ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Feels of my heart หลอกลวงหัวใจ รู้ไหมยังรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #5 : chapter 3 : โมโห (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 57






                     เพราะไอ้สมบัติตกสวรรค์ (และกำลังจะตกนรก) ทำให้ความเลือดร้อนของอีตาผู้ชายหน้าเกรียนๆ (ยังไม่รู้ชื่อ) ไปโวยวายรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรม ฉันกับนินจาพยายามไปห้าม แต่ก็รู้ดีว่าไม่สำเร็จหรอก ดีไม่ดีอาจถูกทำร้ายด้วย แต่อีตานินจา นี่ก็บู๊สมชื่อ อีตาหน้าเกรียนจะหันมาต่อยฉัน นินจาสวนกลับแทบดูไม่ทันเลย เท่จัง ปกป้องฉันได้ด้วย

                    “เอ่อ ขอบคุณ น...นายมากนะที่...ปกป้องฉัน ><

                    “ฮ่ะๆ ไม่เป็นไรหรอก เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วล่ะ” เขายิ้มหวานบาดใจจนฉันแทบละลายแน่ะ

                    “...”

                    “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าแดงจังเลย”

                    ฉันเขินโว้ยยย ถามได้ เอ๊ะ นี่นายดูไม่ออกเหรอ (พูดกับตัวเอง)

                    “อ่า ระ...เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันโอเคดี แค่อาจจะ...เป็นหวัดนิดหน่อยน่ะ”

                    ดูจากหน้าฉันตอนนี้คงไม่นิดแล้วมั้ง

                    “แต่เธอดูไม่นิดแล้วล่ะ -_- ไม่ไหวบอกฉันได้นะ”

                    ฉันเบือนหน้าหนีเขาเพื่อหลบความเขิน แต่คิดว่าคงไม่ทัน ตอนนี้พุ่งทะลุเป้ายานไปแล้วมั้ง รู้สึกหน้าร้อนฉ่า เหมือนอยู่ถูกอบอยู่ในกระทะตลอดเวลา ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกกับเขาล่ะ มันเป็นเพราะอะไร กัน

                    “ฉัน...ยังไหวอยู่” ทุกอย่างไหวอ่ะนะ แต่หัวใจนี่ล่ะไม่ไหว ทำงานหนักเกินไปแล้ว แถมยังเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ด้วย

                    “อืม ไม่ไหวบอกนะ” ถ้าตามหลังมาด้วยคำว่าเป็นห่วง จะดีมาก

                    แต่ถ้าจะให้ตีความเข้าข้างตัวเอง การที่เขามาถามอะไรแบบนี้ก็ต้องแปลว่าเขาเป็นห่วงฉันล่ะ ฉันว่าจริง >///<

                    “อื้อ ขอบคุณนายที่เป็นห่วงฉันนะ”

                    “อืม”

     

                    18.00 น.

                    เวลาผ่านไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย =_=

                    จะว่าไปก็เวลาข้าวเย็นแล้วนี่หว่า นี่เราหาสมบัติซังกะบ๊วยนั่นตั้งห้าชั่วโมงเชียวเหรอ ไม่คุ้มค่ากับของที่ได้มาเลย แม้แต่นิดเดียว นิดเดียวก็ไม่

                    รีบไปตักข้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวข้าวหมด ว่าแต่...เพื่อนๆหายไปไหนกันหมดเนี่ย ฉันก็ไม่ได้หลับ แค่เผลอคิดอะไร เพลินๆ แอบชิ่งหนีไปตักข้าวกันก่อนแล้วเรอะ ไม่รอกันเลย คนสวยงอน

                    ขวับๆ

                    เอาล่ะ ตักข้าวเสร็จแล้ว กลับโต๊ะ

                    ป่านนี้พวกนั้นต้องมาแล้วมั้ง แอบออกไปตักก่อนฉัน แล้วฉันก็ตักข้าวนานได้โล่ ไม่กลับมาก็แย่แล้ว ไม่งั้นฉันจะ ไปแจ้งคนหาย

                    นั่นไง ล้อมวงกันเชียว โชคดียังไม่ลืมฉัน ยังเว้นที่ให้ฉันนิดนึง ตรงนั้นไง

                    โอเค ไม่มีใครพูดอะไร สงสัยกลัวดอกพิกุลร่วงลงจากปาก กินเลยแล้วกัน

     

                    19.00 น.

                    “โอเคๆ มาครบแล้วใช่มั้ยยย”

                    รู้แค่ว่าฉันเอาอวัยวะมาครบ จบปะ?

                    “มาครบแล้วก็ดี จะได้บอกกิจกรรมต่อไป กับที่นอนคืนนี้กัน”

                    ชักเริ่มสยองแล้วสิ กิจกรรมอาร้ายยย ที่นอนอีก น่ากลัวจัง >_<

                    “ฮัลโหล เทสต์ หนึ่ง...สอง...สาม โอเค ยังใช้ได้” รุ่นพี่โกลด์คว้าไมค์มาออกโรงแทนบ้าง เพราะตัวเองเริ่มรู้สึกว่า ปล่อยภาระงานให้รุ่นพี่วูล์ฟมากเกินไปและตัวเองเริ่มอู้ ซึ่งฉันก็เห็นด้วยล่ะ “เฮ้ น้องๆ ตื่นได้แล้ว กินข้าว เสร็จห้ามหลับ ทำกิจกรรมกันก่อน เฮ้ ตรงนั้นน่ะ หลับไปยัง!!!

                    พี่โกลด์ปาไมค์ไปยังกลุ่มหนึ่งที่เอ่ยขึ้นเมื่อกี้ข้อหาหลับหลังกินข้าว จนพวกเขาสะดุ้งตื่น ตาเบิกกว้างเกือบถึงคิ้ว และถอนตัวขึ้นจากความฝัน

                    “บอกให้ตื่นก็ไม่ตื่น สมน้ำหน้า พี่พูดต่อนะ” พี่โกลด์หันไปแลบลิ้นใส่แก๊งสันหลังยาว ก่อนจะพูดต่อ “ต่อไปเป็น เรียลลิตี้โชว์ จะถ่ายทอดไปให้ทางโรงเรียนดู”

                    ฮะ? ฉันฟังผิดหรือเปล่า ถ่ายทอด! ถ่ายทอดเนี่ยนะ!!!

                    “กฎคือ ให้ส่งตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมา 2 คน มาเถียงกับ 2 คนของอีกกลุ่มหนึ่ง พี่จะประเมินจากระยะเวลา การคิด ความน่าสนใจและเหตุผลที่นำมาพูด ก็คล้ายๆ กับการโต้วาทีนั่นแหละ 6 กลุ่มที่ชนะ จะได้คะแนนบวกเพิ่ม ต่อจากหาสมบัติเมื่อตะกี้ หาสมบัติน่ะ ขอเฉลย รหัสปละล็อกกล่องคือห้าหนึ่งหกสาม มีสิบกล่อง แต่มีหาเจอและปลดล็อคได้อยู่แค่สามกลุ่ม พวกเธอหาประสาอะไรของเธอ” พี่โกลด์สวดมาเป็นชุด

                    ฮะ เดี๋ยวๆ เถียงบ้าบออะไรกัน ไร้สาระที่สุด

                    “ตอนนี้ให้ทุกคนเลือกตัวแทนก่อนแล้วกัน”

                    “เอาใครดี”

                    คนที่เหมาะน่ะ ฉันนึกออกแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะอยากไปหรือเปล่าน่ะสิ

                    นัมเบอร์วัน พิงค์เบลล์ แน่นอน รายนี้ ต้องไปแน่นอน เธอมีลีลาการสั่งที่เฉียบแหลม น่าจะเถียงเก่งไม่เบานะ รายที่สอง นินจา คนนี้ฉันชอบ ต้องให้ไปอยู่แล้ว (เข้าข้างตัวเองเกินไปไหมเจ๊)

                    เอ๊ะ!? นี่ฉันยอมรับแล้วเหรอว่าชอบเขา ม่ายยยน้าาา TOT

     

                    สรุป ตัวแทนของเราคือพิงค์เบลล์กับฟางนะ” นั่นไง ฉันว่าฉันเดาไม่ผิด และฉํนก็เดาไม่ผิดจริงๆ

                    “โอเค” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน แลดูไม่เห็นจะตื่นเต้นตรงไหนเลย ถ้าเป็นฉัน หัวใจคงระเบิดบึ้มตายไปแล้ว ตื่นเต้นเกิ้นนน

                    “ตัวแทนกลุ่มหนึ่งกับกลุ่มสองออกมา” พี่วูล์ฟสั่งบ้าง กลุ่มฉันคือกลุ่มที่สอง ยัยพิงค์เบลล์กับยัยฟางจึงเดินออกไป โดยไร้ความลังเล

     

                    สิบนาทีต่อมา

                    “เป็นไง เก่งดีนี่เพื่อน”

                    “เก่งไม่เก่งไม่สนหรอก แต่ฉันคว้าสิบแต้มมาให้พวกเธอได้แล้วว”

                    “เก่งแล้ว”

                    “ฮ่ะๆๆๆ” ฟางยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี

     

                    20.30 น.

                    ตอนนี้ทุกกลุ่มแข่งกันเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะประกาศผู้ได้รับสิบแต้ม แต่คงไม่มีใครไม่รู้ เพราะเถียงกันจบเมื่อ ไหร่ พี่เขาก็ประกาศเลย แล้วจะบอกอีกไปทำไมไม่รู้

                    “เราได้ผู้ชนะมาแล้วล่ะ คือกลุ่มที่สอง สาม ห้า แปด เก้า และสิบสอง เฮ้ๆๆ” พี่มินประกาศเหมือนจะเป็นการบิลด์ อารมณ์ให้พวกฉันสนใจมากขึ้น แต่มันคงไม่ได้ผลล่ะ

                    หลังจากนั้น พวกพี่ๆก็ประกาศเกี่ยวกับบ้านพัก ซึ่งฉันเตรียมตัวปิดหูเต็มที่ แต่ก็ปิดไม่ได้ เพราะพี่เขาจะพาเดิน ไปเลย แล้วค่อยบอกห้อง

                    กึก

                    ฉันชะงักฝีเท้า ควงตาเบิกกว้างไปยังเป้าหมาย

                    กรี๊ดดดดด

                    รีสอร์ทชัดๆ !!!

                    หรูด้วย โอ้เย่ ฉันมองค่ายนี้ผิดไปจริงๆ ซาบซึ้งเลย T_T นี่มันหรูยิ่งกว่าบ้านฉันอีกนะ บ้านฉันน่ะ เพื่อนๆลงมติกัน ผลคือบ้านฉันนี่ล่ะ หรูที่สุดในห้อง แต่ที่นี่มันหมายความว่ายังไง...

                    ขอกรี๊ดดังๆหน่อยเถอะ ไชโย!!!

                    ฉันว่าฉันน่าจะบ้าไปแล้ว -_-

                    “ตามมาข้างในเลยทุกคน” พี่วูล์ฟบอก พวกฉันค่อยๆเดินตามเข้าไป เหมือนเดินตามพรมแดงในวังเลย อ๊าาา ฟินนน

                    พอเข้ามาถึงข้างใน รุ่นพี่ก็จัดแจงบอกห้องนอน ชั้น อะไรให้เรียบร้อย โดยต้องจัดห้องตามกลุ่ม แล้วยังบอกต่ออีก ว่าห้องกว้าง มีเตียงคู่สามเตียง กับเตียงเดี่ยวอีกสามเตียง ที่แน่ๆล่ะ ฉันจองเตียงเดี่ยว กลุ่มฉันได้เบอร์ 902 นั่นก็หมายความว่าชั้นที่เก้า ห้องที่สอง และดูเหมือนว่าค่ายเราจะจองทั้งชั้นอ่ะ

                    “พรุ่งนี้เจอกันที่ล็อบบี้ ที่นี่ตอนแปดโมง ก่อนเพลงชาติขึ้น แยกย้ายได้คร้าบบบ”

     

                    21.30 น.

                    กว่ากลุ่มฉันจะเสด็ตมาถึงห้องได้แทบกระอักเลือด (กลุ่มอื่นไม่รู้เหมือนกัน แต่เท่าที่เห็นชุลมุนพอดู) เพราะหลงห้อง ลิฟต์ก็ต่อคิวยาวกันเป็นทางช้างเผือก สรุปคือกว่าจะได้นอนก็เล่นเอาประมาณห้าทุ่มมั้ง

                    ฟึ่บ

                    ฉันโยนกระเป๋าลงบนพื้น หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาเตรียมไปอาบน้ำ

                    ฉันเดินเข้าไปในห้อง บนประตูมีติดป้ายว่า ห้องน้ำ’

                    มีสองห้องแฮะ กว้างโคตรรร

                    แบ่งเป็นผู้หญิงกับผู้ชายนี่นา ฉันเดินเข้าไปในห้องผู้หญิง (แหงสิยะ) ก็เล่นเอาฉันกินคำว่าอึ้งไปอีกสามชิ้น...

                    มีห้องน้ำอยู่ประมาณห้าห้อง มีที่โล่งด้วย เอาไว้ให้ควายวิ่งกับเด็กฉีดน้ำเล่นหรือไงยะ ข้างในสุดมีทะเลจำลอง ขนาดเล็กๆด้วย น่าลงไปแหวกว่ายยิ่งนัก

                    อยากซื้อคอนโดนี้จัง กี่ล้านหว่า ฮิ้ววว

                    ...อยากว่ายน้ำในทะเลจำลองนี่ด้วย T^T

                    ไม่ได้ๆ นี่ค่าย ไม่ใช่บ้าน ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก โดนด่าน่ะสิ

                    สถานการณ์แบบนี้ต้องอาบแบบคนธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้ๆ

     

                    แอดดด

                    ฉํนเปิดประตูห้องน้ำออกมา ห้องอื่นยังปิดอยู่ แปลว่าคนอื่นยังอาบไม่เสร็จ ออกไปก่อนแล้วกัน ในนี้เริ่มเปียก เดินเข้ามากันหลายคนแล้วก็อย่างนี้ล่ะ

                    แอดดด

                    เปิดประตูซ้อนประตู -_-;;;

                    (‘-‘)

                    ก็มีคนออกมาแล้วนี่ี ไหนๆไม่ค่อยมีคน รีบไปจองเตัยงเดี่ยวดีกว่า

                    อะไรเนี่ย???

                    มีเตียงเดียวอยู่แค่เตียงเดียว แถมยังโดนใครไม่รู้จองไปแล้ว

                    นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!!!

     

                    ริมหน้าต่าง

                    วิวดีนะเนี่ย มีทะเลสาบด้วย O_o

                    บรรยากาศแบบนั้นทำให้ความรู็สึกบางอย่างของฉันเอ่อล้นออกมา มันเพิ่งเริ่มรู้สึกไม่นานมานี้ แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนถูกอัดอั้นมานาน ความรู้สึกที่ฉันไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร...

                    ฉันเงยหน้าขึ้นเหม่อมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนผ่านม่านน้ำตาที่เพิ่งไหลออกมาได้ไม่นาน มันเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ นี่ฉํนเป็นอะไรเนี่ย ถ้าไม่ติดว่าเสียมารยาท ฉันอยากตบตัวเองไปฉาดหนึ่งเหมือนกัน เรียกสติกลับม้าา comeback!!! สติ!!!

                    แต่ฉันก็ไม่สามารถสั่งตัวเองได้...

                    ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันดราม่าแบบนั้นอยู่นานเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็มีร่างของใครบางคนมาโอบหลังฉันไว้ นินจานั่นเอง...

                    “เหม่ออะไรอยู่ มานอนกันเถอะ J

                    ยิ้มแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงยะ

                    “ใครจะนอนกับนายมิทราบ” ฉันตอบเสียงเรียบๆ

                    “ฉันไง J

                    “แต่ฉันไม่นอนกับนายอ่ะ”

                    “แล้วเธอจะไปซุกหัวนอนที่ไหน เตียงเต็มหมดแล้ว นี่ไม่รู้เลยเหรอ”

                    “อ้าว ฉันไม่รู้นี่นา TOT;;;

                    “ให้ตายเถอะ เธอนี่! คกลงจะยอมมั้ย ไม่ยอมก็นอนพื้น จบ”

                    กรี๊ด นี่มันมัดมือชก บังคับขู่เข็ญกันชัดๆ

                    “โอเคๆ ก็ได้ๆ ยอมก็ยอมๆ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×