ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจเพื่อรักเธอ Heart to Love

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 54


    บทที่ 3

    ..........................................................................................................................................................................................

                    ร่างบางของเกศเกล้าเดินกลับเข้ามาในงาน กานต์ธรนั่งคุยอยู่กับแขกร่วมโต๊ะโดยมีลูกชายวิ่งเล่นอยู่แถวนั้นหันมาเห็นผู้เป็นภรรยาเข้ามานั่งใกล้ๆ จึงหันมาถามอย่างสงสัย

                    ไปไหนมาหรือครับ

                    เกศพาคุณภาไปเข้าห้องน้ำค่ะ

                    แล้ว...เจอเจ้าวัชหรือเปล่าครับ กานต์ธรเอ่ยถามเบาๆ ด้วยไม่อยากให้เป็นเรื่องวุ่นวายถ้าหากนพรุจได้ยิน

                    เกศเกล้าเหลือบมองไปทางนพรุจที่นั่งคุยหัวเราะอย่างมีความสุขกับไอรยาแวบหนึ่งก่อนจะหันมาตอบสามีสุดที่รัก

                    เจอค่ะ...เกศไม่รู้จะทำยังไง คุณวัชต้องการคุยกับคุณภาสองต่อสอง

                    งั้นหรือครับ... เขาตอบได้เท่านั้นก็ได้แต่ถอนใจยาว เกศเกล้าเอื้อมมาบีบมือสามีเบาๆ

                    อย่าคิดมากเลยค่ะธร อาจจะไม่มีอะไรอย่างที่เราคิดก็ได้

                    ผมก็ขอให้เป็นอย่างนั้น

                    ชายหนุ่มบอกพลางมองไปทางนพรุจที่คุยจ้ออยู่กับไอรยาราวกับเป็นหนุ่มโสดก็ไม่ปาน นี่หรือคือแฟนของรุจิภา ถ้าหากเป็นแฟนกันเขาน่าจะเทคแคร์เธอมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป แต่ดูท่าทางแล้วผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ไม่เบาเหมือนกัน...ขณะเดียวกันนั้น คุณนันทพรที่นั่งคุยอยู่กับคุณวิกานต์และคุณอรุณีได้แต่เหลือบมองนพรุจลูกชายอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก เพราะท่าทางลูกชายสนิทสนมกับไอรยาเกินงามเสียแล้ว ทั้งที่มากับรุจิภา เมื่อมีโอกาสนางจึงลุกเดินเข้าไปใกล้ลูกชายที่ยืนคุยอยู่กับไอรยามุมหนึ่งในงานแล้วกระซิบบอกบางอย่าง นพรุจจำต้องขอตัวจากไอรยาเพื่อออกไปดูรุจิภาที่ไปเข้าห้องน้ำอย่างเป็นห่วง ปล่อยให้ไอรยายืนมองตามอย่างสงสัยไม่น้อย ไม่นานนักข่าวก็เข้ามาขอสัมภาษณ์อีกครั้งทำให้เธอต้องปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้มและให้สัมภาษณ์ทันที

    ............................

                    รุจิภายืนอึ้งไปชั่วครู่เมื่อร่างสูงๆ ใบหน้าคุ้นเคยปรากฏอยู่ต่อหน้าในเวลานี้ ครั้นได้สติหญิงสาวก็หมุนกายจะผละเดินกลับเข้าในงาน หากกานต์ธวัชก็คว้าข้อมือบางไว้เสียก่อน

                    ภา...ผมดีใจมากรู้มั้ยที่ได้พบคุณอีก...

                    หญิงสาวหมุนกายกลับมาพลางสะลัดข้อมือจากการเกาะกุมของเขาได้สำเร็จ

                    แต่ฉันไม่ดีใจเลยที่ได้พบคุณอีก

                    บอกแล้วหญิงสาวก็เดินจ้ำอ้าวตรงจะเข้าในงาน แปลกเหลือเกินที่เกศเกล้าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ยังไม่ทันก้าวจากไปร่างสูงๆ ของชายหนุ่มก็ก้าวพรวดมาขวางหน้าเอาไว้ สายตาเว้าวอนยามมองเธอนิ่งๆ หากหญิงสาวเมินหน้ามองทางอื่น

                    ภา...ได้โปรดฟังผมก่อน...ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน...แต่ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ทุกอย่างมันเป็นเพียงอดีตที่เลวร้าย มันเกิดขึ้นและก็ผ่านพ้นไป...แม้คุณจะลืมสิ่งที่ผมทำไว้ไม่ได้ แต่ได้โปรดฟังคำพูดจากผมสักนิดเถอะ...ได้โปรด...

                    ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งพลางปรายตามองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้ที่เธอเคยรัก แต่สำหรับเขาแล้วในอดีตเขาไม่เคยรักเธอเลยด้วยซ้ำไป เขาเพียงต้องการหลอกเธอเล่นเท่านั้นเอง

                    คุณยังมีอะไรจะแก้ตัวอีกหรือคะ...เวลาที่ผ่านไปหลายปีฉันไม่เคยลืมสิ่งที่คุณทำไว้กับฉันเลยสักครั้งเดียว...แล้วจู่ๆ คุณจะให้ฉันลืมได้ยังไง

                    กานต์ธวัชได้แต่ทอดถอนใจยืดยาว คงจะจริงอย่างที่เธอบอกไว้ ความเจ็บปวดจากความรักบางครั้งก็จำเป็นต้องให้เวลากับมัน เวลาหลายที่ผ่านมาเขารู้แล้วว่าความเจ็บปวดนี้เป็นเช่นไร

                    สิ่งที่เลวร้ายคุณอาจจะไม่เคยลืม ผมก็เช่นกัน ผมไม่เคยลืมสิ่งที่ตัวเองทำผิดกับคุณ ตลอดหลายปีที่ผมติดต่อคุณไม่ได้ ผมไม่เคยมีใครเลย ผมพยายามติดต่อคุณตลอดเวลาแต่ก็เปล่าประโยชน์ คุณเป็นคนสอนให้ผมรู้จักความรักที่แท้จริง ความรักที่เกิดมาจากหัวใจ

                    รุจิภายิ่งฟังยิ่งเจ็บปวด หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ

                    ถึงคุณจะรู้ว่าความรักจริงๆ เป็นเช่นไรในวันนี้ แต่มันก็สายไปแล้ว...วันนี้ฉันไม่ได้รักคุณและฉันก็มีแฟนใหม่แล้ว...ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนมันเป็นเพียงอดีตที่ไม่ควรจดจำ...ลืมฉันซะเถอะ เหมือนอย่างที่ฉันลืมคุณไปหมดแล้ว

                    ภา... กานต์ธวัชเอ่ยแผ่วลึกคล้ายรำพึงอย่างปวดร้าว

                    ร่างบางทนเห็นแววตาเว้าวอนของเขาต่อไปไม่ได้อีกแล้วจึงหมุนกายวิ่งกลับเข้าไปในงานเมื่อน้ำตาพานจะรินไหล หญิงสาวผละจากไปยังไม่ถึงไหนก็ปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งเสียก่อน

                    พี่รุจ

                    ภา...ภาร้องไห้หรือครับ...ใครทำอะไรภา

                    นพรุจถามอย่างตกใจที่เห็นน้ำตาเปื้อนแก้มนวล รุจิภาพยายามกล้ำกลืนน้ำตาไม่ให้รินไหลมากกว่านี้ หากนพรุจก็ได้คำตอบเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของกานต์ธวัชเดินตามมาพอดี

                    คุณทำอะไรเธอ

                    กานต์ธวัชไม่ตอบนอกจากยืนนิ่งมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มตรงหน้า...เขาคงเป็นแฟนใหม่ของเธอ เมื่อไม่ได้คำตอบ นพรุจจึงดันร่างบางออกแล้วปรี่เข้ามาหากานต์ธวัชอย่างฉุนจัด

                    อย่านะคะพี่รุจ  

                    ก่อนที่นพรุจจะทำอะไรลงไปรุจิภาก็เข้ามาขวางไว้เสียก่อนทำให้ชายหนุ่มได้แต่มองหน้าหญิงสาวอย่างแปลกใจไม่น้อย

                    ภา...ภาปกป้องเขาทำไม เขารังแกภาไม่ใช่หรือครับ

                    พอเถอะค่ะพี่รุจ ภาอยากกลับบ้าน

                    หญิงสาวบอกพลางร้องไห้เบาๆ กานต์ธวัชได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นหญิงสาวที่ตนรักในขณะนี้อยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น

                    พี่ขอเวลาอีกสักหน่อยได้ไหมครับแล้วค่อยกลับ

                    ทำไมคะ เธอช้อนตาขึ้นถามสงสัย

                    คือ...พี่เกรงใจผู้ใหญ่น่ะครับ งานเพิ่งจะเริ่มไม่นานเอง...แล้วพี่จะพากลับนะครับ

                    ในที่สุดรุจิภาก็จำยอมตามคำบอกของนพรุจ เขาเหลือบมองหน้ากานต์ธวัชอย่างไม่พอใจนักก่อนจะพาเธอเดินกลับเข้าไปในงานปล่อยให้กานต์ธวัชได้แต่ยืนมองทั้งสองนิ่งๆ ไม่น่าเชื่อความรักที่เคยล้อเล่นมาก่อนจะกลับมาทำร้ายเขาเองในวันนี้ ทุกอย่างในอดีตยังเป็นภาพหลอนไม่เสื่อมคลาย แล้วเขาจะทำอย่างไรถึงจะลืมความรักที่ผิดพลาดนี้ไปได้

                    ขณะที่รุจิภาและนพรุจเดินกลับเข้าไปในงาน กานต์ธรก็เดินสวนออกมาจึงเห็นผู้เป็นน้องชายยืนอยู่ด้านนอกมองดาวบนฟ้าเพียงลำพัง เขาหยุดยืนมองครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้ามายืนใกล้ๆ

                    แกไปเรียนเมืองนอกตั้งหลายปี พี่คิดว่าลืมความหลังไปหมดแล้วเสียอีก

                    กานต์ธวัชยืนนิ่งครู่หนึ่งก่อนตอบเสียงเบา

                    ตอนแรกผมคิดว่าคงทำให้ใจลืมเธอได้ แต่ไม่เลย นับวันสิ่งที่ผมเคยทำไว้กับเธอยิ่งหลอกหลอนจนผมนอนไม่หลับ...

                    แกคงรักผู้หญิงคนนี้มากสินะ พี่ชายถามพลางเหลียวมองซีกหน้าน้องชายนิ่งๆ

                    อาจจะเป็นความรักที่ผมไม่เคยเห็นค่ามาก่อนเลย ผมเคยล้อเล่นกับความรักของเธอ...แต่สุดท้ายคนที่เจ็บปวดที่สุดกลับเป็นผมเอง...ผมแพ้ความดีของเธอ...ผมอ่อนแอเกินไปใช่มั้ยครับพี่ธร ที่ไม่อาจตัดใจจากเธอ

                    ผู้เป็นพี่ชายยกมือข้างหนึ่งวางบนไหล่น้องชายเบาๆ

                    แกไม่ใช่คนอ่อนแอหรอกนะวัช แต่จิตใจของแกต่างหากที่อ่อนแอ...

                    กานต์ธวัชพรูลมหายใจแรงๆ คล้ายไล่ความกังวลในใจให้หมดสิ้นไป

                    จิตใจผมคงอ่อนแอเกินไปที่จะทำใจให้ลืมเธอจริงๆ

                    ถึงแม้แกจะอ่อนแอแต่ก็ควรจะทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้...เธอมีคนใหม่แล้ว แกต้องเข้าใจและยอมรับความจริงให้ได้...แกยังเป็นน้องชายของพี่เสมอนะวัช วันนี้เป็นวันดีของตะวันและหนูมุก และเป็นวันสำคัญที่แกกลับมา แกไม่ควรเอาเรื่องในอดีตมารกสมองอีก โดยเฉพาะคุณพ่อ พี่ไม่อยากให้ท่านเสียใจเพราะเรื่องนี้

                    บอกแล้วกานต์ธรก็ตบไหล่น้องชายเบาๆ ให้กำลังใจก่อนจะผละเดินกลับเข้าไปในงาน กานต์ธวัชได้แต่มองตามหลังพี่ชายไปครู่หนึ่งพลางครุ่นคิดถึงคำพูดทั้งหมดเมื่อครู่ก่อนจะก้าวเดินตามเข้าไปในงานเช่นกัน

    .........................

                    กานต์ธวัชเดินกลับเข้ามาในงาน ขณะนี้กลางฟลอร์หน้าเวทีนั้นมีหนุ่มสาวหลายคู่กำลังเต้นรำกันอยู่ รวมทั้งกานต์ตะวันและขวัญมุก ชายหนุ่มเดินมานั่งร่วมโต๊ะกับบิดาและแขกคนอื่น คุณวิกานต์หันมาเห็นลูกชายพอดีจึงเอ่ยถามเบาๆ ก่อนจะหันมาทางไอรยาซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

                    หนูไอซ์เต้นรำเป็นไหม

                    ไอรยายิ้มหวานพลางปรายตามาทางกานต์ธวัชที่เอาแต่นั่งนิ่งก่อนจะหันไปตอบผู้อาวุโสเสียงหวาน

                    เป็นค่ะคุณลุง...

                    ถ้างั้นก็เต้นรำเป็นเพื่อนลูกชายของลุงหน่อยเป็นไง...ว่าไงเจ้าวัช...เจ้าวัช!” บิดาหันมาถามลูกชายเล่นเอากานต์ธวัชถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยเพราะกำลังอยู่ในภวังค์ความคิดตัวเอง

                    ครับคุณพ่อ

                    ผู้เป็นบิดามองนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ คนอื่นๆ เขาออกไปเต้นรำกันหมดแล้ว...ชวนหนูไอซ์ไปเต้นรำสิลูก

                    กานต์ธวัชเหลือบมองไปทางไอรยาจึงเห็นเธอยิ้มหวานรออยู่ก่อนจะรับปากแล้วลุกขึ้นเดินมายืนข้างๆ เธอพร้อมกับยื่นมาให้หญิงสาวจับพร้อมกับควงกันเดินออกไปเต้นรำเหมือนคู่อื่น

                    ลูกชายของคุณกับลูกสาวดิฉันดูแล้วเหมาะสมกันจังนะคะ คุณอรุณีได้โอกาสเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม คุณวิกานต์ไม่ตอบเพียงหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดีพลางมองคู่หนุ่มสาวหลายคู่เต้นรำกันอย่างสนใจ

                    บนฟลอร์เต้นรำขณะนี้ กานต์ตะวันและขวัญมุกดูโดดเด่นกว่าคู่อื่นๆ ส่วนคู่ของวาคิมและณรานุชก็หวานไม่แพ้กัน เกศเกล้าและกานต์ธรก็ถือโอกาสนี้รำลึกความหลังครั้งแต่งงานกันอย่างมีความสุข เช่นกันกับคู่ของแทนภัทรและบุญยุดา ถึงแม้ทั้งคู่จะยังไม่แต่งงานแต่ก็มีโครงการจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน...หากคู่ที่เป็นที่สนใจของนักข่าวเห็นจะเป็นคู่ของกานต์ธวัชและไอรยา ทั้งสองดูเหมาะสมกันและสื่อมวลชนให้ความสนใจไม่น้อยเลยเมื่อมีการถ่ายภาพเป็นระยะๆ ตลอดเวลา

                    นพรุจที่นั่งเคียงข้างกับรุจิภาเฝ้ามองไอรยาอย่างสนใจ ด้วยบุคลิกของเธอดูปราดเปรียวสมกับเป็นนางแบบน้องใหม่ในวงการ ผิดกับรุจิภาเวลานี้ เพราะเธอเอาแต่นั่งนิ่งสีหน้าหม่นหมองราวกับไม่ได้มางานเลี้ยงแห่งความสุขนี้เลย

                    ถ้าไม่เพราะเกรงใจมารดาของนพรุจเธอคงจะหนีกลับบ้านไปนานแล้ว แต่ยิ่งอยู่ในงานกลับยิ่งทำร้ายความรู้สึกตัวเองทุกที โดยเฉพาะบุรุษผู้เคยรักอย่างกานต์ธวัช ความทรงจำเก่าๆ อันเลวร้ายเริ่มเลือนหายไปทีละนิดๆ จนแทบจะไม่เหลือเขาในความทรงจำอีกต่อไป แต่วันนี้กลับคล้ายภาพเหล่านั้นย้อนกลับมาฉายในหัวไม่หยุดและก็เพิ่มความปวดร้าวเป็นเท่าทวีคูณ

                    หากเธอก็ต้องทำใจให้ได้เมื่อในวันนี้เธอไม่ได้ตัวเปล่าไร้คนคบหา เธอยังมีนพรุจอีกคนที่ให้ความสนใจเธออยู่ แต่ดูชายหนุ่มเวลานี้กลับเฝ้ามองหญิงสาวคนอื่นมากกว่าจะมองเธอด้วยซ้ำไป...ท่าทางของรุจิภานั้นอยู่ในสายตาของคุณนันทพรตลอดเวลา นางไม่เข้าใจลูกชายเหมือนกันที่ทำตัวราวกับไม่มีคนรักอยู่ด้วยในเวลานี้

                    หนูภาไม่สนุกหรือลูก นางหันมาถามรุจิภา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบเสียงอ่อย

                    สนุกค่ะ

                    สนุกแต่สีหน้าของหนูไม่สนุกเลยนี่นา...แม่ว่าพ่อรุจพาน้องออกไปเต้นรำสักหน่อยดีไหม

                    อะไรนะครับคุณแม่ นพรุจมัวสนใจหญิงสาวบนฟลอร์หันมาถาม

                    ชวนหนูภาออกไปเต้นรำสิจ๊ะ

                    ได้ครับ นพรุจนึกบางอย่างได้จึงลุกขึ้นยื่นมือให้หญิงสาวจับ หากเธอกลับมองหน้าทั้งสองสลับกัน

                    มีอะไรหรือจ๊ะ คุณนันทพรถามสงสัย

                    คือ...ภาเต้นไม่เป็นค่ะคุณป้า

                    ไม่เป็นก็ให้พี่เขาสอน ไม่ยากหรอกจ้ะ ไปพ่อรุจพาน้องไปเต้นรำได้แล้ว

                    เมื่อไม่อาจปฏิเสธได้ หญิงสาวจำต้องยื่นมือมาสัมผัสกับนพรุจแล้วลุกเดินออกไปเต้นรำบนฟลอร์อย่างเลี่ยงไม่ได้...บทเพลงเต้นรำเริ่มบรรเลงใหม่อีกครั้ง นพรุจโอบรุจิภาเต้นรำด้วยรอยยิ้มหากหญิงสาวได้แต่ก้มหน้าทั้งอายและไม่ถนัดนัก ถึงแม้จะเต้นรำกับรุจิภาหากสายตาของนพรุจกลับคอยเหลือบมองไอรยา สาวสวยนางแบบที่เต้นรำคู่กับกานต์ธวัชเป็นระยะๆ เช่นกันกับกานต์ธวัชที่คอยสังเกตรุจิภาเป็นระยะๆ เช่นเดียวกัน

                    เต้นรำกับไอซ์ไม่สนุกหรือคะ ไอรยาแสร้งถามชายหนุ่มด้วยมารยาหญิง

                    เปล่าครับ...คุณไอซ์เต้นเก่งจังนะครับ

                    ไอรยายิ้มหวานแทบจะซบบนอกของเขาเลยล่ะ จริงหรือคะ...ไอซ์มีความสุขจังที่ได้เต้นรำกับคุณวัช...ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคุณวัชเป็นลูกชายของคุณลุงเพื่อนของคุณแม่ แต่เราสองคนกลับไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย

                    ครับ... ชายหนุ่มเอ่ยเพียงเท่านั้นหากสายตากลับเหลือบมองไปทางรุจิภาไปด้วยซึ่งไอรยาก็สังเกตเห็นเข้าพอดี เธอปรายตามองไปทางรุจิภาอย่างไม่ใคร่จะพอใจเท่าไหร่นัก

                    คุณวัชรู้จักเธอด้วยหรือคะ

                    ใครหรือครับ

                    ก็...คู่เต้นรำกับคุณรุจไงคะ

                    ร่างสูงเต้นรำไปก็ถอนใจยาวเบาๆ ก็เคยรู้จักครับ

                    หรือคะ... เธอบอกคล้ายไม่เชื่อคำพูดของเขานัก สักพักคู่ของกานต์ธวัชก็เต้นรำเฉียดมาใกล้คู่ของรุจิภาและนพรุจ ไอรยาเหลือบเห็นชายกระโปรงชุดราตรีของรุจิภายาวระพื้นจึงแอบเหยียบไว้ทำให้รุจิภาที่เต้นรำคู่กับนพรุจเสียหลักล้มลงบนพื้น

                    อุ๊ย! ขอโทษค่ะ

                    ไอรยาแสร้งตกใจและกล่าวขอโทษรุจิภาที่ล้มลงนั่งบนพื้น นพรุจรีบประคองหญิงสาวลุกขึ้นจากพื้นทำให้คู่เต้นรำอื่นๆ ต้องหยุดชะงักไปด้วยพร้อมกับเพลงบรรเลงจบลงพอดี

                    ภาไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ

                    ภาไม่เป็นอะไรค่ะ

                    ไอซ์ขอโทษนะคะ ไอซ์ไม่ทันเห็นก็เลย...

                    ไม่เป็นไรค่ะ... รุจิภาจำใจต้องเอ่ยคำนี้ออกไปทั้งที่ความจริงแล้วเธอไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเหตุบังเอิญเลยสักนิดเดียว

                    กานต์ธวัชเห็นท่าทางของนพรุจคอยประคองรุจิภาก็ยิ่งปวดหัวใจเพราะมันตอกย้ำความรู้สึกของเขาต่อเธอมากยิ่งขึ้น รุจิภาไม่อาจจะทนเต้นรำต่อไปได้หญิงสาวจึงขอตัวออกมานั่งรอที่เก้าอี้ นพรุจได้แต่มองสบตาไอรยาอย่างสงสัยหากหญิงสาวก็ทำเป็นเฉยเสียราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นพร้อมกับชวนกานต์ธวัชเต้นรำต่อ หากเพียงไม่นานชายหนุ่มก็ขอตัวออกจากฟลอร์เช่นกันทำให้ไอรยาขัดใจไม่น้อย

                    ภาไม่เป็นอะไรแน่นะครับ

                    นพรุจถามอย่างห่วงใยทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของหญิงสาวคลายกังวลลงเมื่อเขาให้ความใส่ใจเธอบ้าง

                    ภาไม่เป็นไรค่ะ...พี่รุจคะภาอยากกลับบ้านแล้วค่ะ

                    ยังไม่ดึกเลยนะครับ นพรุจยังรั้งเธอไว้

                    คุณนันทพรเห็นท่าไม่ดีจึงขอให้ลูกชายไปส่งรุจิภาที่บ้าน เขาจำต้องไหว้ล่ำลาเจ้าของงานแล้วพาหญิงสาวเดินออกจากงานไปยังลานจอดรถอย่างเลี่ยงไม่ได้ ครั้นเดินไปยังไม่ถึงลานจอดรถเขาก็เหลือบเห็นไอรยาเดินตามออกมาด้วย ชายหนุ่มบอกให้รุจิภาไปรอที่รถก่อนจะปลีกตัวหลบมาหาไอรยาที่ยืนแอบรออยู่

                    จะกลับแล้วหรือคะ ไม่เห็นบอกลากันบ้างเลย เธอถามพลางชะม้ายตาให้เขา

                    ครับ...ผมคงต้องพาเธอกลับบ้านก่อน

                    แล้วเราจะได้พบกันอีกไหมคะรุจ

                    คุณอยากพบผมอีกหรือเปล่าล่ะครับ

                    ไอรยายิ้มหวานก่อนจะหยิบนามบัตรส่งให้เขา นพรุจรับมาดูด้วยรอยยิ้มเจ้าชู้ก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ

                    ผมขอตัวก่อน...หวังว่าเราคงได้พบกันอีก

                    บอกแล้วร่างสูงของนพรุจก็รีบวิ่งกลับไปหารุจิภาที่ยืนรออยู่ข้างรถยนต์แล้ว ไอรยาแอบยืนมองด้วยรอยยิ้มบางอย่างก่อนจะหมุนกายเดินกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง หญิงสาวเดินผ่านประตูเข้าไปในงานโดยไม่ได้สังเกตเห็นร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนหลบมุมเฝ้ามองอยู่ สายตาคู่นั้นเพ่งมองตามรถยนต์ของนพรุจที่แล่นออกจากลานจอดรถอย่างสนใจบางอย่าง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×