ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปีศาจน้อย

    ลำดับตอนที่ #1 : หมู่บ้านปีศาจ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 52


     - หมู่บ้านปีศาจ -

                    “นี่ ลุงๆ” โซด เด็กชายวัยสิบขวบคนหนึ่งในหมู่บ้านร้องเรียกชายชราแก่ๆคนหนึ่งจนทำให้ชายชราคนนั้นหันมามอง

                    “มีอะไร...” ชายชราบ่นพร้อมกับขมวดคิ้วน้อยๆที่โดนขัดจังหวะการนั่งจ้องก้อนหินเล็กๆบนพื้นก้อนหนึ่งราวกับว่ามีตัวอะไรอยู่ในนั้น ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเด็กชายคนดังกล่าวหิ้วถุงอะไรมาด้วย

                    “แม้ว่าข้าจะเคยสอนวิชาเจ้าไปแค่สองเดียว แต่วิชาที่เจ้าเรียนไปจากข้าก็เพียงพอให้เจ้าหาเลี้ยงชีพตัวเองได้แล้ว เจ้ายังไม่พอใจอีกรึไง” ชายชราท้วงทั้งๆที่อีกมือหนึ่งก็เอื้อมไปหยิบถุงผ้ามาเปิดดูโดยเร็ว

                    “แฮ่ๆ” โซดยิ้มแห้งๆขณะส่งถุงผ้าให้ ก่อนจะบอกว่า “พอดีข้าไปเจอปัญหาใหญ่เข้า แล้วก็วิชาที่ท่านสอนให้ข้าไปมันก็ช่วยอะไรไม่ได้น่ะ เลยอยากจะมาขอเรียนเพิ่ม”

                    แต่ชายชราไม่ตอบอะไร เขามัวแต่หมกมุ่นกับการหยิบเอาก้อนหินในถุงผ้าขึ้นมานั่งจ้องดูอย่างละเอียดก้อนแล้วก้อนเล่า

                    “เจ้าไปหาหินวิญญาณพวกนี้มาจากไหนกัน ถึงหามาได้มากมายขนาดนี้ เจ้ารู้มั้ยว่าหินพวกนี้กว่าจะตกผลึกได้ต้องทำให้วิญญาณสิ่งมีชีวิตตายรอบที่สองก่อน ถึงจะได้มา แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาทุกครั้งด้วย แต่ต้องเป็นการได้มาด้วยการถูกสังหารครั้งที่สอง...” ชายชราหันมาจ้องหน้ามาดุ๊กด้วยดวงตาที่มีความหมายลึกล้ำราวกับว่าปรารถนาจะอ่านใจเด็กน้อยคนนี้ “เจ้าไปหามาได้ยังไง”

                    “ข้าไม่บอกท่านหรอก อิอิ” โซดยิ้มหน้าทะเล้น “ขืนข้าบอกไป ต่อไปข้าจะเอาอะไรมาแลกวิชาจากท่านอีกล่ะ”

                    ชายชราหลับตาอย่างยอมแพ้ ทุกวันนี้ผลึกวิญญาณระดับสูงๆหายากเต็มที เพราะตั้งแต่วันโลกาวินาศนั้นผ่านพ้นไป ก็ไม่เคยปรากฏว่ามีเทพหรือปีศาจปรากฏตัวบนโลกมนุษย์อีกเลย จะมีก็แต่พวกสัตว์ประหลาดหรือสัตว์อสูรทั่วไปเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเพียงแค่ผลึกวิญญาณของสัตว์ทั่วไปไม่กี่ผลึกก็มีค่ามากพอที่จะทำให้เจ้าของกลายเป็นเศรษฐีประจำหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย...

    ไอ้เด็กคนนี้ช่างไม่รู้ค่าของสิ่งที่มันมี... ชายชราคิด

                    “ครั้งแรกเจ้าเรียนรู้วิชาลบจิต ครั้งต่อมาเจ้าเรียนรู้วิชาชี้จุดตาย คราวนี้เจ้าอยากเรียนอะไร... เพียงแค่สองวิชาแรกที่เจ้าเรียนไปนั้น ก็ทำให้เจ้าสามารถเป็นมือสังหารที่ดีได้แล้ว”

                    “ข้าอยากเรียนวิชาเปิดนรก” โซดตอบทันควัน ซึ่งก็ทำเอาชายชราแทบสำลัก

                    “เจ้าจะเรียนไปทำไม เรียกปีศาจออกมาฆ่าเจ้ารึไง ข้าจะบอกให้ว่าวิชาเปิดนรกน่ะหาเรียนยากมาก แค่ผลึกวิญญาณคางคกแค่สิบตัวนี่อย่าฝันเลยว่าจะพอจ่าย... ที่สำคัญข้าก็สอนให้เจ้าไม่ได้ เพราะข้าไม่รู้”

                    “งั้นข้าอยากเรียนวิชาแบ่งชีวิต พอดีข้ามีสัตว์เลี้ยงตัวนึงที่ดื้อมาก แต่ข้าก็รักมันมาก ตอนนี้มันป่วยใกล้จะตาย ข้าอยากจะแบ่งพลังชีวิตข้าให้มัน” โซดตอบโดยไม่ลังเลราวกับว่าเขาคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าอาจจะต้องเลือกตัวเลือกที่สอง

                    ชายชรานิ่งเงียบอีกครั้ง พร้อมกับจ้องมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม

                    “เจ้ารู้รึเปล่าว่าหากเจ้าแบ่งชีวิตให้ใครไปแล้ว นั่นจะทำให้พวกเจ้าทั้งสองมีชีวิตร่วมกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับบาดเจ็บก็จะดูดเอาพลังชีวิตมาจากอีกฝ่ายหนึ่งมาเติมเต็มเป็นเช่นนี้ไปจนกว่าจะตกตายตามกันไปทั้งคู่ เป็นวิชาที่อันตรายมาก แล้วสัตว์อะไรกันที่มีค่ามากพอให้เจ้าเสี่ยงตายเพื่อปกป้องมัน...” ชายชราถามอย่างจริงจังเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะถอนหายใจ

                    “เฮ้อ เอาเถอะ ชีวิตของเจ้า เจ้าก็เลือกเองแล้วกันนะเจ้าหนู ข้าจะเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายว่าวิชาที่เจ้าเลือกเรียนในครั้งนี้ เป็นวิชาที่อันตรายที่สุดที่ข้าเคยเรียนรู้มาในฐานะพ่อมดดำคนนึง อ้อ แล้วก็อีกเรื่องที่ข้าจะบอกก็คือผู้ที่เจ้าจะแบ่งชีวิตด้วยนั้นต้องยินยอมที่จะแบ่งชีวิตกับเจ้าด้วยนะ” ชายชราเอ่ยเบาๆก่อนจะยกนิ้วขึ้นและลากไปมาบนฝ่ามือของโซด จุดที่พ่อมดดำลากผ่านจะเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆขึ้น

                    “เจ้าอยากจะแบ่งชีวิตของเจ้าให้กับใครก็เอาตราพันธะนี้ไปประทับลงบนหน้าผากของคนนั้นละกันนะ” จากนั้นชายชราก็เอ่ยสอนวิธีการร่ายมนต์ให้กับโซด โดยไม่ได้ยินที่โซดเอ่ยพึมพำกับตัวเองเบาๆเลยว่า

                    “แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าหน้าผากของเจ้าลูกกลมๆนั่นมันอยู่ตรงไหน”

     

                   

                    ณ ป่าใบไม้ดำ โซดเดินเข้าป่าไปเงียบๆเพียงลำพังคนเดียว ป่าแห่งนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลนัก ใช้เวลาในการเดินทางเพียงไม่นานก็มาถึงได้ แต่ระหว่างทางนั้นต้องเดินผ่านทุ่งหญ้าสุสานที่เต็มไปด้วยลางอัปมงคลจนผู้คนในหมู่บ้านไม่มีใครกล้าเดินผ่าน หากมีใครหลงทางผ่านมาบริเวณนี้ คนผู้นั้นจะรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งผล็อยหลับไปและตายในทุ่งแห่งนี้ แต่โซดหารู้เรื่องราวเหล่านี้ไม่ เขาอาศัยอยู่ในป่าใบไม้ดำเพราะนั่นคือที่อยู่ของเขาตั้งแต่เขาจำความได้

                    นับตั้งแต่จำความได้ โซดก็ถูกเลี้ยงโดยสิ่งมีชีวิตลึกลับที่พูดภาษามนุษย์ได้ สิ่งมีชีวิตลึกลับนั้นมีรูปร่างเหมือนมนุษย์เพศชายที่มีร่างกายกำยำ เพียงแต่ว่ามีร่างกายที่เป็นสีดำทมิฬ มีลายอักขระสีแดงขีดเขียนเป็นเส้นอยู่เต็มตัว และมีดวงตาสีแดง

                    เจ้าสิ่งนั้นสอนให้โซดพูดภาษามนุษย์ สอนการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานให้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โซดพอช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว สิ่งมีชีวิตลึกลับนั้นก็หายสาบสูญไป

                    เขาใช้ชีวิตโดยการเก็บผลึกวิญญาณที่ฝังตัวอยู่ตามต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งในป่า เพื่อเอาไปแลกกับสิ่งของต่างๆในหมู่บ้าน ต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นที่แปลกมากในความคิดของโซด เพราะมันมีใบสีขาว ในขณะที่ต้นไม้ต้นอื่นๆในป่ามีใบสีดำ และมักจะมีผลึกวิญญาณใหม่ๆผุดขึ้นมาตามลำต้นของต้นไม้ต้นนี้เสมอ

                    ผลึกวิญญาณนั้นมีค่าเพียงแค่เฉพาะที่หมู่บ้านปีศาจแห่งนี้เท่านั้น เพราะเป็นเพียงหมู่บ้านเดียวที่สามารถทำให้ผลึกวิญญาณกลายเป็นอัญมณีชนิดต่างๆได้ แต่หากนำอัญมณีที่แปลงมาจากผลึกวิญญาณออกนอกบริเวณหมู่บ้านไปก็จะทำให้มันกลับมาเป็นก้อนหินดังเดิม

                    “นี่ ข้ามาหาแล้ว” โซดเดินผ่านซากสัตว์อสูรหลายต่อหลายตัวเข้าไปในถ้ำเล็กๆถ้ำหนึ่งที่แอบตัวอยู่ในหลีบเขาในอาณาบริเวณของป่าใบไม้ดำ บริเวณรอบๆถ้ำแห่งนี้เคยมีสัตว์อสูรระดับสูงป้วนเปี้ยนอยู่เต็มไปหมด เขาเคยหลงเข้ามาเมื่อครั้งอยากทดลองใช้วิชาลบจิตที่ได้เรียนจากพ่อมดดำครั้งแรกและพลาดท่าถูกพบเห็น หลังจากที่หนีตายหัวซุกหัวซุนเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ เขาก็ได้รับการช่วยชีวิต...

                    “อย่าเพิ่งรีบตายซะล่ะ” เขาพูดพร้อมกับนั่งยองๆลงเพื่อให้เห็นลูกกลมๆเรืองแสงสีแดงขนาดกับผลองุ่นเล็กๆผลหนึ่งที่ล่องลอยอยู่ใกล้ๆกับพื้นดิน... ผู้มีพระคุณของเขา

                    โซดจ้องมองลูกกลมๆดังกล่าวลอยไปลอยมาอยู่พักหนึ่งอย่างชั่งใจก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือที่มีตราพันธะไปกำลูกกลมๆนั้นไว้

                    พริบตาที่ตราพันธะสัมผัสโดนลูกกลมเรืองแสงนั้น โซดก็รู้สึกว่าโลกหมุนคว้าง สีสันต่างๆกลับกลายเป็นเพียงสีขาวกับสีดำ เขารู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่เคยมีถูกดูดออกไปทางฝ่ามือนั้น จากนั้นก็หมดสติไป...

     

                    “นี่ ตื่นได้แล้วรึยัง...” มีเสียงประหลาดพูดขึ้น

                    “เจ้าไม่น่าจะถึงตายนะ ข้าไม่ได้ดูดเอาพลังชีวิตออกมาจนหมดซะหน่อย...”

                    สักพักต่อมาหลังจากที่ได้ยินเสียงแปลกประหลาดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะมันเหมือนพูดอยู่ในหัว โซดก็สะดุ้งตื่นขึ้น

                    สิ่งแรกที่เขาเห็นคือลูกกลมๆลูกนั้นส่องแสงสว่างขึ้นกว่าเดิม และลอยไปลอยมาอยู่หน้าเขา

                    “เจ้าพูดได้ด้วยเหรอ” โซดเอ่ยถามทั้งๆที่ยังนอนอยู่กับพื้นดิน

                    “ข้าพูดบอกด้วยเหรอ ว่าข้าพูดไม่ได้” ลูกบอลลูกนั้นพูดขึ้นในหัวอีกแล้ว

                    “ก็เพราะเจ้าไม่เคยพูดนั่นแหละ ข้าถึงคิดว่าเจ้าพูดไม่ได้” โซดพูดขึ้น ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่งช้าๆ แต่ดูท่าทางเจ้าลูกบอลจะไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูด

                    “ข้าชื่อมาดุ๊ค” ลูกบอลสีแดงแนะนำตัว “ยินดีที่ได้ร่วมแบ่งชีวิตกับเจ้านะ... เจ้าหนู”

                    “อย่าเรียกข้าว่าเจ้าหนู ข้าอายุสิบขวบแล้ว... ข้าชื่อโซด” โซดพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆเล็กน้อยก่อนจะถามต่อว่า

                    “เจ้าเป็นตัวอะไร”

                    มาดุ๊คเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบคำถาม

                    “ข้าเป็นปีศาจ”...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×