NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามรักรัฐภาค [ชุด Men Of Lions] + EBook

    ลำดับตอนที่ #4 : อัศวินแห่งทุ่ง 2-3

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 66





    รถยนต์คันใหญ่ของ บดินทร์ ศิตาศาสตร์ เคลื่อนมาหยุดลงหน้าโรงแรมชื่อดังในเมืองตามเวลาที่ได้นัดกับคนสำคัญเอาไว้

    “สวัสดีครับท่าน รอนานไหมครับ”

    “ไม่นานๆ มานั่งๆ อยากกินอะไรสั่งเต็มที่ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”

    แดงเมือง รัฐมนตรีมีชื่อเสียงของประเทศเพื่อนบ้านบอก โบกมือเรียกให้คู่ค้าเข้าไปหา

    “อารมณ์ดีแบบนี้แสดงว่า...”

    “หืม อยากไปพูดถึงมันเลย แล้ว ของที่คุณบอกผมตกลงว่าไง” ยิ้มที่มุมปากเมื่ออีกฝ่ายรู้ทันความคิด

    “ไม่มีปัญหาครับ ผมจัดการได้อยู่ ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการเมื่อไร” 

    บดินทร์ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบบอกเสียงเบา ก่อนถอยห่างมายิ้มให้เป็นที่รู้กัน แดนเมืองยิ้มกริ่มอย่างมีความสุข

    “แบบนี้สิมันถึงน่าสนใจ”

    “ลูกค้าวีวีไอพีอย่างท่านขอมาทั้งทีทำไมผมจะทำให้ได้ละครับ”

    “ฮ่าๆ พูดได้ถูกใจ มาๆ ชนๆ” 

    แดนเมืองคว้าแก้วไวน์รสเลิศมาชนกับคู่ค้าชาวไทย แม้จะพึ่งร่วมธุรกิจกันไม่กี่ปี แต่อีกฝ่ายสมารถทำให้เขาวางใจและทำให้ลูกค้าของเขาได้ขอไม่ขาดมือเลยสักครั้ง สมกับที่เขายอมเสี่ยง


    สมานุชกลับจากในไร่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถหรูมาจอดอยู่หน้าบ้าน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันกวาดตามองหาเจ้าของรถแต่ก็ไร้เงา ก่อนเดินเข้าบ้านไป ก่อนจะร้องออกมาด้วยความดีใจ

    “ยัยหมออัง!” สมานุชร้องเสียงหลงเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง  ก่อนวิ่งเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักด้วยความคิดถึง

    “ฉันคิดถึงแกมากเลยรู้ไหม”

    “อืมๆ ฉันก็คิดถึงแกเหมือนกัน ...โอยเบาๆ แก รัดแน่นไปแล้วฉันหายใจไม่ออก”

    ‘อังครินทร์ เวียงชัย’ อายุรแพทย์โรคไต ที่ขอย้ายตัวเองกลับมาเป็นหมอประจำที่บ้านเกิด หลังจากที่จบการศึกษาปริญญาเอกด้านโรคไตมาเฉพาะ

    “อะแฮ่ม ลืมพี่ไปอีกคนหรือเปล่าจ้ะสาวๆ”

    ‘อัครัตน์ เวียงชัย’ เจ้าของ ‘ไร่อัครัตน์’ ที่อยู่ติดกันทางทิศตะวันออก พูดแทรกสองสาวที่ยืนกอดกันกลมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสเช่นเคย ก่อนเหลือบไปเห็นหน้าผากเนียนมีแผล พลางก้าวเข้าไปดูด้วยความห่วงใย

    “...แล้วหน้าผากไปโดนอะไรมาคะ”

    “จริงด้วย ไม่โดนอะไรมาสมา”

    อังครินทร์ประคองใบหน้าเพื่อนมาดูใกล้ สำรวจดูบาดแผลโดยละเอียด โล่งใจที่ไม่ใช่แผลให้อะไรมากมาย

    “ฉันไม่เป็นไรมากหรอก ...พอดีสมาซุ่มซ่ามไม่ทันระวังเองเลยได้แผลมาประดับบนหน้า” สมานุชบอกเสียงติดตลก แล้วเปลี่ยนเรื่องพูดไม่อยากให้สองพี่น้องเวียงชัยต้องมานั่งซักไซ้เธอให้มากความ

    “...แล้วนี่กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไร ไม่เห็นโทรมาบอกฉันก่อนเลย”

    “นี่ฉันลงเครื่องปุบก็รีบดิ่งมาหาแกคนแรก บ้านช่องยังไม่ได้กลับ ถามพี่อัคดูก็ได้” รีบบอกรู้สึกหมั่นไส้เพื่อนรัก

    “จ้าๆ ฉันเชื่อก็ได้” เจ้าบ้านสาวยิ้มแก้มปริกับคำตอบของเพื่อน พลางถามขึ้นใหม่

    “แล้วทานอะไรมากันหรือยัง”

    หญิงสาวแน่ใจว่าทั้งคู่คงยังไม่ได้ทานมาอย่างแน่นอน ถ้าบอกว่าลงเครื่องปุบแล้วตรงดิ่งมาหาเธอเลยแบบนี้

    “ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากจนเกินไป ดิฉันขออาหารอร่อยชุดใหญ่มาด่วนเลยได้ไหมค่ะ ตอนนี้หิวจนลำไส้เริ่มจะกินกันเองแล้ว...” อังครินทร์บอกเสียงลากยาว ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

     “ได้เลยค่ะคุณหมออัง ถ้างั้นขอเชิญไปรอที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปจัดอาหารชุดใหญ่มาให้”

    กล่าวจบร่างบางจึงเดินเข้าครัวไปจัดการตักเตรียมและลงมือทำอาหารให้เพื่อนสาวคนสนิทที่พึ่งกลับจากต่างประเทศทันที

     

    อึดใจเมนูอาหารหน้าตาหน้าทานก็ถูกลำเลียงออกมาจัดเรียงเต็มโต๊ะอย่างสวยงาม สมกับที่เจ้าของบ้านสาวคุยฟุ้งไว้ไม่มีผิด สองพี่น้องเวียงชัยได้แต่มองหน้ากันด้วยความตื่นตะลึง ไม่คิดว่าหญิงสาวจะทำตามที่เธอขอจริง

    “โอ้โห้ สุดยอดไปเลยสมา”

    “หอมมาก นี่ไปเริ่มหัดทำมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลย หน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย” ก้มลงสูดกลิ่นอาหารเข้าจมูกแรงๆ มันยั่วน้ำลายเธอจนอดใจแทบไม่ไหวแล้ว

    “ไม่ได้เรียนที่ไหนหรอก เบื่อๆ ฉันหาอะไรทำฆ่าเวลาไปอย่างงั้น ยังไงก็ช่วยเป็นหนูทดลองให้ด้วยนะคะ” บอกน้ำเสียงกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    “ยินดีมาก ไม่บอกฉันก็จะเสนอตัวอยู่แล้ว กินแล้วนะ” อังครินทร์หยิบช้อนตักอาหารเมนูแรกที่อยู่ตรงหน้าเข้าปาก เพียงแค่คำแรกที่เข้าปากก็ทำเอาคุณหมอสาวถึงกับตาโต

    “อื้ม อร่อยมาก พี่อัคลองค่ะ” 

    อังครินทร์ส่งแววตาวาววับบ่งบอกความอร่อยที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลายปี เพราะหลังจากที่ไปเรียนที่เมืองนอกก็แทบจะหาร้านอาหารไทยทานไม่ได้ พอจะไปไม่ร้านโต๊ะเต็มก็ปิด

    “...อื้ม เอาจริงๆ นะ รสชาติอาหารของแกอร่อยมากๆ คงต้องขอยืมตัวไปทำที่บ้านสักวันสองวันได้ไหมคะเชฟ”

    “แต่พี่ว่าสมาเปิดร้านอาหารได้เลยนะ เอาแบบนี้ไหม เดี๋ยวพี่จะโฆษณาช่วยอีกแรง รับรองคนแห่มากินเต็มร้านทุกวันแน่นอน” อัครัตน์เห็นด้วยกับน้องสาว ไม่ได้อวยคนทำแม้แต่น้อย

    “ไม่เอาหรอกค่ะ แค่งานในไร่ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปทำละค่ะ แค่ได้ทำให้พี่อัคกับยัยอังทานแค่สองคนก็พอแล้ว ...มาค่ะ เราทานกันดีกว่า เดี๋ยวอาหารจะเย็นเสียหมด”

     “อันนี้ดีที่สุด แต่ตอนนี้ขอกินก่อนนะ ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว”

    “ตามสบายเลยค๊า” สมานุชยิ้มมีความสุขที่อาหารของเธอไม่ทำให้อังครินทร์และอัครัตน์ผิดหวัง

    คุณหมอสาวลงมือตักจานโน้นจานนี้เข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างมื้อก็หาเรื่องมาคุยสนุกสนาน เรียกเสียงหัวเราะและความสุขอบอวลไปทั่วห้องทานอาหาร นานแค่ไหนแล้วที่สมานุชไม่ได้ยิ้มและหัวเราะเต็มเสียงเช่นนี้ คงตั้งแต่บิดาและพี่ชายอันเป็นที่รักจากไป เธอก็ไม่ได้รู้สึกถึงคำว่าครอบครัวอีกเลย แม้จะมีคนเป็นอาอยู่ แต่ท่านก็ไม่ค่อยมาสนใจนักจึงทำให้เธอเหมือนอยู่คนเดียว ไม่มีญาติที่ไหนพอที่จะมาเติมเต็มในส่วนที่เธอขาดได้ จนมีเพื่อนรักกลับมาเธอถึงได้รู้สึกเหมือนมีตัวตนขึ้นมาบ้าง


    โปรดติดตามตอนต่อไป...




    สั่งซื้อ EBook (เต็มเรื่อง) สำหรับวัยรุ่นใจร้อน ได้ก่อนใคร ตามลิงค์ด้านล่างเลยจ้า  

    --> https://www.mebmarket.com/ebook-51191-ตามรักรัฐภาค-Men-Of-Lions <---


    ฝากกด   ติดตาม / คอมเมนท์ เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า ^^

    ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่... ---> เฟชบุ๊คแฟนเพจ  :  Raniya.writer


    *** ขอบคุณทุกกำลังใจและการสนับสนุนทุกช่องทาง และ คอมเม้นท์ ที่มาเพิ่มแรงฮึดให้ไรท์ตัวอ้วน ***

    ขอบคุณมากๆ จากใจค่ะ  ^___^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×