ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PITFALL

    ลำดับตอนที่ #19 : ★ Quest 0.1 [ CHB ] - KRIS -

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 57


                


    ค่ายฮาร์ฟบลัด หรือชื่อ ไทยๆก็คือ ค่ายเลือดผสม

                    ณ บ้านเฮอร์มีส ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่แล้ว เด็กเลือดผสมบางคนก็ออกไปวิ่งออกกำลังกาย หรือไม่ก็คงออกไปทานอาหารเช้ากันแล้ว

                    จะเหลือก็แต่..

                    ชายหนุ่มตัวสูงผมแดง ที่จะว่าแดงก็ไม่แดงซะทีเดียว นอนหลับตาพริ้มเป็นเด็กอ่อน อยู่บนเตียงอย่างสงบนิ่ง แต่เพราะยังมีลมหายใจเข้าออกทำให้รู้ว่าเขายังไม่ตาย

                    ชายหนุ่มหรือหญิงสาว(?) ผู้ที่มีเพศดั่งไส้เดือน หลับตาพริ้มและระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ใครที่ได้เห็นก็คงรู้ว่าเขากำลังฝัน และมันคงจะเป็นฝันที่ดี

                    ล่ะมั้ง..

                    เฮือก!!

                    จู่ๆ คนที่ทำหน้าเหมือนจะฝันดีก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเหมือนตกใจอะไรบางอย่าง เขามองไปรอบๆบ้านแบบหมดอาลัยตายอยาก

                    ..ตื่นมากี่ครั้งๆก็พบกับความจริงที่ว่า ผู้ปกครอง ของเขายังคงไม่สนใจจะรับเขาเข้าเป็นลูกชายสักที..

                    คริส หรือ คริส ฮิดเดิลเวิร์ธ ลงจากเตียงและจัดแจงเก็บเตียงให้เป็นระเบียบที่สุดเท่าที่ผู้ชาย(?)อย่างเขาจะทำได้ เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18 ตามจริงก็คงอยู่ในคำว่า วัยรุ่น แต่ถ้าถามถึงเรื่องประสบการณ์ชีวิต เขาผ่านอะไรมาเยอะพอควร

                    “ออกไปข้างนอกกันหมดแล้วหรอ ไหงไม่มีใครปลุกฉันเลยล่ะ” เจ้าตัวบ่นเสียงเบาปนน้อยใจ ทุกคนชอบทิ้งเขาให้นอนอยู่คนเดียวทุกที แต่เอาเถอะ พวกนั้นคงรีบ เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้วล่ะ

                    และเมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ แต่งตัวจัดเผ้าจัดผมให้เข้าที่เข้าทาง คริส ก็เดินเอ้อระเหยลอยชายออกจากบ้านเฮอร์มีสไปและไม่ลืมขยับแว่นตากรอบดำของตนให้เข้าที่เข้าทาง

                    “วันนี้มีอะไรให้กินบ้างน้า” เขาเดินไปหาข้าวกินเพื่อประทังชีวิต ปากก็พึมพำพูดคุยกับตัวเองไปเรื่อย ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวของบ้านเฮอร์มีส ยิ้มให้กับบางคนที่ตะโกนทักหรือไม่ก็หันไปตวาดแว้ดใส่คนที่แกล้งจิ้มของกินจากจานของเขา

                    และชีวิตของเขาก็ดำเนินแบบนี้มาตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามา ณ ค่ายผสมพร้อมกับแผลถลอกนิดหน่อย ถือว่าเป็นโชคดีของเขาที่ไม่ได้เจอสัตว์ประหลาดอะไรแบบเด็กบางคน แต่จะว่าเขาเจอก็เจอ เพียงแค่เขาหนีมันมาได้อย่างหวุดหวิดแค่นั้นแหละ

                    อยู่ที่นี่ค่อนข้างจะสบาย สบายกว่าอยู่ที่บ้านกับป้าเยอะ ไม่มีพวกคนแปลกหน้ามาเดินตาม หรือ แอบมอง เขาบ่อยๆอีกแล้ว จากที่สอบถามสมาชิกร่วมบ้านที่มีกันเยอะจนแออัดก็ได้รู้ว่าที่นี่มีตาข่ายเวทมนต์ป้องกันอยู่

                    และนั้นทำให้เขาเบาใจลงหน่อย ว่าอย่างน้อยระหว่างที่กินข้าว อาบน้ำ หรือ นอน จะไม่ต้องมาคอยกังวลว่าจะมีใครมาตามฆ่าหรือเปล่า

                    แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้ติดต่อป้าเขาอีกเลย เพราะมีกฎบอกว่า มนุษย์กึ่งเทพ ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารใดๆทั้งสิ้น เขาเองก็จำไม่ได้แล้วว่าทำไม รู้แต่ห้ามใช้ก็เลยปิดเครื่องถอดแบตเก็บซิมเข้ากระเป๋าใบใหญ่สีแดงสดไปแล้ว

                    นอกจากชื่อ คริส แล้ว เขาก็ยังมีชื่อว่า คริสซี่ อีกด้วย แต่ก็ไม่ได้เครียดอะไรมากเพราะเขาก็พอใจกับชื่อคริสซี่พอสมควรถึงจะแอบอยากให้ทุกคนเรียกว่า คริสติน่า ก็เถอะแต่ไอ้ที่มันอยู่หว่างขาก็ยังเป็นเครื่องยืนยันความเป็นชายอยู่นี่สิ จะเรียกคริสติน่าก็ดูแปลกชอบกล

                    หลังจากกินข้าวเช้าจนอิ่มหนำและทักทายเพื่อนๆจนพอใจ คริสก็เดินเล่นไปเรื่อย เขาไม่ชอบฝึกการต่อสู้เท่าไหร่ เพราะมันทำให้เล็บสีแดงของเขาเสีย บ่อยครั้งที่ฝึกเสร็จเขาจะต้องอารมณ์เสียทุกครั้งเพราะขี้ดินที่ติดอยู่ในเล็บ หรือเนื้อตัวที่มีแผลนิดหน่อย

                    -เราต้องอดทนไว้นะคริสคนอดทนและมุมานะจะใช้ชีวิตได้ง่าย-

                    ป้าบอกกับเขาเอาไว้ และแน่นอนเขาเชื่อฟังป้าพอสมควร แต่วันนี้ขอโดดสักวันนึงเถอะ วันนี้มันวันเก็บดอกไม้นะ..

                    ชายหนุ่มหัวแดงเดินกึ่งวิ่งไปที่ต้นดอกกล๊อกซิเนีย ที่เจ้าตัวชอบนักชอบหนา มือเรียวเด็ดออกมาเพียงสองสามดอกเท่านั้นก่อนที่จะเอามันมาปักลงกระเป๋าเสื้อของตัวเอง

                    มันมีความหมายว่า รักแรกพบ แต่เขาเองก็ยังไม่มีประสบการณ์นั้นสักที

                    “อยู่นี่เอง คริสซี่ มิสเตอร์ดีเรียกนายแหนะ” เสียงหวานใสของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เขาไม่ทันได้หันไปมองหน้าว่าใคร เธอคนนั้นก็หายไปซะแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก เพราะแม้แต่เสียงเขาก็จำไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่ธุระอะไรที่เขาจะต้องตามหาคนบอก

                    ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ คริสซี่ ก็เดินมาถึงบ้านใหญ่ หรือ บ้านของมิสเตอร์ดี แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปก็ถูกมิสเตอร์ดีที่พยายามรินไวน์ที่กลายเป็นน้ำเปล่าเรียกให้เดินไปหาที่ศาลาซะก่อน

                    ..ยังไม่เลิกพยายามเปลี่ยนน้ำเปล่าให้กลายเป็นไวน์อีกหรอ มุมานะจริงๆ..

                    มิสเตอร์มองค้อนเขาทันที และคริสเองก็พอจะรู้ว่าเทพไดโอนีซุส อ่านความคิดของเขาได้ แต่เอาเถอะ ขอโทษในใจหน่อยล่ะกัน

                    “ช่วงนี้นายฝันอะไรแปลกๆบ้างรึเปล่า?”

                    ..ฝันอะไรแปลกๆงั้นหรอ...

                    “ก็..ช่วงนี้ผมฝันถึงผู้หญิงคนนึงบ่อยๆนะครับ เธอสวยมากเลย และก็เธอมักจะมาหาผมในฝัน แต่ไม่คุยอะไรกับผมเลย” เขาตอบกลับเสียงเศร้า ฝันนี่เหมือนฝันประหลาด มันเกิดขึ้นมาหลายวันแล้ว และเขาก็ฝันซ้ำๆแบบเดิมจนจำได้ ทุกครั้งหญิงสาวคนนั้นจะมาหาเขา และยิ้มให้เขาเท่านั้น และเหมือนเวลาหยุดนิ่ง เขาทำอะไรเธอไม่ได้ แตะต้อง หรือ แม้แต่พูดคุย

                    และเขาก็จะสะดุ้งตื่นมาแบบทุกๆวัน

                    “เอาล่ะ ฉันว่าแม่ของนายน่าจะมาหานายและรับรองนายเป็นบุตรแล้วนะ” เทพไวน์พูดเสียงนิ่ง ก่อนที่จะโบกมือไล่เขาให้กลับไปได้แล้ว

                    ..อะไรของเขานะ...

                    วันนั้นทังวัน สิ่งที่มิสเตอร์ดีพูดมันก่อกวนจิตใจของหนุ่มผมแดงตลอดทั้งวัน และ ทั้งคืน

                    -เขากำลังฝัน-

                    ใช่ เขากำลังฝัน คริส ฮิดเดิลเวิร์ธ มองไปรอบๆบริเวณทุ่งดอกไม้ มีดอกไม้หลากชนิดเต็มไปหมด แต่ที่เยอะสุดคงจะเป็นดอกกุหลาบ

                    ครั้งนี้ฝันก็เหมือนเดิม เขากำลังเดินไปที่ศาลาสีขาวบริสุทธิแห่งหนึ่ง มันงดงาม และ ดูอบอุ่นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบางอย่าง

                    “มาแล้วหรือบุตรแห่งข้า”

                    เสียงหวานดังก้องกังวานไปทั่วทุกพื้นที่ ดูเหมือนครั้งนี้ฝันจะแตกต่างไปจากเดิม คริส ยังคงขยับตัวได้และเขาได้ยินเสียงของหญิงสาวตรงหน้าแล้ว เธอสวย และดูสง่าในคราเดียวกัน

                    “คุณคือใครหรอครับ?” เขาถามเสียงแผ่ว ดวงตาสีเหลืองทองจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอไม่ยอมละสายตา

                    “แม่คือแม่ของลูกยังไงล่ะ” เธอยิ้มกว้างและเริ่มแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ และแน่นอน คริสซี่ ของทุกคนได้ตกใจจนสิ้นสติไปแล้ว

                    วันนี้ทุกคนในค่ายอาจจะตลกและขำขันกับท่าทีของคริส ฮิดเดิลเวิร์ธกันยกใหญ่ เพราะเจ้าตัววิ่งตาลีตาเหลือกเข้าไปหามิสเตอร์ดีด้วยสภาพชุดนอนขนฟูฟ่องสีแดงของเจ้าตัว

                    “มะ ม มิสเตอร์ดีครับ! ผมรู้แล้วล่ะว่าผมเป็นลูกของใคร” คริสซี่แหกปากโวยวายและวิ่งออกไปนอกบ้านใหญ่โดยไม่สนหน้าเงิบๆของมิสเตอร์ดี

                    “นี่ทุกคนฉันได้เจอแม่ของฉันแล้วนะ” ชายหนุ่มตะโกนบอกเพื่อนฝูงเสียงดัง และยิ้มร่าอย่างมีความสุข ก่อนที่จะหยิบดอกกุหลาบสีแดงสดออกมาให้เพื่อนๆดู

                    “เทพีอะโฟรไดต์คือแม่ของฉันเอง” ว่าจบก็หยิบแหวนสลักชื่อขององค์เทพีที่ตนสวมไว้ขึ้นมาดู

                    แม่บอกว่านั้นคือสิ่งที่พ่อให้แม่ในวันที่พวกท่านมีคริส ก่อนที่พ่อของเขาจะจากไปอย่างไม่หวนกลับมาอีกเลย

    `Snoωωhite™
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×