ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ไม่มีใครรู้
๓.
สายลมเอื่อยๆยามค่ำคืน พัดผ่านบานหน้าต่างเล็กๆ ของบ้านขนาดกะทัดรัดหลังหนึ่ง
หญิงสาวถูกอุ้มไปวางที่โซฟาสีจัด ที่จัดไปทางอ่อนมาก (= =’) ก่อนที่เขาจะเลื่อนเก้าอี้ตัวหนึ่งให้ไปใกล้โซฟามากขึ้น
แล้วนั่งแปะลงบนพื้นอย่างไม่รังเกียจ
“บ้ารึเปล่า! เลื่อนเก้าอี้ซะดิบดีแต่นั่งพื้น มานั่งบนเก้าอี้สิ” นันท์เอ่ยขึ้นงงๆ
“ยังสนใจอยู่เหรอ...ว่าพี่จะเป็นยังไง จะอยู่ที่ไหน จะทำอะไรเพื่อใครอยู่บ้าง”
น้ำเสียงตัดพ้อน้อยๆหลุดออกมาจากปากของทาร์ต ก่อนจะจงใจหันไปมองใบหน้าของอีกฝ่าย
ที่กำลังนั่งแปลความหมายแฝงในประโยคเมื่อครู่อย่าง งง
“ไปอาบน้ำไป” ทาร์ตคุกเข่าขึ้นแล้วยกมือลูบหัวนันท์ด้วยความรักใคร่
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อช้าๆ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวใช้มือปัดไปปัดมาบนหัวตัวเอง
“ผมเค้ายุ่งหมดแล้ว” นันท์พูดเครียดๆ แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่วน
“ขำไรอ่ะ” นันท์บ่นอย่างอารมณ์เสีย
“เอ้า! ขำก็ไม่ได้ ยังจะมาเหวี่ยงพี่อีก เคารพนับถือมั้ยเนี่ย พี่แก่กว่าเรานะ”
“แก่กว่าแล้วไง...ไม่ใช่ว่าเค้ามองไม่เห็นพี่ทาร์ตเป็นพี่ ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รู้ว่าพี่ทาร์ตแก่กว่า แต่...”
แค่เรียกแบบนี้แล้วมันดูสนิทสนมกันมากกว่า แล้วก็เหมือนมันไม่มีคำว่า อายุ
มาคั่นกลางระหว่างเรา ก็เท่านั้นเอง
“แต่อะไรล่ะ ...” ทาร์ตรอฟังคำตอบ
“แค่ หน้าพี่ทาร์ตตลกอ้ะ” นันท์แกล้งหัวเราะคิกๆแล้วลุกเพื่อไปอาบน้ำ
“แล้วห้องน้ำมันไปทางไหนนะ” หันกลับมาถามงงๆกับชายยหนุ่มที่ตอนนี้ไปนั่งบนโซฟาแทนที่เธอเรียบร้อยแล้ว
“ออกจากห้องไปเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาแล้วก็ถอยหลังเลี้ยวซ้ายกลับมาเพราะถ้าเลี้ยวขวามันจะเลย”
นันท์พยักหน้าเบาๆ ทำเหมือนเข้าใจเสียเต็มประดา
“แล้วเสื้อผ้าที่จะให้เปลี่ยนมีมั้ยอ่ะ หรือจะให้เค้าแก้ผ้าออกมา” นันท์ถามด้วยแววตากวน
ทาร์ตจึงงเดินมามองหน้าแล้วตอบด้วยแววตากวนกว่า
“ได้อย่างนั้นก็ดี...” ยิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิม
“you so ugly (อั๊ก กะ ลี่ == ’) อ่ะ” หน้าสวยเริ่มแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ชุดเก่าก็มี ทำไมไม่ใส่ล่ะครับ ไว้เดี๋ยวจะพาไปซื้อ ทะเลหัวทราย(ญาติหัวหิน) ที่หาซื้อเยอะแยะ”
ประโยคสุดท้ายหลุดออกมา คนสวยถึงเดินไปอาบน้ำได้พร้อมความแน่ใจ ว่าตอนนี้ฉันอยู่ทะเลหัวทราย ลันล๊า~
“ไม่อยากได้ชุดใหม่ก็บอกนะ จะได้ไม่ต้องเสียตังค์” ยังมิวายที่ชายหนุ่มจะตะโกนไล่หลังไปหา
“โรคจิตอ่ะ” นันท์ตะโกนกลับอย่างหวาดๆ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ไม่ว่าเขาจะลืมเธอไปมากขนาดไหน
และไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอเสียใจมากเท่าไร แต่เธอก็ยังคงอยากใส่ใจ ยังคงห่วงใย และเชื่อใจเขาเสมอ
...ความรู้สึกแบบนี้ มันกลับมาได้อย่างไรกัน...
...
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าสดใส ความกดดันมากมายที่มีมาตั้งแต่ตอนที่นั่งรถมาเริ่มน้อยลงกว่าเดิม
“พาเค้ามาที่นี่ทำไม” สาวสวยเอ่ยปากถามขณะเช็ดผมสีดำขลับของตัวเองไปด้วย
“พามาให้ลิงถามเล่น” ทาร์ตตอบกวนๆ
“เลิกกวนเถอะ เอาดีๆ ไหนจะที่พี่ทาร์ตพูดอังกฤษตั้งหลายหน”
“นันท์จำไม่ได้... ว่าเราพูดอังกฤษกันทำไม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อนัก
อีกฝ่ายจึงไม่ค่อยกล้าที่จะพูดอะไรออกมา ได้แต่แกล้งพยักหน้างงๆ
“คุณลืมแล้วจริงๆ คุณนันท์” ประโยคง่ายๆ ที่ฟังดูห่างเหิน กระแทกเข้าไปในหัวใจของคนฟังอย่างจัง
ชายหนุ่มก้าวขาพาตัวเองไปที่ริมระเบียงแล้วมองผ่านเลยไปยังทะเลแสนสวย
ที่เวลานี้ช่างเงียบสงบเหลือเกิน
“แล้วนายจำได้รึไงล่ะ” บ่นกับตัวเองเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นที่อีกฝ่ายจะได้ยิน
“ผมจำได้ทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับเรา” ตอบไปทั้งๆที่สายตายังคงมองทะเล
แต่ประสาทหูก็ยังคงตั้งใจรับฟังบางสิ่งจากปากคนข้างหลังอยู่
“ทำไมเราถึงต้องพูดภาษาอังกฤษกันตอนนั้น” แสร้งถามซื่อๆแต่กลับทำให้คนที่ยืนมองทะเลอยู่รู้สึกชาอย่างบอกไม่ถูก
แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงอ้าปากตอบไป
“เพราะว่านันท์ ชอบภาษาอังกฤษ...เราเจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนสอนภาษา พี่รู้จักกับไอ้นิเพื่อนนันท์
พี่ก็เลยไปส่งมัน นันท์ก็เลยคิดว่าพี่มาเรียนภาษาเหมือนกัน...ทั้งๆที่ไม่ใช่
แต่ก็เพราะพี่ชอบนันท์แต่แรก ถึงได้ยอมเสียเงินไปเรียน ทั้งๆที่ตอนนั้น พี่เกลียดภาษาอังกฤษซะยิ่งกว่าอะไร”
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างสมเพชตัวเองในลำคอ ต่างจากหญิงสาวที่กำลังแอบอมยิ้มดีใจไม่น้อยที่เขาจำได้
แล้วก็ยิ้มให้อีกครั้งกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ เกิดมาเพิ่งเคยรู้ว่าสิ่งที่เขาทำทั้งหมด ก็เพราะเธอ
...เวลานี้เธอคิดว่า การยืนอยู่ข้างหลังคนที่เรารัก ในขณะที่เขาไม่รู้ว่าเรารัก...
มันช่างเป็นความสุข ที่แฝงไปด้วยความทุกข์ มากมายเหลือเกิน...
ด้วยความรู้สึกหลายอย่างปนเปกัน ทำให้สองขาเรียวเริ่มก้าวเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม แล้วกอดเขาจากทางด้านหลัง
ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีทั้งหมด ออกไปอย่างจริงใจ แต่เขากลับเลือกที่จะผลักเธอออกไปอย่างรุนแรง
จนร่างบางเกือบกระเด็นไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบความรู้สึกเมื่อครู่
หากแต่ตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆ เธอก็พรวดพราดเข้ามากอดเขาเอาเสียดื้อๆ ความรู้สึกมันคลุมเครือ
เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้นแหละ(เนอะ)... แต่น่าเสียดาย ที่นันท์กลับไม่เข้าใจ
“ขอโทษนะ” ทาร์ตเอ่ยอย่างรู้สึกผิดเมื่อเห็นหญิงสาวเซไป
“ไม่เป็นไร” คำสามคำ สั้นๆ ง่ายๆ ที่หลุดออกมาจากปากนันท์ อาจจะไม่ทำให้ทาร์ตรู้สึกอะไรมากสักเท่าไหร่นัก
ถ้ามันไม่ได้หลุดออกมาพร้อมหยาดน้ำใสๆจากดวงตาคู่สวย ของผู้หญิงที่เขารัก...หมดหัวใจ
สองขาสวยก้าวฉับ ๆ ออกไปโดยที่ไม่คิดจะสนใจเสียงเรียกอะไรอีก เพราะแค่นี้มันก็ดูเหมือนว่า จะชัดเจนมากเกินพอแล้ว
“นันท์...” ทาร์ตเอ่ยเบาๆ ก่อนที่หญิงสาวจะพาตัวเองเลี้ยวลับไปตรงช่องทางเดิน
...
เวลานี้หน้าสวยเปรอะไปด้วยน้ำหยาดใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาของเธอเอง
สองขาเรียวถูกยกขึ้นมาชันบน... ...ชักโครก... อย่างเหงาๆ ก่อนที่สองมือจะยกขึ้นมากอดเข่าแล้วซบหน้าร้องไห้กับตัวเอง
“นายไม่เข้าใจฉันเลยใช่ไหม... นายไม่เคยรู้อะไรเลย”
อดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองเช่นนั้น เมื่อเขา ไม่เคยรู้อะไรเลยจริงๆ
“นันท์ เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงทุ้มดังออกมาจากปากคนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
“เปล่า...” ก็แค่น้ำตามันจะไหลไปถึงขนหน้าแข้งแล้วเท่านั้นเอง = = ’
“มีอะไรก็บอกสิ” คนที่ยืนอยู่เริ่มใจเสีย เมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือออกมาจากปากอีกฝ่าย
“ไม่หรอกพี่ นันท์ว่านะ เรากำลังพูดกันคนละภาษา” นันท์ตอบกลับด้วยเสียงเรียบเฉย
“พี่ไม่รู้ว่านันท์คิดยังไง”
“เค้าก็ไม่รู้ ว่าเค้าทำอะไรผิด” มือเรียวปาดน้ำตาตัวเองออกลวกๆ ก่อนจะเดินไปใช้หลังพิงประตูเอาไว้
ไม่ต่างอะไรกับชายหนุ่มที่ตอนนี้หันหลังพิงประตูอยู่เช่นกัน
“บางทีพูดกันไม่เข้าใจ ไม่พูดอะไรน่าจะดีกว่า” เสียงหญิงสาวดังออกมาจากในห้องน้ำ
ก่อนที่ทั้งสองจะไม่พูดอะไรกันอีกเลย แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขายังคงยืนอยู่ และแน่นอนว่าเขาเองก็รู้ดีสึกเช่นกัน
ที่เขารู้ว่า... เขายังได้อยู่ใกล้ๆเธอ แล้วปล่อยให้เวลามันผ่านไปช้าๆ จนรู้สึกดีขึ้น
“ไปซื้อของกันเถอะ” ในที่สุดทาร์ตก็พูดประโยคหนึ่งออกมา
“อื้ม” ตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะรีบจัดการใบหน้าของตัวเองให้ดูปกติที่สุดแล้วเปิดประตูออกมา
จู่ๆร่างหนาก็รวบตัวเธอเข้าไปกอดอย่างรวดเร็ว อยากขอโทษเธอมากมายเหลือเกิน ที่เขาทำให้เธอต้องร้องไห้อีกแล้ว
หญิงสาวยืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะกอดตอบเขาอย่างช้าๆ
“หลังจากนี้ มันก็คงแล้วแต่นันท์” ชายหนุ่มกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะเดินนำออกไป
...
สายลมเอื่อยๆยามค่ำคืน พัดผ่านบานหน้าต่างเล็กๆ ของบ้านขนาดกะทัดรัดหลังหนึ่ง
หญิงสาวถูกอุ้มไปวางที่โซฟาสีจัด ที่จัดไปทางอ่อนมาก (= =’) ก่อนที่เขาจะเลื่อนเก้าอี้ตัวหนึ่งให้ไปใกล้โซฟามากขึ้น
แล้วนั่งแปะลงบนพื้นอย่างไม่รังเกียจ
“บ้ารึเปล่า! เลื่อนเก้าอี้ซะดิบดีแต่นั่งพื้น มานั่งบนเก้าอี้สิ” นันท์เอ่ยขึ้นงงๆ
“ยังสนใจอยู่เหรอ...ว่าพี่จะเป็นยังไง จะอยู่ที่ไหน จะทำอะไรเพื่อใครอยู่บ้าง”
น้ำเสียงตัดพ้อน้อยๆหลุดออกมาจากปากของทาร์ต ก่อนจะจงใจหันไปมองใบหน้าของอีกฝ่าย
ที่กำลังนั่งแปลความหมายแฝงในประโยคเมื่อครู่อย่าง งง
“ไปอาบน้ำไป” ทาร์ตคุกเข่าขึ้นแล้วยกมือลูบหัวนันท์ด้วยความรักใคร่
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อช้าๆ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวใช้มือปัดไปปัดมาบนหัวตัวเอง
“ผมเค้ายุ่งหมดแล้ว” นันท์พูดเครียดๆ แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่วน
“ขำไรอ่ะ” นันท์บ่นอย่างอารมณ์เสีย
“เอ้า! ขำก็ไม่ได้ ยังจะมาเหวี่ยงพี่อีก เคารพนับถือมั้ยเนี่ย พี่แก่กว่าเรานะ”
“แก่กว่าแล้วไง...ไม่ใช่ว่าเค้ามองไม่เห็นพี่ทาร์ตเป็นพี่ ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รู้ว่าพี่ทาร์ตแก่กว่า แต่...”
แค่เรียกแบบนี้แล้วมันดูสนิทสนมกันมากกว่า แล้วก็เหมือนมันไม่มีคำว่า อายุ
มาคั่นกลางระหว่างเรา ก็เท่านั้นเอง
“แต่อะไรล่ะ ...” ทาร์ตรอฟังคำตอบ
“แค่ หน้าพี่ทาร์ตตลกอ้ะ” นันท์แกล้งหัวเราะคิกๆแล้วลุกเพื่อไปอาบน้ำ
“แล้วห้องน้ำมันไปทางไหนนะ” หันกลับมาถามงงๆกับชายยหนุ่มที่ตอนนี้ไปนั่งบนโซฟาแทนที่เธอเรียบร้อยแล้ว
“ออกจากห้องไปเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาแล้วก็ถอยหลังเลี้ยวซ้ายกลับมาเพราะถ้าเลี้ยวขวามันจะเลย”
นันท์พยักหน้าเบาๆ ทำเหมือนเข้าใจเสียเต็มประดา
“แล้วเสื้อผ้าที่จะให้เปลี่ยนมีมั้ยอ่ะ หรือจะให้เค้าแก้ผ้าออกมา” นันท์ถามด้วยแววตากวน
ทาร์ตจึงงเดินมามองหน้าแล้วตอบด้วยแววตากวนกว่า
“ได้อย่างนั้นก็ดี...” ยิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิม
“you so ugly (อั๊ก กะ ลี่ == ’) อ่ะ” หน้าสวยเริ่มแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ชุดเก่าก็มี ทำไมไม่ใส่ล่ะครับ ไว้เดี๋ยวจะพาไปซื้อ ทะเลหัวทราย(ญาติหัวหิน) ที่หาซื้อเยอะแยะ”
ประโยคสุดท้ายหลุดออกมา คนสวยถึงเดินไปอาบน้ำได้พร้อมความแน่ใจ ว่าตอนนี้ฉันอยู่ทะเลหัวทราย ลันล๊า~
“ไม่อยากได้ชุดใหม่ก็บอกนะ จะได้ไม่ต้องเสียตังค์” ยังมิวายที่ชายหนุ่มจะตะโกนไล่หลังไปหา
“โรคจิตอ่ะ” นันท์ตะโกนกลับอย่างหวาดๆ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ไม่ว่าเขาจะลืมเธอไปมากขนาดไหน
และไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอเสียใจมากเท่าไร แต่เธอก็ยังคงอยากใส่ใจ ยังคงห่วงใย และเชื่อใจเขาเสมอ
...ความรู้สึกแบบนี้ มันกลับมาได้อย่างไรกัน...
...
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าสดใส ความกดดันมากมายที่มีมาตั้งแต่ตอนที่นั่งรถมาเริ่มน้อยลงกว่าเดิม
“พาเค้ามาที่นี่ทำไม” สาวสวยเอ่ยปากถามขณะเช็ดผมสีดำขลับของตัวเองไปด้วย
“พามาให้ลิงถามเล่น” ทาร์ตตอบกวนๆ
“เลิกกวนเถอะ เอาดีๆ ไหนจะที่พี่ทาร์ตพูดอังกฤษตั้งหลายหน”
“นันท์จำไม่ได้... ว่าเราพูดอังกฤษกันทำไม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อนัก
อีกฝ่ายจึงไม่ค่อยกล้าที่จะพูดอะไรออกมา ได้แต่แกล้งพยักหน้างงๆ
“คุณลืมแล้วจริงๆ คุณนันท์” ประโยคง่ายๆ ที่ฟังดูห่างเหิน กระแทกเข้าไปในหัวใจของคนฟังอย่างจัง
ชายหนุ่มก้าวขาพาตัวเองไปที่ริมระเบียงแล้วมองผ่านเลยไปยังทะเลแสนสวย
ที่เวลานี้ช่างเงียบสงบเหลือเกิน
“แล้วนายจำได้รึไงล่ะ” บ่นกับตัวเองเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นที่อีกฝ่ายจะได้ยิน
“ผมจำได้ทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับเรา” ตอบไปทั้งๆที่สายตายังคงมองทะเล
แต่ประสาทหูก็ยังคงตั้งใจรับฟังบางสิ่งจากปากคนข้างหลังอยู่
“ทำไมเราถึงต้องพูดภาษาอังกฤษกันตอนนั้น” แสร้งถามซื่อๆแต่กลับทำให้คนที่ยืนมองทะเลอยู่รู้สึกชาอย่างบอกไม่ถูก
แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงอ้าปากตอบไป
“เพราะว่านันท์ ชอบภาษาอังกฤษ...เราเจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนสอนภาษา พี่รู้จักกับไอ้นิเพื่อนนันท์
พี่ก็เลยไปส่งมัน นันท์ก็เลยคิดว่าพี่มาเรียนภาษาเหมือนกัน...ทั้งๆที่ไม่ใช่
แต่ก็เพราะพี่ชอบนันท์แต่แรก ถึงได้ยอมเสียเงินไปเรียน ทั้งๆที่ตอนนั้น พี่เกลียดภาษาอังกฤษซะยิ่งกว่าอะไร”
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างสมเพชตัวเองในลำคอ ต่างจากหญิงสาวที่กำลังแอบอมยิ้มดีใจไม่น้อยที่เขาจำได้
แล้วก็ยิ้มให้อีกครั้งกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ เกิดมาเพิ่งเคยรู้ว่าสิ่งที่เขาทำทั้งหมด ก็เพราะเธอ
...เวลานี้เธอคิดว่า การยืนอยู่ข้างหลังคนที่เรารัก ในขณะที่เขาไม่รู้ว่าเรารัก...
มันช่างเป็นความสุข ที่แฝงไปด้วยความทุกข์ มากมายเหลือเกิน...
ด้วยความรู้สึกหลายอย่างปนเปกัน ทำให้สองขาเรียวเริ่มก้าวเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม แล้วกอดเขาจากทางด้านหลัง
ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีทั้งหมด ออกไปอย่างจริงใจ แต่เขากลับเลือกที่จะผลักเธอออกไปอย่างรุนแรง
จนร่างบางเกือบกระเด็นไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบความรู้สึกเมื่อครู่
หากแต่ตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆ เธอก็พรวดพราดเข้ามากอดเขาเอาเสียดื้อๆ ความรู้สึกมันคลุมเครือ
เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้นแหละ(เนอะ)... แต่น่าเสียดาย ที่นันท์กลับไม่เข้าใจ
“ขอโทษนะ” ทาร์ตเอ่ยอย่างรู้สึกผิดเมื่อเห็นหญิงสาวเซไป
“ไม่เป็นไร” คำสามคำ สั้นๆ ง่ายๆ ที่หลุดออกมาจากปากนันท์ อาจจะไม่ทำให้ทาร์ตรู้สึกอะไรมากสักเท่าไหร่นัก
ถ้ามันไม่ได้หลุดออกมาพร้อมหยาดน้ำใสๆจากดวงตาคู่สวย ของผู้หญิงที่เขารัก...หมดหัวใจ
สองขาสวยก้าวฉับ ๆ ออกไปโดยที่ไม่คิดจะสนใจเสียงเรียกอะไรอีก เพราะแค่นี้มันก็ดูเหมือนว่า จะชัดเจนมากเกินพอแล้ว
“นันท์...” ทาร์ตเอ่ยเบาๆ ก่อนที่หญิงสาวจะพาตัวเองเลี้ยวลับไปตรงช่องทางเดิน
...
เวลานี้หน้าสวยเปรอะไปด้วยน้ำหยาดใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาของเธอเอง
สองขาเรียวถูกยกขึ้นมาชันบน... ...ชักโครก... อย่างเหงาๆ ก่อนที่สองมือจะยกขึ้นมากอดเข่าแล้วซบหน้าร้องไห้กับตัวเอง
“นายไม่เข้าใจฉันเลยใช่ไหม... นายไม่เคยรู้อะไรเลย”
อดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองเช่นนั้น เมื่อเขา ไม่เคยรู้อะไรเลยจริงๆ
“นันท์ เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงทุ้มดังออกมาจากปากคนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
“เปล่า...” ก็แค่น้ำตามันจะไหลไปถึงขนหน้าแข้งแล้วเท่านั้นเอง = = ’
“มีอะไรก็บอกสิ” คนที่ยืนอยู่เริ่มใจเสีย เมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือออกมาจากปากอีกฝ่าย
“ไม่หรอกพี่ นันท์ว่านะ เรากำลังพูดกันคนละภาษา” นันท์ตอบกลับด้วยเสียงเรียบเฉย
“พี่ไม่รู้ว่านันท์คิดยังไง”
“เค้าก็ไม่รู้ ว่าเค้าทำอะไรผิด” มือเรียวปาดน้ำตาตัวเองออกลวกๆ ก่อนจะเดินไปใช้หลังพิงประตูเอาไว้
ไม่ต่างอะไรกับชายหนุ่มที่ตอนนี้หันหลังพิงประตูอยู่เช่นกัน
“บางทีพูดกันไม่เข้าใจ ไม่พูดอะไรน่าจะดีกว่า” เสียงหญิงสาวดังออกมาจากในห้องน้ำ
ก่อนที่ทั้งสองจะไม่พูดอะไรกันอีกเลย แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขายังคงยืนอยู่ และแน่นอนว่าเขาเองก็รู้ดีสึกเช่นกัน
ที่เขารู้ว่า... เขายังได้อยู่ใกล้ๆเธอ แล้วปล่อยให้เวลามันผ่านไปช้าๆ จนรู้สึกดีขึ้น
“ไปซื้อของกันเถอะ” ในที่สุดทาร์ตก็พูดประโยคหนึ่งออกมา
“อื้ม” ตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะรีบจัดการใบหน้าของตัวเองให้ดูปกติที่สุดแล้วเปิดประตูออกมา
จู่ๆร่างหนาก็รวบตัวเธอเข้าไปกอดอย่างรวดเร็ว อยากขอโทษเธอมากมายเหลือเกิน ที่เขาทำให้เธอต้องร้องไห้อีกแล้ว
หญิงสาวยืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะกอดตอบเขาอย่างช้าๆ
“หลังจากนี้ มันก็คงแล้วแต่นันท์” ชายหนุ่มกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะเดินนำออกไป
...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น