ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความทรงจำ กับ ความไม่มั่นใจ
๒.
ระหว่างทางที่นันท์จะเดินกลับก็มีมือหนึ่งมาฉุดตัวเธอไว้ ทำให้แผ่นหลังของนันท์ แนบกับแผงอกของเขา
มือหนาปิดปากเธอแน่นก่อนจะเอ่ยเสียงที่เธอคุ้นเคยออกมา
“close your eyes and believe inme…” นันท์หลับตาอย่างว่าง่ายแล้วยอมให้ชายหนุ่มอุ้มไปแต่โดยดี
“ทำไมต้องพูดภาษาอังกฤษ” นันท์เอ่ยถามเมื่อเขาวางเธอลง ณ ที่ใดที่หนึ่ง ที่เป็นเบาะนุ่มๆ นั่งสบายเหลือเกิน
ไร้เสียงตอบรับ นันท์จึงทำท่าจะลืมตา แต่กลับมีผ้ามาผูกตาเธอเอาไว้
“เราจะไปไหนกัน” เสียงใสเอ่ยถามอีกครั้ง
“ที่ของเรา … ที่ที่เป็นหัวใจของผม” คนพูดแกล้งทำเสียงเข้มแต่มันกลับฟังดูอ่อนโยนที่สุด นันท์จึงอมยิ้มน้อยๆออกมา
ไม่นานนักก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดลงบนใบหน้าของเธอ ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะประกบกันพอดี
ความอ่อนโยนที่เขาถ่ายทอดผ่านริมฝีปากนั้นบวกกับกลิ่นไวน์องุ่นที่ดูเหมือนเขาจะเพิ่
งดื่มมันมาเมื่อครู่
ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ แทบไม่รู้ตัวเลยด้วยช้ำว่ายังคงต้องหายใจอยู่
~And I’m telling you I’m not going…~
โอเคชัด ตามพลอตละครไทย เสียงริงโทนโทรศัพท์ของนันท์ดังขึ้น เขาจึงค่อยๆถอนจูบนั้นออกช้าๆ
เพราะรู้ดีว่าคนที่เป็นตัวจริงของผู้หญิงตรงหน้าโทรมาหาเธอแล้ว
“บอกเขาไปได้ไหม ... ว่าคุณกลับบ้านไปแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“แล้วฉันจะเชื่อใจนายได้แค่ไหนล่ะ แค่นี้นายก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดมากพอแล้ว” นันท์ตัดพ้อน้อยๆ เธอไม่เคยรู้เลยว่า
ผู้ชายตรงหน้าจะยังเป็นคนที่เธอรักอยู่หรือเปล่า เขาจะใช่คนๆนั้นจริงๆ หรือจะเป็นแค่คนที่กลับมาหลอกเธอเท่านั้น
“แค่คุณ ... เชื่อใจผม” มือหนาถือวิสาสะคว้าโทรศัพท์ของร่างบางมากดรับสายทันที
ยื่นโทรศัพท์ให้แล้วกระซิบบอกเบาๆ ว่า “ดล” โทรมา
“นันท์กลับบ้านแล้ว... ไว้เจอกันวันหลังนะ” ทันทีที่ประโยคสิ้นสุดลงรอยยิ้มมุมปากก็ปรากฏ
บนใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป
“ฮ้าววววววว” นันท์อ้าปากหาวแบบไม่เกรงใจใคร เมื่อรถออกตัวไปได้สักพักใหญ่
“หลับก่อนก็ได้นะ คงอีกนานกว่าจะถึง” เฮอะ ! นี่เขาคงไม่รู้มั้งว่าตั้งแต่นั่งมาเธอหลับไปกี่รอบแล้ว
“นายจะพาฉันไปไหนอ่ะ...พี่ทาร์ต” เสียงตอบรับของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มต้องเบรกกระทันหัน
จนคนที่นั่งๆอยู่เกือบพุ่งไปกระแทกคอนโซลหน้ารถ
“นันท์จำได้ว่าเป็นพี่” แกะผ้าปิดตาออก แล้วเอียงคอถามอย่างสงสัย
คนสวยจึงแอบคิดในใจ จะเอาผ้ามาปิดตากันทำไม ในเมื่อเสียงกับอะไรหลายๆอย่างมันใช่ ก็จำได้อยู่ดี
“เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ...ฉันไม่ลืมนายหรอก”
“ไม่ลืมหรอก...แต่แค่ไม่อยากจำ ใช่มั้ย” ทาร์ตพูดเบาๆแล้วหันไปมองถนนตรงหน้าอย่างเหงาๆ
แต่อยู่ดีๆก็หันกลับมามองหญิงสาว อย่างกระทันหัน
“ถ้านันท์ไม่ลืมพี่ ทำไมต้องไปคบกับไอ้ดลด้วย” ถามเสียงหนักแน่น เน้นว่าต้องการคำตอบ
“ช่างมันเถอะ...” หญิงสาวบอกปัด แล้วพยายามหลบสายตา รู้ดีว่าตัวเองก็มีส่วนผิด
ที่ตกลงคบกับดล ทั้งที่ยังไม่ค่อยแน่ใจ
แต่เขาเองก็ทำให้เธอต้องงุนงงขนาดหนัก อาจจะใช่...ที่ว่าเธอบอกเลิกเขา แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะเลิก
แล้วก็เป็นเขาเอง ที่เลือกที่จะไม่ติดต่อกลับมาหาเธอเลย ไม่โทร ไม่พูด ไม่คุย
ในขณะที่ผู้ชายอีกคน หลอกจีบ ตามจีบเธอมามากกว่าครึ่งปี บอกตรงๆว่าอยากได้เธอเป็นแฟน
แต่เขากลับทำสถานะให้มันคลุมเครือ จะเลิกก็ไม่เลิก จะรักก็ไม่รัก
ไม่ยอมติดต่อกลับมา ทำเหมือนไม่แคร์ไม่สนใจ มันหมายความว่าอะไร
“อย่าช่างมันได้ไหม หรือว่านันท์กับไอ้ดลรักกันตั้งแต่ก่อนพี่ไปเรียนต่อ รวมหัวกันหลอกพี่เหรอ
แล้วพอสบโอกาสนันท์ก็จะหาทางไปจากพี่... เฮอะ แค่บอกง่ายๆคำเดียวก็พอ
ว่านันท์ไม่ได้รักพี่แล้ว พี่จะได้ไป เราจะได้เลิกกัน นันท์จะได้ไม่ต้องมาแกล้งเล่นละครหลอกพี่ไง”
ทาร์ตเริ่มพูดเสียงดังขึ้นจนนันท์อึ้ง ผู้ชายสมัยนี้ช่างคิดได้
“แล้วนี่เรายังไม่ได้เลิกกันอีกเหรอไงคะ” นันท์ขึ้นเสียงบ้าง แค่เพียงเพราะไม่อยากปิดกั้นเขา
แค่เพียงเพราะเธออยากให้เขาเจออะไรที่ดีกว่า มันกลับกลายเป็นว่าเธอไม่ได้รักเขา
ทั้งๆที่เธอรัก ... หมดหัวใจน่ะเหรอ
“ ตอบมาง่าย ๆ สั้นๆ นันท์ยังรักพี่ไหม” เหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้สนใจฟังว่าอีกฝ่ายประชดอะไรกับเขา
ถึง ได้ตวาดออกไปเพราะต้องการเค้นคำตอบ มือหนาเริ่มจับไหล่ของอีกฝ่ายแน่น แล้วเขย่าอย่างแรงเหมือนคนที่ควบคุมสติไม่อยู่ จนทำให้คนที่ถูกบีบไหล่อยู่รู้สึกเจ็บ
“นันท์ รักพี่ใช่ไหม” เมื่อสิ้นเสียงของทาร์ต มือหนาที่จับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวอยู่ได้ถูกปล่อยลง
ทิ้งให้คนตรงหน้าตัวสั่นเทิ้มน้ำตาคลอเพราะหลายความรู้สึกระคนกัน
“ถ้ารัก แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ!” นันท์ตวาด
“นันท์ก็เลิกกับดล แล้วมาคบกับพี่สิ!” ทาร์ตตอกกลับอย่างคนสติหลุด
“มันดูเห็นแก่ตัวแล้วก็ไร้สาระมากไปหน่อยแล้วนะพี่ทาร์ต”
“ก็ถ้านันท์คิดว่าความรักของพี่มันไร้สาระ พี่เห็นแก่ตัวได้มากกว่านี้อีก!”
ทันทีที่ประโยคจบ ร่างสูงก็โถมตัวไปยังฝั่งที่หยิงสาวนั่งอยู่อย่างรวดเร็ว
ใบหน้าหล่อซุกไซ้ตรงซอกคอของอีกฝ่ายอย่างหื่นกระหาย ไม่สนใจสักนิดว่าร่างบางจะดิ้นหรือขัดขืนเพียงใด
รู้เพียงแต่ว่าจะไม่ยอมให้ใครได้เป็นเจ้าของคนคนนี้ คนที่เขารักอีกแล้ว
น้ำตาของนันท์เริ่มไหลลงมาอาบแก้ม
การดิ้นและขัดขืนทุกอย่างเริ่มหยุดลง เมื่อเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ใดๆ เมื่อเขาไม่สนใจอะไรเลย
เมื่อสังเกตได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ทาร์ตจึงหยุดการกระทำทุกอย่างลง
เขาเลวมาก เขาทำให้เธอต้องร้องไห้
“พี่ขอโทะ...” แน่นอนว่ายังไม่ทันที่จะจบประโยคดี
มือบางของหญิงสาวก็ฟาดลงไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแรงทั้งน้ำตา
“ฉันเกลียดนาย นายมันทุเรศที่สุด ฉันเกลียดนาย ได้ยินมั้ย ฉันเกลียดนาย!!!” นันท์ตวาดอย่างเหลืออด
แล้วทำท่าจะลงจากรถ แต่คำว่าเกลียดเมื่อครู่ทำให้ทาร์ตออกรถอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังจุดหมาย
นันท์จึงได้แต่นั่งร้องไห้ไปตลอดทาง
...
รถยนต์มาสด้าสีขาวถูกขับมาจอดริมทะเลแห่งหนึ่ง สองขายาวก้าวลงจากรถ
แล้วเดินไปเปิดประตูให้อีกคนที่กำลังหลับเอาหัวพิงกระจกอยู่
“ว้าย!” การเปิดประตูแบบไม่ทันได้คิดอะไรของชายหนุ่มทำให้คนที่นอนพิงอยู่เสียหลักเวและทำท่า
จะล้มลงมา
หากแต่ร่างสูงเอาตัวของเขาไปรับตัวเธอเอาไว้ ร่างบางจึงกอดคนตรงหน้าแน่นโดยอัติโนมัติ
หัวของเธอจึงซบลงกับแผงอกอุ่นๆของเขา ก่อนจะรีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว
เมื่อเสียงหัวใจเริ่มเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ บ่งบอกว่า ‘ไม่ไหวแล้ว’
“ขอบคุณ/ขอโทษ” สองประโยค สองเสียง แต่พูดออกมาในเวลาเดียวกัน
หนึ่งประโยคคือคำขอบคุณตามมารยาท ของหญิงสาวที่ชายหนุ่มรับร่างเธอไว้เมื่อครู่
และอีกหนึ่งประโยค คือคำขอโทษที่ ออกมาจากใจของชายหนุ่ม...ขอโทษที่เขาทำร้ายเธอ...
ขอโทษที่เขาทำให้เธอต้องเสียน้ำตา
ความเงียบงันกลืนกินทุกอย่างไปหมด ... ตาสองคู่สบกันนิ่ง มีหลายความหมายแฝงอยู่ในดวงตาของทั้งสองคนมากมาย
หากแต่เขาและเธอกลับเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป...สักคำ ต่างคนต่างปล่อยให้อีกฝ่ายมองลึกลงไปในดวงตาของตัวเอง
ให้เขาคิดเอาเองว่าเรารู้สึกอย่างไร ... แล้วเขาจะไปรู้ได้ไหมว่าเราคิดอะไร ถ้าไม่พูดกัน?
“พี่...จะทำให้นันท์เลิกกับดล แล้วมาคบกับพี่ให้ได้” รู้ดีว่าตัวเองอาจจะดูเลว แต่ก็เพื่อคนที่เรารัก
แววตาที่เคยอ่อนโยนของชายหนุ่มกลับกลายเป็นแววตาแข็งกร้าวที่แฝงความมุ่งมั่นไว้ลึกๆ จนคนที่มองอยู่รู้สึกสับสน
เขาจะทำ เพียงเพราะแค่อยากเอาชนะอีกคน หรือที่เขาจะทำ เพราะเขายังรักเธออยู่จริงๆกันแน่
“ถ้านายทำให้ฉันรักนายได้...นายจะรักฉันบ้าง ได้ไหมล่ะ” แขนเรียวถูกยกขึ้นมากอดตัวเองด้วยท่าทีเหงาๆ
แล้วตั้งใจรอฟังคำตอบจากประโยคคำถามที่เธอถามเมื่อครู่
ดวงตาคู่สวยสบแววตาแข็งกร้าวนั้นด้วยความหวั่นไหว หากแต่อีกฝ่ายกลับเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตาเธอ
ด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ อย่างบอกไม่ถูก
“ไปกันเถอะ” เลี่ยงที่จะตอบคำถามแล้วพยายามจะดึงอีกฝ่ายไปยังอีกที่หนึ่ง
“ถ้านายไม่ตอบ ฉันจะกลับไปหาพี่ดล” ประโยคถึ่งประชดจากนันท์ทำให้มือหนาเผลอบีบข้อมืออีกฝ่าย
ที่เขากุมอยู่เสียแน่น ไอ้ความรู้สึกไม่มั่นใจ หมดกันพอดี
ทาร์ตรวบตัวนันท์ไว้ในอ้อมกอด
“ปล่อยนะนายซาตาน นายไม่ใช่พี่ดลสักหน่อย” นันท์ร้องแล้วเริ่มดิ้นพล่าน
กลัวไม่น้อยว่าเขาจะทำอะไรเธออีก แต่ก็ไม่ยอมหยุดประชด
“ใช่ครับ ผมเป็นซาตาน ไม่ใช่เทวดาแล้วก็ไม่ใช่คุณดลของคุณด้วยคุณนางฟ้า
แล้วคุณอยากรู้มั้ยล่ะ ว่าเป็นซาตานน่ะ เขาต้องทำกันยังไง”
ทาร์ตช้อนตัวหญิงสาวขึ้นไปอุ้ม อยากจะถอนคำพูด นางฟ้าหรือหมูตอนกันแน่นะ ตัวหนักชะมัด
“เฮ้ยยย! ไม่อยากรู้ ไม่อยากรู้ ปล่อยเค้าเถอะพี่ทาร์ต” แหกปากร้องอยู่อย่างนั้น
จนชายหนุ่มมองด้วยสายตาเป็นเชิงให้หยุดจึงค่อยสงบลง
“ล้อเล่นหน่อยเดียว ทำเป็นดิ้นซะ กลัวมากนักหรือไง”
“เค้ากลัวพี่ทาร์ต ทำอะไรเค้าอีก” หน้าสวยพูดเหมือนไม้ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน
แต่ประโยคนั้นก็ยังหลุดเข้าหูชายหนุ่มไปได้อีกอยู่ดี
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะได้ยิน ก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรสักคำ ไม่ใช่อะไรหรอก
กลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่เขาพูดออกไป มันจะทำให้เธอเจ็บ ... มากไปกว่านี้
...
ระหว่างทางที่นันท์จะเดินกลับก็มีมือหนึ่งมาฉุดตัวเธอไว้ ทำให้แผ่นหลังของนันท์ แนบกับแผงอกของเขา
มือหนาปิดปากเธอแน่นก่อนจะเอ่ยเสียงที่เธอคุ้นเคยออกมา
“close your eyes and believe inme…” นันท์หลับตาอย่างว่าง่ายแล้วยอมให้ชายหนุ่มอุ้มไปแต่โดยดี
“ทำไมต้องพูดภาษาอังกฤษ” นันท์เอ่ยถามเมื่อเขาวางเธอลง ณ ที่ใดที่หนึ่ง ที่เป็นเบาะนุ่มๆ นั่งสบายเหลือเกิน
ไร้เสียงตอบรับ นันท์จึงทำท่าจะลืมตา แต่กลับมีผ้ามาผูกตาเธอเอาไว้
“เราจะไปไหนกัน” เสียงใสเอ่ยถามอีกครั้ง
“ที่ของเรา … ที่ที่เป็นหัวใจของผม” คนพูดแกล้งทำเสียงเข้มแต่มันกลับฟังดูอ่อนโยนที่สุด นันท์จึงอมยิ้มน้อยๆออกมา
ไม่นานนักก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดลงบนใบหน้าของเธอ ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะประกบกันพอดี
ความอ่อนโยนที่เขาถ่ายทอดผ่านริมฝีปากนั้นบวกกับกลิ่นไวน์องุ่นที่ดูเหมือนเขาจะเพิ่
งดื่มมันมาเมื่อครู่
ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ แทบไม่รู้ตัวเลยด้วยช้ำว่ายังคงต้องหายใจอยู่
~And I’m telling you I’m not going…~
โอเคชัด ตามพลอตละครไทย เสียงริงโทนโทรศัพท์ของนันท์ดังขึ้น เขาจึงค่อยๆถอนจูบนั้นออกช้าๆ
เพราะรู้ดีว่าคนที่เป็นตัวจริงของผู้หญิงตรงหน้าโทรมาหาเธอแล้ว
“บอกเขาไปได้ไหม ... ว่าคุณกลับบ้านไปแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“แล้วฉันจะเชื่อใจนายได้แค่ไหนล่ะ แค่นี้นายก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดมากพอแล้ว” นันท์ตัดพ้อน้อยๆ เธอไม่เคยรู้เลยว่า
ผู้ชายตรงหน้าจะยังเป็นคนที่เธอรักอยู่หรือเปล่า เขาจะใช่คนๆนั้นจริงๆ หรือจะเป็นแค่คนที่กลับมาหลอกเธอเท่านั้น
“แค่คุณ ... เชื่อใจผม” มือหนาถือวิสาสะคว้าโทรศัพท์ของร่างบางมากดรับสายทันที
ยื่นโทรศัพท์ให้แล้วกระซิบบอกเบาๆ ว่า “ดล” โทรมา
“นันท์กลับบ้านแล้ว... ไว้เจอกันวันหลังนะ” ทันทีที่ประโยคสิ้นสุดลงรอยยิ้มมุมปากก็ปรากฏ
บนใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป
“ฮ้าววววววว” นันท์อ้าปากหาวแบบไม่เกรงใจใคร เมื่อรถออกตัวไปได้สักพักใหญ่
“หลับก่อนก็ได้นะ คงอีกนานกว่าจะถึง” เฮอะ ! นี่เขาคงไม่รู้มั้งว่าตั้งแต่นั่งมาเธอหลับไปกี่รอบแล้ว
“นายจะพาฉันไปไหนอ่ะ...พี่ทาร์ต” เสียงตอบรับของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มต้องเบรกกระทันหัน
จนคนที่นั่งๆอยู่เกือบพุ่งไปกระแทกคอนโซลหน้ารถ
“นันท์จำได้ว่าเป็นพี่” แกะผ้าปิดตาออก แล้วเอียงคอถามอย่างสงสัย
คนสวยจึงแอบคิดในใจ จะเอาผ้ามาปิดตากันทำไม ในเมื่อเสียงกับอะไรหลายๆอย่างมันใช่ ก็จำได้อยู่ดี
“เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ...ฉันไม่ลืมนายหรอก”
“ไม่ลืมหรอก...แต่แค่ไม่อยากจำ ใช่มั้ย” ทาร์ตพูดเบาๆแล้วหันไปมองถนนตรงหน้าอย่างเหงาๆ
แต่อยู่ดีๆก็หันกลับมามองหญิงสาว อย่างกระทันหัน
“ถ้านันท์ไม่ลืมพี่ ทำไมต้องไปคบกับไอ้ดลด้วย” ถามเสียงหนักแน่น เน้นว่าต้องการคำตอบ
“ช่างมันเถอะ...” หญิงสาวบอกปัด แล้วพยายามหลบสายตา รู้ดีว่าตัวเองก็มีส่วนผิด
ที่ตกลงคบกับดล ทั้งที่ยังไม่ค่อยแน่ใจ
แต่เขาเองก็ทำให้เธอต้องงุนงงขนาดหนัก อาจจะใช่...ที่ว่าเธอบอกเลิกเขา แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะเลิก
แล้วก็เป็นเขาเอง ที่เลือกที่จะไม่ติดต่อกลับมาหาเธอเลย ไม่โทร ไม่พูด ไม่คุย
ในขณะที่ผู้ชายอีกคน หลอกจีบ ตามจีบเธอมามากกว่าครึ่งปี บอกตรงๆว่าอยากได้เธอเป็นแฟน
แต่เขากลับทำสถานะให้มันคลุมเครือ จะเลิกก็ไม่เลิก จะรักก็ไม่รัก
ไม่ยอมติดต่อกลับมา ทำเหมือนไม่แคร์ไม่สนใจ มันหมายความว่าอะไร
“อย่าช่างมันได้ไหม หรือว่านันท์กับไอ้ดลรักกันตั้งแต่ก่อนพี่ไปเรียนต่อ รวมหัวกันหลอกพี่เหรอ
แล้วพอสบโอกาสนันท์ก็จะหาทางไปจากพี่... เฮอะ แค่บอกง่ายๆคำเดียวก็พอ
ว่านันท์ไม่ได้รักพี่แล้ว พี่จะได้ไป เราจะได้เลิกกัน นันท์จะได้ไม่ต้องมาแกล้งเล่นละครหลอกพี่ไง”
ทาร์ตเริ่มพูดเสียงดังขึ้นจนนันท์อึ้ง ผู้ชายสมัยนี้ช่างคิดได้
“แล้วนี่เรายังไม่ได้เลิกกันอีกเหรอไงคะ” นันท์ขึ้นเสียงบ้าง แค่เพียงเพราะไม่อยากปิดกั้นเขา
แค่เพียงเพราะเธออยากให้เขาเจออะไรที่ดีกว่า มันกลับกลายเป็นว่าเธอไม่ได้รักเขา
ทั้งๆที่เธอรัก ... หมดหัวใจน่ะเหรอ
“ ตอบมาง่าย ๆ สั้นๆ นันท์ยังรักพี่ไหม” เหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้สนใจฟังว่าอีกฝ่ายประชดอะไรกับเขา
ถึง ได้ตวาดออกไปเพราะต้องการเค้นคำตอบ มือหนาเริ่มจับไหล่ของอีกฝ่ายแน่น แล้วเขย่าอย่างแรงเหมือนคนที่ควบคุมสติไม่อยู่ จนทำให้คนที่ถูกบีบไหล่อยู่รู้สึกเจ็บ
“นันท์ รักพี่ใช่ไหม” เมื่อสิ้นเสียงของทาร์ต มือหนาที่จับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวอยู่ได้ถูกปล่อยลง
ทิ้งให้คนตรงหน้าตัวสั่นเทิ้มน้ำตาคลอเพราะหลายความรู้สึกระคนกัน
“ถ้ารัก แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ!” นันท์ตวาด
“นันท์ก็เลิกกับดล แล้วมาคบกับพี่สิ!” ทาร์ตตอกกลับอย่างคนสติหลุด
“มันดูเห็นแก่ตัวแล้วก็ไร้สาระมากไปหน่อยแล้วนะพี่ทาร์ต”
“ก็ถ้านันท์คิดว่าความรักของพี่มันไร้สาระ พี่เห็นแก่ตัวได้มากกว่านี้อีก!”
ทันทีที่ประโยคจบ ร่างสูงก็โถมตัวไปยังฝั่งที่หยิงสาวนั่งอยู่อย่างรวดเร็ว
ใบหน้าหล่อซุกไซ้ตรงซอกคอของอีกฝ่ายอย่างหื่นกระหาย ไม่สนใจสักนิดว่าร่างบางจะดิ้นหรือขัดขืนเพียงใด
รู้เพียงแต่ว่าจะไม่ยอมให้ใครได้เป็นเจ้าของคนคนนี้ คนที่เขารักอีกแล้ว
น้ำตาของนันท์เริ่มไหลลงมาอาบแก้ม
การดิ้นและขัดขืนทุกอย่างเริ่มหยุดลง เมื่อเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ใดๆ เมื่อเขาไม่สนใจอะไรเลย
เมื่อสังเกตได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ทาร์ตจึงหยุดการกระทำทุกอย่างลง
เขาเลวมาก เขาทำให้เธอต้องร้องไห้
“พี่ขอโทะ...” แน่นอนว่ายังไม่ทันที่จะจบประโยคดี
มือบางของหญิงสาวก็ฟาดลงไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแรงทั้งน้ำตา
“ฉันเกลียดนาย นายมันทุเรศที่สุด ฉันเกลียดนาย ได้ยินมั้ย ฉันเกลียดนาย!!!” นันท์ตวาดอย่างเหลืออด
แล้วทำท่าจะลงจากรถ แต่คำว่าเกลียดเมื่อครู่ทำให้ทาร์ตออกรถอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังจุดหมาย
นันท์จึงได้แต่นั่งร้องไห้ไปตลอดทาง
...
รถยนต์มาสด้าสีขาวถูกขับมาจอดริมทะเลแห่งหนึ่ง สองขายาวก้าวลงจากรถ
แล้วเดินไปเปิดประตูให้อีกคนที่กำลังหลับเอาหัวพิงกระจกอยู่
“ว้าย!” การเปิดประตูแบบไม่ทันได้คิดอะไรของชายหนุ่มทำให้คนที่นอนพิงอยู่เสียหลักเวและทำท่า
จะล้มลงมา
หากแต่ร่างสูงเอาตัวของเขาไปรับตัวเธอเอาไว้ ร่างบางจึงกอดคนตรงหน้าแน่นโดยอัติโนมัติ
หัวของเธอจึงซบลงกับแผงอกอุ่นๆของเขา ก่อนจะรีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว
เมื่อเสียงหัวใจเริ่มเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ บ่งบอกว่า ‘ไม่ไหวแล้ว’
“ขอบคุณ/ขอโทษ” สองประโยค สองเสียง แต่พูดออกมาในเวลาเดียวกัน
หนึ่งประโยคคือคำขอบคุณตามมารยาท ของหญิงสาวที่ชายหนุ่มรับร่างเธอไว้เมื่อครู่
และอีกหนึ่งประโยค คือคำขอโทษที่ ออกมาจากใจของชายหนุ่ม...ขอโทษที่เขาทำร้ายเธอ...
ขอโทษที่เขาทำให้เธอต้องเสียน้ำตา
ความเงียบงันกลืนกินทุกอย่างไปหมด ... ตาสองคู่สบกันนิ่ง มีหลายความหมายแฝงอยู่ในดวงตาของทั้งสองคนมากมาย
หากแต่เขาและเธอกลับเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป...สักคำ ต่างคนต่างปล่อยให้อีกฝ่ายมองลึกลงไปในดวงตาของตัวเอง
ให้เขาคิดเอาเองว่าเรารู้สึกอย่างไร ... แล้วเขาจะไปรู้ได้ไหมว่าเราคิดอะไร ถ้าไม่พูดกัน?
“พี่...จะทำให้นันท์เลิกกับดล แล้วมาคบกับพี่ให้ได้” รู้ดีว่าตัวเองอาจจะดูเลว แต่ก็เพื่อคนที่เรารัก
แววตาที่เคยอ่อนโยนของชายหนุ่มกลับกลายเป็นแววตาแข็งกร้าวที่แฝงความมุ่งมั่นไว้ลึกๆ จนคนที่มองอยู่รู้สึกสับสน
เขาจะทำ เพียงเพราะแค่อยากเอาชนะอีกคน หรือที่เขาจะทำ เพราะเขายังรักเธออยู่จริงๆกันแน่
“ถ้านายทำให้ฉันรักนายได้...นายจะรักฉันบ้าง ได้ไหมล่ะ” แขนเรียวถูกยกขึ้นมากอดตัวเองด้วยท่าทีเหงาๆ
แล้วตั้งใจรอฟังคำตอบจากประโยคคำถามที่เธอถามเมื่อครู่
ดวงตาคู่สวยสบแววตาแข็งกร้าวนั้นด้วยความหวั่นไหว หากแต่อีกฝ่ายกลับเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตาเธอ
ด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ อย่างบอกไม่ถูก
“ไปกันเถอะ” เลี่ยงที่จะตอบคำถามแล้วพยายามจะดึงอีกฝ่ายไปยังอีกที่หนึ่ง
“ถ้านายไม่ตอบ ฉันจะกลับไปหาพี่ดล” ประโยคถึ่งประชดจากนันท์ทำให้มือหนาเผลอบีบข้อมืออีกฝ่าย
ที่เขากุมอยู่เสียแน่น ไอ้ความรู้สึกไม่มั่นใจ หมดกันพอดี
ทาร์ตรวบตัวนันท์ไว้ในอ้อมกอด
“ปล่อยนะนายซาตาน นายไม่ใช่พี่ดลสักหน่อย” นันท์ร้องแล้วเริ่มดิ้นพล่าน
กลัวไม่น้อยว่าเขาจะทำอะไรเธออีก แต่ก็ไม่ยอมหยุดประชด
“ใช่ครับ ผมเป็นซาตาน ไม่ใช่เทวดาแล้วก็ไม่ใช่คุณดลของคุณด้วยคุณนางฟ้า
แล้วคุณอยากรู้มั้ยล่ะ ว่าเป็นซาตานน่ะ เขาต้องทำกันยังไง”
ทาร์ตช้อนตัวหญิงสาวขึ้นไปอุ้ม อยากจะถอนคำพูด นางฟ้าหรือหมูตอนกันแน่นะ ตัวหนักชะมัด
“เฮ้ยยย! ไม่อยากรู้ ไม่อยากรู้ ปล่อยเค้าเถอะพี่ทาร์ต” แหกปากร้องอยู่อย่างนั้น
จนชายหนุ่มมองด้วยสายตาเป็นเชิงให้หยุดจึงค่อยสงบลง
“ล้อเล่นหน่อยเดียว ทำเป็นดิ้นซะ กลัวมากนักหรือไง”
“เค้ากลัวพี่ทาร์ต ทำอะไรเค้าอีก” หน้าสวยพูดเหมือนไม้ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน
แต่ประโยคนั้นก็ยังหลุดเข้าหูชายหนุ่มไปได้อีกอยู่ดี
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะได้ยิน ก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรสักคำ ไม่ใช่อะไรหรอก
กลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่เขาพูดออกไป มันจะทำให้เธอเจ็บ ... มากไปกว่านี้
...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น