ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : P R O L O G U E + chapter 1 (100%)
9.00 น.
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ดวงตาหนักอึ้งเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับ ราวกับขาดหมอนข้างที่แสนอบอุ่น ฉันค่อยๆ ลุกขึ้น หย่อนขาลงจากเตียงอย่างนุ่มนวลเพื่อไม่ให้คนข้างกายตื่น ฉันเดินอ้อมเตียงไปหา 'แมทซ์' แฟนของฉัน พลางใช้มือเขย่าแขนเขา แต่กลับกลายเป็นว่าฉันเขย่าอากาศไปซะงั้น
ด้วยความที่ฉันโคตรงัวเงียจึงทำให้ฉันเขย่าอากาศไปอีกสองสามครั้ง ก่อนจะตื่นได้เต็มตา...
เขาหายไป...!!!
Chapter I : lost person
เพี๊ยะ!!!
ฉันตบหน้าตัวเองไปหนึ่งฉาดใหญ่ๆ เพื่อให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
แล้วมันก็ไม่ใช่ความฝัน...
แมทซ์หายไปไหน!!!
"แมทซ์!!! นายอยู่ไหน ออกมานะ!!!" ฉันตะโกนซ้ำประมาณสิบรอบ รอบสุดท้ายฉันใช้ไม้ตาย บอกว่าถ้าออกมาจะซื้อรถให้ (เขาอยากได้มาก) แต่สิ่งที่ตอบกลับมาก็เป็นเพียง...ความเงียบ
เงียบถึงขั้วหัวใจเลย...
"แมทซซซซซซซซซ์ นายออกมาเถอะ!!!"
เงียบ...
เขาหายไปไหนเนี่ย!!!
ฉันเบนเข็มจากการตะโกนเรียกชื่อเขามาสำรวจสิ่งของต่างๆ ของเขา มันยังอยู่ครบดี ฉันไม่ได้เอะใจกับลักษณะของสิ่งของ เพราะท้องมันประท้วง
โครก คราก
มาร้องอะไรตอนนี้เล่า!!!
โครกกกกกกกก ครากกกกกกกกก
ฮึ่ย! ยอมก็ได้ :(
ณ ร้านก๋วยเตี๋ยว
ฉันต้องจำใจออกมากินก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย ปกติคนรวยๆ อย่างฉันไม่มากินอะไรที่โลว์โซว์ขนาดนี้หรอกนะ แต่ครั้งนี้มันจำเป็น! ฉันต้องรีบกินแล้ว รีบกินแล้วรีบกลับไปสืบเรื่องคนรักหายตัวไป
ควับ~
เพราะไม่ได้เห็นหน้ามาหนึ่งคืนหนึ่งชั่วโมง ทำให้ฉันต้องหยิบโทรศัพท์มาเปิดรูปเขาขึ้นมาดู...
ถึงจะรู้ว่ามันไม่ได้ทำให้เขากลับมาหรอก
เออใช่!!! โทรศัพท์!!!
ปิ๊ดๆๆ
ฉันกดเบอร์เลขสวยที่จำได้ขึ้นใจ ก่อนจะกดโทรออก
ยังพอมีหวังกว่านั่งร้องไห้อยู่ในห้องก็แล้วกัน...
[...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่ หรือใช้ระบบฝากข้อความไว้ที่เบอร์ ศูนย์ แปด หก ...]
โธ่เอ๊ย โทรไม่ติดอีก!!!
ฉันซดก๋วยเตียวรวดเดียวหมด สั่งเช็คบิล ยัดแบงก์ร้อยใส่มือเจ้าของร้านอย่างไม่รอเงินทอน แล้ววิ่งกลับบ้านอย่างไม่เหลียวหลัง
พรวด!
ฉันกระชากประตูให้เปิดออก เดินบันไดขึ้นไปชั้นบน ยืนอยู่หน้าห้องนอนของฉันและแมทซ์ ฉันตัดสินใจผลักประตูเข้าไปอีกครั้ง...ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีหวังก็ตาม
ว่างเปล่า โล่งโจ้ง บ๋อแบ๋...
ฉันเริ่มสำรวจสิ่งของในห้องอีกครั้ง สิ่งของของฉันและเขายังคงวางอยู่ที่เดิม ตำแหน่งเดิมเหมือนเมื่อคืน เอาวะ สมบัติของเขายังอยู่ครบ (ยกเว้นโทรศัพท์) เขาคงไม่ทิ้งของง่ายๆ หรอก ไม่นานน่าจะกลับมา
ฉันตัดสินใจหยิบสมุดไดอารี่ของเขาขึ้นมาอ่าน เปิดไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรก วันที่เขามาอยู่บ้านฉันวันแรก...
'วันนี้ดีใจมาก ได้มาอยู่บ้านคนที่ชอบด้วย'
เขียนสั้นมาก เปิดหน้าต่อไปก่อน
'วันนี้พิงค์เบลล์ไปเรียนพิเศษ เหงาชะมัด'
แต่วันนี้...คนที่เหงาคือฉันเนี่ยแหละ...
ฉันไล่เปิดหน้าต่อไป...ต่อไป...และต่อไป...
จนมาถึงหน้าสุดท้าย เป็นหน้าที่มีข้อความยาวที่สุด
'พิงค์เบลล์ ได้โปรดอ่านจดหมายของฉันด้วย...'
ฉันกวาดสายตาอ่านได้แค่ประโยคแรก แล้วปิดสมุดลงไป ไม่อยากอ่านต่อเลย มันต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ฉันหยิบรูปคู่ของเราขึ้นมาดู... น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นที่ขอบตา
แล้วฉันก็เปิดมันขึ้นมาอีกครั้ง...ฉันต้องรับรู้ความจริง
'ฉันขอโทษที่ต้องจากเธอไปเสียดื้อๆ แบบนี้ ฉันรู้ว่าเธอยังรักฉันอยู่ ฉันทำแบบนี้ก็เพราะตอบสนองหัวใจตัวเอง สิ่งของบางอย่างของฉันจะมีเขียนข้อความอะไรไว้ด้วยนะ เธอ
ลองอ่านมันดูแล้วกัน มันอาจจะทำให้เธอหายคิดถึงฉันได้บ้าง ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษจริงๆ ถ้าฉันจะบอกว่า...ฉัน...ไม่ได้รักเธอแล้ว'
หลังจากอ่านจบ มือไม้อ่อนแรงลงทันที ฉันปล่อยสมุดไดอารี่ทิ้งดิ่งลงพื้น แล้ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก อะไรจะเจ็บปวดได้เท่าอกหักกับคนที่รักทิ้งอีกนะ อยากจะร้องไห้หนักๆ ล้างความทุกข์ออกให้หมด ล้างความทรงจำที่แย่ๆ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั่นน่ะ
ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว
ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว
ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว
โอ๊ยยย หนูอยากตาย
เดี๋ยวสิพิงค์เบลล์ อย่าเพิ่งคิดในทางแย่ๆ บางทีเขาอาจจะแกล้งฉันก็ได้ แต่เขาไม่เคยแกล้งแรงขนาดนี้น่ะสิ มากสุดก็แค่แกล้งจำฉันไม่ได้ แล้วไอแกล้งบอกไม่รักนั่นน่ะ อะไรจะเขียนได้ความรู้สึกเศร้าขนาดนี้ นี่ฉันร้องไห้แทบจะเป็นสายเลือดอยู่แล้วนะ
ฉันต้องพิสูจน์
พิสูจน์ยังไงดีล่ะ...
ด้วยความคิดถึงที่ถาโถมเข้าใส่ ทำให้ฉันต้องกดเบอร์เขาขึ้นมาโทรอีกรอบ
...ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีทางติดก็ตาม
แล้วผลก็เป็นดั่งที่คิด
[...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่ หรือใช้ระบบฝากข้อความไว้ที่เบอร์ ศูนย์ แปด หก ...]
โอ๊ย แย่แล้ว
ฉันพล่านทั่วบ้านเหมือนคนสติไม่ดี ช่างมัน! ไหนๆ ไม่มีใครอยู่บ้านแล้วนี่ เผื่อเจอเขานั่งทำอะไรอยู่ ฉันกลัวเขาลงมาทำอะไรก่อนแล้วย้ายไปย้ายมาจังหวะที่ไม่เจอฉันพอดีน่ะ...
แล้วมันก็ไม่เจอ
จนฉันไปสะดุดตากับกระดาษโน้ตใบเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าว
'ฉันขอโทษที่หนีออกมาโดยไม่บอกกล่าว ของที่อยู่ในบ้านทั้งหมดที่เป็นของฉัน ฉันให้เธอหมดเลยนะ ขอให้อยู่อย่างมีความสุขนะ'
มีความสุขบ้าอะไรล่ะ...ร้องไห้จะเป็นจะตายแบบนี้
ฉันเดินเอื่อยๆ เยี่ยงคนหมดอาลัยตายยากขึ้นมาข้างบน จะไปนอนร้องไห้ให้สะใจ ปลดปล่อยทุกอย่าง แต่หางตาฉันก็ไปปะทะกับห้องๆ หนึ่งที่มีป้ายเขียนไว้ว่า
'OPÃL's Rooòoom'
เป็นป้ายสีชมพูที่ยัยโอปอลทำเองกับมือตอนย้ายมาอยู่กับฉันใหม่ๆ เราเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่ม.4 (ตอนนี้ม.6) นางจึงไว้ใจมาอยู่กับฉันและ (อดีต) แฟน เนื่องจากบ้านฉันอยู่ใกล้โรงเรียนมากกว่า และสะดวกต่อการเดินทางกว่า
ขอฉันเข้าไปหาหน่อยแล้วกัน มียัยนั่นก็ดีกว่าไม่มี
ก็อกๆๆ
ขอโทษที ฉันมีมารยาทน่ะ จะเข้าห้องใครต้องเคาะประตูก่อน ถึงนี่จะเป็นบ้ายฉันก็เถอะ
ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออก เหมือนกับชุบหัวใจฉันให้บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ
"โอปอลลล ฉันดีใจนะที่เธอยังอยู่!!!" ฉันตะโกนด้วยความดีใจ แทบจะกระโดดกอดเลยด้วยซ้ำ
คนตรงหน้าทำสีหน้าไม่สู้ดีทำให้ฉันประหลาดใจแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็พบว่าเป็น...
ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน มีผมสีน้ำตาลแดงซอยข้างหลังสั้น ดวงตาเรียวคมสีน้ำตาล จมูกโด่งปรี๊ดดด ริมฝีปากแดงระเรื่อ ขอสามคำให้ได้ว่า หล่อ! สุด! สุด! ฉันไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เกี่ยวกับใบหน้าของเขา โอ๊ย! มันช่างเพอร์เฟกต์ไปหมด หัวใจจะระเบิดแล้ว ฟินาเล่!!! ฉันจะละลายอยู่แล้วนะ
เกิดอาการสตั๊นกลางอากาศ เสียเซลฟ์ชะมัดที่เมื่อกี้ทำท่า (เกือบจะ) กระโดดกอดเขา คนนี้ขอซื้อได้มะ เฮ้ย ไม่ใช่ๆ ฉันจะมาหวั่นไหวกับผู้ชายที่เพิ่งเจอไม่ได้นะ
แต่ทำไมฉันคุ้นหน้าเขาชอบกล
นึกสินึก ใช่เพื่อนที่โรงเรียนฉันหรือเปล่าาา
"โซล!!!!!"
โซลเป็นเพื่อนห้องเดียวกับฉันตอนม.4 ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจเขาหรอก ก็คุยกันแบบเพื่อนธรรมดาๆ ไม่ได้สนิทสนมอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้เขาดูหล่อขึ้นมากกกกกก จนฉันแทบจำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบสองปี
"จำฉันได้ด้วยเหรอ :)"
"จำ...จำได้สิ" ฉันพูด แต่เสียงที่ออกมาเหมือนเสียงกระซิบ
ว่าแต่เขามาอยู่ที่นี่ทำไมนะ...
ไม่ได้ไม่อยากให้อยู่หรอก เต็มใจด้วยซ้ำ เอ้ย! แบบนี้เหมือนชวนผู้ชายขึ้นบ้านเลยนะ!
"แล้วจำฉันได้มั้ย:))" เอาแล้วไง มาอีกคนแล้ว คนนี้ก็บอกได้ว่า 'หล่อ' อีกเหมือนกัน เขามีผมสีน้ำตาลอ่อน จัดทรงคล้ายคนแรก หน้าตาคุ้นเหมือนกัน... คุ้นกว่าคนแรก
"ไอจิ?"
"จำได้ด้วยเหรอ ;-)"
จำไม่ได้ก็แย่ละ คนนี้อยู่กับฉันตอนม.5 อีกอย่างเขาคาดคั้นฉันให้นึกให้ออกขนาดนี้ ถ้าฉันบอกว่าจำไม่ได้คงโดนบีบคออ่ะ
"จำได้สิ...ว่าแต่พวกนายมาหาฉันที่ห้องยัยโอปอลทำไม แล้วเข้าบ้านฉันมาได้ไง"
ฉันเกือบลืมถามคำถามนี้ไปเลย มันเป็นคำถามที่น่าจะสำคัญที่สุดแล้วล่ะ
"มาอยู่นี่" ไอจิตอบเสียงเรียบๆ
เดี๋ยวนะ!!! ฉันฟังผิดหรือเปล่า?!?
"มาอยู่ที่นี่?!? ที่นี่เนี่ยนะ!!?" ฉันวี้ดลั่น รู้ตัวอีกทีก็ถูกโซลเอามือมาปิดปากฉันไว้ บ้านฉันไม่ใช่สถานรับเลี้ยงเด็กนะ!!! นึกมาอยู่ก็มา บ้านอันแสนสุขที่มีแค่ฉัน แมทซ์ และยัยโอปอล มันจะหายไปแล้ว เพราะมีเพื่อนสองเวรนี่มาอยู่เนี่ยแหละ!!!
"อือ"
"แล้วนายเอากุญแจมาได้ไง"
"เพื่อนเธอสองคนเอามาให้ฉันน่ะ แล้วบอกให้มาอยู่แทนพวกเค้า"
อยู่แทน!!!!!!
ม่ายยยยยยยยย
"ยัยโอปอลกับแมทซ์น่ะเหรอ"
"นั่นแหละ"
งั้นก็แปลว่ายัยโอปอลไม่อยู่แล้วน่ะสิ โอยยย ชีวิตเจ้ากรรม หนูอยากตาย...หนูอยากตาย...หนูอยากตาย...
"ขอฉันเข้าไปหาเธอหน่อย"
นี่ฉันระงับสติอารมณ์ขั้นสุดแล้วนะ...คำพูดแต่ละคำฉันสกรีนมาเรียบร้อย ไม่งั้นมีหวังฉันหลุดคำพูด ^]+}?#%##!!?~€\+ ออกมาแน่ แล้วอารมณ์โมโหร้อนก็จะออกมาด้วย เย็นไว้...เย็นไว้..นะโม พุทโธ
"ไม่อยู่"
"แล้วของมันคืออะไร" ฉันพูดพลางลากแขนเขามาในห้อง แต่ข้าวของในนี้ดูไม่คุ้นตา เป็นข้าวของแบบผู้ชาย ไม่ใช่ของยัยโอปอลแน่ๆ
"ของพวกเราสองคนไง" พวกเขาพูดแทบจะพร้อมกัน แตไม่ใช่ประโยคที่ฉันอยากฟังเลยสักนิด
"ไม่มีอะไรของยัยโอปอลอยู่เลยเหรอ"
"ไม่มี ตอนที่พวกฉันเข้ามาอยู่ก็โล่งหมดแล้ว เหมือนโรงแรมว่างที่รอการเช็คอิน"
นี่ไม่ใช่คำเปรียบเทียบที่ดี!
อืม...ไหนๆ สองคนนั้นก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ฉันคงต้องให้เขาช่วยอะไรบ้างล่ะ แลกกับที่ซุกหัวนอนของเขาไง :(
...มีผู้ชายอยู่บ้าน ต้องใช้สอยให้เป็นประโยชน์
"เข้าไปคุยกันข้างในหน่อย" ฉันไม่รอช้า เดินนำสองคนนั้นเข้ามาแล้วรีบเข้าเรื่องทันที
11.00 น.
ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เขาก็ย้ำว่ามีอะไรระบายออกมาให้หมดเพราะมันจะรู้สึกดีขึ้น ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ แต่สุดท้ายฉันก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก หนักที่สุดในชีวิต แล้วก็บ่นๆๆ ให้เขาฟัง เขาก็พยักหน้ารับรู้ หลังจากนั้นฉันรู้สึกดีขึ้นจริงๆ นะ
และผู้ที่โดนฉันปาอารมณ์เข้าใส่ก็คือโซลและไอจิ
"อืม ฉันรู้แล้ว ทีนี้จะให้ฉันช่วยอะไรล่ะ"
"นายช่วยสืบให้หน่อยได้มั้ยว่าทำไมพวกเขาหายไป และหายไปไหน" ความหวังของฉันที่จะได้สองคนนั้นกลับมาเริ่มรำไรๆ แล้ว อ๊าาา
"ถนัดๆ ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉันหรอก พวกเราสองคนอยู่ชมรม 'นักสืบ' นะ แค่นี้ช่วยเธอไม่ได้ก็แย่แล้ว"
"นายจะช่วยฉันจริงๆ ใช่มั้ย"
เริ่มมีความหวังงง โอ้เย้! โชคดีในความโชคร้ายจริงๆ
"จริงสิ ฉันจะหลอกเธอทำไม"
รอยยิ้มที่จริงใจของเขาทำให้ใจฉันชุ่มชื่นขึ้นมาทันที คำพูดของเขาเหมือนบัวรดน้ำที่รดน้ำชุบชีวิตหัวใจฉันที่กำลังจะจะตาย...
มีเขาอยู่บ้านนี่ก็ดีเหมือนกันนะ
แต่ไม่เท่าแมทซ์หรอก! :(
ถ้ามีแมทซ์ เขาคงไม่ทำให้ฉันเสียน้ำตาขนาดนี้หรอก...
แต่ก็เป็นเพราะเขานี่นา...ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้
"ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ ถ้านายไม่มาช่วยฉันต้องแย่แน่ๆ เลย" ฉันโผเข้ากอดโซลอย่างลืมตัว เขากอดตอบเบาๆ จนฉันรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่อ้อมกอดของคนเดิมอีกต่อไปแล้ว นี่ฉันกอดผิดคนเหรอเนี่ย ฉันผละออกจากเขาแล้วยิ้มแห้งๆ แต่ไอจิก็ขัดขึ้นมาก่อน
"แต่ต้องมีเงื่อนไชอะไรหน่อยนะ"
"???"
ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรฉันก็ยอม ขอให้ได้คนรักกลับมาก็เกินพอแล้ว...
"คืองี้น่ะ พวกเราเปิดชมรม 'ยอดนักสืบทุกรูหลืบคดี' น่ะ"
ชื่อชมรมประหลาดชะมัด แต่มันก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับฉันเลยนี่นา
"อืม ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับฉันนี่"
"นี่ล่ะ...กำลังจะเกี่ยว คือจะเปิดชมรมมันต้องมีสมาชิกสิบคนขึ้นไป แล้วตอนนี้เรามีแค่เก้าคน ฉันก็เลย..."
"ให้ฉันไปอยู่อีกคนนึง จะได้ครบ อย่างนั้นสินะ"
เขาพยักหน้า "ทำนองนั้น"
โซลถามฉันบ้าง "โอเคมั้ยล่ะ :-)"
บอกกันก่อนเซ่ว่าถ้าฉันไม่โอเค นายจะช่วยสืบเรื่องแมทซ์กับยัยโอปอลม้ายยย
ในที่สุดฉันก็ต้องจำใจตอบรับเขา
"โอเค"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น