คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ...TIME 2... [100%]
Nichkhun
******************
Time
2
ท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้และทะเลสาบที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามติดอันดับของประเทศเกาหลีใต้
รถคันสีขาวของแลมโบกินี่เปิดประทุนคันหรูกำลังแล่นไปตามท้องถนน...ใครต่อใครที่ขับรถผ่านถึงกับต้องมอง ถามว่ามองอะไรมองรถ...ก็ใช่
รถหรูจากนอกเป็นใครใครก็มอง ประเมินราคาด้วยสายตาก็ไม่รู้กี่สิบล้าน
แต่ก็เป็นเพียงเหตุผลรองเท่านั้น เหนืออื่นใดนั้นสิ่งที่ดึงดูดสายตาอาจมาจากผู้ที่กำลังบังคับรถคันนี้อยู่เพราะรถคันสวยที่เปิดประทุนทำให้มองเห็นคนในรถได้อย่างชัดเจนร่างแข็งแกร่งแต่ก็ดูน่าปกป้องไปด้วยกัน ไหนจะผิวขาวเนียนที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาเนื่องจากเจ้าตัวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางปลดกระดุมสองเม็ดพับแขนขึ้นไปไว้เหนือข้อศอก
นอกจากนี้ดวงหน้าคมที่ติดหวานหน่อยๆจมูกโด่งรับกับริมฝีปากบางชมพูระเรื่อสวมแว่นกันแดดสีชายิ่งเพิ่มความหล่อเหลาให้กับคนๆนี้ยิ่งขึ้นไปอีก
ผู้คนที่ผ่านไปมามองชายคนนี้ด้วยความตื่นเต้น...เพราะว่าเขาดูเหมือนจาง อูยองนายแบบและดาราชื่อดังซะเหลือเกิน
แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แค่คล้ายเพราะเขาคนนี้แหละนายแบบดาราชื่อดังคนนั้น
อูยองได้ขับรถมุ่งสู่จุดหมาย บ้านพักตากอากาศของเขา
เมื่อถึงบ้านพักแล้วจาง อูยองได้ก้าวขาลงจากรถพร้อมถอดแว่นกันแดดออกตาคมเรียวมองสำรวจไปทั่วบ้านก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจภายในบ้านหลังนี้
ตัวนอกบ้านเป็นสีขาวครีมดูแล้วสบายตาหน้าต่างเป็นแบบเปิดขึ้นสีครีมเข้มดูชัดกว่าสีบ้าน มองขึ้นไปจากบ้านข้างบนเป็นหลังคาสีครีมเข้มสีเดียวกับหน่าต่าง รอบๆบ้านส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยต้นไม้ทั้งแบบพุ่มและแบบยืนต้นเพื่อป้องกันแสงแดดและสายตาผู้คนจึงทำให้ที่นี่ดูเป็นที่ส่วนตัวมาก ติดกับบันไดทางขึ้นเข้าตัวบ้านดอกไม้สีขาวและเหลืองสลับกันไปดูแล้วสดชื่นสบายใจ
อูยองมองอย่างชื่นชมระคนแปลกใจ...บ้านที่ไม่มีใครอยู่เหตุใดต้นไม้และดอกไม้กลับอยู่อย่างสวยงามไม่ดูรกอย่างที่เขาคาดไว้ ราวกับว่ามีใครคอยดูแลมันอย่างนั้น
...แต่บางทีอาจจะเป็นแม่ของเขาที่ส่งคนมาดูแลก็ได้ เมื่อคิดได้แบบนั้นก็สะบัดหน้าไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว
ภายในตัวบ้านเป็นโทนสีครีมมีสีน้ำตาลแซมเล็กน้อยเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ออกสีน้ำตาลอ่อนรับกับสีภายในตัวบ้าน
อูยองทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มก่อนจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าเดินขึ้นไปบนตัวบ้าน
ถามว่าชอบบ้านหลังนี้มากน้อยแค่ไหน...ต้องขอตอบว่าพอใจมาก ดูเป็นส่วนตัวและอบอุ่นเกินกว่าที่คาดไว้ เขาจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเวลา2เดือน
แค่คิดก็รู้สึกสนุกแล้วถึงจะเป็นเวลาแค่2เดือนแต่เขาก็ไม่ต้องทนสายตาของใครต่อใครที่มองมาอีก
อูยองหยุดที่ห้องนอนบิดลูกบิดประตูห้องข้างในห้องเป็นโทนสีเดียวกับภายในตัวบ้านเตียงนอนสีขาวเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลอ่อน เหมือนกับว่าสิ่งของต่างภายในบ้านหลังนี้ถูกสั่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ลมพัดผ้าม่านสีขาวปลิวสะบัดอยู่ตรงหน้าต่าง
อูยองล้มตัวนอนลงบนเตียงกางแขนเสมือนว่ากำลังโอบรับลมเย็นๆที่พัดเข้ามาในห้องตาเรียวปิดลงพร้อมกับเหนื่อยอ่อนที่ต้องขับรถจากโซลมาถึงที่นี่พร้อมกับลมหายใจที่ดังขึ้นสม่ำเสมอเป็นเครื่องแสดงว่าคนๆนี้ได้หลับอย่างมีความสุขในรอบปีเลยก็ว่าได้
“อูยอง...จางอูยอง”
ตาเรียวค่อยๆเปิดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์...ใครกันที่เป็นเจ้าของเสียงที่สร้างความรำคาญให้กับเขา
“อูยอง”
อูยองจ้องภาพข้างหน้าอย่างลืมตัว...ชายหนุ่มที่สูงกว่าเขาซัก3เซนต์เห็นจะได้รอยยิ้มหวานกับดวงตาที่มองมาที่เขาอย่างอบอุ่น
“คุณ...เป็นใคร”อูยองถามคนข้างหน้าอย่างงงวย
ชายคนนั้นยิ้มหวานให้กับเขาก่อนจะนั่งลงข้างเตียงมือกร้านแตะลงบนศรีษะนุ่มของคนที่กำลังนั่งงงอยู่
“ผมคิดถึงคุณ...คิดถึงคุณเหลือเกิน”
“คุณเป็นใคร...เข้ามาได้ยังไง...แล้ว...แล้ว”อูยองละล่ำละลักถามคนๆนั้น
แต่ชายคนนั้นกับเอานิ้วชี้เรียวยาวแตะลงบนริมฝีปากนุ่มนั้น
“เดี๋ยวเราก็ได้พบกัน”พูดจบก็ค่อยๆเดินออกไป
“เดี๋ยว...คุณ!เดี๋ยว!”
อูยองสะดุ้งลุกขึ้นจากเตียงอย่างตกใจเหงื่อแตกตามไรผม เขามองไปรอบๆตัว...ไม่มีใครห้องก็ปิดสนิท
ฝันงั้นหรอ...
ชายหนุ่มได้แต่นึกในใจว่าคงทำงานหนักเกินไปจนเก็บอะไรต่อมิอะไรมาฝันก็ได้
เขาทิ้งตัวลงนอนแต่กลับไม่กล้าหลับตาแขนบางถูกยกขึ้นมาก่ายหน้าผาก
“ทำไมฝันมันเหมือนจริงจังเลย”
มาต่อแล้วนะคะ^^
ร่างเล็กของผู้จัดการปาร์ค แจบอมกำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟามือซ้ายก็หยิบมันฝรั่งทอดโยนเข้าปาก มือขวาก็หยิบรีโมทกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ
ติ๊ด ตี่ ดี่ ดี ดิ๊ด ดิ๊ด ดิ๊ด~
แจบอมลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์สีขาวหน้อจอขึ้นเป็นชื่อผู้บริหารยักษ์ใหญ่อ๊ค แทคยอนคนที่นอนสบายเมื่อกี๊สะดุ้งเฮือก! ถึงจะไม่ได้ทำผิดอะไรแต่ก็อดใจหายไม่ได้ทุกทีเวลาต้องคุยกับพวกคนใหญ่คนโตเนี่ย
“คะ...ครับ...ปาร์ค แจบอมครับ”
“คุณแจบอม”เสียงเข้มดังลอดมาตามสายแจบอมได้ฟังก็จินตนาการเป็นหน้าดุๆของคุณอ๊คกำลังแยกเขี้ยวอยู่แน่ๆ
แต่เหมือนคุณปาร์คจะคิดผิดเพราะไอ้เสียงเข้มๆน่ะผิดกับสีหน้าของคนที่กำลังพูดอยู่อย่างเห็นได้ชัด ถ้ามีคนมองอยู่เขาก็ตกใจไม่น้อยเพราะคนอย่างอ๊ค แทคยอนยิ้มให้ใครง่ายๆซะที่ไหนแต่ตอนนี้คนที่กำลังยิ้มยากกำลังยิ้มปากแทบฉีกถึงรูหู....แสดงให้เห็นชัดเจนว่าตอนนี้กำลังอารมณ์ดี...มาก
“ครับ...คุณมีอะไรรึปล่าวครับ”
“หึหึ...อะไรครับถ้าไม่มีเรื่องอะไรผมจะโทรหาคุณไม่ได้หรอ”ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากระต่ายตัวเล็กของเขาต้องกำลังก้มหน้างุดๆอยู่แน่ๆ
“ปะ...ปล่าวครับ”เสียงอ่อยๆส่งเข้าหูของคุณอ๊ค แทคยอนยิ่งส่งผลให้รอยยิ้มกว้างขึ้นอีก
“หึหึ ไม่ต้องกลัวหรอกครับคุณปาร์คผมแค่จะมาทวงสัญญา”
“สัญญา?”
“ครับ ก็ที่คุณสัญญาว่าจะไปกินข้าวกับผมไงครับ”
“อ่อ”แจบอมคลายความสงสัยลง
“เดี๋ยวผมจะไปรับคุณที่คอนโด...คุณอยู่คอนโดเดียวกับจาง อูยองใช่มั๊ย”
“เอ่อ...ครับ...แต่ความจริงผมไปที่ร้านเลยก็ได้นะฮะคุณแทคยอนนัดร้านมาเลยดีกว่าครับ”
“ไม่ได้หรอกครับ...คุณจะไปยังไงขับรถไม่เป็นไม่ใช่หรอแล้วอีกอย่างผมไม่ปล่อยให้คุณขึ้นแท๊คซี่คนเดียวหรอกนะ...มันอันตราย”
เสียงเข้มสั่งห้ามคู่สายตัวเอง ก่อนที่จะจบประโยคลงด้วยเสียงอบอุ่นเล่นเอาแจบอมถึงกับหน้าแดง
“อะ...เอ่อ...เอางั้นก็ได้ฮะ”
“ดีมากครับ...งั้นผมให้เวลาคุณแต่งตัว10นาทีนะครับ”
“ครับ...งั้นแค่นี้นะฮะ”
นิ้วเรียวกดวางสายลง มือถูกยกขึ้นไปแนบอกตรงบริเวณหัวใจ
“บ้าที่สุด...ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้นะ”
ทางบ้านพักตากอากาศที่ทะเลสาบชงจู
จาง อูยองใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางกับกางเกงแสล๊คสีครีมกำลังจิบชาอยู่ตรงระเบียงด้านนอกของห้องนอน
ลมพัดแรงกว่าตอนมาถึงผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวไปตามลมตาเรียวจดจ้องไปยังทะเลสาบ
นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้รู้สึกสบายใจแบบนี้...เป็นทุกครั้งที่จางอูยองคนนี้รู้สึกแย่แต่ถ้าได้เหยียบบ้านหลังนี้เค้ากลับรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนกับว่ามันอบอุ่นมากราวกับมีคนโอบกอดเขาอยู่
ปากเรียวสีชมพูยกยิ้มบางๆอย่างมีความสุข
จิบชาตากลมสักพักอูยองจึงตัดสินใจเดินเข้าห้องเพราะถ้าอยู่ข้างนอกนานกว่านี้หวัดได้ถามหาแน่ๆ
ร่างกายผอมบางแต่อัดแน่นไปด้วยกล้ามตามแบบฉบับนายแบบนั่งลงบนเตียงสายตากวาดมองไปรอบๆห้องสีครีมก่อนที่จะหยุดลงบนหัวนอน
กล่องไม้ที่ดูมีราคาอูยองหยิบมันขึ้นพลิกซ้ายพลิกขวาไม่รู้ว่าทำไมถึงสนใจกล่องนี้นัก
และด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงพยายามใช้นิ้วยาวๆแงะปากกล่องออกจากันสำรวจกล่องไม้สักพักตาก็เหลือบไปเห็นตรงริมปากฝากล่องด้านขวา jang wooyoung คนสำรวจมองอย่างสงสัยนี่มันชื่อของเขา ภายในกล่องไม้มีหนังสืออยู่หนึ่งเล่มกับแหวนหนึ่งวง
อูยองตัดสินใจหยิบหนังสือขึ้นมาดูเป็นอย่างแรกมือบางเปิดหนังสือออกดู
ดูเหมือนว่าจะเป็นไดอารี่.....
ตาคมกวาดตัวหนังสืออ่านอย่างช้าๆ
ให้ตายเหอะ!นี่มันวันอะไรกัน นี่ปี1961! สาบานได้ว่าไอ้หล่อมันบอกผมแบบนั้น
นี่มันอะไรกัน ตกลงผมบ้าหรือเขาบ้ากันเนี่ย....ใครก็ได้บอกผมที!!
6 กุมภาพันธ์ 1961
จาง อูยอง
คนที่กำลังอ่านอยู่ขมวดคิ้ว ชื่อเขาหรอไม่ใช่มั้งในนี้เขียนไว้ว่าปี1961 เขายังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำคงจะเป็นญาติของเขาที่บังเอิญชื่อซ้ำกันซะมากกว่า...
ยิ่งอ่านยิ่งงงอูยองตัดสินใจปิดหนังสือแล้วไปอาบน้ำอาบท่า
ผมกายแกร่งในผ้าขนหนูพันไว้แค่เอวกับผ้าขนหนูผืนเล็กไว้เช็ดผมเดินออกมาจากห้องน้ำ เดินไปหยิบเสื้อผ้ามาแต่งตัวซะเรียบร้อยแต่ไม่วายยังหยิบแหวนสีเงินในกล่องไม้มาดู
ถึงจะเหมือนไม่มีราคาค่างวดแต่มันก็สวยมาก...สวยจนละสายตาไปไม่ได้
จาง อูยองสะบัดหัวไล่ความคิดออกก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้ววางแหวนกับสมุดไดอารี่ไว้บนหัวนอน
นายแบบหนุ่มหลับแล้ว สายลมพัดแรงขึ้นเข้ามาทางหน้าต่างทำให้สมุดบันทึกเปิดออกราวกับมีคนจงใจ
กระดาษสีน้ำตาลพลิกไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...จนหยุดที่หน้าสุดท้ายแล้วสายลมนั้นก็หยุดลง
แจบอมยืนรอแทคยอนอยู่หน้าคอนโด สักพักเฟอร์รารี่สีดำคันหรูก็หยุดตรงหน้าประตูรถเปิดออกให้เห็นผู้ชายร่างสูงใส่ชุดเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนกับกางเกงแสลคสีดำใบหน้าหล่อเหลาถูกบังด้วยแว่นกันแดดทรงผมที่ดูเรียบร้อยจากเวลาปกติได้แปรเปลี่ยนเป็นทรงผมเท่แบบวัยรุ่นที่ถูกเซตให้ตั้งอย่างดูดี
มันดูเท่เสียจนปาร์ค แจบอมอดชื่นชมไม่ได้
“รอนานรึปล่าวครับคุณปาร์ค”
“เอ่อ...ไม่หรอกครับ”
“งั้นเชิญครับ”
ร่างสูงสง่าของแทคยอนเดินอ้อมรถหรูไปเปิดประตูให้คนที่ทำท่าเงอะงะเดินมาที่รถอย่าเขินอาย
แทคยอนยิ้มให้กับท่าทางที่น่ารักน่าเอ็นดูนั้นแล้วค่อยเดินขึ้นรถฝั่งขนขับแล้วรถก็ได้ฤกษ์เคลื่อนตัวเสียที
ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงจุดหมาย
ร้านอาหารหรูบรรยากาศดีแค่เห็นก็รู้ว่าอาหารราคาพาเสียน้ำตาเป็นแน่แท้
ปาร์ค แจบอมบืนอ้าปากค้างอยู่หน้าร้านก่อนจะชี้ไปที่ร้านแล้วทำปากพะงาบๆ
แทคยอนหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินนำคนที่กำลังอึ้งเข้าไปในร้าน
แจบอมเดินไปหันซ้ายหันขวาไป ให้ตายเหอะ!มีแต่พวกดาราดังๆกับพวกไฮโซทั้งนั้นสงสัยเงินในกระป๋าเค้าคงฉีกก็วันนี้นี่แหละ...
สงสัยต้องไปอาศัยกินข้าวกินปลาบ้านไอ้จุนซูเพื่อนรักไปหลายวันเนื่องจากไม่มีเงินแน่ๆ
“อุ๊ย!นั้นคุณอ๊ครึปล่าวนะ”แจบอมหันไปตามเสียงซุบซิบของสาวๆภายในตัวร้าน
“แล้วใครที่มากับเขาน่ะ!...คนรับใช้หรอ”
จึก!เสียงมีดแหลมๆปักกลางหลังของคุณปาร์ค ใครจะไปรู้เล่าว่ามาร้านหรูแบบนี้จะได้แต่งตัวมาดีๆนะนี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าถึง500รึปล่าวก็ไม่รู้
แล้วอีกอย่างงานเขาก็เป็นผู้จัดการของจางอูยองเลยนะ จาง อูยองนะเฮ้ย!แต่อาจเป็นเพราะว่าเป็นผู้ทำงานอยู่เบื้องหลังเลยไม่ค่อยมีใครเห็นหน้าค่าตาเค้าสักเท่าไหร่
แทคยอนหยุดกะทันหันทำให้คนเดินตามหลังที่กำลังบ่นๆอยู่ในใจเดินชนแผ่นหลังแกร่งไปเต็มๆ
ใบหน้าคมยิ้มเท่ให้คนตัวเล็กกว่ามือหนาเอื้อมมาโอบไหล่คนข้างกายให้เดินไปพร้อมกัน คนโดนโอบกะทันหันทำหน้าเหรอหรา
การกระทำนี้ส่งผลให้สาวน้อยสาวใหญ่ถึงกับกรีดร้องออกมากับสถานะที่คุณชาย อ๊ค แทคยอนประกาศชัดเจนซะเหลือเกิน
“เอ่อ...คุณแทค”
“หืม...ว่าไงครับ”
“เอ่อ...มือ...เอ่อ...”
ยิ่งเห็นน้ำเสียงอึกอักของคนที่ตัวเองกำลังโอบก็ยิ่งเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงยิ่งขึ้น
“มือ...มือทำไมหรอ”
“คือ...มือ...เอ่อ...ป่าวครับ”
จะพูดก็ไม่กล้าพูดร่างเล็กก็ก้มหน้างุดๆ
ไม่นานทั้งคู่ก็เดินมาถึงโต๊ะวีไอพีที่สั่งจองเพื่อปาร์ค แจบอมโดยเฉพาะร่างสูงเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้แจบอมก่อนแล้วค่อยเดินมานั่งในที่ของตัวเอง
ร้านนี้หรูหรามากสำหรับปาร์คแจบอมบริกรส่งเมนูอาหารให้ทั้งคู่พร้อมเตรียมจดออเดอร์
แจบอมเปิดดูรายการอาหารก็อยากจะกรีดร้องดังๆให้โลกได้ยิน
ถ้าจะสั่งผ้าเช็ดหน้าซักผืนมาซับน้ำตาที่จะไหลเพราะไม่มีข้าวกินอีกเป็นเดือนจะได้มั๊ยครับ....
แทคยอนที่เห็นหน้าหวานๆตรงหน้าซีดลงก็ยิ้มบางๆ
“ผมขอพอร์คช๊อปนะครับ คุณล่ะ”สั่งเสร็จก็หันไปถามคนที่ตัวเองลากมาด้วย
“อะ...เอ่อ...ผมเอาเหมือนคุณอ่ะ”พอร์คช่งพอร์คชอบไรไม่รุ้แหละสั่งมาแล้วกินได้ก็โอเคแล้วละ...แล้วมันราคาเท่าไหร่ล่ะเนี่ย อย่าเกิน5000วอนเลยสาธุ!
“รับน้ำอะไรดีครับ”
“ผมขอไวด์มาขวดแล้วกัน”
แจบอมตาโตเฮ้ย!ไวด์เลยหรอ...น้ำเปล่าก็พอม้างงงงงง แค่อาหารจะมีเงินจ่ายรึปล่าวเหอะ!
“ดื่มเป็นเพื่อนผมนะครับ แจบอม”
เอ่ออ...เอาล่ะสิพูดแบบนี้ใครจะปฏิเสธได้ละเนี่ย= =
“คะ...ครับ”ซวยแล้วแจบอมขวดละเท่าไหร่วะเนี่ยยยย
ทั้งคุยกันไปซักพัก ไม่นานนักไวด์ก็มาเสริ์ฟบริการชายรินไวด์ให้ทั้งคู่ก่อนจะเดินออกไป แทคยอนชูแก้วเพื่อขอชนกับคนตรงข้ามแจบอมหยิบแก้วด้วยมือสั่นๆ
จิบทีละนิด...ทีละนิด...กลัวหมดอ่ะ!มันแพงนะ ฮืออ~
จิบไวด์ไปสักพักอาหารก็มาถึงแจบอมมองอาหารข้างหน้าก่อนจะลงมือทานแทคยอนมองภาพข้างหน้าอย่างเป็นสุข
แจบอมที่เริ่มรู้ตัวว่ากำลังโดนมองเงยหน้าเลิกคิ้วถามแทคยอนงงๆ
“เอ่อ...ผมมีอะไรหรอฮะคุณแทคยอน”
“ปล่าวครับ...น่ารักดี”บอกปฏิเสธก่อนจะพูดประโยคหลังกับตัวเองเบาๆ
แจบอมที่ไม่ได้ยินว่าตัวเองโดนชมว่าน่ารักก็ลงมือกินอาหารตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย
สมกับราคาอยู่นะ...แต่พอคิดถึงราคาก็ถึงต้องแอบเช็ดเหงื่อทันที
แทคยอนมองคนข้างหน้าอย่างนึกขัน รู้ทั้งรู้ว่าปาร์ค แจบอมของเขาต้องกำลังคิดหนักเรื่องราคาเป็นแน่ มันน่ารักซะจริงๆ หึหึ
ทั้งคู่ดื่มกินไปคุยกันไปสักพักก็ได้ฤกษ์กลับบ้านกันเสียทีแจบอมมองเงินในกระเป๋าแล้วยิ้มแห้งๆ ไม่ใช่ว่าไม่พอนะแต่ถ้าจ่ายก็หมดนี่เลยน่ะสิ
แทคยอนกวักมือเรียกบริกรมาเก็บตังค์ระหว่างนั้นแจบอมก็น้ำตาไหลพรากอยู่ในใจเงียบๆ
“ทั้งหมด 500,000 วอนครับ”(ประมาณ20,000บาทไทยนะคะถ้าจำไม่ผิด)
แม่จ๋า500,000วอน ตายยย
หารครึ่งก็คนละ250,000 ตายแน่ๆปาร์ค แจบอมแกตายแน่ๆ
“นี่ครับ”
อ๊ค แทคยอนยื่นธนบัตรเงินสดให้กับบริกร
คุณผู้จัดการปาร์คได้แต่มองตามอย่างงงๆ
“มื้อนี้ผมขอเลี้ยงนะครับ”แทคยอนยิ้มเท่ๆให้กับกระต่ายของเขา
“เอ๊ะ!”แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้เขาน้ำตาตกในอยู่ได้-*-
แทคยอนหัวเราะกับสีหน้าเหรอหราของคุณผู้จัดการสักพักบริกรเดินมายื่นใบเสร็จแทคยอนจึงลากแจบอมขึ้นรถไป
ที่น่าสงสารก็คือสาวๆในร้านที่มองตามหน้าละห้อย
คนนู้นก็หล่อคนนี้ก็น่ารัก...แต่ดันมากิ๊กกันเองซะงั้นน่ะ!
ระหว่างทางนั่งรถกลับบ้านแจบอมนั่งเงียบแทคยอนก็เงียบเกิดบรรยากาศอึดอัดขึ้นมาชั่วครู่
“เอ่อ คุณแทคยอนครับ คือ...”
“ครับ”
“วันนี้ขอบคุณมากนะครับ สำหรับอาหารที่คุณ...เอ่อ...เลี้ยงผม”
“หึ...ไม่เป็นไรครับผมเป็นคนชวนผมก็ต้องเลี้ยงสิครับ”
“อ่อ...ครับ”
แจบอมไม่รู้จะพูดอะไรจึงเอาแต่นั่งเงียบด้วยความอึดอัด ต่างกับอีกคนที่นั่งเงียบพร้อมยิ้มอยู่ในใจ
ไม่ช้าไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงคอนโดของปาร์ค แจบอม
“ขอบคุณนะฮะ”คนตัวเล็กหันมาโค้งขอบคุณอย่างมีมารยาทก่อนจะบิดตัวเพื่อเปิดประตู
แต่มือแกร่งของอีกคนคว้าแขนขาวๆนั่นไว้
“ครับ?”แจบอมมองอย่างสงสัย
“คืนนี้...ฝันดีนะครับ”พูดจบก็ส่งยิ้มตามแบบฉบับของตน
ปาร์คแจบอมลงจากรถด้วยหน้าที่แดงก่ำลามไปทั่วหน้าและใบหู
แทคยอนยิ้มตบท้ายให้หนึ่งทีก่อนจะขับรถออกไป
แจบอมมองรถคันหรูไปจนลับสายตาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
ตึก...ตึก...ตึก
นี่มันอะไรกัน...ความรู้สึกนี้มันอะไรกันแน่นะ
40%ค่า เดี๋ยวที่เหลือตอนประมาณทุ่มสองทุ่มเจอกนันนะคะ^^
“เหนื่อยยย!!”
ชายร่างสูงเจ้าเสียงหวานตะโกนระบายความอ่อนเพลียจากการทำงานมาตลอดทั้งวันเมื่อเข้ามาภายในห้องพักคอนโดหรูที่ทางบริษัทจัดให้
“น้ำ”ชายอีกคนที่ได้ชื่อว่าไอดอลคู่หูกับคนที่ตะโกนไปเมื่อกี๊ยื่นน้ำพร้อมร้อยยิ้มเรียกให้คนที่กำลังบ่นว่าเหนื่อยเมื่อกี๊ยิ้มตามได้
“เหนื่อยมากมั๊ยจุนโฮ”คนที่ส่งแก้วน้ำเดินเข้าไปนั่งข้างคู่หูของตัวเองแขนแกร่งโอบรอบตัวคนข้างกายให้ซบลงกับอุ่นๆของเจ้าตัว
“เหนื่อยอ่ะชาน”จุนโฮกอดเอวชานซองไว้หลวมพร้อมซบลงบนอกของคนข้างตัว
“ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็ชิน...นะครับ”
ชานซองยิ้มให้กำลังใจ จุนโฮเองก็ยิ้มรับ
ชานซองกับจุนโฮเป็นไอดอลคู่ที่กำลังมาแรงด้วยเสียงหวานๆของอี จุนโฮกับเสียงเท่ๆของฮวัง ชานซองบวกกับท่าเต้นที่แข็งแกร่งเป็นตัวผลักดันให้เขาทั้งคู่ดังจนฉุดไว้ไม่อยู่
และหน้าตาที่หล่อเหล่าและหุ่นที่เพอร์เฟกซ์ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่สาวแท้สาวเทียมถึงกับส่งเสียงกรี๊ดขึ้นมาเมื่อได้เห็น
แต่ใครจะรู้ว่าชายหนุ่มไอดอลสุดหล่อที่พวกเธอกรี๊ดน่ะเขาได้มีเจ้าของอยู่แล้ว...และเจ้าของที่ว่าก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล...ก็ทั่งคู่นั้นแหละที่ต่างก็เป็นเจ้าของกันและกัน
เพราะงานที่กำลังรุ่งเรื่องรักลับๆของเขาทั้งคู่จึงถูกพับเก็บเอาไว้เป็นความลับ จะมีก็แฟนคลับที่เห็นว่าสองคนนี้ดูเป็นห่วงเป็นใยกันจนเกินเหตุ จนได้มีกำเนิดคู่ชานโฮ ชานนูนออะไรก็ว่ากันไป
แต่ก็อย่างว่าเคยมีคำกล่าวเอาไว้ว่าความลับไม่มีในโลก...เพราะตอนนี้พี่ผู้จัดการของทั้งคู่กำลังสงสัยในความสัมพันธ์ที่ห่วงกันจนเกินเหตุ...แต่ไม่มีหลักฐานอะไรพูดไปก็เจอลูกแถ
ตอนนี้ที่กอดจูบกันได้ก็เพราะไม่มีใครอยู่ กอดกันซะให้พอเพราะเดี๋ยวอีก10นาทีพี่ผู้จัดการจะซื้อของขึ้นมา...ถ้าพี่ผู้จัดการเห็นล่ะได้ซวยกันทั้งคู่แน่
“ชาน...”
“ครับ”
“ขอกอดเอาไว้แบบนี้ได้มั๊ย”จุนโฮเอาหัวกลมถูกไปกับอกของคนที่ตัวเองกำลังซบอยู่อย่างออดอ้อน
ชานซองมองท่าทางของคนรักก็ยิ้มบางๆ
“ไม่ต้องขอหรอกครับ...กอดของผมก็เป็นของคุณอยู่แล้วนี่”
“ชาน...ผมรักชานนะ”คนตัวเล็กกว่าเงยหน้ามองคนที่ตัวเองกำลังกอดเอาไว้ยิ้มตาหยีส่งให้อย่างเป็นสุข
“ผมก็รักคุณครับ...”
สายตาของทั้งคู่จ้องมองกันอย่างหวานซึ้ง
สายตาของจุนโฮ...มีเพียงชานซอง
สายตาของชานซอง...ก็มีเพียงจุนโฮคนเดียว
ใบหน้าของคนทั้งคู่ค่อยๆเคลื่อนเข้าหากันอย่างช้าๆ ปลายจมูกแตะกันชั่วครู่ จุนโฮหลับตาลงพร้อมรับกับความอบอุ่นที่คนร่างสูงกำลังมอบให้ผ่านริมฝีปากนั้นชานซองมองคนรักอย่างหวงแหนมือเรียวของจุนโฮเลื่อนไปจับต้นแขนคนตัวใหญ่กว่า ชานซองช้อนท้ายทอยของร่างบางเพื่อมอบความรักและสเน่หาผ่านทางการกระทำ...หน้าของทั่งคู่ใกล้กัน
ริมฝีปากบางของจุนโฮกับริมฝีปากหนาของชานซองจวนจะแตะกัน...
ปัง!!
“เฮ้!พวกนาย!”
ยังไม่ทันจะอะไรดีผู้จัดการ คิม จุนซูก็เปิดประตูเข้ามาอย่างร่าเริงส่งผลให้คนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาถึงกับผงะตัวออกจากันจุนโฮหงายหลังหล่นลงไปกับพื้น
“โอ๊ยยย~!”ร่างบางร้องโอดโอยแสดงความเจ็บปวด...บ้าที่สุดเข้ามาทำไมตอนนี้นะ
“เฮ้ย!จุนโฮ”คิม จุนซูวางข้าวของที่ซื้อมาจากร้านมินิมาร์ทข้างล่าง ยังไม่ทันที่จุนซูจะวิ่งถึงตัวของจุนโฮดีชานซองก็ปรี่เข้ามาก่อน
ชานซองไม่ได้พูดอะไรแต่ประครองคนรักลับๆของเขาขึ้นมาพลางมองด้วยแววตาห่วงใย
“เป็นไงมั่งครับ”
“ไม่เป็นไรๆ”จุนโฮฝืนยิ้มให้ชานซอง...ทั้งๆที่ความจริงมันเจ็บมากเลยนะนั่น
ชานซองมองคนข้างกายอย่างจับผิด
“มานี่”พูดจบก็คว้าคนที่กำลังเจ็บขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาว
“ชานซอง!”จุนโฮตกใจกับการกระทำของคนรัก
“ทำแบบนี้เดี๋ยวพี่จุนซูก็สงสัยหรอก” พูดกระซิบข้างๆหูคนที่อุ้มอยู่อย่างหวาดระแวง สายตาก็เหลือบมองไปที่พี่ผู้จัดการที่กำลังมองอย่างอึ้งๆ
“คุณกำลังเจ็บ”ว่าจบก็อุ้มจุนโฮเข้าห้องนอนไปทิ้งให้พี่ผู้การมองอย่างจับผิด
เหอะ!เพื่อนกัน...พวกนายมันปากแข็ง สักวันฉันจะเอาไม้หน้าสามแงะปากแข็งๆของพวกนายแล้วทำให้ยอมรับให้ได้ว่าพวกนายเป็นอะไรกัน!
จุนโซประกาศตัวเองอย่าเงียบๆก่อนจะเอาของใส่ตู้เย็นแล้วเดินเข้าห้องนอนไป
ทางด้านในห้องนอนของชานซองกับจุนโฮ
คนร่างสูงว่างอีกคนลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือราวกับว่าถ้าวางแรงคนๆนี้อาจจะแตกหักซะได้
“เจ็บมากมั๊ย”ชานซองเกลี้ยผมบริเวณหน้าผากของคนรักอย่างรักใคร่
“เจ็บสิ...แต่พอชานอุ้มผมก็หายเจ็บแล้วล่ะ”
ชานซองลูบผมคนที่กำลังนอนเบาๆ
“นอนนะครับเดี๋ยวผมจะนั่งอยู่ข้างนี่แหละ”
“แล้วชานไม่ง่วงหรอ”
“ง่วงครับ...แต่หลับไม่ลง ให้คุณหลับก่อนผมถึงสบายใจนะ”
จุนโฮหัวเราะคิกคักเอามือของชานซองมาเล่น
เล่นไปสักพักตาเริ่มปรือความง่วงเริ่มเข้าครอบงำ ไม่นานเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอชัดเจนว่าจุนโฮหลับแล้ว
ชานซองมองหลับสักพักให้แน่ใจก่อนละก้มหน้าประทับริมฝีปากตัวเองกับคนข้างกาย
“แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ นูนอของผม”
**************************
Writer Talk
สวัสดีค่ะ^^ ไรเตอร์เองนะคะแนะนำตัวก่อนหน่อยเนาะชื่อเม อายุ18ปีถ้วนจ้า^0^ ต้องขอบคุณกับหลายๆคอมเม้นมากนะคะซึ้งใจ~55 แต่จะให้ดีมากกกสำหรับคนที่ยังไม่เม้น เม้นให้ด้วยนะจ๊ะไรเตอร์จะได้มีกำลังใจแต่งตอนต่อไปเยอะๆนะคะ รักนะจ๊ะ * * *
ความคิดเห็น