NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามรักรัฐภาค [ชุด Men Of Lions] + EBook

    ลำดับตอนที่ #2 : อัศวินแห่งทุ่ง 2-1

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 66







     


    “เฮ้ย!

    สิงห์หนุ่มเบิกตากว้างเมื่อเห็นปลายกระปอกปืนและมีเสียงลั่นไกพุ่งตรงมาที่เขาอย่างรวดเร็ว รัฐภาคระวังตัวอยู่แล้วจึงพุ่งตัวหลบ กระสุนพุ่งเฉียดกายแกร่งไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด

    “กรี้ด!

    สมานุชกรีดร้องสุดเสียง เบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด หัวใจแทบอยู่เต้น นึกสงสารชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยเหลือ ไม่น่าต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่เลย รวบรวมกำลังลุกขึ้นสู้อีกครั้ง พยายามส่งเสียงเรียก แต่ทำได้เพียงเสียงแหบเบาผ่านผ้าผืนเล็กมัดเอาไว้แน่นจนเจ็บร้าวไปทั่วใบหน้า ส่งสายตามองตามเขาไปเท่านั้น

    “มานี่!

    “ทางนี้พี่!” คนเป็นลูกน้องที่ออกวิ่งนำร้องเรียกลูกพี่ที่ลากผู้หญิงร่างเล็กตามหลังมา 

    สมานุชเริ่มจะอ่อนแรงลงทุกทีกับการที่ต้องวิ่งเป็นเวลานาน หัวใจดวงน้อยของสมานุชเริ่มสิ้นหวัง น้ำตาใสหลั่งไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาตายในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้

    ด้านสองวายร้ายวิ่งลัดเลาะเข้าไปในป่าลึกข้างทางเรื่อยๆ 

    เสียงกัมปนาทดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วชายป่าที่ติดกับไร่ครองทรัพย์ และเป็นสัญญาณเรียกให้คนอีกกลุ่มที่ดักสุ่มรออยู่ก่อนหน้าวิ่งออกมาล้อมวายร้ายเอาไว้

    รัฐภาควิ่งไล่ตามหลังมาจนทันพวกมันที่ชายป่าอีกด้าน มือหนาเล็งมัจจุราชพร้อมลั่นไกโดยไม่ลังเล

    “โอ้ย! บ้าเอ้ย” 

    กระสุนพุ่งเข้าปักมือหยาบที่ถือปืนเล็งมา อีกมือที่จับร่างบางสะบัดหลุดไปทันที ส่งเสียงร้องโอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด นัดที่สองปักเข้ากลางลำตัวของสองร่างที่กำลังวิ่งหนีล้มฟุบลงกองกับพื้นดับอนาถ

    สมานุชโผล่เข้ามาหาร่างสูงตรงหน้าโอบกอดเขาเอาไว้แน่นด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต

    “เอ่อ...” 

    รัฐภาคตกใจและสงสารสาวเจ้าอยู่ไม่น้อย โอบประคองกอดรัดร่างบางเข้าหาอกกว้างปลอบโยนให้เธอคลายความกลัวลง แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรมากมายก็ตาม

    นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนพลันเหลือบกลับมาเห็นมัจจุราชที่กำลังเล็งมาหญิงสาวในอ้อมกอดรีบตวัดร่างบางหลบไปด้านหลังแล้วเอาตัวเองบังวิถีกระสุน นาทีนี้สิ่งหนึ่งที่เขารู้และจะไม่มีวันที่จะให้อภัยตัวเองถ้าเกิดอะไรขึ้นกับร่างในอ้อมกอด

    ดวงตาคู่คมลืมขึ้นเมื่อสิ้นเสียงปืน เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่จะได้รับ กวาดมองดูวายร้ายทางด้านหลัง มองร่างไร้วิญญาณที่นอนจมกองเลือดดับอนาถอยู่บนพื้นอย่างน่าสมเพช พลางมองเลยไปยังคนอีกกลุ่มที่กำลังวิ่งตรงเข้ามายังจุดที่พวกเขาอยู่

    “คุณเป็นยังไง... อ้าวเฮ้ยคุณ! คุณ…”

    สิงห์หนุ่มก้มลงมองหญิงสาวในอ้อมกอด คิ้วหนาขมวดยุ่งร่างกายอ่อนระทวยทรุดลงไม่บอกกล่าว รัฐภาคโอบประคองเอาไว้แทบไม่ทัน มือหนาตบใบหน้าสวยแผ่วเบาเพื่อเรียกสติ แต่เธอไม่มีท่าว่าโต้ตอบกลับมา

    “ให้มันได้อย่างนี้สิ” รอยยิ้มฉายขึ้นเมื่อดวงตากลมเรียวปรือขึ้นมาเล็กน้อย แต่เพียงชั่วครู่ก็หายไป

     ‘ฌอณ’ และ ‘เชน’ พร้อมลูกน้องจำนวนหนึ่งวิ่งลัดเลาะตามนายหนุ่มมาจนถึงจุดที่เกิดเหตุ และได้เห็นว่าสิงห์หนุ่มตัวที่สี่กำลังนั่งประคองร่างของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่

    “คุณดอมปลอดภัยนะครับ!”

    “ฉันไม่เป็นไร ...อย่าพึ่งถามอะไรเลย รีบออกจากที่นี่ก่อน”

    กล่าวจบชายหนุ่มจึงช้อนร่างบางขึ้นอ้อมแขนก้าวเดินออกไปขึ้นรถคันใหญ่ที่จอดรออยู่ด้านนอกตรงกลับบ้านเป็นการด่วน เป็นห่วงคนที่ไม่ได้สติอยู่บนตักกว้างมากกว่า ไม่รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้าง

    สองหนุ่มต่างมองหน้ากันนิ่ง นึกสงสัยว่าเธอเป็นใครกัน ทำไมสิงห์หนุ่มถึงได้ดูเป็นห่วงนัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะสนใจใคร ก่อนจะรีบตามหลังไป

     

    “พวกมึงทำงานประสาอะไร! เรื่องง่ายแค่นี้ยังพลาด!”

    บดินทร์เดือดดาลหนักเมื่อลูกน้องทำงานไม่ได้ดังใจ ร่างผอมแห้งที่รอดจากการจับกุมรีบบอกเจ้านายเสียงสั่นเทา

    “มะ มันมีคนมาช่วยครับนาย”

    “มันเป็นใครกัน! กล้าดียังไงมายุ่ง” น้ำเสียงคุ้นเคืองเต็มกำลัง ไม่เคยมีไอ้อีหน้าไหนกล้าลองดี แล้วมันเป็นใครกล้าดียังไงถึงมายุ่ง

    “ไม่รู้ครับนาย ตะ... แต่มีคนเรียกมันว่าเจ้านาย”

    “ไอ้โง่! ไปสืบมาให้ได้ว่ามันเป็นใคร ไปๆ ออกไปให้พ้นหน้ากูให้หมดเลย!”

    บดินทร์ทิ้งตัวลงโซฟาหนานุ่มกลางห้องทำงานอย่างไม่สบอารมณ์ อยากเอาปืนไปจ่อยิงหัวมันแล้วยิงมันให้ตายๆ ไปเสียนาทีนี้

    ลูกน้องคนสนิทพึ่งพ้นออกจากคุกหลวงก็เดินเข้ามากา เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของคนเป็นนายเอ่ยถาม

    “มีเรื่องอะไรนาย?”

    “มันมีคนอยากลองดีกับกู”

    “ใคร! ให้ไปจัดการเลยไหมนาย” สอนกล่าวเสียงเหี้ยม

    “ไม่ต้อง ...แล้วเรื่องที่ให้ไปทำเรียบร้อยหรือยัง” น้ำเสียงสะบัด แล้วถามงานสำคัญที่สั่งให้ลูกน้องไปทำ

    “มือระดับผมแล้วมีหรือจะพลาด พรุ่งนี้บ่ายสองที่เดิม แต่ทางโน้นขอเพิ่มเป็นสองเท่า นายจะว่ายังไง”

    ‘สอน’ โอ้อวดฝีมือของตัวเอง มั่นใจเต็มประดาหลังจากที่ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ

    “บอกไปว่าเรามีของให้มากเท่าที่ต้องการ …ไปเตรียมรถด้วย ฉันจะไปพบท่านเสียหน่อย” 

    บดินทร์ปรับเสียงเข้มกลับมาเป็นปกติทันทีที่พูดถึงเรื่องธุรกิจที่กำลังไปได้สวย พลางแสยะยิ้มที่มุมปาก เรื่องของแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอยู่แล้ว

    ร่างท่วมลงพุงเดินออกมาขึ้นรถคันใหญ่มุ่งหน้าออกจากไร่เหมันต์ไปด้วยใบหน้าระรื่นมีความสุขอย่างเหลือล้น ต่างจากเมื่อห้านาทีก่อนที่เดือดจนแทบจะยิงหัวลูกน้องเล่นเพื่อระบายความโกรธแค้น


    แสงสีส้มนวลของพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ดวงตากลมเรียวที่ปิดสนิทมากว่าสิบสองชั่วโมงเต็มค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างช้าๆ ร่างบางขยับกายอาการเจ็บแปลบบริเวณหน้าผากพุ่งจี๊ดขึ้นจนต้องมือบางยกขึ้นจับ แต่ต้องรีบชักมือกลับ รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินจนน้ำตาพาลจะไหลออกมา

    ประตูถูกผลักให้เปิดเข้ามาพร้อมร่างสูงใหญ่ของเจ้าของบ้านหนุ่ม ในมือหนามีถาดอาหารหอมกรุ่นติดมาด้วย ข้างกันมีน้ำส้มคั้นสดๆ จากในไร่มาด้วยอีกแก้ว หันไปส่งให้คนสนิทที่เดินตามหลังมา

    “ตื่นแล้วหรอครับ ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า” 

    รัฐภาคขยับก้าวไปหยุดลงแค่ปลายเตียง รักษาระยะห่างให้หญิงสาวสบายใจว่าเขาไม่ได้จะคิดร้ายกับเธอเหมือนพวกวายร้ายนั้น

    “คุณช่วยฉันไว้หรือ...” ได้คำตอบกลับมาเป็นการพยักหน้ารับแทน

    “ขอบคุณมาก ถ้าไม่ได้คุณป่านนี้ฉันคงเป็นผีเฝ้าป่าไปแล้ว” 

    หญิงสาวรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเขาครั้งใหญ่ที่อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตไปช่วยเธออย่างไม่คิดกลัวตาย ทั้งที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นโชคดีของเธอ

    “เรื่องเล็กน้อยนะครับ อย่าคิดมากเลย ว่าแต่พวกนั้นเป็นใคร ทำไมถึงอยากจะฆ่าคุณ” 

    รัฐภาคพาขายาวก้าวเดินอ้อมไปยืนพิงเอวสอบกับขอบหน้าต่าง พลางถามด้วยความสงสัย อยากจะรู้เหลือเกินว่าพวกนั้นเป็นใคร

    “ฉันก็ไม่แน่ใจนัก แต่มีอยู่ไม่กี่คนที่อยากให้ฉันตาย โอย…” มือบางยกขึ้นกุมบาดแผลที่แขนเรียว รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาริ้วๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของคืนที่ผ่านมา

    “ผมว่าคุณพักก่อนเถอะ ตอนนี้อย่าพึ่งคิดอะไรมากเลย พรุ่งนี้ค่อยมาคิดกันอีกที”

    สิงห์หนุ่มผละเดินห่างไปหลังจากพูดจบ ก่อนจะนึกนึกได้อีกก้าวเดียวจะพ้นกรอบประตูหันกลับไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างอีกรอบ

     “...ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”

     “ขอโทษทีค่ะ ฉันลืมแนะนำตัวเองไปเลย ฉันสมานุชค่ะ หรือจะเรียกสมาก็ได้” รีบบอกผู้มีพระคุณ

    “ผมดอม ลูกน้องผมจะเฝ้าอยู่ด้านนอก ถ้าคุณต้องการอะไรเรียกพวกเขาได้ไม่ต้องเกรงใจ”

    “ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”

    คล้อยหลังเจ้าบ้านหนุ่มไป หญิงสาวจึงเลื่อนตัวลงนอนเหยียดยาวไปบนที่นอนหนานุ่มอีกครั้ง แล้วหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย


    โปรดติดตามตอนต่อไป...




    สั่งซื้อ EBook (เต็มเรื่อง) สำหรับวัยรุ่นใจร้อน ได้ก่อนใคร ตามลิงค์ด้านล่างเลยจ้า  

    --> https://www.mebmarket.com/ebook-51191-ตามรักรัฐภาค-Men-Of-Lions <---


    ฝากกด   ติดตาม / คอมเมนท์ เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า ^^

    ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่... ---> เฟชบุ๊คแฟนเพจ  :  Raniya.writer


    *** ขอบคุณทุกกำลังใจและการสนับสนุนทุกช่องทาง และ คอมเม้นท์ ที่มาเพิ่มแรงฮึดให้ไรท์ตัวอ้วน ***

    ขอบคุณมากๆ จากใจค่ะ  ^___^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×