คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความปลอดภัยไม่มีในโลก
ความปลอดภัยไม่มีในโลก
วันนี้ในขณะที่สี่เท้ากำลังก้าวข้ามสี่แยกถนนที่มีรถเชี่ยวกราด สิ่งมีชีวิตเพศเดียวกันสองตัวกำลัง
ขนานกันมา จุดมุ่งหมายของสัตว์ทั้งสองคือถนนฝั่งตรงข้าม.........
เท้าคู่แรกก้าวผ่านหน้ายานพาหนะมาอย่างไม่หวั่นเกรง เจ้าของเท้าคู่แรกหันมาทำหน้าเย้ยหยันให้
กับเจ้าของเท้าคู่ที่สอง
ในขณะเท้าคู่ที่สองกำลังรอคอยเหล็กชิ้นใหญ่ๆที่เคลื่อนที่ผ่านไปผ่านมาด้วยความเร็วสูง
มันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับเท้าทั้งสองคู่ เพียงแต่มันอยู่คนละจุดยืน
"ไอ้เย๊ดเข้ ทางม้าลายมีไม่ข้าม " ผมลั่นวาจาที่หวังว่าจะฝ่าฝันอุปสรรคทางเสียงจนถึงโสตประสาท
ของมันได้
เจ้าของเท้าคู่แรกหันมามองหน้าผม ทำหน้าผากย่นสามรอย เกร็งขนคิ้วให้หน้า แสยะยิ้มกวนส้น
ตีน ก่อนที่มันจะ ตบด้วยประโยคที่ว่า
"ความปลอดภัยไม่มีในโลก"
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นี่แหละ ที่มันทำให้ผมสะดุดเกือบจะตกถนนรถทับตายห่า ด้วยประโยคสั้นๆ ประโยคเนี้ยแหละ ที่
มันตะโกนท่ามกลางการจราจรย่านบางรัก ยังกับว่าประโยคเป็นอาวุธ ซัดกำปั้นแรงๆเข้ามาทีสมอง
ประมาณสามที ผมยืนสัปปะหงกงงงวยกับคำตอบของมัน สะดุดนิ้วก้อยปลายตีนนิดนึงเกือบตกถนนรถ
ทับตาย กว่าจะเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองยังยืนอยู่กลางถนน โดยที่มีรถวิ่งฉิวเฉียดไป
มา ผมตบหัวตัวเองแรงๆสองทีให้มั่นใจว่าที่ตัวเองได้ยินมา มันไม่ผิด เอามือขวาจับกระจุกผมตรงกลาง
หัวกระชากแรงๆอีกทีเพื่อเรียกสติสัมปรัชชัญญะในการข้ามถนน กว่าจะกู้สติกลับมาได้ก็ใช้เวลาไป
ประมาณสี่สิบสี่วินาที
และผมก็ข้ามถนนมาได้อย่างไม่ป(ล)อดภัย
ใช่สิ! ความปลอดภัยไม่มีในโลก ความปอดภัยไม่มีในโลก ความปอดไพรไม่มีในโลก
ผมบ่นงึมงำกับเจ้าของประโยคตั้งหลายครั้งหลายครา แต่มันก็แสยะยิ้มกวนส้นตีน ทำหน้าผากย่นใส่ตาม
เคย แต่ไม่มีใครว่ามัน เพราะมันหล่อ [คุณอาจจะไม่อยากรู้ว่ามันชื่ออะไร ตกลงว่าผมจะไม่บอกคุณว่า
มันชื่อไปรท์ ]
มันพยักเพยิดหน้าให้กับบทสนทนาถึงประโยคเด็ดที่มันงัดออกมาใช้ได้จังหวะเวลาและทันท่วงที
ผมไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่ามันจะคิดประโยคอะไรดีๆอย่างนี้ได้
"กูจะเอาหัวข้อนี้ไปเขียน" ผมพูดกับหน้าที่มีขนคิ้วเต็มปริมาณของไอ้ไปรท์
และวันนั้นทั้งวัน มันก็ย้ำกับผมถึงประโยคเด็ดของแม่งอยู่ตั้งหลายที จนผมอดที่จะเอามาสาธยายไม่ได้
เอาหละ! เรามาเข้าหัวข้อที่ไอ้ไปรท์คิดกัน แต่เนื้อหากูคิด และกูก็เป็นคนพิมพ์
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณเชื่อมั๊ย ประโยคที่ไอ้ไปรท์พูดออกมาเจ็ดพยางค์ในช่วงเวลาที่อยู่ท่ามกลางความอันตราย มัน
จะเป็นความจริง กว่าผมจะทำใจให้ก้อนเนื้อในหัวกะโหลกยอมรับได้ก็ใช้เวลาไปสี่สิบสี่วินาที คิดทบทวน
อย่างถ้วนถี่และผมก็ตอบหัวข้อของไอ้ไปรท์กับตัวเองว่า "เออใช่"
มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องเกี่ยวกับหัวข้อออกมาได้เรื่องนึง
ช่วงเวลาที่ดึกสงัด ตัวเลขนาฬิการะบบดิจิตอลบนข้อมือของใครบางคน บอกเวลาว่าเที่ยงคืน
มันเป็นการพักผ่อนของมนุษย์หลายคน แต่มันก็เป็นเวลาหากินของมนุษย์อีก
หลายคน หลายอาชีพ หลายวัย หลายเพศ หลายหลาก หลายใจ หรือหลายอะไรก็ช่าง แต่อย่างน้อย
ส่วนหนึ่งในความหลายทั้งหลาย มันก็เป็นหนึ่งส่วนในการท่องเที่ยวของมนุษย์เพศผู้ที่มีชื่อว่า นายสลาย
หนทางที่นายสลายจะไปเป็นย่านถนนสายเยาวราช นายสลายไม่ได้ไปกินหูฉลาม กระเพาะปลา
ข้าวต้มกุ๊ย หรือว่าโจ๊กอาม่า นายสลายเดินทางเพื่อไปหาหอยให้กับปลาช่อนของเขา
ปลาช่อนของนายสลายบอกกับนายสลายเมื่อสองชั่วโมงก่อนว่า ต้องการความอบอุ่นในซอกในหลืบ
ต้องการสิ่งเร้าเสียดสีให้เกิดความร้อนกระตุ้นของเหลวขาวข้นให้กระฉูดไปในสิ่งที่
ต้องการ นายสลายพยายามข่มตาหลับแต่ก็พบว่าปลาช่อนของเขายังคงอ้อนวอนเจ้าของแห่งมัน ให้
ช่วยปลดปล่อยมันจากพันธนาการกระหาย ความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปรอบปลาช่อนของนายสลาย
ธรรมชาติกำลังบีบคั้นให้สัตว์ตัวนึงโหยหา เลือดเริ่มวิ่งจากหัวใจไปทั่วร่างกาย แต่ทว่ามัน
กลับรวบรวมเลือดเป็นกระจุกใหญ่ไปอัดแน่นอยู่ที่อวัยวะหนึ่งอัน
นายสลายลูบหัวสัตว์เลี้ยงของตัวเองพลางพูดกับมันเบาๆ
"อย่าเพิ่งเลยไอ้ช่อนเอ๋ย.. เราเองก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อีกทั้งเจ้าก็ยังบริสุทธิ์อยู่ มันยังไม่ถึงเวลา
และมันก็ไม่ถูกไม่ควร "
ไอ้ช่อนไม่สนใจใยดีคำพูดของเจ้านายแม้แต่น้อย มันดิ้นพล่านอยู่ในกางเกงของนายสลายอย่าง
ไม่หยุดหย่อน นายสลายต้องเกร็งอวัยวะท่อนล่างของร่างกายโดยหวังว่าจะทำให้หยุดการเคลื่อนไหว
ของไอ้ช่อนได้
"ช่อนเอ๋ย..อย่าลืมสิ ว่าเรายังไม่มีแฟน ครั้นจะไปหาหอยมือสองหรือผ่านมากี่มือก็ไม่รู้นั้น มันก็ไม่
ปลอดภัย ช่อนเอ๋ย..เชื่อกูเถอะ อย่าเลย!!"
สิ้นเสียงของนายสลายปลาช่อนดิ้นพล่านแรงยิ่งกว่าเดิมราวกับว่ามันจะทะลวงออกมาจากกางเกง
ของนายสลายเสียให้ได้ สลายเริ่มควบคุมปลาช่อนไม่อยู่ มันไม่สิโรราบต่อคำพูดของเจ้านาย
"กูยอมแพ้ !"
ในที่สุดนายสลายก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ราบคาบต่อไอ้ช่อน
ไอ้ช่อนผงกหัวงึกๆ เป็นการตอกย้ำชัยชนะ...
นายสลายควักบุหรี่ซองสีเขียวมียี่ห้อแปะไว้ที่ซองโดยตัวอักษรสองตัว แอลเอ็ม เขาเดินสูด
โอโซนของมวนสีขาวจากซองสีเขียวพาสัตว์เลี้ยงมุ่งสู่เส้นทางยามวิกาล สอดส่ายสายตามองหาคัดสรร
หอยอันอบอุ่นที่ไอ้ช่อนของเขารอคอย
"เอาคนนั้นมั๊ยไอ้ช่อน?"
ไอ้ช่อนส่ายไปซ้ายทีขวาทีอย่างช้า มันปฏิเสธ
"แล้วคนโน้นหละ แม่เจ้าโว้ย! เต็มไม้เต็มมือเลยนะมึง"
ไอ้ช่อนยังไม่พอใจส่ายซ้ายขวาเป็นครั้งที่สอง
"มึงนี่เรื่องมากจริง " นายสลายขึ้นเสียงใส่ไอ้ช่อน
เพียงไม่กี่เสี้ยววินาที ไอ้ช่อนเริ่มมีปฏิกริยาอะไรบางอย่าง มันผงัดเผงิดไปด้านซ้าย ราวกับว่าจะส่ง
สัญญาณบอกเจ้านายของมัน ไม่ทันใดนายสลายก็หันหน้าไปทางซ้ายตามสัญญาณของไอ้ช่อน และเขา
ก็พบกับสิ่งที่เขาต้องการ และเขาเองก็หวังว่าไอ้ช่อนคงจะต้องการเช่นกัน สายตาของเจ้านายและสัตว์
เลี้ยงของเขาเบิกโพลงทำหน้าตะลึงอย่างกับพบเพชรในตม
นายสลายถามกับไอ้ช่อนเป็นครั้งสุดท้าย
"มึงคิดเหมือนกูมั๊ย?"
ไอ้ช่อนผงกหัวงึกๆอีก เพียงแต่คราวนี้ไม่ใช่การตอกย้ำชัยชนะ แต่มันเป็นการทำสัญญาตอบตกลง
กับเจ้านาย
นายสลายรีบสาวเท้าเข้าไปยังจุดตกกระทบของสายตาทันที ซ้ายขวาซ้ายขวา นายสลายรีบก้าวเข้า
ไปอย่างรวด รีบสูบบุหรี่ที่อยู่ในมือให้หมดไป และดีดทิ้งไปในรัศมีสามเมตร
ถุด!!! นายสลายถมน้ำลายตามบุหรี่ที่เขาดีดทิ้งไป และในไม่ช้าเขาก็ได้สนทนากับหอยมือที่เท่า
ไหร่ก็ไม่รู้ที่ไอ้ช่อนรอคอย
คุยกันได้ไม่นานก็พอจะจับใจความได้ว่า เจ้าของหอยนั้นชื่อสด หรือชื่อหอยสดนั่นเอง แต่
สถานภาพของหอยนั้น คงมีเพียงไอ้ช่อนที่จะตอบได้ว่าเป็นความจริงหรือเปล่า?
สดหยิบมวนสีขาวออกมาจากกล่องเล็กที่สำหรับบรรจุมันโดยเฉพาะ คงไม่พ้นยี่ห้อยอดฮิต
แอลเอ็ม แต่เติมท้ายว่าไลท์ หอยสดหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบในริมฝีปากสีชมพูของเธอ
ไฟแช็คก่อประกายขึ้นด้วยมือสีขาวอ่อนนุ่ม นายสลายได้มองพิจารณาหอยสดอีกครั้งเพ่งไปที่เรือนร่าง
ผิวขาวอมชมพู ดวงตาสองข้างเหลือบไปตามอวัยวะที่พูนพองออกมาบริเวณเหนือขึ้นไปจากหน้าท้องอัน
แบนราบ รูปทรงองเอวได้สัดส่วนที่ถูกหลักมาตรฐานนางแบบเลยก็ว่าได้ นายสลายตัดสินใจเองไปทันที
โดยไม่ถามไอ้ช่อนในราคา เจ็ดร้อยบาท
ทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปสู่ปากทางเข้าประตูสวรรค์ ชื่อสถานที่แห่งนี้มีชื่อว่าโรงแรมไทเป
เสียงฝีเท้าหยุดลงที่หน้าห้อง 202 ประตูที่ปิดอยู่ รอให้ใครบางคนเปิด
มันไม่ใช่ประตูธรรมดา มันเป็นประตูสวรรค์
ประตูสวรรค์ถูกแง้มออกทีละนิด ทีละนิด จนสองชีวิตเข้าไปเริ่มกิจกรรมในร่ม ร่างกายทั้งสอง
เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดกัน ริมฝีปากประทับกันโลมเลียดูดดื่มกันทั้งสองฝ่าย
ลิ้นถูกนำมาใช้ในการประสานกันระหว่างปากต่อปาก มือเพศผู้เริ่มทำหน้าที่ตามคำสั่งธรรมชาติ มันเร่ง
เร้าเรือนร่างสตรีเพศให้เพลิดเพลินไปกับมัน ร่างกายสตรีเพศถูกเฟ้นฟ้อนอย่างแผ่วช้าซึ่งกำลังค่อยๆทวี
ความรุนแรงแฝงความนุ่มนวลขึ้นไปทีละน้อย สิ่งปกปิดร่างกายถูกปลดเปลื้องกันไปตอนไหนไม่รู้ สตรี
เพศเริ่มนั่งบนเตียงอันนุ่มแต่กิจกรรมก็ยังดำเนินอยู่
ริมฝีปากทั้งสองยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากกัน แต่ฝ่ามือของสตรีเพศกำลังทำหน้าที่ตอบสนองเพศผู้
เป็นฉไน ฝ่ามือเรียวงามที่แสนอ่อนนุมค่อยถูกลากผ่านแผ่นหลังขึ้นลงขึ้นลง
ลากผ่านเอวของนายสลายมาหยุดที่ท่อนเนื้ออันเต่งตึงแต่ทรงพลังแล้วรูดเข้าออก เข้าออก อยู่นับไม่
ถ้วน ไอ้ช่อนกำลังเพลิดเพลิน มันหลับตาพริ้มปล่อยให้ถูกมืออันเรียวงามกระทำการล่วงละเมิดโดยไอ้
ช่อนสมยอม ฝ่ามือทั้งสองของนายสลายอยู่ที่เนินภูเขาสองลูกของเธอ นายสลายเฟ้นฟ้อนขบคลึง
อย่างเมามัน ด้วยความแรงเหมือนจะทำให้ภูเขาสองลูกนั้นแหลกเหลวไปเสียให้ได้ เธอครางปากซี๊ด
ลากเสียงยาวผ่านริมฝีปากที่กำลังประกบอยู่กับริมฝีปากของนายสลาย
เธอก็กำลังเพลิดเพลินเหมือนกัน
บันไดสวรรค์ถูกเพศผู้และเมียจับมือเหยียบย่ำกันมาทีละขั้น จนใกล้จะถึงจุดหมายเต็มที แต่ยัง ยัง
ไม่ถึง ทั้งสองเป็นคนสร้างระยะทางให้ยาวไกลกว่าเดิมด้วยมือของเขาและเธอ
ปากของนายสลายเริ่มอำลาจากปากของเธอ สายตาทั้งคู่เพ่งมองกันและกัน เธอก้มหน้าหลบสายตาของ
นายสลายอย่างเขินอาย หยิบวัตถุดิบลึกลับขึ้นมามีข้อความที่บนซองว่า "ถุงยางอนามัย"
ไอ้ช่อนรู้งานยืดตัวสุดตัวเกร็งตัวเองให้ตั้งโด่เด่ชี้หน้าของเธอผู้ที่ชื่อหอย เธอก้มหน้าเข้าหาไอ้ช่อนเปิด
อุโมงค์ความกระสันต์ให้ไอ้ช่อนเข้าไปนอนแช่น้ำลายเป็นการวอร์มอัพ ด้วยทักษะที่แพรวพราวไอ้ช่อน
ถูกอุโมงค์ดักไว้แล้วครอบด้วยกรอบนิรภัยทันที นายสลายคิดว่าคงจะปลอดภัยเสียที
แต่.........ว่าเขาคิดผิด!!!
ไอ้ช่อนเริ่มทำความรู้จักกับสัตว์เลี้ยงข้างฝ่ายตรงข้ามนั่นคือน้องหอยนั่นเอง ทั้งคู่ได้แต่สบตากันเล็ง
กันไว้รอคอยให้นิ้วมือของนายสลายออกจากปากของน้องหอยและแล้วก็ได้เวลาของไอ้ช่อน มันคงจะ
พ้นกับความเหน็บหนาวและความทรมาน ช่อนวิ่งเข้าไปในหอยอย่างรวดเร็ว หอยผู้น่ารักทำหน้าที่บีบรัด
ตอดขมับของไอ้ช่อนอย่างเต็มกำลังเท่าที่มันพึงจะมี แต่ด้วยความเป็นหอยมือที่ 16 จึงทำให้การบีบรัด
ไม่ดีมากนัก แต่ไอ้ช่อนก็อบอุ่น
กิจกามทั้งคู่ดำเนินต่อไปตามหน้าที่ของไอ้ช่อนและน้องหอย กลเม็ดเด็ดเจ็ดสิบเจ็ดย่านน้ำถูกงัด
นำกันออกมาใช้แพรวพราว ท่าทางลีลาต่างๆล้วนเป็นที่น่าภูมิใจทั้งสองฝ่าย
อีกไม่นานทั้งคู่คงจะเดินทางไปถึงประตูสวรรค์ น้ำเกลือแร่ผุดตามใบหน้าของฝ่ายชายและหญิง ทั้งคู่
รวบรวมพละกำลังที่มีขยับสัตว์เลี้ยงทั้งสองเข้าหากันเป็นการประสานความรักที่มีให้กันอย่างรวดเร็ว
รุนแรงกระแทกกระทั้น จนในที่สุดจุดเขาทั้งคู่ก็พากันไปถึงจุดสุดยอด
ไอ้ช่อนหมดกำลังและหดตัวลง ........
สวรรค์ของนายสลายและคุณโสที่ชื่อสดนั้นหมดลง คงถึงเวลาที่ชีวิตจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่
แท้จริงแล้วมันไม่เหมือนเดิม
ไม่กี่เดือนถัดมาทั้งสองชีวิตก็ยังดำเนินชีวิตตามปกติ นางหอยสดก็ยังทำอาชีพโสเหมือนเดิม นาย
สลายก็ยังเลี้ยงไอ้ช่อนอยู่เหมือนเดิม
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อผลการตรวจเดือนนี้ของนางหอยสด พบว่า "เธอเป็นโรค"
จบกันแล้วชีวิตเธอ เงินที่เธอหามา ยังไม่ทันได้ใช้หมด นี่ก็จะถึงกาลอวสานของชีวิตเธอแล้วหรือนี่
ช่วงเวลาที่เธอดำเนินมา มันคงจะมากพอแล้วหละมั้ง สวรรค์ที่เธอพาผู้โดยสารไปส่ง สุดท้ายเธอก็คง
ต้องเดินทางไปจริงๆ เดินทางไปโดยที่ไม่รู้ว่าสวรรค์หรือนรกและไม่รู้ว่าจะมีคนไปส่งเธอหรือไม่
จบกัน เธอนั่งขบถน้ำตาขังตัวเองในห้องสวรรค์ที่เธอทำงาน เพียงแต่ไม่มีผู้โดยสาร มีเพียงเธอชีวิตเดียว
เท่านั้นในห้องใบนี้
ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป เธอก็จากไปจริงๆ เธอกำลังเดินทางสู่ที่ไหนสักแห่งไม่นรกก็สวรรค์ ไม่มีสิ่งมี
ชีวิตในห้องใบนั้นอีกแล้ว!
"หญิงขายบริการเป็นโรค แขวนคอตายประชดชีวิต อ่านต่อหน้า 4" หัวข้อข่าวได้ขึ้นหน้าหนึ่งทันที
เป็นสกู๊ปด้านล่างที่มีภาพหอยสดอยู่กับบ่วงแห่งความตาย
หนังสือพิมพ์ในมือของนายสลายตกลงไปกระจายกับพื้น ซ้ำยังถูกลมพัดให้ปลิวว่อนกระเด็นออกไปอีก
นายสลายยืนนิ่ง สิ่งที่เขาคิดว่าปลอดภัยมันจะปลอดภัยจะมั๊ยนะ?
นายสลายเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง และเริ่มตั้งคำถามกับไอ้ช่อน แต่ไอ้ช่อนไม่ตอบ มันหดตัวหลับตาปี๋อยู่
ภายในอย่างสงบเสงี่ยม นายสลายนั่งนิ่ง คิดซ้ำซากวนไปวนมา
แต่ก็ไม่มีคำตอบสักที ไม่มีคำตอบแม้แต่นิดเดียว สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้ คือต้องให้คนอื่นหาคำตอบ
โรงพยาบาล___ นายสลายนั่งรอผลการตรวจอยู่ โดยที่ไม่สนใจเวลาแม้แต่นิดเดียว ภาวนาเพียงแต่
ว่า เขาคงไม่ใช่คนที่ต้องเดินทางไปสวรรค์จริงๆในตอนนี้ เขายังหนุ่มเขายังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ เขายัง
มีความหวัง เขายังมีความฝันที่ต้องทำ เขาต้องทำโน่น ต้องทำนี่ เขายังต้องจ่ายค่าพนันบอล เขายังต้อง
ดูดปุ๊นที่เหลืออยู่ เขายังต้องไปเช็งเม้ง เขายังต้องไปงานแต่งงานเพื่อน เขายังต้องกินขาหมูตอกซุง
เขายังต้องทำอะไรอีกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด เขายังไม่อยากจากโลกนี้ไป
ถ้าสิ่งที่สลายภาวนาเป็นจริงก็ดี ซึ่งมันหมายความว่าไม่เป็นจริงนั่นเอง ผลออกมาแล้ว เขาเป็นโรค
เขาเป็นมันจริงๆ น้ำตาของเขา ค่อยๆไหลลินออกมาอย่างอัตโนมัติ
แพทย์พูดได้กับเขาแค่ว่า ทำใจเถอะครับ. นายสลายเหลือเพียงแต่หยดน้ำตา ที่มันรินไหลออกมา
เอื่อยๆ ทีละหยด สองหยด สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้เขาตรอมตม
ในที่สุดโรคที่เขาเป็นก็พรากเขาไปจากโลกที่เขาอยู่ .......................................
นายสลาย เพชรสลึง
มรณะ 3 เมษายน พ.ศ.2549
ชาตะ 16 มีนาคม พ.ศ.??...................................
.....................................
.....................................
....................................อยากให้คุณย้อนกลับไปอ่านหัวข้อใหม่ แล้วคิดใหม่ว่าเขาเป็นอะไรตาย
...................................
..................................
..................................
.................................
..............................
...............................
...........................
................................
.....................................
....................................
..................................
........................
...................................
.............................
............................
ตายด้วยโรคมะเร็งปอด.............................
สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่เขาเป็นอะไรตาย สิ่งสำคัญคือ ความป(ล)อดภัยไม่มีในโลก
ปล.สักวันผมอาจจะอย่างนายสลายก็ได้ ใครจะไปรู้ ในเมื่อความปอดภัยไม่มีในโลก
แล้วปอดของผมจะเหลือที่ว่างให้แอลเอ็มเขียวสักกี่มวน?
ความคิดเห็น