คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สมการรถไฟกับโลกแห่งความฝัน
ทันทีที่เสียงปิดประตูบานสุดท้ายสิ้นสุดลง โลกใบนึงก็ถูกตีกั้นเป็นสองฝั่ง มันคือสองสิ่งที่สวนทาง
กัน ระหว่าง ความเป็นจริง กับ ความฝัน ขณะที่ใครบางคนกำลังออกไปเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใน
โลกที่ห้อมล้อมด้วยความศิวิไลซ์ กับ ขณะที่คนอีกคนกำลังอยู่เบื้องหลังของประตูบานนั้น ภายใต้ความ
มืดที่ไร้ซึ่งความโกลาหล
จะมีใครรู้บ้างมั๊ย ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นของฝั่งประตูอีกบานคืออะไร มันคงยากสุดจะหยั่งรู้ เพราะมี
คำตอบเป็นหมื่นแสนล้านพัน คำตอบ สุดที่จะหาสมการที่แท้จริงให้สมดุลกันได้ และก็คงไม่มีใครเช่นกัน
ที่จะคิดสมการข้อนี้ได้สำเร็จ นอกจาก*สิ่งมีชีวิตเพศผู้ตัวนั้น!*
ฉันก้าวเท้าสู่หน้าประตูบานสุดท้าย สิ่งที่ฉันเห็นคือกรอบใบเล็กๆที่ทรงพลังด้วยอำนาจแห่งการปิดกั้น
มันเป็นการหักห้ามของโลกสองโลกที่มีกำแพงทางออกเล็กๆ ตระหง่านอยู่ ปากของฉันกำกวมที่จะสบถ
บางสิ่งบางอย่าง จนวาระสุดท้ายของเสียงรถยนต์ที่จากไปทำให้ฉันสบถออกมาแบบไม่เต็มปากเต็มคำ
"ไปแล้ว" สายตาของฉันบังคับให้กล้ามเนื้อที่คอต้องหันเหชะแงมองเลขหนึ่งถึงสิบสองที่แขนอยู่บนผนัง
นี่คงจะเป็นเวลาที่เขาทั้งสองจะต้องไป ฉันไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่เขาทั้งสองจะกลับมา
ฉันสาวเท้าเป็นจังหวะ ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆผู้อาศัยครอบครองอยู่บนแผ่นดินนี้มาตั้งแต่ยุค
ไดโนเสาร์ กำลังดิ้นหงายหลังแอ้งแม้ง ทุรนทุราย พยายามพลิกตัวให้กลับสู่สภาวะปกติ ฉันหยุดการเดิน
ทางลงนับแต่บัดนั้น ส่งสายตาสลดมองเพื่อนร่วมโลกที่กำลังประสบชะตากรรม
"กูจะช่วยมึงดีมั๊ยนะ" แต่เหมือนประโยคที่ฉันสื่อสาร ไร้การตอบรับ
ก่อนที่ฉันจะเดินทางต่อก็พบว่า เพื่อนร่วมโลกกำลังส่งภาษากายดิ้นพล่าน แรงขึ้น ในที่สุดมันก็ทำให้ฉัน
เข้าใจคำตอบได้ว่า
"กูไม่ควรช่วย เพราะภารกิจที่อยู่เบื้องหน้า มันช่างใหญ่หลวงเหลือเกิน จนฉันไม่รู้ว่าจะทำมันสำเร็จมั๊ย?"
ฉันส่งสายตาอำลาเจ้ากระจั๊วตัวงาม
การก้าวเท้าเดินในโลกที่ถูกปิดกั้นยังไม่จบไม่สิ้น ฉันต้องตามหาสิ่งสำคัญให้เจอ ฉันหายใจเป็น
จังหวะช้าๆ พยายามจะทำให้ใจสบายที่สุด ฉันหวังว่าสิ่งที่ฉันกำลังตามหา ฉันต้องเจอมันที่ใดสักแห่ง ใน
ห้องสัปปะรังเคโสโครกซ๊กม๊กที่ฉันภูมิใจนักภูมิใจหนา
ฉันยืนสำรวมนึกถึงความภูมิใจของห้องนี้ประมาณหนึ่งนาที คิดไปเพลินๆว่า "ห้องนี้จะมีค่าอันใดเล่า
หากไร้ซึ่งวัตถุดิบมหัศจรรย์!" ฉันหลับตา เริ่มเห็นสีแดงเหลืองเขียว อยู่ในม่านตา กลิ่นแห่งความหอม
ละมุนกระชากสติของฉันกลับมา
ฉันเปิดสิ่งปิดกั้นของวัตถุดิบมหัศจรรย์ออกฉับพลัน พยายามประครองสิ่งนั้นออกไปยังห้องครัว หา
อุปกรณ์แห่งการประดิษฐ์ และฉันก็พบมันจนได้ ฉันยกอุปกรณ์การประดับจัดตั้งเตรียมเข้าสู่วิธีการทำ
สีหน้าของฉันเริ่มมีเหงื่อผุดตามใบหน้า แต่มือก็ยังคงทำวิธีการเป็นระบบ ฉันหั่นช้าๆ อย่างประณีตที่
สุด เท่าที่คนอย่างฉันจะทำได้ เม็ดเหงื่อใสๆ กำลังรวยรินตามใบหน้าและร่างกายของฉัน เม็ดเป้งๆ สมาธิ
ทั้งหมดของฉันอยู่ที่มือทั้งสองมือ หวังว่ามีดที่กำลังหั่นสมุนไพรคงไม่สร้างอุบัติเหตุให้กับมือข้างที่จับ
สมุนไพร ภายในเวลาไม่นานเท่าไหร่ ฉันก็พบว่า
ขั้นตอนแรกเสร็จแล้ว ฉันเริ่มเข้าขั้นตอนที่สอง นำวัตถุดิบที่สอง มาสลัดสารนิโคตินออกให้เหลือ
น้อยที่สุด ฉันคลี่คลายให้ขี้บุหรี่ร่วงกราวในถังขยะ พยายามทำให้เร็วที่สุดโดยที่ไม่เห็นมวนบุหรี่มีรอย
แผลแม้แต่นิดเดียว
ฉันเริ่มเข้าขั้นตอนที่สามนำบุหรี่มาผสมผสานกับสมุนไพร ให้เป็นสิ่งหล่อหลอมที่มีประโยชน์กว่าสาร
นิโคติน ขั้นตอนนี้เป็นการฝึกสมาธิอย่างมากเพราะมือของฉันจะต้องตั้งเป้าดีๆ ในขณะที่อีกมือจะใส่ผง
สมุนไพรบรรจุลงไปในมวนที่เราเรียกว่า บุหรี่ ฉันต้องใช้ความ
พยายามท่ามกลางเม็ดเหงื่อเม็ดใหญ่เป้งๆ ตั้งหลายเม็ดราวกับว่าฉันเป็นกรรมกรก่อสร้าง ทั้งที่จริงฉันไม่
ได้ใช้พลังงานอะไรมากมายขนาดนั้น จนในที่สุด ฉันก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย
ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก จังหวะก้าวเท้ากำลังเริ่มบรรเลง จากบันไดขั้นที่หนึ่งไปขั้นที่สองขั้นที่สามตามลำดับจังหวะ
เร็กเก้ไสตล์
ฉันกำลังจะไปพบกับสิ่งที่ค้นหา
แสงแห่งความสุขกำลังถูกจุดประกายด้วยซิบโป้รูปใบสัญลักษณ์ประจำเผ่าของฉัน ประกายแสงแห่ง
ความสุขกำลังผสมผสานกับมวนแห่งความสุขเท่ากับ ความสุข คูณ ความสุข + ความสุข คูณ ความสุข
สมการที่ได้ก็จะเป็น
Ans ตอ ออ บอ ตอบ โคดดดดดดดความสุข!!
ลมหายใจครั้งแรกค่อยสูบกลิ่นอายของสิ่งมหัศจรรย์อย่างช้าๆ กลิ่นคุกรุ่นช่างรัญจวนใจยิ่งกว่า
โรตีบอยที่สยามแสควร์อีก ปอดเริ่มตอบรับกลไกแห่งความสุข ปอดบอกกับฉันว่า "สบายปอดดีจริงๆ"
ฉันพุ้ยควันที่อัดอั้นไว้อย่างช้าๆ ควันแย่งกันทะลักมาเป็นระลอก
ลมหายใจที่สองฉันรวบรวมพลังดูด ไว้ที่ริมฝีปาก แล้วใช้กำลังในการดูดเท่าที่ปอดจะรับได้ ฉันกัด
ฟันซี๊ดดดดดดดดยาวๆ หวังจะให้ปอดชื่นฉ่ำใจ แต่สมองของฉันกลับตอบรับว่า "แจ่มใจเหลือเกิน" ดู
เหมือนสมองของฉันกำลังจะแฮปปี้ ฉันจึงซัดวัตถุดิบมหัศจรรย์ดูดต่อเนื่องเป็นเสต็ป แล้วกระชาก
วิญญาณด้วยการซี๊ดสุดขั้วปอด ตัวความสุขวิ่งพล่านเข้าไปในร่างกายของฉัน ฉันเริ่มรู้สึกได้
ลมหายใจที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ความสุขพรั่งพรูออกมาเป็นควัน ทะลักทะล้น มากมาย ฉันคว้ามันไว้ เท่า
ที่จะคว้าได้แต่ก็คว้าไม่หมด ฉันจึงทำได้เพียงแต่หล่อเลี้ยงความสุข หัวใจของฉันให้สัญญาณกับฉันว่า
"สบายใจเสียจริง"
กระบวนการร่างกายปลุกระดมความสุข ให้เฟ้นฟ้อนไปทั่วเรือนร่าง เสียงจังหวะเร็กเก้ สกา ดั๊บ ดังมา
จากในจินตนาการแต่เป็นจินตนาการที่เหมือนความจริงมากๆ แข้งขาเริ่มอยู่ไม่สุข ขยับทีละนิดละน้อย
จนกระโดกกระเดก ขึ้นเป็นเอ็มเสต็ป
ซะงั้น ดวงตาของฉันฉ่ำแฉะแดงกล่ำ ซึ่งเป็นแววตาความบริสุทธิ์ใจยากจะหาใครทัดเทียม ดวงตา
ของฉันคงน้อยใจที่
มันได้รับความสุขไม่เต็มที ฉันจึงซัดความรุนแรงของลมหายใจเพิ่มไปอีก หลายครั้งหลายครา ดวงตา
ของฉันจึงหลั่งน้ำตาให้หยาดเยิ้มเป็นการขอบคุณ
ลมหายใจสุดท้าย เป็นลมหายใจที่ฉันรักที่สุด ฉันไม่อยากจะพบกับลมหายใจสุดท้าย ฉันไม่อยาก
จะหยุดความสุขไว้แค่นี้ แต่เมื่อความสุขลดปริมาณลง ฉันจึงต้องพบกับลมหายใจสุดท้าย ฉันพยายาม
รวบรวมพลังงานจากทุกๆส่วนของร่างกายเข้ามาสะสมไว้ที่ลมหายใจ แล้วดูดเข้าไปราวกับว่า เครื่องดูด
ฝุ่นกำลังทำงานอย่างหนัก ฉันดูดเข้าไปจนเฮือกสุดท้าย
ประกอบกับการซี๊ดครั้งสุดท้ายที่ถึงใจที่สุด ฉันอัดอั้นความสุขได้ไม่กี่เสี้ยววินาที ก็ต้องปลดปล่อยควันสี
เทาออกมาจากปอดอย่างช้าๆ ช้ามากๆ ควันสีเทากับปอดของฉันกำลังอำลากัน
ปล. สุดท้ายป๊ากับแม่ก็กลับมา แต่เค้าไม่รู้ว่าผมมีความสุขขนาดไหน.........
ความคิดเห็น