ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนะยัยตัวแสบ(วาเรีย)

    ลำดับตอนที่ #1 : แนะนำตัวละคร

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 56


    แนะนำตัวละคร

     ชื่อ:มิสิกิ คายะ (คายะ)
     อายุ:19
     สูง:150(โครตเตี้ย=_=)
     หนัก:35 kg.
     ประเทศ:ไทย(ลูกครึ่งอิตาลี)
     ราศี:มีน
     กรุ๊ป:o
     อาหารที่ชอบ:ข้าวแกงกระรี่,อูด้ง
     ชอบดื่ม:โค้ก
     สิ่งที่ไม่ชอบ:คนเอาแต่ใจมากเกินไป
     งานอดิเรก:วาดรูป,ยิงปืน,ร้องเพลงเต้น
     ธาตุ:สายหมอก,เมฆา
     อาวุธ:เข็มอาบยาพิษ
     อาวุธกล่อง:งูยักตัวษ์ 2 ตัว(รัน,ยูกิ)
     นิสัย:หน้าตาน่ารักติ๊งต่องขี้อายตอนร้องเพลงหรือเต้นให้คนอื่นดู(ภายนอก)ภายในแสบร้ายฉลาดชอบวางแผนเถียงเก่ง
     ประวัติ:เป็นหลานของรีบอร์นและเป็นลูกของรุ่นที่ 9 ที่เก็บมาและเป็นเพื่อนสนิทของซันซัสเลยโตขึ้นมาแบบมาเฟียความสามารถมีทั้งการยิ่งปืน การใช้อาวุธต่างๆเป็น การขับเครื่องยนต่างๆ การวาดรูปการฟันดาบ การชงชา การทำอาหาร การร้องเพลง และการเต้น(มันเกี่ยวกับมาเฟียตรงไหน)   จนสมบูรณ์แบบของมาเฟีย รุ่นที่ 9 ได้เห็นความสามารถต่างๆเลยชวนให้เข้าวาเรียโดนไม่รู้เลยว่าซันซัสเป็นบอสของวาเรีย

     
    ชื่อ:เบลเฟกอล(เจ้าชาย)
    อายุ : 15 ปี
    วันเกิด : 22 ธันวาคม
    ราศี : ราศีธนู
    กรุ๊ปเลือด : AB
    ส่วนสูง : 166 เซน
    น้ำหนัก : 57 กิโล
    ประเทศที่เกิด : อิตาลี
    อาหารที่ชอบ : ซูชิ
    เครื่องดื่มที่ชอบ : นม
    คำที่ชอบพูด : เพราะชั้นเป็นเจ้าชาย , ชิชิชิชิ(หัวเราะ)
    สิ่งที่ไม่ชอบ : คนที่ไม่เคารพ
    งานอดิเรก : ลอบสังหารนักฆ่าตามท้องถิ่นที่ไปทำภารกิจ
    อาวุธเบลเฟกอลมีความสามารถในการใช้มีดและลวดที่สูงมาก เขามักจะติดลวดเอาไว้ที่ด้ามของมีดทำให้สามารถโจมตีศัตรูด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายตามแต่สถานการณ์ และยังสามารถวางตำแหน่งของลวดด้วยการขว้างมีดสร้างเครื่องมือเชือดที่มองไม่เห็นขึ้นมาได้
    อาวุธกล่องมิ้งค์วายุ วิโซเน่ เทมเพสต้า อาวุธกล่องรูปร่างตัวมิ๊งค์ที่มีพลังไฟธาตุวายุอยู่ที่หาง ขนทั่วทั้งตัวเก็บเอาไว้ห่มกันหนาวได้ สามารถสร้างไฟธาตุวายุด้วยความร้อนที่เสียดสีระหว่างตัวเองกับวัตถุอื่นและหากใช้คุณสมบัติแยกสลายของธาตุวายุด้วยจะทำให้สร้างไฟไหม้ที่ขยายวงกว้างออกไปได้ในพริบตา
    ท่าไม้ตายเฟียนม่า สคัลแรทต้า (เพลิงประกายแดง) เป็นท่าที่อาศัยความสามารถของมิ้งวายุก่อเกิดเปลวไฟเป็นบริเวณกว้าง มันจะไม่ดับจนกว่าจะเผาผลาญศัตรูไม่ให้เหลือซาก
    ประวัติ:
    เบลเฟกอลเคยเป็นเจ้าชายมาก่อนที่จะมาร่วมมืออยู่กับวาเรีย โดยที่เบลเคยมีพี่ชายฝาแฝดอีกคนหนึ่งชื่อจิล แต่เบลกลับฆ่าพี่ชายตัวเอง แล้วตอบหน้าตาเฉยว่านึกว่าพี่ชายตัวเองเป็นแมลงสาบ เบลจึงรู้สึกสนุกกับการฆ่าเลยไปร่วมมือกับวาเรียกลายเป็นนักฆ่าตัวฉกาจที่เป็นอัจฉริยะที่สุดในกลุ่มวาเรีย โดยที่เบลจะไล่ฆ่านักฆ่าที่อยู่ตามท้องถิ่นที่ตนอยู่ พบเจอใครเข้าก็จะฆ่าไม่เลี้ยง จนเขาได้รับฉายาว่า "Prince the Ripper" หรือ เจ้าชายนักเชือดนั่นเอง ในภาคอนาคตเขาได้มาเป็นรุ่นพี่ของฟราน สมาชิกใหม่ของวาเรียที่ไม่ค่อยเคารพรุ่นพี่ซะเท่าไหร่ มักกวนโมโหเบลเป็นประจำ จนเบลต้องลงไม้ลงมือปามีดใส่ฟรานเสมอ


     
    ชื่อ: ซันซัส(บอสวาเรีย)
    อายุ : 24 ปี
    วันเกิด : 10 ตุลาคม
    ราศี : ตุลย์
    กรุ๊ปเลือด : A
    ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร
    น้ำหนัก : 78 กิโลกรัม
    ประเทศที่เกิด : อิตาลี
    สัตว์ประจำตัว : ไลเกอร์นภาวายุ ดิเกร เทมเพสต้า ดิ เชลี(ลูกผสมระหว่างเสือกับสิงโต)นภาวายุสีขาว ชื่อว่า"เบสเตอร์"
    สิ่งที่ชอบพูดเป็นพิเศษ : ไอ้สวะ
    สิ่งที่ไม่ชอบ :ลูกน้องที่ไม่เคารพ
    เครื่องดื่มที่ชอบ : ไวน์องุ่น, วิสกี้
    งานอดิเรก : เช็คสภาพกับทำความสะอาดปืน แกล้งสควอโล (พูดจาถากถางอย่างเจ็บแสบแล้วเดินหนี) ฝึกความแข็งแกร่ง
    อาวุธปืนแบบเดียวกับวองโกเล่รุ่นที่ 7 ที่สามารถรวบรวมเปลวไฟจำนวนมากเอาไว้ในรังเพลิงและโจมตีออกมารวดเดียว ซันซัสใช้ปืนนี้ผสานกับเพลิงพิโรธ ทำให้เป็นได้ทั้งอาวุธพลังโจมตีสูงและไอพ่นในการขับเคลื่อนแคมพิโอฟอร์ม่าไลเกอร์เปลี่ยนเป็นปืนคู่ราชันย์พยัคฆ์
    อาวุธกล่องไลเกอร์นภาวายุ(ลิเกร เทมเพสต้า ดิ เชลี)ชื่อว่าเบสเตอร์ ซันซัสจะใส่ไฟธาตุนภาและเพลิงพิโรธลงไปในกล่องพร้อมกัน เมื่อมันคำรามทุกสิ่งทุกอย่างจะกลายเป็นหินด้วยคุณสมบัติผสานของธาตุนภา(ลุทจีท ดิเชลี-เสียงคำรามก้องนภา)และโดนทำลายด้วยคุณสมบัติไฟธาตุวายุ(เป็นผลกระทบจากเพลิงพิโรธ)
    ท่าไม้ตายเพลิงพิโรธ เป็นลักษณะของบอลแสงแบบเดียวกับวองโกเล่รุ่นที่ 2 มีพลังทำลายล้างสูงมัลโชโร่ ดี เฟียนมา (อัคคีเบ่งบาน)โคลโป้ ดัททีโอ้ (กระสุนสั่งลา)มัลเทโร่ ดีเฟียนมา (ค้อนเหล็กเปลวเพลิง)สคอตปีโอ ดีร่า (ระเบิดเพลิงพิโรธ)
    ประวัติ:
    ซันซัส หัวหน้าของวาเรีย(แก๊งที่รวบรวมนักฆ่าหัวกะทิ ทำงานกันอย่างอิสระภายใต้สังกัดของวองโกเล่) และ เป็นลูกชายของวองโกเล่รุ่น 9 เป็นคนเย่อหยิ่งถือตัวมักใช้อำนาจและความโกรธในการคุมคน เป็นคนที่ลูกน้องต่างก็เกรงกลัวและนับถือ แต่จริงๆแล้ว เขาไม่ได้เป็นคนในตระกูลวองโกเล่ แต่ก็เพราะเขานั้นสามารถใช้เปลวไฟดับเครื่องชนได้ตั้งแต่ยังเด็ก แม่ของเขาจึงเชื่อว่า เขาสืบสายเลือดมาจากวองโกเล่รุ่นที่ 9 หลังจากที่เขาได้รู้ความจริงจึงได้ทำการก่อกบฏครั้งใหญ่ซึ่งวองโกเล่เรียกเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า "คดีเปลเด็ก" แต่ทำการไม่สำเร็จจึงถูกวองโกเล่รุ่นที่9จับแช่ไว้ในน้ำแข็งและหลับใหลมาตลอดเป็นเวลา 8 ปี ภายหลังได้ถูกปลดปล่อยและมาเป็นคู่แข่งในการแข่งชิงแหวนแห่งวองโกเล่และตำแหน่งวองโกเล่รุ่นที่ 10 กับ สึนะ หลังพ่ายแพ้แก่สึนะได้มาเป็นบอสของวาเรียตามเดิม ซันซัสเป็นคนที่ทะเยอทะยานอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ในครอบครองไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตามเขาก็ยอมที่จะสละใครที่ใข้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้วก็จะโยนทิ้งเหมือนหมากตัวหนึ่งแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นพ่อของตนหรือเพื่อนรักตัวเอง ถึงแม้ซันซัสจะเป็นคนโลภที่ต้องการตำแหน่งบอสของวองโกเล่จากสึนะมาตลอดแต่ก็รักวองโกเล่ยิ่งกว่าชีวิต ถ้ามีภัยคุกคามจากภายนอกเขาก็จะพยายามปกป้องวองโกเล่อย่างสุดความสามารถ
     


    ชื่อ:สควอโล่(มือขวา)
    อายุ : 22 ปี
    วันเกิด : 13 มีนาคม
    ราศี : มีน
    กรุ๊ปเลือด : A
    ส่วนสูง : 182 เซน
    น้ำหนัก : 75 กิโล
    ประเทศที่เกิด : อิตาลี
    สิ่งที่ชอบพูด : โว้ยย,ไอ้บอสเวรตะไล,กระจอก
    อาหารที่ชอบ : Tuna Carpacchio Care
    สิ่งที่ไม่ชอบ : พวกที่ชอบเลียแข้งเลียขาบอสตัวเอง
    สัตว์ที่ชอบ : ฉลาม
    งานอดิเรก : ดูแลกับทำความสะอาดดาบ รองรับอารมณ์บอส(ทนให้ซันซัสด่า)
    อาวุธสคลอโล่จะใช้ดาบที่ติดอยู่กับข้อมือตัวเองในการต่อสู้ โดยในดาบจะมีดินปืนอัดเอาไว้เมื่อเหวี่ยงดาบก็จะเกิดการระเบิดขึ้นทำให้สามารถโจมตีในระยะไกลได้ แท้ที่จริงแล้วดาบของเขาก็คือแขนเทียม เนื่องจากสควอโล่เสียมือข้างซ้ายจากต่อสู้กับเทพกระบี่ โดยแขนเทียมสามารถปลดออกและเปลี่ยนทิศได้ทำให้เขาสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ในมุมบอดของตัวเองได้
    อาวุธกล่องฉลามพิรุณ สควอโล แกนเต พิออจฉา (อาโร) อาวุธกล่องรูปแบบฉลามที่มีไฟธาตุพิรุณห่อหุ้ม ในบรรดาอาวุธกล่องธาตุพิรุณถือว่ามีความดุร้ายและพลังทำลายติดอันดับต้นๆ เพียงแค่สัมผัสถูกผิวหนังของมันก็อาจจะถูกทำลายได้อย่างรุนแรงและถ้าถูกกัดจะลืมความเจ็บป่วยไปชั่วขณะด้วยคุณสมบัติระงับของไฟธาตุพิรุณ
    ท่าไม้ตายสคอวโทร ดี สคอวโล่ (ฉลามบุกประจัญบาน) เป็นการเหวี่ยงดาบไปมาพร้อมกับพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า สควอโล่ใช้ท่านี้ในการกำจัดเทพกระบี่ ทูลแอคแทคโก ดี สควอโล่ (ฉลามกระแทก ) เป็นการโจมตีด้วยการเหวี่ยงดาบที่หนักหน่วงทำให้คู่ต่อสู้เกิดการสั่นสะทือนทั่วร่างเพื่อทำให้ประสาทสัมผัสของอีกฝ่ายชาจนเคลื่อนไหวไม่ได้ชั่วขณะซันนา ดี สควอโล่(เขี้ยวฉลาม) เป็นการแทงแหวกอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนจนเหมือนกับเขี้ยวฉลาม
    ประวัติ:
    สควอโล่เป็นนักดาบอันดับหนึ่งที่เคยชนะ เทพกระบี่ ทูล อดีตหัวหน้าของวาเรียลงได้ ทุกคนเคยคิดว่า เขาจะต้องได้เป็นหัวหน้าของวาเรียคนต่อไป แต่เขากลับยกตำแหน่งไปเป็นของซันซัส เพราะตัวเขาหลงใหลในความโกรธของซันซัสและเป็นคนที่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของบอสตัวเองมากที่สุดด้วย ในวาเรียสควอโล่เป็นคนที่มีตำแหน่งรองจากบอส ส่วนมากเขาจะเป็นคนที่ทำหน้าที่สั่งการคนในหน่วยเกือบทั้งหมดและยังเป็นคนวางแผนการจัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับภารกิจแทบทุกครั้งด้วย เพราะXanxusทั้งที่เป็นบอสแต่กลับไม่เคยทำอะไรเลยแถมยังชอบระบายอารมณ์กลับสควอโล่เป็นประจำด้วย จึงทำให้สควอโล่หัวเสียและมีปากเสียงกับซันซัสเป็นประจำเขาเป็นคนที่เคยไปถล่มสำนักมาแล้วมากมายเพื่อฝึกปรือวิชาดาบของตัวเอง หนึ่งในสำนักที่เขาเคยไปถล่มมาแล้วนั้นคือ สำนักดาบ ชิงุริโชเอน และเขายังเป็นศิษย์โรงเรียนเดียวกับดีโน่อีกด้วย ในภาคอนาคต สควอโล่ได้ออกฝีกปรือวิชาดาบของตัวเองอีกครั้งโดยการโค่นนักดาบมีฝีมือจากทั่วโลกเป็นจำนวนร้อยคน ก่อนที่จะขนานนามตัวเองว่า "เทพกระบี่รุ่น2" และยังเป็นครูฝึกของยามาโมโตะเพื่อเตรียมรับศึกของเบียคุรันที่จะมาถึงอีกด้วย


    ชื่อเดิม ไวเปอร์
    ชื่อปัจจุบัน มาม่อน 
    เพศ ชาย
    อายุ 1ปี (ตอนเป็นอังโกบาเลโน่) , ไม่ทราบ (ก่อนเป็นอังโกบาเลโน่)
    สัตว์เลี้ยง กบ มีชื่อว่าแฟนทาสม่า เวลาที่ไวเปอร์ใช้พลังของจุกนม จะเปลี่ยลักษณะไป โดยจะมีลักษณะเหมืองูที่มีขาเล็ก ๆ สีเหลืองกำลังงับหางของตัวเอง ลอยอยู่เหนือหัวไวเปอร์ และทำให้ไวเปอร์สามารถลอยตัวได้
    ธาตุ สายหมอก
    อาวุธกล่อง บอลเหล็กสายหมอก ดาวทะเลสายหมอก จระเข้สายหมอก 
    วันเกิด 2 กรกฎาคม 
    สูง 40 ซม.
    หนัก 3.6 กก.
    กรุ๊ปเลือด A
    ผู้พากย์เสียง Rumi Shishido 
    ออกมาครั้งแรก ตอนที่40 (อนิเม) , ตอนที่90 (มังงะ)
    สิ่งที่ชอบ เงิน 
    เครื่องดื่มที่ชอบ นมรสสตอร์เบอร์รี่


    ชื่อ:ฟราน
    เพศ:ชาย
    สังกัด:วาเรีย วองโกเล่เเฟมิลี่ เเละ ลูกศิษย์โรคุโด มุคุโร่
    ธาตุ:สายหมอก 
    เเหวน:เฮลริงก์ธาตุสายหมอก 
    ประเทศที่เกิด:ฝรั่งเศส  


    ชื่อญี่ปุ่น     ルッスーリア 
    ชื่อโรมาจิ   Russūria
    ชื่อไทย     ลุสซูเรีย
    นักพากษ์ : Kōichirō Yuzawa 
    เพศ : ชาย
    ธาตุ : อรุณ
    กรุ๊ปเลือด : A
    สูง : 185 cm (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
    น้ำหนัก : 78 kg (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
    เกิด : 4 เมษายน
    อายุ : 25 (อายุปัจจุบัน)
            35 (ในอีก 10 ปีข้างหน้า)
    สถานภาพ : โสด
    สังกัด : วาเรีย
    ตำแหน่ง : เลขานุการแห่งวาเรีย
    อาวุธ : วิชามวย
              เข่าเหล็ก
    อุปกรณ์ : แหวนวาเรียแห่งอรุณ
    อาวุธกล่อง : สัตว์กล่องธาตุอรุณ คู (นกยูงอรุณ)
    ท่าไม้ตายต่างๆ : ไม่มีการบันทึกไว้
                
    เนื้อหาบางส่วนของ ลุสซูเรีย

    ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับอดีตของลุสซูเรียสัเท่าไร
    ลุสซูเรียเป็นที่รู้จักกันใน ร่างของชายประเภท 2 ส่วมแว่นกันแดตลอดเวลา
    ลุสซูเรียมีส่วนร่วมในศึกชิงแหวนวองโกเล่ ตอนศึกชิงแหวนวองโกเล่แห่งอรุณ
    เป็นคนที่ใครๆในวาเรียก็นับถือว่าเป็น แม่ หรือ เจ๊ใหญ่ของวาเรีย
    อาหารในหน่วยวาเรีย ลุสซูเรียจะเป็นคนทำเกือบทั้งหมด 
    เวลาคนในวาเรียทะเลาะกัน ลุสซูเรียจะเป็นคนคุมสถานการณ์ไม่ให้ลามปามไปมากกว่าที่ควร

    ข้อมูลอื่นๆ
    - ใน Haru Haru's Dangerous Interview ลุสซูเรียบอกว่า เขามีบทบาทเป็น แม่ ของวาเรีย
    - ในอนาคต พวกลูกน้องวาเรีย เรียกลุสซูเรียว่า เจ๊ลุสซูเรีย
    - ลุสซูเรียเป็นสมาชิกที่เก่าแก่ของวาเรีย
    - ลุสซูเรียมองอะไรไม่เห็น ถ้าไม่มีแว่นตากันแดด
    - จากใน manga extras ลุสซูเรียเป็นแชมป์เพาะร่างกายที่อายุน้อยที่สุด
    - ลุสซูเรียในภาษาอิตาลี แปลว่า ราคะ 

    เลวี่
    กรุ๊ปเลือด: A
    ราศี: แมงป่อง
    ส่วนสูง: 193 cm.
    น้ำหนัก: 90 kg.
    สิ่งที่ชอบ: คำชมจาก Boss
    สิ่งที่ไม่ชอบ: คนที่มีผลงานหรือความสามารถเด่นเกินหน้าเกินตา
    บ้านเกิด: อิตาลี
    [แก้] เทคนิคและอาวุธที่ใช้อาวุธ
    ร่มพาลาโบล่าทั้งแปด สามารถใช้เป็นได้ทั้งอาวุธในการแทงศัตรูและสะสมไฟฟ้าในการปล่อยไม้ตาย
    อาวุธกล่อง
    กระเบนอัสนี ทอลเบดีเน่ ฟูลมิเน่(รีไวร์) อาวุธกล่องธาตุอัสนีรูปร่างปลากระเบนที่มีไฟคุณสมบัติเหมือนไฟฟ้า ถ้าใช้ไฟธาตุอัสนีหุ้มทั้งตัวจะทำให้สามารถบินได้ มีความสามารถหายากในการผลิตไฟที่จุดขึ้นที่แหวนของเจ้าของให้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
    ท่าไม้ตาย
    เลวี่ โวลต้า เป็นการเปิดร่มพาราโบล่าทั้งหมดให้กางออกกลางอากาศเสมือนสายล่อฟ้า โดยจะรวบรวมสายฟ้าจำนวนมหาศาลจากฟ้าผ่าที่ตกลงมาและปล่อยสายฟ้าที่สะสมไว้ใส่ศัตรู ท่านี้สามารถใช้ได้ในกรณีที่ไม่เกิดฝนฟ้าคะนองโดยจะอาศัยพลังงานไฟฟ้าสำรองจากร่มพาลาโบล่าทั้งแปดในการปล่อยแทนแต่อนุภาคจะน้อยกว่า
    ซุปเปอร์ เลวี่ โวลต้า เป็นท่าที่ผสานร่วมกับกระเบนอัสนีโดยอาศัยคุณสมบัติการผลิตและสะสมไฟฟ้าจำวนมหาศาลของตัวกระเบน ทำให้อนุภาคของเลวี่โวลต้ามีพลังมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
    [แก้] บทบาทปฏิบัติการณ์บนเกาะมาเรเดียโวลา (พบเฉพาะในไลท์โนเวลเล่ม 2)
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกือบหนึ่งเดือนก่อนจะเกิดศึกชิงแหวน โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการบุกจู่โจมและยึดครองเกาะมาเรเดียโวลาของเหล่าทหารไม่ทราบสังกัด ซึ่งพวกเขาได้จับคนบนเกาะมาเป็นตัวประกันโดยภารกิจในการช่วยเหลือตัวประกันครั้งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของออตตาวิโอหัวหน้าระดับสูงของวองโกเล่และเป็นอดีตรองหัวหน้าของวาเรีย เลวี่ได้ออกปฏิบัติการณ์ร่วมกับสมาชิกระดับหัวหน้าที่เหลือในการบุกเข้าจู่โจมแบบสายฟ้าแลบเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน โดยเขามีหน้าที่ในการรักษาที่มั่นหน้าปราสาทที่ทหารจับตัวประกันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกทหารนำกำลังที่เหลือบุกเข้าตัวปราสาทเพื่อช่วยเหลือพวกของตนได้
    ศึกชิงแหวนธาตุอัสนีคู่ที่ 2
    ศึกนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างเลวี่ อาแทน กับ แรมโบ้ สถานที่ต่อสู้คือดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริที่ถูกติดตั้งสายล่อฟ้า "อิเล็กทิโกร เวอร์กิส" เพื่อดูดไฟฟ้าแรงสูงจากฟ้าผ่าแผ่ปกคลุมทั่วสนามการประลอง โดยหลังจากที่เลวี่รู้ถึงความสามารถในการไม่กระทบกระเทือนสายฟ้าของแรมโบ้ก็รู้สึกอิจฉาและเข้าโจมตีแรมโบ้อย่างหนัก จนแรมโบ้ต้องใช้บาซูก้าทศวรรษเรียกแรมโบ้ในอีก10ปีออกมา แต่แรมโบ้อีก10ปีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเลวี่แถมยังถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสจนสุดท้ายต้องใช้บาซูก้าทศวรรษเรียกแรมโบ้ในอีก20ปีออกมา โดยคราวนี้แรมโบ้ในอีก20ปีสามารถต่อกรกับเลวี่ได้อย่างง่ายดายสามารถรับการโจมตีของเลวี่ได้ทุกรูปแบบและโจมตีเลวี่จนเลวี่เกือบพ่ายแพ้ แต่โชคร้ายที่ผลของบาซูก้าทศวรรษกลับหมดลงทำให้แรมโบ้กลับเป็นเด็กอีกครั้งและพ่ายแพ้ไปในที่สุด ชัยชนะจึงตกเป็นของเลวี่
    ศึกชิงแหวนธาตุนภารอบสุดท้าย
    หลังจากที่เลวี่ได้รับพิษเดธฮีธเตอร์จนขยับตัวไปไหนไม่ได้ เขาได้รับการช่วยเหลือจากซันซัสทำให้ได้แหวนธาตุอัสนีมาถอนพิษเป็นคนที่สองและหมายที่จะฆ่าแรมโบ้ แต่โกคุเดระได้เข้ามาขวางและได้ทำการต่อสู้กัน เลวี่ถูกโกคุเดระหลอกให้ใช้เลวี่โวลต้าทำให้โกคุเดระสามารถทำลายร่มพาราโบล่าทั้งแปดของเลวี่ได้ทั้งหมดก่อนที่จะถูกโกคุเดระใช้ร็อกเก็ตต์บอมบ์โจมตีจนพ่ายแพ้ไปในที่สุด
    ศึกยุทธศาสตร์ระหว่างวองโกเล่และมิลฟิโอเล่
    เลวี่ได้รับหน้าที่ในการตั้งมั่นอยู่ที่ปราสาท แต่เมื่อทหารฝ่ายมิลฟิโอเล่จำนวนมากได้บุกเข้าโจมตีทางทิศเหนือของปราสาท เขาจึงได้ทำการออกจากปราสาทและเข้าโจมตีศัตรู แต่เนื่องจากศัตรูมีมากเกินไปทำให้เลวี่เสียท่าถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเข้าช่วยเหลือซันซัสที่ถูกจิลหนึ่งในหกบุปผาอาลัยบุกเข้าจู่โจมได้
    ศึกสุดท้ายของภาคอนาคต
    เลวี่ได้เดินทางร่วมกับซันซัสในการนำกองกำลังเข้าช่วยเหลือพวกโกคุเดระที่ถูกซาคุโร่และบูลเบลจู่โจมรุมกระหนาบจนร่างกายบาดเจ็บสะบักสะบอม เบลเฟกอล ลูสซูเลีย และเลวี่ ได้ทำการจู่โจมบูลเบลพร้อมกันแต่ก็ถูกท่า "บาเรียน่า ออฟ เมดูซ่า" ของบูลเบลเล่นงานและถูกบูลเบลฆ่าตายในที่สุด แต่ทว่าเลวี่และพรรคพวกที่ถูกทำร้ายกลับเป็นแค่ภาพลวงตาที่มุคุโร่และฟรานสร้างขึ้น เขาได้ร่วมมือกับกลุ่มของมุคุโร่และพวกของสึนะเข้าโจมตีหกบุปผาอาลัยที่เหลือ ระหว่างนั้นเบียคุรันก็ได้ส่งโกสต์เข้ามาดูดไฟของเลวี่และทุกคนที่ร่วมสู้ในศึกนั้นจนหมดไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้อีก สุดท้ายได้แต่ยืนนิ่งมองดูการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างสึนะกับเบียคุรัน
    ภาคการสืบทอดมรดก
    เลวี่ได้เข้าร่วมงานพิธีสืบทอดวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างเป็นทางการของสึนะในฐานะกลุ่มของวาเรีย หลังจากเกิดเหตุพวกชิมอนทำลายงานพิธี เลวี่ได้รับคำสั่งจากสควอโล่ในการเข้าช่วยเหลือแขกที่มาร่วมงาน ก่อนถูกอาวุธของอาเดลไฮด์หนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งปฐพีของชิมอนหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้เพื่อไม่ให้ช่วยเหลือพวกสีนะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×