คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปีศาจโบราณ
สัตว์อสูรที่ตามล่าเขามาสามตัว ยังไม่ทันได้ตามเข้ามาในถ้ำอยู่ดีๆก็มีฝนตกลงมา พอทั้งสามตัวนั้นอาบฝนจนชุ่มแล้ว... ก็ตายไป
“แต่เดิมข้ามีร่างกาย แต่เพราะว่าไอ้สงครามบ้าบอคอแตกเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้ทำให้ร่างกายข้าปั่นป่วน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่มันมีคลื่นมนตราที่เหมือนกับคลื่นของข้าปนมาด้วยในวันสุดท้ายของสงครามนั่น ทำให้ร่างกายข้าถูกลบไป สุดท้ายก็เลยเหลือแต่วิญญาณ... อ้อ แล้วก็ข้ามีพลังอำนาจในการควบคุมของเหลว” มาดุ๊คอธิบายต่อ
“ข้าสามารถดูดกลืนของเหลว แปรสภาพ และนำมันมาใช้งานได้อย่างอิสระ แต่ข้าอยู่มานาน... นานมาก จนเพียงพอที่จะทำให้พลังชีวิตข้าใกล้หมดสิ้น ถ้าไม่ได้เจ้ามาช่วยไว้นะเจ้าหนู ข้าก็คงจะตายในอีกไม่กี่ร้อยปี่นี่แหละ”
“หา อีกไม่กี่ร้อยปี” โซดร้องลั่นถ้ำ “นี่เจ้าอายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย”
“อายุข้าน่ะเหรอ มันนานมากจนข้าจำไม่ได้แล้ว ข้าเริ่มมีชีวิตพร้อมๆกับที่โลกนี้เริ่มมีน้ำนั่นแหละ คงอายุเท่ากับโลกล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ”
“ถ้าอย่างนั้นแล้ว แค่ลำพังพลังชีวิตที่ข้าแบ่งให้เนี่ยมันจะช่วยเจ้าได้สักเท่าไหร่กันเชียว” โซดเริ่มสงสัย
“เจ้าหนู เจ้าช่วยข้าได้มากทีเดียว และข้าก็ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไม... แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะได้รู้ความจริง”
“ความจริงเรื่องอะไร” โซดสงสัย ไอ้ปีศาจลูกบอลนี่มันจะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาที่เขาไม่รู้รึไงกันนะ
“ไว้ถึงเวลาแล้วเจ้าก็จะรู้ ตอนนี้เจ้ารู้ไว้แค่ว่าชีวิตเจ้ากับข้าได้ผูกกันไว้แล้ว ถ้าข้าตาย เจ้าก็ตาย ในทางกลับกันถ้าเจ้าตาย ข้าก็ตาย เพราะงั้นข้าจะสอนเจ้าให้เป็นคนตายยากเอง หึหึหึ”
“แล้วลูกบอลอย่างเจ้าจะสอนอะไรข้าได้ล่ะ” โซดมองไปที่มาดุ๊คแล้วถามด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
“ถ้าเป็นแต่ก่อนคงสอนเจ้าไม่ได้ แต่เมื่อวินาทีที่เจ้าได้แบ่งชีวิตกับข้า นั่นทำให้... ทำให้เจ้ากลายเป็นปีศาจครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้เจ้าสามารถใช้พลังของข้าได้” จากนั้นมาดุ๊คเริ่มอธิบายเวทย์มนต์โบราณของตนให้โซดฟัง...
“สรุปว่าข้าสามารถควบคุมน้ำได้” โซดถามหลังจากฟังมาดุ๊คปีศาจโบราณอธิบายจบ
“ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เจ้าได้เพียงพลังขั้นพื้นฐานของข้าไปเท่านั้น หากเจ้าต้องการทำให้มากกว่านี้เจ้าก็ต้องหาทางเพิ่มพลังมนตราแห่งน้ำเอาเอง เจ้าสามารถลองใช้พลังได้เลย แต่อย่าลืม...ถ้าข้าตาย เจ้าก็ตาย เพราะงั้นเจ้าต้องหาอาหารให้ข้า”
ตอนนี้โซดทดลองพลังจริงๆ โดยทดลองกับแอ่งน้ำหน้าถ้ำที่หลงเหลือจากฝนสังหารที่มาดุ๊คทำไว้ เด็กน้อยทำให้น้ำในแอ่งกระเพื่อมได้จริงๆ เพียงแค่เขาจินตนาการว่ามันกระเพื่อม จึงเพียงพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงรับรู้คำพูดของมาดุ๊คเท่านั้น
“แล้วเจ้ากินอะไรเป็นอาหารล่ะ เจ้าลูกบอล”
“ข้าชื่อมาดุ๊ค และข้ากินผลึกวิญญาณ... ตอนนี้ข้าหิวมาก พลังของข้ายังเติมได้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นเจ้าต้องออกไปหาอาหารให้ข้ากินเดี๋ยวนี้”
“ผลึกวิญญาณเหรอ มีที่ต้นไม้ประหลาดนั่นเยอะแยะเลย แต่ว่าข้างนอกนั่นมีสัตว์อสูรเต็มไปหมดข้าจะออกไปเอามาได้ยังไง” โซดหันมาถาม
“หึหึ เจ้าไม่ต้องไปเอาที่ต้นไม้วิญญาณหรอก ไว้วันหลังข้าจะบอกเหตุผล แต่ผลึกวิญญาณที่ข้าต้องการกินก็คือผลึกวิญญาณของไอ้พวกตัวกระจอกข้างนอกนั่นแหละ เจ้าต้องไปล่ามา”
“จะบ้าเหรอ ข้าสูงแค่เข่าพวกมันเองมั้ง จะให้ข้าไปล่ามันยังไง แล้วผลึกวิญญาณพวกนี้เอามาได้ยังไงถ้ายังไม่รู้เลย” โซดเริ่มโวยวาย เขาเพิ่งจะสิบขวบ เด็กในหมู่บ้านยังเล่นเป็นอัศวินม้าไม้กันอยู่เลย แต่ไอ้ลูกบอลนี่จะให้เขาไปล่าสัตว์อสูร
“ไม่ยาก ข้าจะสอนเจ้าเอง เพราะต่อไปหน้าที่หาอาหารต้องเป็นของเจ้า เนื่องจากพลังของข้า ข้าใช้ได้แค่ในอาณาบริเวณป่ามนต์ดำนี่เท่านั้น หากออกไปข้างนอกข้าจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีร่างกายเดิม” โซดถึงเพิ่งรู้ว่าป่าอาถรรพ์ที่ชาวบ้านเรียกป่าใบไม้ดำนี้ มีอีกชื่อว่าป่ามนต์ดำ คิดได้ทันไรมาดุ๊คก็ออกคำสั่งให้อ้าปาก
พอโซดอ้าปาก มาดุ๊คก็ลอยเข้าไปในปาก และไหลลงไปในกระเพาะของโซด
“เฮ้ย ทำไรวะ” โซดทำท่าเหมือนจะอาเจียน แต่ก็อาเจียนไม่ออก
“ข้าจะอยู่ในนี้ แล้วข้าก็จะนอนแล้วด้วย ต่อไปพอเจ้าได้ผลึกวิญญาณแล้วเจ้าก็กลืนลงคอมาให้ข้ากินละกัน”
“เฮ้ย ได้ไง ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ใครอนุญาตให้เจ้าลงไปอยู่ในท้องคนอื่นโดยพละการ” แต่เปล่าประโยชน์ มาดุ๊คตัดขาดการติดต่อเพื่อเข้าสู่ภวังค์ไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่โซดไม่รู้เลยว่าชีวิตต่อไปในวันข้างหน้าของเขานั้นจะมีความยากลำบากเพียงใดรออยู่ ตอนนี้เขารู้แต่ว่าตัวเองต้องใช้ชีวิตต่อไปโดยมีไอ้ลูกบอลกลมๆนี่อยู่ในท้อง...
“บอกให้ข้าไปล่าสัตว์อสูร แต่ตัวเองดันมานอนหลับในกระเพาะของคนอื่น... แล้วข้าจะรอดไหมนี่”
เขานั่งลงกับพื้นถ้ำแล้วก็พลางใช้ความคิดอย่างหนัก ทำยังไงให้ล่าสัตว์อสูรระดับสูงนอกถ้ำนี่ได้...
แล้วก็ถ้าล่าได้จริงๆ จะทำยังไงให้ได้ผลึกวิญญาณมาจากไอ้พวกนี้...
“อืม ตอนนี้ข้าลบจิตได้ ทำให้พวกมันไม่รับรู้ถึงการคงอยู่ของข้า... ถ้าหามองไม่เห็นด้วยตาหรือได้ยินเสียงหรือกลิ่นน่ะนะ”
“ข้าพอจะสามารถชี้จุดตายของไอ้พวกที่ระดับไม่สูงมากได้ ถ้าเป็นสัตว์อสูรระดับนอกถ้ำนี่ก็พอได้บ้างล่ะมั้ง แต่กว่าจะเข้าไปถึงจุดนั้นได้ ไม่โดนตบตายซะก่อนก็ดีหรอก แล้วก็ใช่ว่าไปแตะๆจุดตายแล้วมันจะตายซะเมื่อไหร่ล่ะ”
“แล้วก็ไอ้ความสามารถใหม่นี่ ควบคุมน้ำ จะใช้ทำประโยชน์อะไรได้ฟะเนี่ย” เขาเริ่มวิเคราะห์หาหนทางอย่าเงียบๆตามที่สมองเด็กน้อยที่เพิ่งผ่านโลกมาสิบปีจะคิดออก
“เฮ้อออออ หาเรื่องยุ่งยากใส่ตัวจริงๆ นอนดีกว่า” ว่าแล้วเด็กน้อยก็เดินไปหาที่เหมาะๆเอนตัวลงนอนไปอีกราย
ขณะเดียวกับที่มีการแบ่งชีวิตระหว่างสองคู่หูคู่ใหม่ ในหมู่บ้านปีศาจก็กำลังเกิดเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดขึ้น เพราะรูปผลึกของจอมขมังเวทย์นั่นเริ่มมีความผิดปกติ เพราะเท่าที่ชาวบ้านจำได้ รูปผลึกนั่นยืนในท่าจอมขมังเวทย์ที่กำลังร่ายเวทย์มนต์ ยื่นไม้เท้ามาข้างหน้า
แต่ตอนนี้รูปผลึกนั่นกลับอยู่ในท่ายืนตัวตรง และหันหน้าไปทางป่าใบไม้ดำ...
ไม่มีใครรู้ว่ารูปผลึกนั่นเปลี่ยนท่าทางไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่นั่นก็ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านปีศาจพากันแตกตื่นตกใจ และออกมากราบไหว้ ทำพิธีกรรมต่างๆนาๆกันรอบรูปผลึกเต็มไปหมด ด้วยหวังว่าวีรบุรุษผู้กู้โลกของพวกเขาจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง...
“ตื่น ไอ้หนู” เสียงปีศาจโบราณดังปลุกโซดจากในหัว
“ทำไมไม่ออกไปหาอาหาร” มันเริ่มขึ้นเสียง ด้วยความที่ไม่เคยมีใครขัดใจก่อนนับตั้งแต่ที่มันเกิดมาทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
“ฮ้าวววว” โซดตื่นแบบไม่เต็มใจนัก ใบหน้าง่วงหงาวหาวนอนเต็มที่ พลางยกมือน้อยๆที่ขาวซีดขึ้นขยี้ตา
“เจ้าอยากตายรึไง ถึงจะส่งข้าออกไปล่าคนเดียว” โซดถามกลับเมื่อเริ่มตื่นมากขึ้น
“เฮอะ ไอ้เด็กคนนี้ ไม่ได้เรื่อง...” มาดุ๊คเริ่มบ่น “สมัยข้าเป็นเด็กนะ ข้าฆ่าไดโนเสาร์มาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ กะอีแค่ไอ้พวกกระจอกข้างนอกนี่ เจ้าฆ่าไม่ได้เลยเหรอ มา...ข้าจะแสดงให้ดูเป็นตัวอย่าง ออกไปนอกถ้ำสิ”
ทันทีที่โซดก้าวพ้นนอกถ้ำ เขาก็รู้สึกหนาวสันหลังวาบ ไอ้สามตัวที่ตายไปเมื่อกี้มันฟื้นขึ้นมาแล้วก็กลายเป็นตัวใสๆขาวๆ... อะไร มันตายไปแล้วไม่ใช่รึไง
“นั่นแหละ เป้าหมายแรกของเจ้า ไปจัดการกินวิญญาณไอ้พวกกระจอกนั่นซะ... ไม่ต้องห่วงเจ้าแค่หาทางกัดมันให้ได้ก็พอ ที่เหลือข้าจัดการเอง ตราบใดที่ข้ายังอยู่ในกระเพาะเจ้า พวกมันทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอก”
“พวกนี้มันตัวอะไรนะ วิญญาณเหรอ ทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงไม่เคยเห็นล่ะ” โซดยังไม่ยอมไปจนกว่าเขาจะรู้ว่าศัตรูเป็นตัวอะไรกันแน่
“อุวะ ถามมากจริง ที่เจ้าเห็นก็เพราะตอนนี้เจ้าเป็นปีศาจครึ่งนึงแล้วน่ะสิ... ไม่สิ ทำไมข้าไม่ได้สังเกตมาก่อน เจ้านี่มันปีศาจขนานแท้เลย” น้ำเสียงของมาดุ๊คในช่วงหลังนี่กลายเป็นจริงจังขึ้นมา แต่โซดไม่ได้เอะใจอะไร เขาสนใจแต่ว่าจะไปกัดไอ้ตัวนี้ได้ยังไง แล้วพวกมันจะกัดเขาคืนไหมนี่...
ความคิดเห็น