ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *...TIME...* [2PM Khun x Dong Ft TJ CH] YAOI

    ลำดับตอนที่ #6 : ...TIME 4... [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 54



       


    Tachyeon

    *******

     

    Time…4

     

     

     

    หลังจากนั้นไม่นานวิคตอเรียก็ขอตัวกลับบ้าน นิชคุณเดินไปส่งเธอ วิคตอเรียโบกมือให้คุณและอูยองที่เดินออกมาพอดี

     

    บายค่ะคุณ...เจอกันใหม่นะคะอูยอง

     

    ครับอูยองกับนิชคุณขานรับพร้อมกัน

     

    เสียงรถเก๋งคันสีขาวแล่นออกไปได้ไม่นาน นิชคุณที่โบกมือลาแฟนสาวเสร็จก็หันมาหาอีกคน

     

    ไปกันเลยมั๊ย

     

    ไปไหนครับอูยองมองนิชคุณงงๆ

     

    เอ้า!ก็เมื่อวานผมสัญญาจะพาคุณไปซื้อของนี่ มาๆขึ้นรถเร็ว

    นิชคุณไม่พูดเปล่าเดินไปจูงข้อมือของอีกคนให้ขึ้นรถทันที

     

    บรรยากาศในรถเงียบกริบ

    ทั้งคู่ไม่รู้จะพูดอะไร จนนิชคุณตัดสินใจเป็นผู้ทำลายบรรยากาศมาคุนี่ซะ

     

    ขอโทษนะวันนี้วุ่นวายแต่เช้าเลย

     

    ไม่หรอกครับอูยองยิ้มแหยๆ

     

    จบคำทั้งคู่ก็กลับมาเงียบเหมือนเดิมไม่ช้าไม่นานรถจากัวร์คันเล็กสีขาวก็มาถึงร้านขายของแห่งหนึ่ง

     

    ....จริงซิ50ปีก่อนคงยังไม่มีห้างสินะ

     

    ร้านนี่เลย...ผมมาบ่อยมาก ร้านเขาตัดสวยนะอยากได้แบบไหนบอกเจ้าของร้านเลยครับ

    นิชคุณแนะนำเสร็จสรรพอูยองเองก็พยักหน้ารับ

     

    ขายาวของนายแบบหลงยุคก้าวเข้าร้านอย่างประหม่า...ไม่เคยมาร้านแบบนี้เลย  ถึงเสื้อผ้าจะเป็นแบบสมัย50ปีก่อนแฟชั่นก็ไม่ต่างอะไรกับสมัยของเขามากนัก...อย่างว่าแฟชั่นก็วนไปวนมาเรื่อยๆล่ะนะ

     

    ร้านนี้เสื้อสวยอย่างที่นิชคุณโฆษณาเอาไว้ไม่ผิดเพี้ยน

     

    เนื่องด้วยที่ว่าอูยองเองก็เป็นนายแบบความรู้เรื่องเสื้อผ้าก็ต้องมีบ้าง

     

    ทั้งรอยเย็บเก็บรายละเอียดได้ดีเรียบร้อย ส่วนการออกแบบถ้าเทียบกับว่าสมัย50ปีก่อนถือว่าสวยทีเดียว

     

    สายตากวาดมองไปทั่วร้านจนสะดุดที่เสื้อตัวหนึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตสีเทา อูยองเดินเข้าไปจับๆแตะๆดูด้วยความสนใจ

     

    ชอบหรอนิชคุณเดินมาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง

    อูยองสะดุ้งตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยังยิ้มรับ

     

    สวยดีครับ

     

    ถ้าชอบผมซื้อให้นะ

     

    แต่ว่า…”

    อูยองเองก็ลำบากใจเล็กน้อยให้เขามาอาศัยอยู่ฟรียังจะมาซื้อนู่นซื้อนี่ให้อีก

     

    ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า...เล็กน้อยแค่นี้เอง...พี่ครับๆเอาเสื้อตัวนี้ครับ

    พูดเองเออเองเสร็จสรรพมือแกร่งของนิชคุณก็ลากอูยองมาที่อีกส่วนของร้าน

     

    เอากางเกงแบบไหนดี ขาสั้นประมาณเข่ามั๊ยใส่สบายๆ

    พูดไปพลางก็หยิบกางเกงตัวนู้นตัวนี้ไปพลาง

     

    เอ่อไม่รู้สิครับ คุณเลือกให้ผมแล้วกัน

     

    อะไรกัน อูยองเป็นนายแบบไม่ใช่หรอน่าจะมีเซนส์เรื่องเสื้อผ้าดีกว่าผมนะ

     

    แต่ผม...

     

    ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจนิชคุณหันมายิ้มก่อนจะยกกางเกงทั้งราวให้เจ้าของร้านเนื่องจากเลือกไม่ได้

     

    ...ก็คนมันชอบหมดเลยนี่

     

    อูยองใส่แล้วต้องน่ารักมากแน่ๆ

     

    คิดไปคนตัวสูงก็ยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว    ส่วนคนข้างๆก็ได้แต่สงสัย...ทำไมดูอารมณ์ดีจัง

     

     

    ไม่นานนักเจ้าของร้านก็เอาเสื้อผ้าใส่ถุง

     

    อูยองมองของข้างหน้าแล้วอ้าปากค้าง

     

    ...มันเยอะไปมั๊ย!!

     

    ถุงสิบกว่าถุงที่ใส่เสื้อผ้าแน่นทุกใบถูกเด็กในร้านยกไปไว้ในรถ

    เจ้าของร้านยิ้มหน้าบ้านที่วันนี้เสื้อขายหมดทั้งที่ยังไม่เย็น  นิชคุณเดินจูงมืออูยองขึ้นรถไป

     

    มันไม่เยอะไปหรอครับอูยองเอี้ยวตัวมองของในรถที่วางอยู่เบาะหลัง

     

    ไม่หรอก...นายต้องอยู่อีกนาน

    นิชคุณขับรถยิ้มแย้มอารมณ์ดี

    หิวรึยัง...กินอะไรก่อนมั๊ย

     

    เอ่อ...ก็นิดนึงครับ

     

    พูดแบบนี้แสดงว่าหิว

    นิชคุณเลี้ยวรถเข้าไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง

     

    ทั้งคู่เดินเข้าไปในร้าน นิชคุณเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้อีกฝ่ายนั่งอูยองก้มหัวขอบคุณ

     

    ผมเอาแนงเมียนครับ อูยองล่ะ

    ประโยคแรกหันไปบอกพนักงานส่วนประโยคหลังหันมาถามอีกคน

     

    ผมเอาด้วยครับ

    พนักงานทวนรายการอาหารก่อนจะโค้งรับแล้วเดินออกไป

     

     

    ไม่นานนักอาหารก็มาเสริฟ

     

    อูยองซึ่งไม่ชอบกินผักแอบเขี่ยออกอย่างเคยชินพอนิชคุณเห็นก็รีบค้านทันที

     

    ไม่กินผักล่ะอูยอง

     

    ก็มันขมนี่ครับ

     

    ไม่ขมหรอก  ลองกินดูสิ

     

    อูยองเบ้ปาก...ไม่ขมที่ไหน ขมจะตาย

     

    ไม่ต้องมหน้าแบบนั้นเลย...อ้าปาก

    นิชคุณคีบผักในจานอูยองขึ้นมาแล้วสั่งให้อีกฝ่ายอ้าปาก

     

    อูยองมองนิชคุณนิดๆก่อนจะก้มหน้าลง

     

    อย่าดื้อสิครับ...อ้าปาก

     

    ยิ่งสั่งอูยองก็ยิ่งเม้มปากแน่น

    เมื่อเห็นอย่างนั้นนิชคุณก็ส่งสายตาดุๆไปให้ อูยองจึงยอมอ้าปาก

     

    อ้ามมม

    ว่าเสร็จก็ป้อนผักเข้าปากของคนที่กำลังเบ้อย่างทรมารทรกรรม

    อร่อยมั๊ยครับ

     

    แหวะ...

    คำตอบของอูยองทำเอานิชคุณหัวเราะเล็กๆอย่างเอ็นดู

     

    อีกคำนะครับ

     

    ไม่เอาแล้ว

    อูยองสะบัดหน้าหนีนิชคุณพอร่างสูงโผล่หน้าไปทางซ้ายก็หันไปทางขวา พอโผล่ไปทางขวาก็สะบัดหน้าหนีไปทางซ้าย

     

    ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างนึกสนุกก่อนจะเดินอ้อมมาที่นั่งของคนที่กำลังหันหน้าหนีเขาอยู่

     

    ปลายจมูกโด่งกดลงไปที่แก้มเนียนของอีกฝ่ายอย่างแรงส่งผลให้อูยองหันหน้ากลับมาแทบไม่ทัน

     

    นิชคุณยิ้มร่ากับผลงานตัวเองต่างกับอีกคนที่นั่งหน้าแดงแจ๋ก้มหน้างุดๆ

     

    คุณทำอะไรเนี่ย

    อูยองพูดเบาๆหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดอย่างเห็นได้ชัด

     

    หอมแก้ม

     

    รู้แล้วครับ!”

     

    อ้าว~เห็นถามนึกว่าไม่รู้ ฮ่าๆ

    ยังจะมาหัวเราะ= =

     

    ที่ผมถามน่ะ...หมายความว่าคุณจะมาหอมแก้มผมทำไม

     

    อยากรู้หรอ

    นิชคุณหยุดกินวางตะเกียบมองอีกฝ่าย

     

    อูยองพยักหน้าแรงๆสองสามที

     

    ก็อูยองน่ารัก

    คำตอบของร่างสูงทำให้คนที่กำลังเขินอยู่แล้วเขินเข้าไปอีก...

    น่ารักจริงๆนะ

    ไม่พูดเปล่ายังมีการย๊ำให้ฟังอีกด้วย อูยองเอามือหูอย่างเขินอาย

     

    ปกติทั้งแฟนคลับทั้งคนอื่นๆก็ชมเขาว่าน่ารัก...แต่ไม่เคยรู้สึกเขินแบบนี้ทั้งๆที่คนก่อนๆที่ชมก็เป็นผู้หญิง...แต่คนๆนี้กลับเป็นผู้ชาย

     

    ....นี่เราเขินกับคำชมของผู้ชายหรอเนี่ย!

     

     

     

    นิชคุณมองท่าทางของอีกคนอย่างสนุก

    ก็น่ารักจริงๆนี่นา

     

    คุณเพ้ออะไรของคุณเนี่ย

    อูยองโวยวายแก้อาการเขิน

     

    ปล่าวเพ้อนะ...ผมพูดจริง

    นิชคุณพูดไปคีบหมี่เย็นกินไป...ทำไมวันนี้มันอร่อยผิดปกติเนี่ย

     

    ...สงสัยเป็นเพราะคนตรงหน้ารึปล่าว...นิชคุณ หรเวชกุล

     

     

     

    อูยองก้มหน้าก้มตากินโดยไม่สนใจอีกคน ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัว พูดไปก็เสียเปรียบนิ่งไว้ยังจะดีซะกว่า

     

    นิชคุณหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจในผลงานของตัวเอง

     

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด~!!”

    อูยองกับนิชคุณไปมองตามเสียง

     

    นั่นมัน!...

     --20%ก่อนจ้า--

    อูยองหันไปมองตามเสียงร้องแล้วพบกับหญิงสาวร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มกำลังถูกผู้ชาย3คนดูท่าทางน่ากลัวลวนลามอยู่

     

    การกระทำย่อมไวกว่าความคิดอูยองผลุนผลันลุกจากที่นั่งอย่างที่นิชคุณยังห้าไม่ทันขาเรียวก้าวเร็วปรี่ไปยังกลุ่มคนข้างหน้ามือบางกระชากไหล่ของอีกผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นให้หันมา

     

    มีอะไรวะ!”ชายคนนั้นสะบัดอย่างหัวเสีย

     

    จะทำอะไร

    อูยองพูดเสียงต่ำอย่างน่ากลัว

     

    จะทำอะไร?

    ชายคนนั้นหันไปหาพวกอีกสองคนแล้วเปล่งเสียงหัวเราะที่น่าขยะแขยงราวกับพวกตัวร้ายในละครออกมา

    ฮ่าๆๆๆๆ ทำอะไรแกถามว่าพวกเรากำลังทำอะไรหรอรอยยิ้มที่น่าเกลียดปรากฏขึ้นบนหน้าของชายคนนั้นก่อนที่เขาจะเงื้อมมื้อเพื่อหมายที่จะกระแทกลงบนหน้าของอูยอง

     

    หมับ!

    มือกร้านของพวกชั่วช้านั่นที่กำลังต่อยหน้าของอีกฝ่ายโดนมือของจาง อูยองรับไว้ได้อย่างพอดีก่อนจะที่กำข้อมือของชายคนนั้นแน่นแล้วหักลงอย่างไม่ปราณี

     

    โอ๊ย!”

    เขาร้องเสียงหลงก่อนจะปล่อยมือที่กุมคอเสื้ออูยองออกแล้วเปลี่ยนมากุมข้อมือของตัวเองแทน

     

    เฮ้ย!”ส่วนเพื่อนอีกสองคนปราดเข้ามาหมายจะรุมคนที่หักข้อมือเพื่อนของเขา

     

    อูยองวาดเท้าถีบไปที่ท้องของอีกคนส่วนมือก็ชกเข้าที่หน้าของอีกคน   ชายสองคนล้มลงไปกองกับพื้นอูยองจึงรีบวิ่งไปพยุงร่างของหญิงสาวที่โดนลวนลามทันที

     

    เป็นไงมั่งครับ

     

    ไม่เป็นไรค่ะเธอก้มหัวขอบคุณอย่างสุดซึ้งเมื่อเงยหน้าใจเธอก็เต้นตึกตักอย่างปะหลาดใบหน้าขาวแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     

    อ๊ะ!ระวังและในขณะนั้นเองสายตาจะเหลือบไปเห็นว่าชายคนใดคนหนึ่งในสามคนนั้นควักมีดออกมาจะแทงอูยอง

     

    พลัก!

    ไม่ทันที่จะลุกขึ้นได้ด้วยซ้ำเท้าของผู้มาใหม่ก็กระแทกลงบนหน้าของพวกชั่วจนทำให้ล้มลงและสลบไป

    อูยองหันมามองคนที่ชั่วชีวิตเขา...นิชคุณ

     

    เอ่อ...คุณ

     

     

    เท่มากอูยอง...แต่ระวังด้วยสิครับ

    นิชคุณเดินหาอูยองด้วยแววตาเป็นห่วง

     

    ขอบคุณนะครับ

     

    ไม่เป็นไร..ผมจะปล่อยให้คุณโดนแทงได้ยังไงล่ะ

    นิชคุณยิ้มหวานพลางลูบหัวคนข้างหน้า

     

    หญิงสาวมองอย่างงงๆพวกเขาคงจะไม่ใช่คู่รักกันหรอกนะ...ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย

     

    อูยองแอบดีใจกับคำพูดอ่อนโยนของนิชคุณแล้วหันมาถามอาการของหญิงสาวแทน

     

    เอ่อ...คุณเป็นอะไรรึปล่าวครับ

     

    ไม่ค่ะ...ฉันต้องขอบคุณมากนะคะที่คุณช่วยฉันไว้

    เธอก้มหัวลงอีกครั้ง

     

    ไม่เป็นไรครับ...มีคนกำลังโดนรังแกผมจะปล่อยไปได้ยังไง

    อูยองยิ้มเล็กๆ

     

    ...แต่ยิ้มนั้นก็ทำให้คนสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นยิ้มตามได้อย่างไม่มีเหตุผล

     

    แต่ยังไงฉันก็เกือบทำคุณโดนมีดแทงนะคะ

     

    แต่ก็ยังไม่โดนนี่ครับ...อย่าคิดมากเลยนะ

    อูยองโบกมืออย่างไม่คิดอะไร

     

    แต่คนที่คิดคือคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างนิชคุณ

    ...คงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ รู้สึกกลัวแปลกๆ

     

    อูยองไปกันเถอะครับ  ผมหิวแล้ว

    ช่างเป็นข้อแก้ตัวที่ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย...เพิ่งจะกินมาเมื่อกี๊แล้วนี่ก็อยู่ในร้านอะหารนะ...นิชคุณ!

     

    อูยองหันมามองอย่างงงๆดูอย่างนิชคุณไม่น่าจะกินเยอะเลยนะ

     

    ครับๆ

    แต่ช่างมันเถอะ อูยองหันมาตอบรับอีกคนก่อนจะหันไปลาผู้หญิงที่เขาช่วยชีวิตไว้

    งั้นผมไปนะครับ

    พูดเสร็จก็หันหน้าเดินออกไปโดยที่นิชคุณจูงมือนำ

     

    อ่ะ!...เดี๋ยวค่ะ!เราจะได้เจอกันอีกมั๊ยคะ

    เธอรีบตะโกนถามก่อนที่ชายในพรมลิขิตของเธอจะเดินหนีไป

     

    อูยองหันมายิ้มรับ

    ผมหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ

     

    คุณชื่ออะไรคะ...เอ่อ...เผื่อเราจะเจอกันแล้วฉันจะได้ทักคุณ

     

    ผมอูยองครับ

    เมื่อเห็นคนที่จูงทือแนะนำตัวกับอีกฝ่ายนิชคุณก็ยิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอูยองมองแปลกๆก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วตามอีกคน

     

    ฉันแทยอนนะคะ!!”

    เธอตะโกนบอกโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินหรือเปล่า

     

    ฉันหวังว่าเราจะได้พบกันอีกนะคะอูยอง

    เธอยิ้มบางๆพร้อมพูดกับตัวเอง

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    บนเวทีใหญ่อย่างอินกิกาโยศิลปินมากมายที่ยืนลุ้นตัวโก่งกับรางวัลอยู่บนเวที

     

    หนึ่งในนั้นชานซองและจุนโฮเองก็กำลังจับกันลุ้นว่ารางวัลจะประกาศชื่อเขารึปล่าว

     

    คะแนนประมวลผลอย่างลุ้นระทึกและไม่นานผลก็ปรากฏ คู่ดูโอ้ชานซองจุนโฮคว้ารางวัลไปอย่างไม่น่าสงสัย

     

    กรี๊ดดดดด!

     

    เสียงแสดงความดีใจของแฟนคลับมากมายศิลปินบนเวทีต่างก็กอดแสดงความยินดีกับทั้งคู่...พวกเขามองหน้ากัน...ในที่สุดความพยายามของพวกเขาก็สำเร็จ

     

    ทั้งๆที่ศิลปินทุกคนที่อยู่บนเวทีนี้ต่างก็มีน้ำใจเป็นนีกกีฬากันทั้งนั้นแต่ก็ยังสายตาคู่หนึ่งมองคู่ดูโอ้นี้อย่างเครียดแค้น

     

     

    เมื่อลงจากเวทีชานซองกุมมือจุนโฮเพื่อจะเดินไปยังห้องพัก จองโฮนักร้องหนุ่มศิลปินเดี่ยวได้เดินมาชนไหล่ชานซองอย่างตั้งใจ

     

    ตาคมหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนั้น ชานซองขมวดคิ้วกับแววตานั้น...ทั้งๆที่ก็ไม่รู้จักแต่รู้สึกไม่ชอบ

     

    จองโฮเดินจากไปพร้อมกับปริศนาในแววตานั้นเอาไว้

     

    นี่!ชาน

     

    ครับ...

     

    นั่นน่ะ คนที่เขาแข่งกับเราเมื่อกี๊นี่นา

    ชานซองนึก ใช่คนบนเวทีจริงๆด้วยเขาแพ้คะแนนไปอย่างหวุดหวิด...ชานซองเข้าใจในทันที...สงสัยจะเป็นพวกแพ้แล้วพาลล่ะมั้ง

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในพักส่วนตัวของจุน จองโฮ

     

    โธ่เว๊ย!”เขาสะบัดเสื้อคลุมที่ใช้แสดงทิ้งก่อนจะล้มตัวลงบนโซฟามือเรียวก้มใบหน้าอย่างโมโห

     

    เป็นอะไรไปคะหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องก่อนหน้านี้เดินมาโอบรอบคอของจองโฮจากทางด้านหลังหน้าอิ่มวางลงบนไหล่อย่างคุ้นเคย

     

    ทั้งๆที่อุตส่าห์เล่นงานไอ้อูยองได้แล้วแต่กลับมีไอ้วงดูโอ้อะไรนั่นมาคว้าตำแหน่งดาวรุ่งของผมอีก!”

     

     

     

    หญิงสาวที่ชื่อมินยูเบ้หน้า...ก็รู้อยู่ว่าจองโฮคู่ขาของเธอนั้นไม่มีความสามารถแถมยังชอบโอ้อวด

     

     

     

    ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ใช้ให้เธอไปทำตัวเป็นข่าวกับอูยองให้เธอยั่วสารพัด...ถ้าไม่มีเงินจำนวนน่าสนใจนั่น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมเสี่ยงกับคำด่ามากมายบนหน้าอินเตอร์เน็ตกับตำแหน่งแฟนของจาง อูยองหรอก

     

    อย่าคิดมาสิคะจองโฮ  นั่นก็แค่นักร้องไอดอลหน้าใหม่ก็แค่ช่วงแรกๆนั่นแหละค่ะ...หลังๆไปถ้าไม่มีอะไรน่าสนใจคนก็คงเบื่อกันไปเอง

     

    ใช่...ถ้าไม่มีอะไรน่าสนใจนะ

     

    แล้วอีกอย่างคุณอย่าเพิ่งวางใจนะคะ...อูยองน่ะแค่ลาพักงานเท่านั้น...ถ้าเขากลับมาเมื่อไหร่คุณเองก็อันตรายนะคะ

     

    ผมรู้มินยู...แต่ตอนนี้ผมขอจัดการกับไอ้พวกไอดอลวัยรุ่นน่ารำคาญก่อนแล้วกัน

    ชานซองยกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย

     

    มินยูชักสีหน้าระอากับคู่ขาหนุ่ม

     

    เอาเถอ...จะทำอะไรก็ทำ...แต่อย่าซวยมาถึงเธอก็แล้วกัน!

     

    55% ค่ะ จะมาต่อให้นะคะตามอ่านและให้กำลังใจกันเหมือนเดิมนะค๊า~

     

     

    ชานซองเดินจูงมือจุนโฮเข้ามาในห้องพักส่วนตัวของศิลปิน   ร่างสูงกดไหล่ของอีกคนให้นั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วลงมือเอาสำลีชุบกับครีมล้างเครื่องสำอางก่อนจะค่อยๆวาดสำลีไปบนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างเบาๆ

     

    ริมฝีปากหนายกยิ้มอย่างมีความสุข ส่วนอีกคนก็หลับตาอาจเป็นเพราะความเหนื่อยอ่อนที่ต้องเผชิญมาทั้งวัน

     

    เมื่อเช็ดเสร็จชานซองก็ค่อยๆวางสำลีเบาๆไม่ให้อีกคนตกใจใบหน้าคมก้มลงจนเกือบติดจมูกโด่งจรดลงบนหน้าผากของคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่

     

    นิ้วเรียวปาดไปตามโครงหน้าของจุนโฮอย่างรักใคร่ก่อนจะอุ้มร่างนั้นขึ้นมาวางบนโซฟาเพื่อให้จุนโฮนอนสบายๆ

     

    ชานซองถอดเสื้อคลุมตัวโคร่งของตัวเองออกแล้วจัดการห่มให้กับจุนโฮที่นอนหลับอยู่เสร็จแล้วก็นั่งลงบนพื้นข้างๆโซฟามือหนาลูบหัวอีกคนเบาๆเหมือนกับว่าเป็นการกล่อมให้หลับ

     

     

    ชานซองมองหน้าของอีกฝ่ายที่หลับจาพริ้มแล้วด้วยอารมณ์ที่พาไปจึงก้มหน้าลงอีกครั้งชานซองจูบลงริมฝีปากบางเบาๆ

     

     

    หลังจากทำการจูบเสร็จชานซองก็นั่งลงบนพื้นอีกครั้งก่อนจะกุมมือจุนโฮแล้วเลื่อนมือของคนที่นอนอยู่มากุมแก้มของตนแล้วฟุบลงนอน

     

     

     

     

     

     

     

    ประตูห้องพักศิลปินของคู่ดูโอ้นี้เลื่อนออกเล็กน้อย   คนแปลกหน้ายกมือถือขึ้นมาถ่ายการกระทำทั้งหมดที่ผ่านไปสักครู่ ริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างพอใจและสะใจ

     

    ตึก ตึก ตึก

     

    เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังใกล้เข้ามาที่ห้องพักนี้คนๆนั้นลุกลี้ลุกลนก่อนจะจัดการเซฟคลิปนั้นลงมือถือแล้วเตรียมตัวจะวิ่งหนี

     

     

     

    ร่างของผู้จัดการคิม จุนซูที่ไปคุยงานกับประธานบริษัทมากำลังเดินไปหาศิลปินที่ตนดูแลอยู่

     

    ในจังหวะที่กำลังเดินนั้นก็มีร่างของใครคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบเร่งแล้วเกิดชนขึ้นมาคนๆนั้นรีบจบหมวกลงมาเพื่อปิดบังหน้าตาของตนเอง

     

    จุนซูมองอย่างวไม่ค่อยพอใจ  ไม่มีเสียงขอโทษจากบุคคลนั้นเมื่อจุนซูลุกขึ้นร่างปริศนาก็รีบวิ่งออกไปทันที

     

    อะไรวะ

    ยกมือขึ้นมาเกาหัวเล็กน้อยแล้วเตรีมตัวจะเดินต่อแต่สายตาคมก็บังเอิญเหลือบไปเห็นของที่สะท้อนกับแสงไฟที่ตกอยู่บนพื้น

     

    จุนซูตัดสินเก็บมันขึ้นมาแล้วเปิดดูเผื่อจะมีเบาะแสของเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้

     

    เดินไปดูไปใกล้จะถึงห้องพักของจุนโฮและชานซองและอาจเป็นเพราะความบังเอิญอีกครั้งหรือย่าไงรไม่อาจทราบ

     

     

    ผู้จัดการคิมจุนซูกลับเปิดไปเจอคลิปในโทรศัพท์  และที่น่าอึ้งก็คือบุคคลในคลิปปรากฏเป็นร่างของศิลปินในสังกัดของเขา

     

    จุนโฮ! ชานซอง!

     

     

    จุนซูรีบปิดคลิปนั้นอย่างตกใจ   เรื่องของสองคนนี้ไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่เพราะเขาเองก็พอรู้อยู่แล้วแต่อาจจะไม่เคยได้ยินเจ้าตัวพูดอย่างจริงๆจังๆเท่านั้นเอง

     

    แต่ที่เขาตกใจคือคลิปนี้เป็นฝีมือของใคร!

     

    นอกจากจะมีคลิปของสองคนนี้แล้วยังมีรูปที่มินยูกอดกับอูยองนายแบบที่ตอนนี้พักงานอยู่

     

    แล้วนอกจากนี้ยังมีรูปอีกมากมายที่ทำให้ศิลปินต่างๆทั้งดังและไม่ดังเสียชื่อเสียงกันมานับไม่ถ้วน

     

    ปาปารัซซี่หรอ! งั้นแสดงว่าอย่างน้อยก็ต้องมีหมอนี่รู้เรื่องของชานซองกับจุนโฮแล้วน่ะสิ!

     

     

    จุนซูเปิดประตูเข้าไปเบาๆภาพที่เห็นคือชานซองนอนกุมมือจุนโฮอยู่

     

    เนี่ยล่ะน๊า~เพราะไม่ระวังตัวน่ะสิ ทีหน้าทีหลังต้องบอกให้ล๊อกประตูซะมั่งผู้จัดการส่ายหัวเบาๆ

     

     

    จุนซูมองไปที่ศิลปินในสังกัดของตัวเองอย่างเป็นห่วงก่อนที่จะฉุกขึ้นที่จะหาตัวปาปารัซซี่คนนั้นมาลงโทษ

     

     

    คิม จุนซูเปลี่ยนความคิดที่ตอนแรกจะเดินมาชวนให้สองคนนี้กลับคอนโดกลายเป็นเดินตามหาปาปาปรัซซี่คนนั้น

     

     

    มือบางกดไล่ดูรายชื่อล่าสุดในโทรศัพท์นั้น   ชเว  มินยู!

     

    ผู้หญิงคนนี้เป็นดาราหน้าหใม่ที่ไม่ค่อยจะดังสักเท่าไหร่หน้าตาถือว่าสวยในระดับคนทั่วไปแต่ถ้ามาเทียบกับบุคคลที่ต้องแข่งขันในวงการบันเทิงถือว่าเทียบไม่ติดแล้วไหนจะเป็นความสามารถอันน้อยนิดของเธอที่ไม่เหมาะกับวงการบันเทิงเอาซะเลย

     

    มารยาทไม่มีไม่รู้จักคำว่ารุ่นพี่รุ่นน้องเอาแต่ใจคิดไปเองว่าตนเป็นดาราดังเรื่องมากจนทุกวันนี้ไม่ค่อยมีงานดีๆสักเท่าไหร่จะมีบ้างก็งานที่ต้องสะบัดผ้านิดๆหน่อยๆอาศัยหุ่นดี

     

    เท่าที่ได้ยินได้ฟังมาเธอคนนี้ขยันสร้างเรื่องสร้างข่าวกับจาง อูยองเองก็เหมือนกันคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามินยูวิ่งโร่เข้าไปกอดอูยองเองจนอูยองอึ้งไปพักหนึ่งแล้วสะบัดตัวออก

     

    บอกได้คำเดียวว่าผู้หญิงคนนี้...แรง!

     

    จุนซูเดินออกจากห้องด้วยแววตามุ่งมั่นยังไงๆวันนี้เขาก็ต้องได้เบาะแสของไอ้ปาปารัซซี่คนนี้ให้ได้!!

     

    -----65%----

     

    คิม จุนซูวิ่งไปทางที่ตนเห็นเจ้าคนลึกลับเมื่อกี๊วิ่งผ่านไปตัวเขาเดินมาทางซ้ายซึ่งเป็นทางข้างเวทีส่วนไอ้เจ้าคนร้ายนั้นวิ่งหนีไปทางแยกขวาเมื่อคิดได้จึงสั่งการให้ตัวเองวิ่งตามทางทันที

     

    เมื่อวิ่งมาได้สักพักก็ได้รู้ว่าไอ้ทางที่หมอนั่นหนีมาน่ะมันทางตัน! ใบหน้าหวานหันซ้ายแลขวาหมอนั่นมันจะหนีไปไหนหรือจะวิ่งออกไปทางเดิม   ไม่สิ!ก็ห้องพักของชานซองกับจุนโฮน่ะมันอยู่ตรงแยกพอดีถ้าวิ่งกลับมาเขาก็ต้องเห็นสิ!

     

    ผลัก!

     

    โอ๊ยย~!”เสียงหวานร้องโอดโอยเมื่อมีคนวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือชนเค้าที่กำลังใช้ความคิดอยู่

     

    ขอโทษครับๆ

     

    จุนซูเงยหน้ามองอย่างไม่สบอารมณ์เพราะหมอนี่ดันมาขัดตอนเขาคิดซะได้!

     

    นายเดินยังไงเนี่ย ห๊ะ!”

     

    ขอโทษครับๆผมไม่ได้ตั้งใจ

    ชายคนนั้นที่เดินแบกกล่องมาใส่เสื้อของทีมงานก้มหัวปะหลกๆ   จุนซูส่ายหน้าสองสามทีอย่างอ่อนใจ ก่อนที่จะเอ่ยถามเพื่อหาเบาะแส

     

    ว่าแต่นายน่ะเห็นผู้ชายท่าทางลับๆล่อๆมาทางนี้บ้างมั๊ยใส่หมวกสีดำเสื้อดำกางเกงดำดูท่าทางไม่น่าไว้ใจน่ะ

     

    ไม่เลยครับทีมงานคนนี้ยังพูดไปก้มหน้าอาจเป็นเพราะกลัวความผิดที่ไปเดินชนผู้จัดการคิมเข้า

     

    อืมๆช่างเถอะ...ไปๆไปได้แล้ว

    จุนซูโบกมือไล่ทีมงานคนนั้นทันที

     

    ครับ...ก้มหัวขอบคุณอีกหนึ่งทีก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ

     

    เดี๋ยว!”เขาสะดุ้งอีกรอบกลัวว่าจุนซูจะเปลี่ยนใจมาลงโทษต่อ นายน่ะชื่ออะไรนะ   ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้า

     

    ผม...ชางมินครับ...เพิ่งมาทำงานครั้งแรก

     

    อืม...ฉันจุนซูนะ...ไม่มีอะไรหรอกแค่นี้แหละ   ไปได้แล้ว

     

    ชางมินก้มหัวก่อนจะเดินออกไป

     

     

     

    เฮ้อ~!สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว

    จุนซูบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินคอตกกลับไปหาจุนโฮกับชานซอง

     

     

     

     

     

     

     

    ทางด้านบริษัทใหญ่ PM Entertainment

     

    ชายสองคนกำลังนั่งจิบกาแฟไปคุยกันไปในห้องของผู้บริหารใหญ่...และหนึ่งในนั้นก็มีอ๊ค แทคยอน

     

    เป็นไงบ้างวะไอ้แทค

     

    อือ...ไปได้สวย

     

    แกไม่คิดว่ามันจะใจร้ายไปหน่อยหรอ

     

    ทำไม   เกิดเป็นคนดีอะไรตอนนี้วะ หึหึ

     

    ปล่าววว...ตามใจแกเหอะ

    ชายอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการและเป็นเพื่อนสนิทของแทคยอน....โจควอน 

     

    โจควอนเป็นหนุ่มร่างเล็กตัวบางต่างกับแทคยอนโดยสิ้นเชิงจึงทำให้แปลกใจและสะดุดตาเวลาสองคนนี้เดินไปไหนมาไหนด้วยกันและพูดกันด้วยความเอะอะเพราะสองคนนี้ไม่น่าจะมาเป็นเพื่อนกันได้

     

    อีกคนก็เท่ สามาร์ท  ดูบึกบึนและเป็นผู้นำได้

     

    ส่วนอีกคน...ก็ดูบอบบาง เป็นคุณชาย

     

     

    แต่ที่ทั้งสองมีเหมือนกันคือนิสัย...และนี่อาจจะเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่สนิทกันก็ได้

     

     

     

    แทคยอนวางถ้วยกาแฟลงเบาๆยกขาขึ้นมานั่งไว้ห้างแบบคุณชายเอามือเท้าวางไว้บนโต๊ะนิ้วชี้เคาะโต๊ะอย่างสนุก

     

    แกไม่ต้องคิดมากหรอกน่าไอ้ควอน...ฉันก็แค่แกล้งนิดๆหน่อยๆ

     

    แต่ถ้าเค้ารู้ว่าจริงขึ้นมามันไม่นิดหน่อยแน่ไอ้แทค...ถ้าจุนซูรู้เห้อ~ แล้วจุนซูอ่ะยิ่งสนิทกับหมอนั่นอยู่นายก็รู้...มีหวังนายโดนผู้จัดการคิมกระทืบตายแน่ๆไอ้แทค

     

    ไม่หรอกน่า

     

    ก็พูดงี้ทุกที

    โจควอนเบะปากกับคำพูดของเพื่อนรัก

     

    นายมันโครตจะงี่เง่าเลยว่ะ แทค!’

     

    เกิดอะไรขึ้นมาฉันถือว่าฉันเตือนแกแล้วนะ

     

    อือ...ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง หึหึ

     

    แทคยอนนั่งเท้ายิ้มกริ่มในผลงานของตัวเองที่กำลังจะไปได้สวย

     

     

    .....แต่แน่ใจหรอแทคยอน ว่าการกระทำของตัวเองก็ไม่ส่งผลย้อนจนทำให้เสียน้ำตา.....

     

     

    ----75%----

     

     

    (อย่าลืมกดเพลงฟังก่อนอ่านนะที่รัก) 

     

     

    ในคอนโดหรูหราใจกลางเมืองร่างเล็กของผู้จัดการปาร์ค แจบอมกำลังนั่งกินนอนกินอยู่อย่างสบายใจ

     

    สักพักได้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น   สายตาเรียวเหลือบไปมองที่หน้าจอเพื่อดูรายชื่อว่าใครโทรมาดึกดื่นป่านนี้

     

    แทคยอน

     

    แค่เห็นชื่อเสียงหัวใจก็เต้นดังอย่างปะหลาดใบหน้าขาวซับสีเลือดแดงอย่างเห็นได้ชัดเจ้าตัวรีบวางขนมที่กินเมื่อสักครู่ลงและเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์แล้วกดรับทันที

     

    คะ...ครับคุณแทค

     

    [รับเร็วจังครับ]

     

    เอ่อ...คือเมื่อกี๊ผมเพิ่งวางสายตาจากอูยองนะฮะโทรศัพท์มันอยู่ในมือพอดี

    โกหกคำโต...คิดว่าปลายสายไม่รู้รึไงเนี่ย ปาร์ค แจบอม

     

    [ครับ หึหึ]

     

    แล้วคุณมีธุระอะไรหรอครับถึงได้โทรมาหาผม

     

    [ไม่มีธุระแล้วโทรมาไม่ได้หรอ]

     

    ปล่าวครับ

    ได้ยินแบบนั้นแจบอมก็รีบละล่ำละลักแก้ตัวทันที

    คือ...ผมไม่คิดว่าคุณจะโทรมานอกจากเรื่องงาน

     

    [ผม...ก็แค่อยากได้ยินเสียง]

     

    แค่เพียงคำพูดแค่นั้นของแทคยอนก็เล่นเอาคนที่ได้ฟังเขินจนพูดอะไรไม่ออก

     

    คุณโทรมาแค่นี้หรอครับ

     

    [อืม...อยากให้คุณบอกฝันดีผมก่อน]

     

    หา! ทำไมผมต้องพูดแบบนั้นด้วยล่ะฮะ

     

    [ก็ผมอยากได้ยิน...เอาน่า~แจบอมแค่คำว่าฝันดีเองพูดไม่ยากหรอก]

     

    ใช่สิ!พูดกับคนอื่นน่ะไม่ยากหรอกแต่ต้องมาให้พูดกับเจ้านายตัวเองเนี่ย...มันยากนะเฮ้ย!!

     

    ผม...ผมว่าคุณไปนอนดีกว่านะ   ดึกแล้วนะครับเดี๋ยวตื่นไม่ไหว

    เป็นประโยคที่เหมือนจะเลี่ยงการทำตามคำขอเมื่อครู่แต่ก็แฝงความห่วงใยเอาไว้...ทำไมแทคยอนจะฟังไม่ออก

     

    [ถ้าคุณไม่พูดงั้นผมก็ไม่นอน...แล้วผมจะไปบอกทุกคนว่าคุณนั่นแหละ...ที่ทำให้ผมไม่ได้นอน]

    ฟังดูแล้วแจบอมรู้สึกว่าตัวเองเสียหายมากถึงมากที่สุด= = ทำไมแทคยอนต้องใช้คำพูดส่ออะไรปแบบนี้ด้วยนะ

     

    โถ่~คุณ  อย่าบังคับผมเลยครับ

     

    [โถ่~คุณบอกผมหน่อยนะครับ]

    แทคยอนเลียนแบบสำเนียงการพูดของอีกฝ่าย

     

    ถ้าผมบอกคุณจะไม่โทรมากวนแล้วก็จะไปนอนใช่มั๊ยครับ

     

    [ครับ]

     

    เฮ้อ~”แจบอมถอนหายใจหนึ่งครั้ง

    ฝันดีฮะว่าจบก็รีบกดปุ่มวางสายโดยเร็วก่อนจะทิ้งตัวและหน้าลงไปกับเตียงนอนนุ่ม...แต่ใครจะรู้ว่าใบหน้าที่ติดกับเตียงนั้นจะแดงจนไม่รู้จะแดงอย่างไรแล้ว

     

    ส่วนฝั่งของแทคยอนร่างสูงทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มเอาโทรศัพท์แนบไว้กับอกด้านซ้ายริมฝีปากยกยิ้มอย่างพอใจ

     

    คืนนี้สงสัยจะฝันดีแน่ๆเลย

     

     

     

     

     

     

    ทางด้านจางอูยองและนิชคุณ

     

    เมื่อทั้งคู่กลับมาจากร้านอาหารนิชคุณก็นั่งหน้าบูดบึ้งไม่พูดไม่จาส่วนอูยองก็ได้แต่เหลือบตามองเป็นพักๆสงสัยกับท่าทางของอีกคน

     

    นิชคุณเลือกที่จะนั่งดูทีวีที่โซฟาทั้งๆที่ดูหนังตลกแต่เจ้าตัวกับนั่งนิ่งสายตาเคร่งเครียดเหมือนกับว่าไม่ได้ใส่ใจกับโทรทัศน์เท่าใดนัก...ก็คนมันอารมณ์ไม่ดี

     

    อูยองเดินเข้าครัวไปปอกผลไม้และตั้งใจจะนำมาให้อีกฝ่ายแต่ก็เหมือนมีอะไรกั้นไว้ทำให้ไม่กล้าเดินไป...บางทีสิ่งที่กั้นไว้อาจจะเป็นหน้างอง้ำของนิชคุณนั่นแหละ

     

    แต่ยังไงก็ปอกออกมาแล้ว...ช่างมันเถอะน่า!

    อูยองเดินถือผลไม้เอาไปวางไว้หน้าของนิชคุณ...คนตัวสูงกว่ามองนิดนึงก่อนจะหันไปสนใจโทรทัศน์ต่อราวกับว่าสิ่งอยู่ตรงหน้าเป็นเพียงธาตุอากาศ

     

    อูยองหน้าเสียก่อนจะก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วโพล่งถามขึ้นในสิ่งที่ค้างคาใจ

     

    คุณ...โกรธอะไรผมหรอครับ

     

    นิชคุณเหลือบมองเล็กน้อย

    ปล่าว! ผมมีสิทธิ์อะไรจะไปโกรธคุณล่ะ!”

     

    คุณโกรธผม

     

    ผมบอกว่าปล่าว

     

    แล้วที่คุณพูดหมายความว่าไง

     

    นิชคุณเหยียดตัวเองขึ้นจากโซฟานุ่มก่อนจะตะคอกอีกฝ่ายเสียงค่อนข้างดัง

     

    ผมมันไม่มีสิทธิ์ในตัวคุณอยู่แล้วล่ะ คุณจะไปบอกชื่อตัวเองให้ใครต่อใครรับรู้มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมหรอก อูยอง!”

    คนโดนตะคอกหงายหลังไปนิดนึงด้วยความตกใจ

     

    ...เขาทำอะไรผิดก็แค่บอกชื่อแค่นั้นเนี่ยนะ!

     

    คุณโกรธอะไรผมกันแน่นิชคุณ

     

    เมื่อโดนอีกฝ่ายตั้งคำถามใส่ร่างสูงก็ยืนนิ่งไป...นั่นสิ...เขาโกรธอะไรคนตัวเล็กตรงหน้าเพราะอีกฝ่ายบอกชื่อกับคนอื่นงั้นหรอ...แล้วยังไง...บอกแล้วทำไม   มันไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วทำไมเขาต้องโกรธขนาดนี้ด้วย

     

     

    ไม่รู้...แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้เลย...รู้สึกเหมือนโดนผู้หญิงหยามหน้าอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆที่เธอคนนั้นก็ไม่ได้ทำไรเขาซักนิด

     

    ...ก็แต่ถามชื่ออูยอง...บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้หงุดหงิดอยู่ตอนนี้ก็ได้

     

    คุณ...นี่คุณ!”

    นิชคุณสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเรียกเสียงดัง

     

    อะ...อะไร    

     

    ตกลงยังไง...คุณโกรธผมเรื่องอะไรกันแน่ครับ...แล้วอย่าคิดว่าจะเอาเรื่องที่ผมไปบอกชื่อคนอื่นมาอ้างล่ะ

    คนตัวเล็กกว่าขมวดคิ้ว...เหตุผลที่เขาไปบอกชื่อคนอื่นมันฟังไม่ขึ้นเลยครับ คุณนักเขียน!

     

    ....ฟังไม่ขึ้นก็ต้องแล้วล่ะ เพราะมันเป็นความจริง จาง อูยอง....

     

    ผม...ผมแค่รู้สึกไม่ดี

    นิชคุณทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาเอามือกุมหน้าผากสีหน้าเหนื่อยอ่อน...มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องหงุดหงิดขนาดนี้เลย

     

    เพราะผมรึปล่าว

     

    นิชคุณเงยหน้ามอง...เพราะอูยองหรอ?

     

    ใช่...บางที่อาจจะเป็นเพราะคุณ

    อูยองเบิกตากว้างแล้วสีหน้าค่อยๆเศร้าลงอย่างสังเกตเห็นได้ชัด

     

    ...ในความหมายของนิชคุณ

    เขาไม่เข้าใจตัวเองไม่อยากให้คนๆนี้ไปยุ่งกับใครเลย ที่เหนื่อยก็เพราะคิดมากไม่อยากให้คนๆนี้ไปไหนทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน...อยากจะเก็บอูยองเอาไว้ใกล้ๆเขาคนเดียว

     

    ...ในความหมายของอูยอง

    นิชคุณคงเหนื่อยที่ต้องรับภาระดูแลคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าในปี1961อย่างเขา บ้านก็ไม่มี ญาติก็ไม่มี แล้วต้องมาทำให้คนๆนี้เหนื่อยอีก...เขามันไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ

     

    บางที...

    เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างยากลำบาก

     

    นิชคุณเงยหน้ามอง

     

    ผมคิดว่าผมไม่ควรจะอยู่ที่นี่

    ตากลมโตของนักเขียนหนุ่มเบิกโพลงขึ้นอย่างตกใจ...นี่อูยองของเขาเข้าใจอะไรผิดไปใช่มั๊ยเนี่ย...โถ่เอ๊ย~!น่าจะพูดให้มันชัดเจนไปซะ!

     

    ทั้งๆที่คิดแต่ปากก็ไม่เอ่ย

     

    อูยองเห็นว่าเจ้าของบ้านไม่ได้พูดอะไรร่างบางก็เดินออกไปจากบ้าน

     

    ...เขามาที่นี่ตัวเปล่า

     

    ...เขาก็ควรจะกลับไปตัวเปล่า

     

    ...แต่ขอเพียงอย่างเดียวสมุดไดอารี่เล่มนี้ สิ่งที่อูยองถือติดไปไหนมาไหนตลอด นิชคุณอาจไม่สังเกต แต่เขาก็อยากจะเก็บมันไว้...ถ้าสักวันจาง อูยองได้กลับไปในที่ของเขา

     

    ...ถ้าสักวันเราไม่ได้พบกันอีก...

     

    ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรให้มันเลยเถิดไปกว่านี้ มือหนาก็คว้าตัวอีกคนเข้ามากอด

     

    อย่าไป...

    อูยองเงยหน้ามอง

     

    อย่าไปนะอูยอง...ผมขอโทษ...ผมไม่ควรพูดแบบนั้น

     

    แต่...

     

    ฟังผมอูยอง...คุณเข้าใจผิด...ผมแค่เหนื่อยที่ตัวเองคิดแต่เรื่องของคุณผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร  แต่คุณได้โปรดเข้าใจผม...ผมไม่อยากให้คุณยิ้มกับใครนอกจากผม...ผมไม่อยากให้คุณเข้าใกล้ใครนอกจากผม...ผมไม่อยากให้คุณเที่ยวไปบอกชื่อของตัวเองกับใครต่อใครเพราะผมอยากเรียกชื่อของคุณเพียงคนเดียว

     

    อูยองมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ

    แต่ว่า...

     

    ผมรู้ว่าผมมันเห็นแก่ตัว...แล้วก็งี่เง่ามาก...แต่คุณอย่าเกลียดผม...อย่าไปไหนเลย...แค่คุณหันหลังไปผมเมื่อกี๊ผมก็แทบอยากจะตบปากตัวเองให้มันแตกที่มันพูดอะไรไม่คิดทำให้คุณต้องเสียใจ

     

    คุณไม่ควรให้ความสำคัญกับผมมากหรอกขนาดนี้หรอกครับ...เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ของผม...สักวันผมก็ต้องกลับไป

     

    อูยอง...

     

    สักวันผมก็ต้องจากที่นี่แล้วก็ต้องจาก...

     

    ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบนิชคุณก็โถมตัวเองเข้าใส่อูยองในทันทีปากหนาประกบกับริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว

     

    เหตุผลหนึ่งเพราะปากคนตรงหน้าที่มันยั่วยวนพูดอยู่...แต่อีกเหตุที่สำคัญจริงๆอาจเป็นเพราะเขาไม่อยากได้ยินคำพูดนั้นของอูยอง

     

    ...ว่าสักวันอูยองต้องจากเขาไป...

     

    ลิ้นร้อนของร่างสูงพยายามกระหวัดเกี่ยวลิ้นของอีกฝ่ายอูยองที่ตอนแรกตกใจทำอะไรไม่ถูกแต่สักพักเมื่ออีกฝ่ายรุกมากขึ้นก็เล่นเอาร่างบางเคลิ้มตามได้โดยง่าย

     

    หวานเหลือเกิน...นิชคุณรุกล้ำโพลงปากของอีกคนอย่างเคลิบเคลิ้ม...เขาไม่เคยจูบใครแล้วรู้สึกดีเท่านี้มาก่อนส่วนอูยองก็รับส่งการกระทำกับนิชคุณได้ดี

     

    ...ไม่อยากจะไปจากอ้อมกอดนี้...จากให้เวลาช่วยหยุดตอนนี้ไว้นานๆจัง...

     

     

    แต่ขณะเดียวกันความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็แล่นเข้ามาในใจ

     

    เขามีคนรักอยู่แล้ว

     

    มือบางผลักอีกคนออก

     

    เขามีอีกคนอยู่แล้ว...แล้วเธอคนนั้นก็เหมาะสมกับเขามาก   ต่างกับเขาที่ตอนนี้ตัวเองเป็นใครในช่วงเวลานี้ก็ยังไม่รู้เลย

     

    อูยอง...

    นิชคุณขานชื่ออีกคนเสียงแผ่ว

     

    มันไม่ควรเลยที่เราจะทำอะไรแบบนี้...คุณมีเธออยู่แล้วคุณมีชื่อเสียงผมไม่อยาก...

     

    อย่าพูดนะ!”นิชคุณตัดบท

    อย่าพูดถึงใครอูยอง...ตอนนี้มีแค่คุณกับผม

     

    อย่าทำให้ผมรู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลยครับ

     

    นิชคุณดื้อรั้นไม่ฟังคำของจาง อูยองร่างสูงเดินมาสวมกอดอีกฝ่าย

     

    ถือซะว่าเมื่อกี๊มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบของคุณกับผม

     

    มันไม่ใช่นิชคุณเถียง

    คุณรอผมได้มั๊ย...รอผม

     

    อูยองกอดอีกฝ่ายกลับนิชคุณยิ้มและกระชับอ้อมกอดนี้ให้แน่นขึ้น

     

    อูยองหลับเพื่อกักน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมา...มันผิด...ผมรู้ว่ามันผิด...แต่ทำไม...

     

     

    .....บางทีเรื่องความรักก็ไม่ควรใช้เหตุผลจนลืมความรู้สึกไม่ใช่หรอ จาง อูยอง.....

     

     

    หลังจากเหตุการณ์นั้นทั้งคู่ก็ลืมมันไป...เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่ควรเก็บมันมาทำให้ความรู้สึกดีๆในตอนนี้แย่ลงไปอีก

     

    นิชคุณเดินจูงอีกคนขึ้นมาบนห้องนอนก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำ...ส่วนอูยองอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนกินข้าวเย็นเสียอีก

     

    มือบางคว้าปากกากับสมุดไดอารี่สุดหวงขึ้นมาเขียนก่อนจะนอนหลับไป

     

     

    วันนี้เกิดเรื่องแปลกๆขึ้นเยอะแยะเลย...ผมควรจะทำยังไงดี...ทั้งความรู้สึกของตัวเองกับความรู้สึกของเขา...ผมจะสานต่อหรือควรหยุดมันดี...

     

                    7   กุมภาพันธุ์   1961

    จาง   อูยอง

     

     

    **************************

     

    Writer  Talk

     

              จบไปแล้วอีกหนึ่งตอน รู้สึกกดดันกับพี่น้องคู่นี้กันบ้างมั๊ย55+ แต่อะไรๆมันก็จะดีขึ้นเนาะ  พอเขียนไปเรื่อยๆเริ่มรู้ว่าไม่มีตอนฮาๆเลย= = แต่มีแน่นอนค่ะแค่ยังไม่มี55+ สำหรับแทคยอนรับรองค่ะว่าไม่มีดัดฟันในเรื่องแน่นอน^^ส่วนแผนจะดีจะร้ายก็ต้องตามอ่านกันล่ะค่า~ ตั้งแต่สงกรานต์ไรเตอร์แทบไม่ได้แตะคอมเลยค่ะอยู่บ้านไม่ทันหายใจก็ต้องเหาะไปไหนต่อไหนกับบุพาการีเพื่อความกตัญญูT T บ่นมาก55เริ่มรู้ตัว ยังไงรีดเดอร์ก็ให้กำลังใจเราต่อไปนะคะ สัญญากับเรานะว่าจะไม่ทิ้งกัน

     

    ในปีใหม่ไทยนี้ก็ขอให้มีความสุข ทั้งเรื่องเรื่องเงินเรื่องงานเรื่องรักนะคะ^^

     

    C u tomorrow^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×