ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { EXO FIC } หนูน้อยหมวกแดง LUMIN BAEKD.O

    ลำดับตอนที่ #2 : กาลครั้งหนึ่งที่ชายป่า....

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 56







            คยองซูหยิบผ้าคลุมสีแดงของตัวเองที่แขวนเอาไว้มาสวมใส่ ค่ำคืนนี้จะเป็นการหนีเที่ยวครั้งแรกในรอบหลายปีของคยองซู จงอินหัวเราะคิกคักเมื่อเจอพี่ชายของตัวเองในชุดเสื้อคลุมนี่อีกแล้ว เวลาคยองซุสวมอะไรที่เป็นสีแดงมันดูน่ารัก แต่ก็แอบแฝงความน่ากลัวซ่อนไว้ภายใต้หมวกสีแดง จงอินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแม่ชอบถึงชอบบอกให้คยองซูคอยใส่ชุดคลุมบ้าๆนี่ทุกครั้งที่จะออกไปไกลจากบ้าน

     

    ตามชายป่าเวลากลางคืนย่อมมืดกว่าที่อื่นๆอยู่แล้วเพราะไม่มีแสงสว่างจากสิ่งใดนอกจากดวงจันทร์ วันนี้พระจันทร์เต็มดวงสีนวลผ่องลอยอยู่เหนือเมฆปุยบาง คยองซูแหงนมองแล้วแอบยิ้มเงียบๆ จงอินถือตะเกียงเดินนำทางคยองซูไปในฐานะที่เป็นคนชวน เพราะจงอินคุ้นทางแล้วเลยรู้ว่าต้องไปทางไหนต่อถึงจะเข้าเมืองได้

     

    “ พี่คยองซู เห็นแสงไฟพวกนั้นไหม นั่นแหละใกล้ถึงเมืองแล้วนะ “  เพราะวันนี้เป็นวันรื่นเริงของคนในเมือง แสงไฟจึงสว่างวาบกว่าทุกๆวัน ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เสียงดนตรียิ่งดังชัดเจนขึ้นคยองซูอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้กับเสียงดนตรีสนุกสนานพวกนั้น คงมีความสุขกันน่าดู...

     

    .

    .

     

                อมนุษย์ก็คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คน ร่างใหญ่กำยำของหมาป่าหน้าตาดุร้ายกำลังฟาดฟันกับสิ่งมีชีวิตเฉกเช่นเดียวกันกับมัน เจ้าศัตรูตัวเล็กที่มีปีกงอกออกมาจากด้านหลังรวมถึงคมเขี้ยววาบวับกำลังจ้องที่จะเล่นงานมันอยู่ตลอดเวลา เสียงคำรามอื้ออึงดังไปทั่วบริเวณ การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของสองเผ่าพันธุ์ที่กำลังจะสูญหายไปจากโลกใบนี้

     

     

    กรงเล็บคมฟาดใส่ลำตัวของชายหนุ่มผิวขาวซีดจนเลือดกระเด็นออกมาตามแรงกระชาก เหมือนจะเป็นกฎของการต่อสู้เมื่อผู้ใดเป็นฝ่ายเสียทีก่อน ฝ่ายนั้นย่อมถูกกระหน่ำซ้ำเติมจนตายกันไปข้าง เสียงกรีดร้องแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นลั่นป่าใหญ่ มนุษย์ผิวขาวมีปีกบินหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตะปบได้อย่างเฉียดฉิว แต่หมาป่าตัวใหญ่ก็ไม่ลดละความพยายามที่อยากจะฉีกร่างนั้นออกเป็นชิ้นๆ มันออกวิ่งไล่ตามเจ้าปิศาจในคราบมนุษย์อย่างใจเย็น


     

    ปีกสองข้างที่กระพือต่อไม่ไหวยอมจำนนนอนรอความตายอย่างน่าสงสาร หมาป่าอ้าปากโชว์ซี่ฟันคมของมันก่อนจะกัดเข้าที่ลำตัวขาวซีดแล้วกระชากจนร่างขาดออกจากกัน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อสิ้นสุดการต่อสู้แล้วหมาป่ากระโดดขึ้นบนโขดหินใหญ่ก่อนจะส่งเสียงคำรามแสดงพลังอำนาจของตนให้พวกที่อยากลองดีได้ยินกันทั่วหน้า เสียงเห่าหอนลากยาวนั้นประหนึ่งว่ามันกำลังอวดชัยชนะครั้งนี้ให้สิ่งมีชีวิตทุกตัวตนบนผืนดินแห่งนี้ได้รับรู้

     

    .

    .



     

                คยองซูถูกปล่อยให้นั่งอยู่ตามลำพังบนตอไม้ เขาได้แต่นั่งมองกลุ่มคนชายหญิงที่ยืนเต้นรำกันอย่างเริงร่า แต่แล้วคยองซูก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อเสียงคำรามดังสนั่นก้องป่าดังขึ้น     คยองซูขนลุกชูชันกับเสียงดังกล่าว คนในชุดคลุมสีแดงไม่กล้าลุกขยับกายไปไหนเพราะจงอินบอกว่าให้รอที่นี่ ถึงแม้จะหวาดระแวงกับเสียงคำรามนั้นอยู่แต่คยองซูก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

     

    “ ว่าไงแม่สาวน้อย มัวมาทำอะไรคนเดียว “ คยองซูตกใจหันตามเสียง

     



    “ คุณเป็นใคร “


     

    “ เธอไม่รู้จักฉันจริงหรอ ? “  ร่างเพรียวสูงมาในชุดสีดำตัดกับผิวขาวจัดของเขาเป็นอย่างมาก


     

    “ ฉันชื่อลู่หาน คนที่นี้ทุกคนต้องรู้จักฉันกันทั้งนั้น “


     

    “ แต่ฉันไม่ใช่คนที่นี้ ฉันแค่เข้ามาเที่ยว”


     

    “ ไม่น่าละถึงไม่เคยได้เห็นหน้าของเธอเลย “  ลู่หานเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง รูปร่างของเขาเพรียวบางจนเหมือนจะไร้เรี่ยวแรง


     

    “ บอกชื่อของเธอมาสิสาวน้อย “


     

    “ ฉันเป็นผู้ชาย ฉันชื่อคยองซู “  เขาดูจะหงุดหงิดไม่น้อยเลยที่ถูกลู่หานเรียกว่าสาวน้อย


     

    “ ขอให้สนุกกับงานคืนนี้นะคยองซู “  ลู่หานปรับโทนเสียงเย็นลงจนเสียวสันหลัง ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาผิดกับดวงตาที่นิ่งสงบ ทำเหมือนไม่เต็มใจจะยิ้มอย่างนั้นแหละ คยองซูก้มหน้าลงมองมือตัวเอง ครั้นพอจะเงยหน้าขึ้นมามอง อีกคนก็หายไปซะแล้ว หายไปเร็วอย่างกับว่าหายตัวได้อย่างนั้นแหละ

     

    .
    .
    .

     

    “ ลู่หาน เจ้าไปทำอะไรกับเด็กคนนั้น “


     

    “ ข้าไม่ทำอะไรเด็กนั่นหรอกมินซอก “   ชายร่างเล็กยืนกอดอกอยู่ที่ริมหน้าต่างของบ้านหลังใหญ่ ลู่หานเดินเข้าไปสวมกอดอีกคนจากทางด้านหลัง


     

    “ ปล่อยข้านะลู่หาน “


     

    “ เจ้าเป็นใครข้าเป็นใคร อย่าคิดที่จะสั่งข้า “



     

    “ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ปล่อยข้าไปสิ จับข้าขังไว้ที่นี่ทำไม “ มินซอกก้มมองโซ่ที่รัดอยู่ที่ข้อขาของตัวเองทั้งสองข้าง เขาอยากกลับบ้าน อยากไปอยู่ในที่ของเขา


     

    “ เจ้าเป็นของข้า เจ้าก็ต้องอยู่กับข้าสิ “


     

    “ ข้าไม่ใช่ของเจ้า ! ” มินซอกตวาดดังลั่น ลู่หานขบกรามแน่นแล้วพลิกตัวอีกคนให้หันกลับมา


     

    “ อยากไปหามันจนตัวสั่นเลยสินะ “


     

    “ รู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยข้าไป “  เรียวมือขาวซีดยื่นมาบีบปากที่แสนจะอวดดีแน่น


     

    “ อ้อนวอนข้าสิมินซอก “  ลู่หานฉุดร่างของมินซอกให้เดินมาตามแรงดึงของเขาก่อนจะเหวี่ยงร่างนั้นให้ลงไปนอนกับเตียง จุกจนรื้นน้ำตา


     

    “ เลิกสำออยได้แล้วน่า ไม่มีประโยชน์ “  มินซอกถดตัวหนีไปอยู่สุดขอบเตียงแต่ก็ถูกมือแข็งแรงฉุดขาให้กลับมานอนตามเดิม “ ได้โปรดลู่หาน อย่า...”


     

    “ อย่าหยุดใช่ไหม หึ..”  ลู่หานยิ้มร้ายออกมาใบหน้าสวยหวานเคลือบไปด้วยความใจร้ายใจดำ ทำไมลู่หานน่ากลัวแบบนี้ มินซอกไม่มีทางหลบหลีกความต้องการของคนบนร่างได้ ลู่หานตั้งใจจะทรมานเขาไปถึงไหนกัน เจ้าของผิวขาวซีดพันธนาการเขาเอาไว้ด้วยโซ่ กักขังให้เขาอยู่รอรับชะตากรรมของตัณหา ต่อให้กรีดร้องด้วยความทรมานจนสุดเสียงก็ไม่อาจจะหยุดหรือคิดจะต่อต้านกับแรงของลู่หานได้


     

    “ จะหนีฉัน หนีไปได้ก็แค่วิญญาณเท่านั้นแหละมินซอก “

    .

     

    .

               


         
    จงอินเดินบิดขี้เกียจออกมานอกบ้าน พอออกมาถึงก็เจอกับคยองซุที่สวมชุดคลุมแดงเหมือนกำลังจะเตรียมตัวออกไปข้างนอก

    “ ไปไหนครับพี่ “


     

    “ เมื่อวานตอนเดินกลับพี่ได้กลิ่นผลไม้ก็เลยอยากเดินไปหาเก็บมานะ “


     

    “ผมไปเป็นเพื่อนไหม ? “


     

    “ อยู่ดูแลแม่ที่บ้าน แล้วพี่จะรีบกลับ “

     

    เมื่อวานกว่าจงอินจะพากลับก็ดึกมาก กว่าจะเดินมาถึงบ้านก็เกือบรุ่งสาง ระหว่างทางเดิน    คยองซูได้กลิ่นหอมของผลไม้คิดไว้แล้วว่ายังไงซะตอนเช้าเขาก็ต้องมาดูให้ได้ว่ากลิ่นหอมนั่นเป็นกลิ่นของผลไม้อะไร ทำไมถึงได้หอมมากขนาดนี้ คยองซูเดินถือตะกร้าที่มีขนมพายอยู่ข้างในนั้น กะว่าระหว่างทางถ้าเกิดหิวขึ้นมาจะได้หยิบกิน เดินมาสักพักกลิ่นหอมรุนแรงนั้นก็โชยมาเข้าจมูกจังๆ คยองซูสูดหายใจลึกแล้วเดินตามกลิ่นหอมนั่นไป เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินเข้าสู่เส้นทางที่เขาไม่คุ้นเคย เดินมาเรื่อยๆในที่สุดคยองซูก็ชะงักเท้า..


     

                บ้านหลังเล็กนี่หรือคือที่มาของกลิ่นหอมนั่น คยองซูสาวเท้าเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ นกที่เกาะอยู่แถวกิ่งไม้บินหลบหนีกันจนต้นไม้ไหวตามแรง คยองซูเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์โหวงเหวงแบบชอบกล เหมือนบริเวณนี้จะไม่ต้อนรับเขาสักเท่าไร..


     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    ยืนรออยู่สักพักประตูไม้บานใหญ่ก็เปิดออก เจ้าของบ้านหน้าตาไม่ค่อยอยากรับแขกเท่าไรเลยใบหน้าเรียวยาวแถมขอบตายังติดจะคล้ำๆ

    “ คุณครับ กลิ่นหอมๆนี่มันคือกลิ่นอะไรหรอครับ “


     

    “ เข้ามาก่อนสิ “  เจ้าของบ้านเปิดประตูคาไว้แล้วเดินนำหายเข้าไปในบ้าน กลิ่นหอมรุนแรงจน คยองซูอยากกอบโกยกลับไปดมต่อที่บ้าน อยากรู้รสชาติของมันว่าจะอร่อยมากแค่ไหน..


     

    “ เธอหมายถึงกลิ่นของไอ้นี่รึเปล่า ? “  คยองซูเบิกตาโพลงพร้อมถอยกรูชิดเตรียมวิ่งหนีออกจากบ้าน แต่ฉับพลันประตูก็ปิดลงอย่างแรง  หัวใจดวงน้อยเต้นระทึกเมื่อดวงตาไปสบเข้ากับกระต่ายตัวสีขาวที่เปียกโชกไปด้วยเลือดสีสดของมัน


     

    “ เธอหอมกลิ่นเลือดอย่างนั้นหรอ ? “


     

    “ ไม่ ผมหมายถึงกลิ่นผลไม้ ไม่ใช่กลิ่นคาวเลือดแบบนี้ “  เจ้าของบ้านจู่ๆก็มาโพล่ที่ข้างหลัง  คยองซู จนคนตัวเล็กตกใจจนแทบหมดสติ  “ กลิ่นนี้แหละถูกแล้ว “
     

    กระต่ายตัวเล็กถูกจ่อใส่หน้าคยองซูเต็มๆจนสติของเขาทั้งหมดดับวูบหายไปทันที

     


     

                แบคฮยอนยืนมองหน้าของคนที่อยู่ในชุดคลุมแดง ท่าทางนิสัยเหมือนพวกชาวบ้านทั่วไป แต่ทำไมถึงได้กลิ่นคาวเลือดเป็นกลิ่นหอมของผลไม้ มีแค่พวกผีปิศาจเท่านั้นแหละที่จะชอบกลิ่นเลือดพวกนี้ เจ้าเด็กนี่คงไม่ใช่ผีหรือปิศาจหรอกนะ หน้าตาน่ารักขนาดนี้เขาคงทำใจฆ่าไม่ลง  แต่ใครจะไปรู้กลีบปากสีสดนี้อาจจะเคลือบยาพิษมาก็ได้...


     

    “ ตื่นได้แล้วหนูน้อย “  ดีดนิ้วเปาะเดียวคยองซูก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที เขาดูจะตกใจไม่น้อยเลยที่ตื่นมาแล้วเห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงหนานุ่ม


     

    “ คุณเป็นใคร “ แสดงท่าทีหวาดผวาจนแบคฮยอนเดาไม่ออกว่ากลัวจริงๆหรือแค่กำลังสร้างภาพอยู่  


    “ บ้านของฉัน แบคฮยอน “




     

    “ คุณไม่ใช่คน “


     

    “ ......... “


     

    “ได้โปรดปล่อยผมไปด้วย “  คยองซูทำน้ำเสียงอ้อนวอนสุดชีวิต ยอมรับเลยว่ารู้สึกกลัวคนตรงหน้านี่เป็นอย่างมาก กลัวอย่างบอกไม่ถูก


     

    “ ก่อนจะปล่อยไป ขอฉันพิสูจน์อะไรหน่อย “


     

    “ ไม่ ผมไม่ให้คุณพิสูจน์อะไรทั้งนั้น “  เขาวิ่งหนีลงจากเตียงแล้วปรี่ไปที่ประตู แบคฮยอนไม่ได้วิ่งตามไปกระชากกลับมา เขาแค่นั่งมองแล้วก็ยิ้ม มองดูคยองซูที่เอาแต่ทุบประตูทั้งๆที่มันเปิดไม่ออกแต่ก็ยังพยายามงัดแงะให้เปิดออก


     

    “ ไม่มีประโยชน์น่า “ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่กกหูจนขนลุกไปทั่วร่าง ท่อนแขนแข็งแรงกอดรัดเอวคยองซูไว้แน่น ออกแรงไม่มากในการอุ้มตัวเด็กน้อยชุดแดงนี่ให้กลับมานอนราบบนเตียง


     

    “ นอนเฉยๆก็พอ “  แบคฮยอนกระโดดขึ้นทับตัวอีกคนแล้วคร่อมแขนทั้งสองข้างลงกับเตียง


     

    “ บอกชื่อของเธอมา “


     

    “ ไม่ ปล่อยผมไปเถอะ ได้โปรดนะ “


     

    “ บอกชื่อของเจ้ามาซิหนูน้อย “  ราวกับถูกมนต์สะกดเมื่อเผลอไปจ้องจองดวงตาสีเข้มของอีกคน


     

    “ คยองซู ผมชื่อคยองซู “  แบคฮยอนยิ้มเย็น นิ้วเรียวยาวลากไล้ผ่านริมฝีปากของคยองซูไปมา


     

    “ จะว่าไปข้าก็ไม่ได้แตะต้องกายใครมานานแล้ว “ น้ำเสียงเรียบนิ่งเปลี่ยนเป็นแหบพร่าลง สรรพนามใหม่ถูกเรียกออกมาพร้อมกับท่าทีที่เปลี่ยนไป


     

    “ ...... “


     

    “ เจ้ายอมให้ข้าได้หรือไม่ ? “ จะด้วยเวทย์มนต์หรือสิ่งเร้าใดๆก็ตามที่ทำให้คยองซูหลงเดินเข้ามาถึงในบ้านหลังนี้ก็ตามที แบคฮยอนจะไม่มีทางปล่อยคนใต้ร่างนี้ไปแน่ๆจนกว่าเขาจะได้ในสิ่งที่เขาพอใจ





     

    คลิ๊ก























    TBC.
     

    อั่กกกก คลิ๊กลมคลิ๊กแล้งนะเออ มันไม่มีฉากอะไรแบบนั้นหรอก ฮา....
    รอนาน รอจนเหงือกแห้ง มาอัพให้แล้วนะ แล้วจะมาบ่อยๆเลยคะ
    ขอบคุณคนที่ยังรอนะคะ : D

    ปล. เราขออนุญาตไม่ใส่สกินแล้วนะ ถ้าฟ้อนหรือการจัดเรียงมีปัญหารบกวนบอกเราด้วย
    เพราะหน้าจอคอมพ์เรามันเริ่มทรยศเราอีกแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×