Please be my girl, เกลียดให้ตายยังไงก็เป็นแฟนผม :) - นิยาย Please be my girl, เกลียดให้ตายยังไงก็เป็นแฟนผม :) : Dek-D.com - Writer
×

    Please be my girl, เกลียดให้ตายยังไงก็เป็นแฟนผม :)

    เมื่อสาวสันโดษเกลียดการเข้าสังคมอย่างเธอ ต้องรับมือกับความปากร้าย ไร้สาระของเขา... แถมอีกฝ่ายยังยืนยันจะจีบเธอจนกว่าจะได้เป็นแฟนซะด้วย!!! นี่มันเป็นเนื้อคู่ที่มากับความซวยจริงๆ อย่างที่ว่ารึเปล่า?TOT

    ผู้เข้าชมรวม

    737

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    737

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    2
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 เม.ย. 55 / 18:04 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

        
    Please be my girl เกลียดให้ตายยังไงก็เป็นแฟนผม :)

    บทนำ

     

    Introduce ‘FATHOM’

    ชื่อ: ฟาธอม

    อายุ: 19 ขวบ

    สิ่งที่ชอบ: เห็นแก่ตัว

    สิ่งที่เกลียด: การมีน้ำใจ

    สีที่บอกความเป็นตัวคุณ: คัลเลอร์ฟูล

    คำจำกัดความสำหรับคุณ: หล่อ! หล่อ! หล่อ!

    งานอดิเรก: ถ่ายรูปตัวเองลงเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์

    ถ้าหาคุณไม่เจอ จะพบคุณที่นี่แน่นอน: เฟซบุ๊ค

    เอาล่ะ สุดท้ายคุณอยากบอกอะไรกับทางบ้าน: ผมหล่อ! J

     

    นั่งไหนดีวา...

    ตามใจแกเหอะ ฉันหิว

     งั้นโต๊ะริมสุดก็แล้วกัน ^^” เพื่อนสุดเปรี้ยวของฉันบอกก่อนจะเดินตรงไปนั่งลงที่โต๊ะริมสุดของโรงอาหาร ฉันตามไปวางถาดอาหารลงบนโต๊ะฝั่งตรงข้ามแล้วนั่งลง ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว อีกสักพักเด็กมหาลัยฉันก็จะทยอยกันเข้ามา แล้วทีนี้โรงอาหารเล็กๆ นี่ก็จะเต็มไปด้วยเหล่าสิ่งมีชีวิตสองขาเดินกันยั้วเยี๊ยะ และนั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเอาซะเลย โรงอาหารที่เต็มไปด้วยคนอัดแน่น เสียงพูดเจ๊าะแจ๊ะจอแจที่ฟังไม่รู้เรื่อง ความรู้สึกที่เหมือนออกซิเจนไม่พอจะหายใจ รวมๆ แล้วมันเป็นที่ที่ฉันไม่พึงปรารถนามากที่สุดเลยล่ะ =_=;

                    วา เย็นนี้ไปพารากอนเป็นเพื่อนหน่อยดิ!” ยัยมีนาหันมาพูดกับฉันแล้วคีบลูกชิ้นเข้าปาก

     ไปทำอะไรอ่ะ

    ซื้อกระเป๋า มันลดวันนี้วันสุดท้ายน่ะ ^O^”

    อือๆ รีบกินก่อนเถอะ ฉันยังไม่อยากจะขาดอากาศหายใจตายอ่ะนะ ฉันบอกเพื่อนสุดซี้ก่อนจะตักข้าวเข้าปากอีกคำ

        

    ยี่สิบนาทีต่อมา...

    ฉันดื่มน้ำส้มในแก้วอีกครั้งก่อนจะลุกจากโต๊ะพร้อมกับที่มีใครบางคนเดินตรงเข้ามาดึงข้อมือฉันแล้วก็ด่าฉันเป็นบ้าเป็นหลังอย่างกับว่าชาตินี้ไม่เคยด่าใครมาก่อน

    เธอล่ะสินะ ที่บังอาจมาดึงเรตติ้งฉัน... อย่าคิดว่าแค่เธอไปเด๊าะแด๊ะโผล่หน้ากล้องในโฆษณาลูกอมปัญญาอ่อนนั่นแล้วจะมาดังกว่าฉันนะ!” เอ่อ... ไอ้หน้าเกาหลีบอยหัวดำคนนี้มันเป็นบ้าอะไรกันเนี่ย อยู่ๆ ก็เดินเข้ามาด่าฉันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ฉันไปทำอะไรให้หมอนี่ตอนไหนก๊านนนน

    นี่! นายเป็นใครกันฮะ มีสิทธิ์อะไรมายืนด่าฉันฉอดๆๆ บ้ารึเปล่า... ฉันไปทำอะไรให้นายไม่ทราบ การที่ฉันถ่ายโฆษณามันเดือดร้อนนายมากรึไง!” ฉันกระชากข้อมือออกจากมือของหมอนั่น นายหน้าเกาหลีนี่ท่าจะโรคจิตนะ ฉันแค่ไปถ่ายโฆษณาลูกอมไม่ได้เอาอึอูฐไปขว้างหลังคาบ้านเขาซะหน่อย!

    เดือดร้อนสิ เดือดร้อนมากๆๆๆๆ เธอทำให้จำนวนฟอลโลว์เวอร์ของฉันลดลง เพราะมันไปฟอลโลว์เธอกันหมดแล้วไง = =^”

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน

    ก็เธอทำให้เรตติ้งการมีจำนวนฟอลโลว์เวอร์สูงที่สุดของฉันตกไง

    นี่เป็นเหตุผลที่นายมายืนด่าฉันอยู่นี่งั้นหรอ

    ใช่ -_-^”

    ปัญญาอ่อน!”

    ซ่า!!!

    ฉันสาดน้ำส้มที่อยู่ในมือใส่หน้าอย่างไม่แยแสว่าคนทั้งโรงอาหารจะอึ้ง จะทึ่งกันขนาดไหน ตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังจับจ้องภาพฉันกับเขาเป็นตาเดียวกัน แม้แต่เสียงเจ๊าะแจ๊ะพวกนั้นก็เงียบหายไปราวกับมีใครเอาสก๊อตเทปไปปิดปาก มันคงไม่ใช่เหตุการณ์ที่เลวร้ายเกินไปหรอก แค่นี้มันยังน้อยไปกับการที่หมอนี่มายืนด่าฉันต่อหน้าคนทั้งโรงอาหาร ด้วยเหตุผลที่... ปัญญาอ่อนสิ้นดี! = =;

    เธอ!!!”

    ถ้ายังไม่หยุดฉันจะเอาน้ำก๋วยเตี๋ยวนั่นสาดแทน... ฉันชี้นิ้วไปที่ชามก๋วยเตี๋ยวของยัยมีนาที่วางอยู่บนโต๊ะทำให้หมอนั่นถึงกับหุบปากแทบไม่ทัน พูดจบฉันก็หันไปดึงข้อมือมีนาที่ตอนนี้ยืนตะลึงค้างเป็นหุ่นปูนปั้นออกมาจากโรงอาหาร จากนั้นเสียงคนในโรงอาหารก็ฮือฮาตามกันออกมาเป็นระลอกๆ

    วา...นี่มันจะไม่แรงไปหน่อยหรอ หมอนั่นแค่ด่าเธอเองนะ

    มีนาถามฉันเมื่อเราเดินห่างออกมาจากโรงอาหารได้สักพัก

     ไม่แรงหรอก! อีตานั่นกล้าดียังไงมาด่าฉันด้วยเหตุผลปัญญาอ่อนนั่นต่อหน้าคนทั้งโรงอาหารแบบนั้น

         =O=” ฉันหันไปมองหน้ามีนาแล้วพูดต่อ ฉันไม่ได้ผิดสักหน่อย พวกบ้านั่นมากดฟอลโลว์ฉันเองนะ แล้วไอ้ที่ฉันได้ไปถ่ายโฆษณามันก็ไม่ใช่ว่าฉันจะอยากถ่ายด้วยซะหน่อย ไอ้ตงนั่นแหละเอารูปฉันไปให้โปรดิวเซอร์ดู แล้วก็บังเอิญติดใจอยากให้ฉันถ่ายขึ้นมา ฉันก็เลยจำใจไปถ่ายให้...

    โอเคๆ ฉันเข้าใจ ถ้าแกไม่ไปไอ้ตงก็เสียหน้าน่ะสิ - -

    ก็นั่นแหละ เพราะมันมาขอร้องฉันหรอกนะ... ฉันไม่ได้ต้องการเป็นที่สนใจของใคร แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบเข้าสังคม แล้วดูสิ... ยัยพวกแฟนคลับจานบัดซบอะไรนั่นมากดฟอลโลว์ฉันเป็นฝูงเลย!”

    เอ่อ...เขาชื่อจางกึนซอกนะ =_=^”

    นั่นแหละคล้ายกัน... ฉันหยุดยืนที่หน้ามหา ลัยอย่างหงุดหงิด นี่ฉันหงุดหงิดจริงๆ นะ... ไอ้ตงที่พวกฉันกำลังพูดถึงเป็นเพื่อนที่เรียนคณะฯ เดียวกันนี่ล่ะ กิจการของบ้านมันก็ไอ้เครือเดียวกันกับลูกอมที่ฉันโฆษณาให้นั่นแหละ เพราะมันแท้ๆ ทำให้ฉันต้องมาเจอเรื่องอุบาทว์ๆ อะไรแบบนี้ พอโฆษณานั่นเริ่มออกอากาศก็มีคนมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันมากขึ้นโดยเฉพาะในทวิตเตอร์ ไอ้เรื่องพวกด่าแบบไร้สาระนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะ เพียบ!! และอย่างเหตุการณ์ในวันนี้ที่ฉันเพิ่งจะเจอมาก็เป็นหนึ่งในความซวยของฉันนั่นเอง

    ฉันมันดวงซวยจริงๆ =_=;

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น