูยอง
“แล้วทำไมคุณอูยองถึงรักเขาล่ะ สวยหรอหรือว่ามีอะไรโดดเด่น”
“ฮ่าๆๆ...ไม่สวยเลยสักนิดครับ”
นิชคุณนั่งหัวเราะเบาๆ....จะไปสวยได้ยังไงเล่า!
“อืม...แต่พูดถึงสวยก็คงนิดนึงล่ะมั้ง....เขาเป็นคนหน้าหวานครับ เรียกว่าหน้าตาดีก็คงได้”อูยองพูดไปยิ้มไป
“แต่สิ่งที่ทำให้ผมรักเขาไม่ใช่เพราะหน้าตาหรอกนะฮะ...คุณบรรณาธิการเคยได้ยินมั๊ย...ว่าคนที่ใช่ต่อให้เราจะคิดเหตุผลถึงความเป็นจริงว่าเราคบกันไม่ได้แต่ยังไงสุดท้ายมันก็ใช่”
นิชคุณนั่งยิ้ม....คนๆนั้นเป็นฉันรึปล่าวนะ...อูยอง
“ผมว่านะครับ...ถ้าคนเราเป็นเนื้อคู่ต่อให้อยู่คนละภพคนละชาติยังไงก็โชคชะตาก็ต้องลิขิตให้รักกันจนได้นั่นแหละครับ”
บรรณาธิการเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ
“ต่อให้อยู่คนละภพคนละชาติงั้นหรอ...”
นิชคุณนั่งคิดหัวสมองเริ่มทำงานกับประโยคเมื่อครู่
สักครู่เดียวเท่านั้นอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นนิชคุณผงกหัวขออนุญาตรับโทรศัพท์
“ครับ”
[ฮึก...คุณ...ฮือ..]เสียงหวานสะอื้นมาตามสาย
“วิค...”
นิชคุณตกใจกับเสียงของอีกฝ่าย
[คุณช่วยวิคด้วย...]
“เกิดอะไรขึ้นวิคคุณอยู่ที่ไหน!”
[วิคโดนรถชนค่ะคุณตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล]
เมื่อได้ยินดังนั้นร่างของนักเขียนรีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานทันที
....ลืมอะไรไปรึปล่าว นิชคุณ.....
อูยองมองตามร่างนั้นไป
ไม่มีแม้แต่เสียงตะโกน หรือเสียงโวยวาย....ถึงยังไงเธอก็มาก่อน...ถึงยังไงเขาก็ต้องรับความรู้สึกนี้เอาไว้ให้ได้...ในเมื่อเขาเป็นคนเลือกเอง....
ทางด้านนิชคุณที่รีบเบิ่งรถไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนจนตอนนี้ได้มานั่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วย
มือหนาลูบหัวของอีกฝายอย่างเบามือ
วิคตอเรียโดนรถเฉี่ยวไม่ได้โดนรถชนแต่ร่างบางสะอื้นตัวโยนด้วยความตกใจ เธอสั่งให้ชายแปลกหน้าคนนั้นพาเธอมาส่งโรงพยาบาลแล้วแสร้งทำเป็นตกใจกับอาการขาแพลงเล็กน้อย
ยูริที่ดื้อดึงจะตามมานั่งอยู่มุมห้อง นิชคุณมองยูริด้วยแววตาคมปลาบ
“หึ...มองฉันแบบนั้นหมายความว่าไงหรอคะ”
ยูริเชิดหน้าใส่อีกฝ่าย
“มันเกิดอะไรขึ้นทำไมวิคถึงโดนยูริขับรถชนได้ล่ะ”
“เห่อะ! พูดดีๆหน่อยสิคะฉันขับรถของฉันอยู่ดีๆขับเป็นปีไม่เคยชนใคร แม่นั่นเองนั่นแหละเดินมาชนรถของฉัน”
พูดจบก็ลุกขึ้นมองหน้าผู้ป่วยวิคตอเรีย
“ฉันไม่คิดเงินค่าเสนียดติดรถก็ดีเท่าไหร่แล้ว...”
“ยูริ!!”
นิชคุณรู้สึกโมโหกับคำพูดแย่ๆของยูริ
“คุณขับรถชนวิค...ขอโทษซักคำก็ไม่มี...แล้วยังมาพูดแบบนี้อีก!”
“พอเถอะค่ะคุณ วิคไม่เป็นไร”
วิคตอเรียพยายามดึงนิชคุณให้นั่งลงถ้าทะเลาะกันไปยูริเกิดพลั้งปากเรื่องกิ๊กของเธอ เธอก็ซวยน่ะสิถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่านิชคุณไม่มีทางเชื่อยูริ...แบบนี้ล่ะมั้งที่เขาเรียกกันว่าวัวสันหลังหวะ
“แหม~เป็นคนดีซะเหลือเกินนะคะคุณวิคตอเรีย!”
ยูริสะบัดเสียงใส่
สักพักคุณหมอได้เดินเข้ามาตรวจอาการของวิคตอเรียและเชิญนิชคุณไปคุยเรื่องยาอาการและค่าใช้จ่ายนอกห้อง
แต่ถึงอย่างนั้นนิชคุณก็ยังไม่หันมาขู่ยูริว่าห้ามทำอะไรวิคตอเรียเด็ดขาด
....ตอนนี้ในห้องจึงเหลือแค่ยูริกับวิคตอเรียเท่านั้น...
“เมื่อยมั๊ย...”
วิคตอเรียเลิกคิ้วยัยบ้านี่จะมาไม้ไหนกัน
“นอนบนนี้ก็สบายดี...มีคุณคอยดูแลยิ่งสบายเข้าไปใหญ่”
วิคตอเรียกล่าวกระแทกอีกคน
“ปล่าวฉันหมายถึงเวลาเธอเฟคหนังหน้าว่าเป็นคนดีขัดกับสันดานต่ำๆของเธอน่ะ”
ยูริยกยิ้มมุมปาก
“เมื่อยมากมั๊ยจ๊ะ”
พร้อมตบท้ายด้วยคำถามเสียงหวานที่ดูเสแสร้งถามสร้างความน่าหมั่นไส้
“นังยูริ!!”
“จ๋า~”ยูริเดินกอดอกไปยืนข้างเตียง
“ว่าไงจ๊ะแม่สาวแสนดี...ดีแตกแล้วรึไง”
“ยัยบ้า!”
บ้า!บ้า!บ้าที่สุด!
เกิดมาวิคตอเรียไม่เคยเจอใครที่มันบ้า งี่เง่าและกวนประสาทเท่ายัยนี่เลยให้ตายเถอะ!!
“จุ๊ๆเงียบๆสิจ๊ะเดี๋ยวคุณเข้ามาเห็นหน้ากากเน่าๆที่เธออุตส่าห์เสแสร้งมาแทบตายมันจะแตกเอานะ”ยูริยื่นหน้าเข้าไปใกล้วิคตอเรียราวกับท้าทายให้อีกฝ่ายทำร้ายร่างกายเธอ
วิคตอเรียนอนกำผ้าปูไว้แน่น...เย็นไว้...เย็นไว้วิคตอเรียถ้าเธอทำอะไรยัยนี่ตอนนี้เท่ากับว่าสิ่งที่สร้างเอาไว้ทุกอย่างจะสูญเปล่าทันที
“หึ!...เธอคิดจะวิธีนี้กับฉันงั้นหรอ ควอน ยูริ”
วิคตอเรียจ้องตา
“เธอก็รู้ว่าฉันเคยใช้วิธีนี้กับเธอมาแล้ว...เธอเห็นฉันโง่รึไง”
“ว๊าย~อย่าพูดบ้าๆที่แสดงถึงการศึกษาและการอบรมที่ต่ำช้าของเธอสิจ๊ะ”
วิคตอเรียทำท่าจะกรี๊ด
“เพราะอะไรฉันถึงไม่ใช้วิธีเดียวกับเธอรู้มั๊ยจ๊ะวิคตอเรีย”
ยูริเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมเสียงหัวเราะสะใจทิ้งให้อีกฝ่ายกำผ้าปูระบายความโกรธ
....ประโยคที่ทำให้วิคตอเรียโกรธจนหน้าแดงเธอแทบอยากจะฆ่าผู้หญิงคนนี้ให้ตายทั้งเป็น
“เพราะว่าฉันไม่ได้ตอแหล....แบบเธอไงจ๊ะ”
--30%--
ยูริปิดประตูกระแทกเสียงดังแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์มือขาวๆล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือยี่ห้อดังแต่สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่ยี่ห้อกระเป๋า
....แต่มันคือเทปอัดเสียงขนาดเล็ก
“ยัยโง่วิคตอเรีย”
ตาคมจ้องมองเทปอัดเสียงในมืออย่างสะใจก่อนจะเปิดเสียงบทสนทนาที่แอบอัดไว้เมื่อครู่ฟังพร้อมกับเดินออกไป....
ฝนตกหนักราวกับมีพายุเข้า
แต่ถึงกระนั้นอูยองก็ยังนั่งคอยนิชคุณอยู่ที่หน้าสำนักพิมพ์
“คุณอูยองเข้าไปนั่งข้างในเถอะครับ”
หนึ่งในพนักงานของบริษัททัก
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงรอยยิ้มบางๆบอกว่าไม่เป็นไร ถ้านิชคุณมาจะได้รู้ว่าเขายังรออยู่ยังไม่หนีกลับบ้าน...
จาก1ชั่วโมงเป็น2ชั่วโมงจาก2ชั่วโมงเป็น3ชั่วโมง
รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่เห็นวี่แววของร่างสูงเลยแม้แต่นิด
....หรือว่าคุณวิคตอเรียจะอาการหนักสมองก็สั่งให้คิดแบบนี้ทั้งๆที่ในใจลึกๆก็แอบหวั่นว่านิชคุณจะลืมเขาแล้วจริงๆ
ทางด้านนิชคุณที่ไปคุยกับคุณหมอเสร็จเดินกลับมาที่ห้องก็พบว่ายูริได้กลับไปแล้ว....เมื่อร่างสูงเดินกลับเข้าวิคตอเรียก็ร้องห่มร้องไห้
“คุณ...ฮือ...ฮึก...คุณ”
“วิค..”
นิชคุณวิ่งเข้าไปหาผู้ป่วยที่ร้องไห้ราวกับว่าเสียใจซะมากมาย
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
“ยูริค่ะ...เธอหาว่าวิคสำออยค่ะ...ฮือ....”
มือเรียวปาดน้ำตาเล็กๆพอเป็นพิธี
นิชคุณกระอักกระอ่วนทำอะไรไม่ถูก วิคตอเรียโผเข้ากอดแฟนหนุ่มนิชคุณจึงโอบตัวเธอน้อยๆมือก็ลูบศรีษะเป็นการปลอบใจ
กว่าจะปลอบกันเสร็จก็ปาไปกว่า3ชั่วโมง....3ชั่วโมงที่วิคตอเรียร้องไห้ไม่หยุดไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย เมื่อร้องไห้มากๆเสียพลังงานมากในที่สุดร่างบางก็หลับไปนิชคุณรีบวิ่งออกจากโรงพยาบาล
นิชคุณคว้ากุญแจก่อนจะกระโจนลงจากบันไดอย่างรวดเร็วไม่รอลิฟท์ให้เสียเวลาแล้วรีบวิ่งไปลานจอดรถแล้วเปิดประตูรถทันที
“บ้าเอ๊ย!”
หงุดหงิดตัวเองทำไมเราลืมอูยองไว้ได้ยังไงถ้านับๆ4ชั่วโมงด้วยซ้ำที่เราทิ้งอูยองให้อยู่คนเดียว
อูยองยังนั่งมองสายฝนที่ตกมาใบหน้าหวานไม่มีน้ำตาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เสียใจ...ทั้งๆที่ใจในอยากร้องไห้ใจแทบขาด
นิชคุณรีบเบิ่งรถมาที่สำนักพิมพ์ตาคมกวาดมองไปทั่วก่อนจะคนคุ้นตานั่งชันเข่าอยู่หน้าสำนักพิมพ์
.....จาง อูยอง.....
เค้าอยากจะชกหน้าตัวเองเหลือเกินจาง อูยองในตอนนี้ดูน่าสงสารกว่าคนที่เขารีบไปหากว่าเป็นไหนๆไม่รอช้าร่างสูงรีบวิ่งเข้าไปหาร่างบางทันที
ก่อนจะสวมกอด....อ้อมกอดที่อุ่นที่สุดสำหรับบจางอูยอง
“ทำไมไม่เข้าไปรอข้างใน”
นิชคุณพยายามใช้ตัวเองบดบังอีกคนจากสายฝน
“ผมกลัวคุณไม่เห็น”
“อูยอง...”
ตัวของอูยองชุ่มไปด้วยสายฝนที่สาดกระเซ็นมาโดน
“ผมขอโทษ”
อูยองซบหน้าลงกับไหล่ของคนพี่มือบางเลื่อนขึ้นมาโอบอีกคนเอาไว้เบาๆ
“ผมนึกว่าคุณจะลืมผมไปแล้ว”
“ผมขอโทษ”
ไม่มีเสียงตอบจากจางอูยองที่นิชคุณได้รับตอกกลับมาเต็มคือน้ำตาและเสียงสะอื้นที่เจ้าตัวพยายามกักเอาไว้
“อูยอง...คุณร้องไห้”
ยิ่งอีกคนร้องไห้นิชคุณก็ยิ่งโอบกอดอีกคนไว้แน่นแนบอก
ฝนยังตกอยู่คุณพยายามโอบอูยองไว้ให้มิดที่สุด...เพื่อไม่ให้อีกโดนละอองฝน
ถึงจะรู้ว่าช้าไปก็ตาม
“ผมขอโทษ”
ร่างสูงยังพร่ำคำว่าขอโทษไม่หยุดอูยองยอมเงยหน้ามองนิชคุณ
ตาคมแดงไปหมดอาจมาจากการร้องไห้ที่หนักหน่วงพอสมควร....รู้ตัวดีว่าไม่ควรร้องไห้เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น...แต่พอคนๆนี้เอ่ยขอโทษน้ำตาที่มันไม่ไหลมาหลายปีกลับทะลักออก
นิชคุณใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจากใบหน้าใส ก่อนจะก้มตัวลงจูบที่เปลือกตาคนน้องเบาๆ
“หนาวมั๊ยครับ”
“ไม่ครับ”
“หนาวใช่มั๊ย”
นิชคุณยิ่งโอบอูยองแน่นขึ้นกว่าตอนแรก
“อุ่นขึ้นมั๊ยครับ”
อูยองพยักหน้าเล็กน้อย
“คุณมาบังผมแบบนี้คุณก็หนาวแย่สิ”
เสียงหวานเอ่ยบ้าง
“ไม่เห็นหนาวเลย...อุ่นจะตาย”
อูยองอมยิ้มกับคำพูดของนิชคุณ...ทั้งคู่กอดกันท่ามกลางสายฝนที่เริ่มหยุดฟ้าเริ่มเปิดแสงแดดอ่อนยามเย็นส่องกระทบกับหยาดฝนระยิบระยับเป็นประกาย
“อืม...ผมก็อุ่นครับ”
อ้อมกอดของคุณอุ่นที่สุดเลย....
40%
นิชคุณพาอูยองกลับบ้านร่างสูงรีบวิ่งไปหยิบเสื้อผ้าของอูยองจากชั้นบนมาให้ร่างบางทันที
เขาสังเกตเห็นหน้าแดงๆอูยองซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากพิษไข้ อูยองก้มหัวขอบคุณเรื่องเสื้อผ้าก่อนจะถอดเสื้อตัวปัจจุบันที่สวมใส่อยู่ต่อหน้านิชคุณ
ร่างสูงกลืนน้ำลายเมื่อเห็นผิวขาวเนียนกับเอวคอดเรียวมีกล้ามเนื้อสมเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดซ้ำยังดูสวยงามที่สุดเท่าที่นิชคุรเคยพบมา ทุกส่วนสัดเหมาะลงตัวสมกับเป็นร่างกายของนายแบบร่างบางเอาผ้าขนหนูมาพันเอวแล้วถอดกางเกงออกก่อนจะเดินหยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป
....บอกฉันทีว่าเมื่อกี๊นายไม่ได้ตั้งใจยั่วนะห๊า อูยอง....
ไม่นานนนักอูยองก็มาพร้อมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นสีเทาร่างบางเดินโซซัดโซเซมานั่งลงบนโซฟา
นิชคุณเอื้อมมือไปแตะหน้าผากอาการไข้ยังไม่ลดเท่าไหร่
“ไหวมั๊ยอูยอง”
ร่างบางพยักหน้านิดๆ
“กินข้าวต้มหน่อยนะ”
นิชคุณทำข้าวต้มตอนที่อูยองอาบน้ำอยู่เจ้าตัวจัดการตักข้าวต้มให้อีกคนทาน
อูยองอ้าปากก่อนกินแล้วทำหน้าเบ้
“ไม่อร่อยหรอ”
“ผมไม่อยากกินเลย”
“งั้นกินอีกคำนะแล้วจะได้กินยา...นะครับ”นิชคุณอ้อนเสียงหวาน
อูยองพยักหน้าเข้าใจ
เมื่อกินข้าวกินยาเสร็จอูยองก็บ่นว่าง่วงนอนนิชคุณจึงจัดการเอื้อมศรีษะทุยนั้นให้ลงมาซบบนตักของตน
มือแกร่งก็ลูบหัวอีกคนเป็นกล่อม
“นิชคุณ”
“ครับ”
เมื่อได้ยินอีกคนเรียกนิชคุณขานรับทันที
“อย่าไปไหนนะครับ”
อูยองช้อนตามองราวกับลูกหมาตัวน้อยๆที่กำลังอ้อนเจ้านายอยู่
ใบหน้าหวานแอบคมของนิชคุณไปทั่ว
....ทำไมน่ารักอย่างนะครับอูยอง....
“ผมไม่ไปไหนหรอก”
“จริงนะครับ”
“ครับผม”
ทนไม่ไหวนิชคุณจะก้มหน้าลงหอมอีกคนฟอดใหญ่อูยองยิ่งก้มหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าแดง
อูยองอมยิ้มการกระทำที่น่ารักแบบนี้...แล้วจะให้โกรธลงได้ยังไง
-50%-
ร่างเล็กของผู้จัดการปาร์ค แจบอมหยิบปากกาขีดค่าไปบนกระดาน
--วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2011
ขีดไปพร้อมกับถอนหายใจหนึ่งเฮือก....เหงาจัง...อูยองก็ไม่อยู่ไม่มีเพื่อนเลย
สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขั้นแจบอมรีบวางปากกาก่อนจะวิ่งไปรับโทรศัพท์
คุณแทคยอน
“ครับ”
[แจบอมคุณมหาผมที่ทำงานหน่อยสิ]
“มีอะไรด่วนรึปล่าวครับ”
[อืม...พอดีผู้ประพันธ์ละครเรื่องใหม่เขาอยากคุยด้วย....เขาอยากให้อูยองเล่นเรื่องนี้ให้เขาน่ะ]
“แต่ว่าอูยองพักงานอยู่นี่ครับ”
[ผมบอกเขาแล้ว...แต่เขาบอกว่าจะรอจนกว่าอูยองจะกลับมา]
“งั้น...เดี๋ยวผมไปหาคุณแทคเดี๋ยวนี้เลยละกันนะครับ”
ว่าจบร่างเล็กก็วางสายของประธานบริษัทก่อนจะวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ดูไม่ทางการเท่าไหร่นักแต่ก็ถือว่าดูดีก่อนจะสิ่งวุ่นลงจากคอนโดแล้วโบกรถแท็กซี่
ไม่นานนักร่างก็มาถึงที่บริษัท
ยามหน้าบริษัทโค้งคำนับแจบอมโค้งกลับ...ร่างเล็กตรงหน้าเป็นคนมีมารยาทมากเป็นเอาว่ารู้กันทั้งบริษัท
“ผมนัดคุณแทคยอนไว้ฮะ”
“รอสักครุ่นะคะ”
พนักงานประชาสัมพันธ์ก้มลงไปเช๊ครายชื่อก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้
“เชิญที่ห้องท่านได้เลยนะคะ”
แจบอมยิ้มขอบคุณก่อนจะวิ่งขึ้นไปไม่รอช้า
ติ๊งค์!
ลิฟท์หยุดลงที่ชั้น80แจบอมรีบก้าวออกจากลิฟท์อย่างรีบเร่ง
“โอ๊ย~!”
อาจเป็นเพราะความรีบร้อนเลยทำให้ชนกับคนที่สวนเข้ามาในลิฟท์พอดี
“ขอโทษครับๆ”
ผู้จัดการปาร์ค แจบอมก้มหัวปะหลกๆ
“ไม่เป็นไรครับ”
ส่วนคนที่โดนชนโบกมือโบกไม้พร้อมบอกกับคนตัวเล็กกว่าว่าไม่เป็นไร
แจบอมเงยหน้ามองอีกคน
เขาเป็นผู้ชายร่างสูงพอสมควรถึงจะสูงไม่คุณแทคยอนก็ตาม ผิวเนียนละเอียดขาวใสทั้งผิวตามร่างกายและใบหน้าดวงหน้าสุกใสคิ้วโก่งรับกับดวงตาคมที่แอบหวานหน่อยๆจมูกโด่งกับริมฝีปากบางชมพู
.....ดูสง่าราวกับเจ้าชาย....
แจบอมยืนค้างมองคนตรงหน้า ดูดีจนน่าอิจฉา...
“คุณ...คุณครับ”
เจ้าชายของแจบอมโบกมือหน้าร่างบางที่ยืนค้างอ้าปากด้วยความตะลึง
“อ่ะ...ครับๆๆ”
แจบอมสะดุ้งก่อนจะขานรับ
“ฮึฮึฮึ คุณเป็นอะไรรึปล่าวครับ”
ชายคนนั้นหัวเราะในลำคอกับท่าทางตลกของคนตรงหน้า
“ปล่าว...ปล่าวครับ”
“ถ้าคุณไม่เป็นอะไรผมขอตัวก่อนนะครับ”
เจ้าชายโค้งให้แจบอมก่อนจะหันหลังเดินเข้าลิฟท์ไปพร้อมกับรอยยิ้มหวานนั่น
ร่างลเกเดินเข้าไปในห้องทำงานของแทคยอนด้วยสีหน้าเพ้อฝัน
ประธานบริษัทมองอาการปะหลาดของพนักงานบริษัทตัวเองอย่างงงๆ
“คุณเป็นอะไรรึปล่าวแจบอม”
“ปล่าวครับ....เอ่อแล้วนักประพันธ์....”
“น่าเสียดายนะ....เขาเพิ่งกลับไปก่อนคุณมาแปปเดียวเอง”
แทคยอนปิดแฟ้มที่เซ็นต์ค้างอยู่
“แต่คุณน่าจะรู้จักนะ...เอ~...ชื่ออะไรนะผมลืมแต่ว่าเขามีผลงานดังหลายเรื่องเลยนะ....ที่เขาได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ไปเมื่อต้นปีน่ะครับ”
แจบอมนึก...อ๋อ!จำได้แล้ว
“ที่หล่อๆใช่มั๊ยครับ...เมื่อกี๊ผมเจอเข้าตอนออกมาจากลิฟท์น่ะครับ”
เมื่อได้ยินคนตรงหน้าชมคนอื่นว่าหล่อคิ้วหนาของแทคยอนก็กระตุกยิกๆ
หล่อหรอ...เหอะ!...ก็งั้นๆแหละ
“แล้วถ้าเขากลับไปแล้วคุณก็ไม่มีธุระอะไรแล้วใช่มั๊ยครับ”
“มี”
แจบอมเลิกคิ้ว
“ครับ...”
“ผมเมื่อย”
“แล้ว...”
“คุณต้องมานวดให้ผม”
หา~!!!จะบ้าหรอ!!งานของเขาคือผู้จัดการนายแบบดาราชื่อดังแล้วจะให้เขามานวดให้ประธานบริษัทเนี่ยนะ!
“อูยองหยุดงานตั้งสองเดือนคุณไม่เบื่อรึไง”
“อย่าบอกนะครับว่าคุณกลัวผมเบื่อเลยให้ผมมานวดให้คุณ”
“ตามนั้น”ใบหน้าหล่อยิ้มนิดๆก่อนจะยื่นแขนให้คนตรงหน้า
“นวดให้หน่อยสิครับนะ”
แจบอมยกมือเกกาหัวเขินก่อนจะลงมือนวดตามคำสั่ง
ก็แทคยอนเป็นเจ้านายสั่งมาก็ต้องทำ....ไม่ได้กลัวเลยนะ...ไม่ได้กลัวเล้ยยยย~!!
จริงๆนะ...เชื่อเถอะ!!
แจบอมเอื้อมมือนวดแขนแกร่งอย่างอายๆ
“นวดแค่แขนหรอ”
“ครับ...”
ว่าจบก็ชี้หลัง
“ผมนั่งทำงานหลังตรงมาทั้งวันเมื่อมากเลยครับ”
“คุณก็ยังไม่แก่เลยนะ”
แจบอมบ่นอุบอิบ
มือบางไล้ไปตามเนื้อหนังของท่านประธานบริษัทแทคยอนลอบยิ้มกริ่ม
ถึงว่าจะมีเสื้อเชิ้ตกันขวางอยู่แต่ร่างบางก็อดเขินไปได้...ด้วยความไม่กล้ากดแรงจากการนวดจึงกลายเป็นการลูบแทน
นานเข้าแทคยอนเริ่มรู้สึกเขินแปลกเพราะจากที่อีกคนนวดแรงเริ่มหมดตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไรแต่ตอนนี้กับการรู้สึกเขินกับการลูบเนื้อลูบตัวเข้าซะได้
“รู้สึกยังไงบ้างครับ”
สำหรับแจบอม...ถามว่าแทคยอนรู้สึกหายเมื่อยมั่งหรือยัง
สำหรับแทคยอน...ทั้งการกระทำลูบสะเปะสะปะของร่างบางกับคำพูดสองแง่สองง่ามทำให้แทคยอนเริ่มร้อนขึ้นจากหน้าตาลามไปถึงร่างกายทั้งตัว
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจสองดวงเต้นแรงเหมือนๆกัน
......แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นคือจังหวะของหัวใจสองดวงนี้เต้นไปพร้อมกันด้วย......
60% up><
นิชคุณนั่งมองหน้าคนที่หนุนตักริมฝีปากยกยิ้มกว้างมือหนาก็เอื้อมไปลูบเส้นผมลื่นนั้นอย่างอารมณ์ดี
“อืม..”
อูยองยกมือขยี้คลายความง่วงพลางดันตัวลุกขึ้น....ด้วยท่าทางน่ารักๆที่เหมือนเด็กๆนั้นทำเอานิชคุณยิ่งยิ้มไม่หยุด
“ตื่นแล้วหรอครับ”
“นิชคุณ...”
“ครับ”
“ปวดหัว...”
อูยองเอาศรีษะกลมพิงกับพนักของโซฟา
“ปวดหัวหรอครับ...ปวดมากมั๊ย”
นิชคุณเป็นห่วงอีกคนมากเพราะรู้ดีว่าเจ้าตัวนั่งตากฝนเป็นชั่วโมง ร่างสูงเอื้อมมือประครองใบหน้าของอูยองเบาๆ
อูยองพยักหน้าโดยไร้เสียงเอื้อนเอ่ย
นิชคุณตัดสินใจอุ้มร่างของอีกคนมาแนบอกแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสอง นิชคุณวางร่างบางเตียงนุ่มมือเรียวปัดผมที่ปรกหน้าผาก
“หิวอะไรมั๊ย”
ไม่พูดอะไรแต่กลับส่ายหน้าเบาๆทำเอานิชคุณรู้สึกผิดที่ปล่อยให้อูยองนั่งรอเขาตั้งนาน
นิชคุณเอื้อมมือไปอังหน้าผากของอีกคนเบาๆ อุณหภูมิยังไม่ลดเท่าไหร่คิ้วหนาขมวดอย่างเป็นห่วง นิชคุณตัดสินใจเอาผ้าชุบมาเช็ดตามตัวของอีกคน
แค่เห็นด้วยสายตาก็เอาเขาแทบแย่...แต่นี่ต้องมาสัมผัสถึงจะมีผ้ากั้น...แต่มันก็....
ใบหน้าของร่างสูงแดงระเรื่อกับภาพตรงหน้าที่อูยองนอนหลับปุ๋ยใบหน้าขาวใสแดงเพราะพิษไข้กับตัวที่ดินไปมาเพราะไม่อยากถูกถอดเสื้อ
แต่ในที่สุดร่างสูงก็ทำสำเร็จอูยองในกางเกงขาสั้นกับท่อนเปล่าที่เปลือยเปล่านอนแผ่หลาอยู่บนที่นอน
นิชคุณกลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้นก่อนจะลงมือเช็ดตามเรือนร่างนั้น
มือเรียวสั่นอย่างยากที่จะห้าม นิชคุณไล้ผ้าบางไปตามเนื้อตัวมืออีกข้างก็กำแน่นสกัดกั้นความตื่นเต้น
....เย็นไว้....เย็นไว้นิชคุณ...เย็นไว้....
“อืม....”
อูยองส่งเสียงครางอย่างรำคาญ
แต่เสียงนั้นกลับส่งผลให้นิชคุณยิ่งกำมือตัวเองแน่น
....แม่ค้าบบ....คุณเย็นไม่ไหวแล้วคร้าบบบ~
“อือ...คุณ”
อูยองลืมตา ร่างสูงถึงกับทำอะไรไม่ถูก
“อะ...เอ่อ...อูยอง...คุณตัวร้อนน่ะผมก็เลย...”
“หนาว...”
อูยองเบ้ปากตัดบทของอีกคน
ร่างของคนเป็นไข้โผเข้ากอดอีกคน
....เคยบอกไปรึยัง...ว่าอูยองตอนเป็นไข้น่ะขี้อ้อนกว่าตอนธรรมดาหลายร้อยเท่า....
นิชคุณตัวแข็งทื่อมือก็ยกขึ้นมาเก้ๆกังๆก่อนจะสวมกอดอีกคนอย่างเขินๆ
อูยองซุกหน้าลงบนแผงอกของอีกฝ่ายพร้อมเบียดตังชิดมากขึ้นหัวทุยขยับเล็กน้อยเพื่อหาไออุ่น
และการกระทำขี้อ้อนราวกับลุกแมวนั้นยิ่งทำให้คนที่ถูกกอดหน้าแดงอยู่แล้วกลับแดงขึ้นอีก...
“เอ่อ...อูยองครับ”
นิชคุณไม่กล้ากอดอีกคนแน่นนั้นเพราะเหตุที่อีกคนไม่ได้สวมเสื้อมีเพียงกางเกงขาสั้นแค่เข่าที่ปกปิดร่างกายเอาไว้เท่านั้น
“กอดผมหน่อยนะ”
“หา!...”
นิชคุณอ้าปากค้าง
“ผมหนาวนี่...กอดผมหน่อยนะ...นะครับ”
อูยองช้อนตามองอีกฝ่ายอ้อนนิชคุณกลืนน้ำลายหัวใจสูบฉีดมากกว่าปกติ
มือเรียวค่อยๆกระชับอีกฝ่ายแน่นขึ้นจากตอนแรกที่เห็นด้วยสายตาต่อมาก็สัมผัสผ่านผ้าเช็ดตัวผืนบาง...แต่ตอนนี้มือเพียวๆของนิชคุณกำลังแตะต้องเรือนกายบอบบางของอูยองจังๆ
กลิ่นหอมของแป้งเด็กจากตัวคนขี้อ้อนทำเอาร่างสูงยิ่งตื่นเต้นหนักขึ้นไปอีก
“นิชคุณ”
“ครับ”
“อย่าไปไหนอีกนะ”
“อูยอง...”
นิชคุณกอดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นความเจ็บริ้วขึ้นมาจุกแน่นจนหายใจไม่ออก...อายเหลือเกินกับความผิดครั้งนี้
อูยองมองหน้านิชคุณพร้อมยิ้มน่ารัก ร่างสูงเลิกคิ้วงงๆก่อนที่อีกฝ่ายจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมประกบริมฝีปากแน่น
โดยไม่มีการรุกล้ำใดๆมีเพียงความอ่อนนุ่มของอีกคนที่ส่งผ่านการกระทำมาให้ร่างสูงเท่านั้น
นิชคุณนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูกจนอูยองถอนริมฝีปากออกมาพร้อมรอยยิ้มซุกซนน่ารักก่อนที่เจ้าตัวจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง
หัวกลมซบลงบนไหล่หนาของนิชคุณ เสียงหัวใจจากอกด้านซ้ายของนิชคุณดังตึกตักจนตัวเองได้ยิน
“อย่าทำแบบนี้อีกนะอูยอง”
มือเรียวลูบหัวอีกคนเบาผอมก้มหน้าลงจูบขมับของอีกคน
“รู้มั๊ยผมหัวจะวายเอานะครับ”
80%
เอาตอนคุณด้งไปก่อนนะค๊า~^^ เพื่อนๆไรเตอร์กำลังลุ้นมหาลัยค่ะT Tจะติดม๊ายยย
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะคะที่รัก><
หลังจากที่อูยองหลับไปนานเกือบสามชั่วโมงตาคมก็ได้เปิดขึ้นมารับแสงนีออนภายในห้องคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเนื่องจากไม่เห็นร่างที่คุ้นเคย
....นิชคุณไปไหน....
ขาเรียวก้าวลงจากเตียงนอนออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างเพื่อตามหาอีกคน
แล่วในที่สุดก็พบนิชคุณนั่งหลับอยู่โซฟาอูยองยิ้มบางก่อนจะเดินเข้าไป อูยองนั่งมองหน้านิชคุณอยู่นาน
“หล่อใช่มั๊ยล่ะ”
อูยองสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆอีกคนลืมตากะทันหันส่งผลให้ใบหน้าหวานแดงด้วยอาการเขินอาย
“ว่าไงครับ จ้องแบบนี้อยากได้ไปนอนกอดซักคืนมั๊ยล่ะ”
นิชคุณได้ใจยิ่งแกล้งอูยอง จนร่างบางทนไม่ไหวฟาดท่อนแขนเบาๆไป1ที
“โอ๊ยย~!!เจ็บ”
นิชคุณลูบแขนป้อยๆ
“เวอร์”
“เอ้า!จริงๆนะเนี่ยเจ็บมากเลย เจ็บสุดๆ”
นิชคุณก้มหน้าก้มตาลูบรอยแดงที่อูยองตีไว้
“เจ็บมากหรอครับ”
เมื่อนิชคุณก้มหน้าเสียงอ่อย อูยองก็ชักใจคอไม่ดี หรือเขาตีแรงไปจริงๆเนี่ย
“เจ็บสิครับ”
“ให้ผมดูหน่อยนะ”
อูยองเคลื่อนใบหน้าเข้าไปดูรอยแดงบนแขนของนิชคุณ
ในขณะที่อูยองกำลังห่วงอีกคนทำให้ร่างบางไม่ได้ระวังตัวหมาป่าในคราบเจ้าชายอย่างนิชคุณจึงถือโอกาสประทับริมฝีปากของตัวเองกับนายแบบน่ารักจาง อูยอง
รอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าเรียว อูยองอ้าปากค้างกับการถูกฉวยโอกาส
“นะ...นี่!”
“คร้าบบ~ผม!”
“คุณ...”
“จ๋า”
“คุณนี่มันฮึ่ยย~!!”
อูยองฮึดฮัดอย่างหัวเสียและอาย นิชคุณยิ้มกว้าง
แกล้งผมให้ใจเต้นมาทั้งวันแล้วนะอูยอง...เจ๊ากันนะครับ...
“แล้วนี่ทำไมคุณไม่ไปนอนข้างบนล่ะครับ...นอตรงนี้ไม่เมื่อยหรอ”
อูยองเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นอีกคนนั่งหลังแข็งพิงโซฟา
“เอ่อ...ผมไม่อยากกวนคุณน่ะเดี๋ยวคุณนอนไม่สบาย”
ใครจะกล้าบอกล่ะว่าเพราะกลัวห้ามใจไม่ได้...ถูกอ้อนขึ้นมาอีกทีมีหวังหมดความอดทนแน่ๆ นิชุณ หรเวชกุล
“ผมทำให้คุณลำบากหรือเปล่าเนี่ย...”
“ลำบากอะไรกันได้กำไรซะอีก”
“กำไร?...”
อูยองขมวดคิ้วงงๆ
“อะ...เอ่อ ผมหมายความว่าเดี๋ยวคุณหายคุณก็ต้องมาดูแลผมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าไงฮ่าๆ”
“ขี้งก...”
อูยองเบ้ปาก
นิชคุณถอนหายใจด้วยความโล่งอก...ถ้าอูยองรู้ว่าเราคิดอะไรอยู่มีหวัง...
“แล้วนี่คุณลงมาทำไมครับหายแล้วหรอ”
“ก็ผมตื่นมาไม่เห็นคุณนี่”
“คิดถึงอ่ะดิ่”
“เอ๊ะ!คิดไปเองน่ะสิ..ผมจะมาตามให้คุณขึ้นไปนอนดึกแล้วนะครับ”
“คร้าบๆงั้นเราขึ้นไปนอนกันเหอะนะ”
นิชคุณโอบไหล่อีกคนขึ้นห้องนอนไป
เมื่อถึงห้องนอนนิชคุณที่ปวดหลังกับการนั่งหลับได้ล้มตัวลงบนเตียงหนานุ่ม
“ฝันดีครับ...อูยองของผม”
ว่าเสร็จก็หลับไป อูยองมองคนตรงหน้ายิ้มๆ
มือเรียวคว้าสมุดไดอารี่ขึ้นมาจดเรื่องราวในวันนี้
วันนี้นิชคุณใจร้ายกับผมจังเลยครับ...แต่เขาก็น่ารักกับผมมากๆด้วย^^ วันนี้ผมเสียใจมากๆแต่ฟ้าหลังฝนกลับสวยงามที่สุด...ฝันดีนะครับ นิชคุณของผม
8 กุมภาพันธ์ 1961
จาง อูยอง
Writer Talk
100%เลี้ยววว(เช็ดน้ำตาด้วยความปลาบปลื้ม)กว่าจะจบซักตอนเนาะ555 เม้ามอย ชอบน้องเชอรีนจังค่า~ น้องน่ารักมาก อิจฉาด้วยมีพี่หล่ออยากจะมีพี่ชายเป็นพี่คุณบ้าง(หน้าไม่ให้แต่ใจรัก) เป็นน้องพี่คุณจะได้แอบแทะเล็มด้งเมื่อด้งกลับบ้านมาเยี่ยมแม่สามี(ณ จุดนี้ผู้อ่านคงคิดว่าดีแล้วที่พี่คุณมีเชอรีนเป็นน้อง- -*) ตอนต่อไปสปอยนิดนึง ชางซูออกโรงตามหาคนร้ายเอาใจช่วยผู้จัดการตัวน้อยๆด้วยนะคะ^[+++]^
ความคิดเห็น