ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจเพื่อรักเธอ Heart to Love

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 54


    บทที่ 2

    ..........................................................................................................................................................................................

                    ภายในห้องโถงกว้างหรูหราของงานจัดเลี้ยงแขกในงานแต่งค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ด้านหน้ามีเวทียกสูงจากพื้นประดับด้วยซุ้มไม้เลื้อยสีเขียวแซมด้วยดอกกุหลาบสีชมพูได้อย่างลงตัว ด้านข้างซ้ายของเวทีมีจอโปรเจ็กเตอร์ขนาดใหญ่ บริเวณหน้าเวทีมีลานกว้างเป็นฟลอร์เต้นรำ ส่วนเนื้อที่ที่เหลือจัดเป็นโต๊ะรับรองแขกเหรื่อหลายร้อยโต๊ะ ซึ่งตรงกลางห้องโถงนั้นประดับด้วยโคมไฟระย้าจากยุโรปให้แสงสีนวลเจิดจ้าดูอบอุ่นสำหรับงานเลี้ยงขอบคุณแขกยิ่งนัก

                    ด้านขวามือใกล้เวทีนักข่าวกลุ่มใหญ่กำลังรัวชัตเตอร์เก็บภาพนางแบบสาวน้องใหม่ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วยความสนใจ เพราะเธอคือไอรยา นางแบบน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ของวงการบันเทิงไทย

                    โต๊ะด้านหน้าฟลอร์เต้นรำ คุณจิรัสและคุณมัตรา บิดามารดาของขวัญมุกนั่งร่วมโต๊ะกับคุณทิวารัตน์และคุณสุธารวมทั้งวาคิมและณรานุชอีกด้วย ส่วนคุณวิกานต์นั้นนั่งเป็นประธานในงานอยู่ที่โต๊ะใกล้กันโดยมีคุณอรุณีและคุณนันทพรร่วมอยู่ด้วย ทุกสายตาต่างมองไปยังไอรยาด้วยความสนใจ

                    ลูกสาวคุณณีน่ารักนะครับ ไม่น่าเชื่อจะเป็นที่สนใจของนักข่าวมากมายขนาดนี้ คุณวิกานต์ซึ่งนั่งร่วมโต๊ะกับคุณอรุณี มารดาของไอรยา เอ่ยชื่นชมจากใจ เพราะตั้งแต่ภรรยาของท่านจากไปก็ไม่มีโอกาสได้พบคุณอรุณีและไอรยาเลยสักครั้งและเมื่อมีโอกาสจัดงานในครั้งนี้ท่านจึงลืมที่จะเชิญเพื่อนของภรรยามาร่วมงานไม่ได้

                    คุณอรุณีปรายตามาทางคุณนันทพรที่นั่งร่วมโต๊ะแวบหนึ่งพลางหัวเราะอารมณ์ดี

                    ก็อย่างนี้แหละค่ะลูกสาวดิฉัน...ตอนแรกดิฉันไม่อยากให้เข้าวงการนัก เพราะกลัวว่าจะมีข่าวไม่ดีตามมาทำให้เสื่อมเสีย แต่ลูกสาวก็ตั้งใจและชอบด้านนี้มากๆ ดิฉันก็เลยจำยอมและก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ

                    คุณวิกานต์ได้แต่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม คุณนันทพรที่นั่งร่วมโต๊ะอดขำไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายชักเคืองเล็กๆ กานต์ธรและเกศเกล้านั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยมีน้องกัส ลูกชายวัยสองขวบนั่งคั่นกลางเหลือบมองตากันอย่างขันๆ ที่งานนี้มีการเกทัพกันเสียแล้ว

                    จริงหรือคะ ไม่เหมือนลูกชายดิฉัน พ่อรุจกลับไม่อยากเข้าวงการทั้งที่โมเดลลิ่งติดต่อมาให้เดินแบบและเล่นหนังหลายเรื่องเลย

                    ได้ยินเช่นนั้นคุณอรุณีถึงกับเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ทีเดียว

                    หรือคะ ไม่เหมือนลูกไอซ์ของดิฉันนะคะ ถึงจะเป็นนางแบบน้องใหม่แต่ก็เข้ามาในวงการด้วยความสามารถตัวเองทั้งนั้น

                    คุณนันทพรได้ยินคำโอ้อวดของอีกฝ่ายถึงกับค้อนเล็กอย่างหมั่นไส้ทำให้คุณวิกานต์และทุกคนที่ร่วมโต๊ะได้แต่สบตากันขำๆ ที่ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมลดลาวาศอกกันเลยสักนิด...ขณะนั้นน้องกัส ลูกชายของกานต์ธรได้แต่นั่งมองคนนั้นทีคนนี้ทีจึงหันมาถามผู้เป็นบิดา

                    คุณพ่อครับ อาวัชยังไม่มาหรือครับ น้องกัสเอ่ยถามบิดาพลางหันมาทางมารดาอย่างสงสัย

                    สงสัยอาวัชกำลังเดินทางมาน่ะลูก

                    เมื่อได้ยินเช่นนั้นคุณนันทพรก็ชักเป็นกังวลเช่นกันเมื่อยังไม่เห็นนพรุจลูกชายและรุจิภามางานเสียที

                    ลูกชายคุณณียังไม่มาหรือครับ คุณวิกานต์หันมาถามอีกฝ่าย

                    ยังเลยค่ะ...เอ...ทำไมช้าจัง...เอ๊ะ! นั่นไงคะมากันแล้วล่ะ

                    คุณนันทพรเอ่ยพลางหันไปทางประตูเข้างานก็เห็นลูกชายในชุดสูทสีเข้มเดินควงแขนหญิงสาวน่าตาน่ารักในชุดราตรีสีครีมเปลือยไหล่ขาวเนียนเดินเข้ามาในงานพอดี นักข่าวที่กำลังสัมภาษณ์และถ่ายภาพไอรยาเปลี่ยนความสนใจหันมาถ่ายภาพหนุ่มสาวทั้งสองที่เพิ่งเดินเข้ามางานทันที ทำให้หญิงสาวเสียหน้าเล็กๆ ถึงกับหน้าบึ้งที่มีคนมาแย่งความสนใจจากสื่อมวลชนเช่นนี้ เธอได้แต่เบ้ปากเมื่อมองพิจารณาหญิงสาวที่ควงมากับชายหนุ่มก่อนจะเดินเชิดเข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับมารดา

                    อ้าว! ทำไมไม่ให้นักข่าวสัมภาษณ์ต่อล่ะลูกไอซ์ คุณอรุณีเอ่ยถาม

                    ก็สองคนนั้นสิคะคุณแม่ทำให้นักข่าวไม่สนใจหนูเลย เธอหมายถึงนพรุจและรุจิภา คุณอรุณีได้แต่เหลือบมองคุณวิกานต์และคนอื่นๆ ด้วยไม่อยากให้ทุกคนมองลูกสาวในแง่ร้ายเกินไป นางจึงสะกิดแขนลูกสาวเบาๆ เป็นการเตือนสติพร้อมทั้งปั้นหน้ายิ้มแย้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    หลังจากช่างภาพเก็บภาพหนุ่มสาวทั้งสองแล้ว นพรุจและรุจิภาเดินเข้ามาไหว้ผู้อาวุโสเจ้าของงาน หากคนที่ทำอะไรไม่ถูกกลับเป็นรุจิภา เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่างานเลี้ยงค่ำคืนนี้จะเป็นงานเลี้ยงฉลองสมรสของกานต์ตะวันและขวัญมุก ซึ่งก็คือพี่ชายของกานต์ธวัชนั่นเอง มิหนำซ้ำขวัญมุกก็คือคนที่กานต์ธวัชเคยรักเคยชอบมาก่อน ยิ่งกว่านั้นเธอคือคนที่กานต์ธวัชรักมากคนหนึ่งจนทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจถึงทุกวันนี้

                    ว่าที่ลูกสะใภ้หรือเปล่าครับคุณพร คุณวิกานต์เอ่ยถามเมื่อนพรุจและรุจิภานั่งร่วมโต๊ะแล้ว

                    ค่ะ...หนูภาเป็นลูกสาวของเพื่อนดิฉันที่เรียนมาด้วยกันน่ะค่ะ ก็คุณกัณตาไงคะ

                    คุณวิกานต์ได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ เมื่อทราบเช่นนั้นก่อนจะหันมาทางคุณอรุณีและลูกสาวที่นั่งอยู่อีกด้าน

                    มีแต่คนกันเองทั้งนั้นเลย คุณอรุณีก็เป็นเพื่อนของคุณจันทรา ภรรยาของผม และนี่ก็หนูไอซ์ ลูกสาว คงไม่ใช่คนอื่นคนไกลใช่มั้ยครับ

                    ทุกคนต่างยิ้มแย้มให้กัน นพรุจค้อมศีรษะให้ไอรยาเล็กน้อยเพื่อทักทายกัน หากดวงตาของเขากลับเป็นประกายบางอย่างแวบหนึ่งซึ่งไม่ต่างจากหญิงสาวเลย หากคนที่รู้สึกอึดอัดด้วยไม่เคยมางานเลี้ยงหรูหราเช่นนี้กลับเป็นรุจิภา เธอแทบทำตัวไม่ถูก ทว่าโชคดีที่เกศเกล้าคอยชวนคุยเพื่อให้ไม่ให้เหงาทำให้เธอเบาใจขึ้นมาบ้าง

                    เมื่อถึงเวลาที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะออกมากล่าวขอบคุณแขกในค่ำคืนนี้ ทั้งแทนภัทรและบุญยุดาก็ก้าวขึ้นบนเวทีและทำหน้าเป็นพิธีกรเริ่มงานในคืนนี้ เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ ในงานหรี่เสียงเบาลง

                    สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสระหว่างคุณกานต์ตะวันและคุณขวัญมุก ในค่ำคืนนี้ถึงเวลาที่ทุกท่านจะได้พบกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวแล้วครับ

                    ค่ะ...ความรักของทั้งสองเดินทางผ่านอุปสรรคขวากหนามมากมายกว่าจะมารักกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะกว่าจะมีวันนี้ เราจึงมีวีทีอาร์เรื่องราวความรักของทั้งสองมาให้ชมกันค่ะ

                    หลังสิ้นเสียงประกาศของบุญยุดา ดนตรีบรรเลงหวานๆ คลอเบาๆ ก็ดังขึ้น ภาพฉายบนจอโปรเจ็กเตอร์ด้านข้างปรากฎขึ้น เป็นภาพเรื่องราวความรักของกานต์ตะวันและขวัญมุกที่ได้พบกันตั้งวัยเยาว์ และดำเนินเรื่องด้วยตัวการ์ตูนน่ารักและจบลงด้วยตุ๊กตาบาร์บี้ที่อยู่ในความทรงจำของทั้งสองจนกลายมาเป็นความรัก

                    เมื่อดนตรีบรรเลงจบลงพร้อมกับภาพบนจอนั้น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ก้าวออกมาบนเวที กานต์ตะวันก้าวออกมาพร้อมกับจับมือขวัญมุกประคองเดินมาด้วยกัน สีหน้าของทั้งสองต่างมีความสุขในหัวใจ เสียงปรบมือกราวใหญ่ของแขกเหรื่อนับพันดังกระหึ่มด้วยความยินดีในความรักของทั้งสองเนิ่นนานก่อนจะซาลง

                    เรื่องราวความรักของทั้งสองที่เริ่มต้นและถึงวันนี้ทุกท่านก็ได้ทราบกันแล้ว...ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติและพูดถึงความเป็นมากว่าจะมารักกัน เชิญค่ะ

                    บุญยุดาทำหน้าที่พิธีกรกล่าวเชิญทั้งสอง กานต์ตะวันหันมายิ้มหวานให้เจ้าสาวก่อนจะเป็นคนกล่าวคนแรก หลังจากเสียงปรบมือเงียบลง

                    ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่ามาร่วมงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของผมและคุณมุกในคืนนี้ครับ ความรักงดงามเสมอเมื่อเรารู้จักรัก เช่นความรักที่เราสองคนมีให้กัน กว่าจะมาถึงวันนี้ได้นั้น ทางของความรักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ความรักก็นำทางมาให้เราได้พบกันอีกครั้งแม้พรหมลิขิตจะเล่นตลกไปบ้าง ความรักที่เกิดขึ้นนั้นผมสัญญาครับว่าจะรักษาและดูแลหัวใจของคุณมุกที่มอบไว้ให้ผมไปจนลมหายใจสุดท้าย

                    สิ้นคำเอ่ยของกานต์ตะวัน เสียงปรบมือกราวใหญ่ก็ดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางความซาบซึ้งใจในความรักของทั้งสอง ก่อนที่พิธีกรชายจะมอบหน้าที่กล่าวขอบคุณให้เจ้าสาวบ้าง

                    ขอบคุณความรักที่คุณตะวันมอบให้มุก...มุกก็จะเก็บรักษาความรักของคุณตะวันที่มอบให้มุกไว้จนลมหายใจสุดท้ายเช่นกันค่ะ

                    คำเอ่ยของเจ้าสาวไม่ยาวนัก แต่กลับกินใจแขกเหรื่อในงานพร้อมทั้งเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วห้อง เมื่อพิธีการเสร็จสิ้นแล้ว คุณวิกานต์ก็ขอตัวขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวอะไรบางอย่าง

                    สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ หลังจากที่งานแต่งงานของธรและหนูเกศผ่านพ้นไปเมื่อสองปีที่แล้ว ผมก็ได้หลานชายน่ารักมาอุ้มสมใจ งานครั้งนี้ก็ถือว่าน่ายินดีไม่แพ้กันที่ได้ลูกสะใภ้อีกคนและไม่นานก็คงจะได้เป็นตาของหลานๆ วันนี้บริษัทเมืองหรรษายังคงอยู่และมีผู้บริหารที่ดีคอยดูแลและลูกสะใภ้ที่เก่งคอยเอาใจใส่ แต่สำหรับกานต์ตะวันและหนูมุก ทั้งสองมีอาชีพของตนเอง ผมจึงไม่ห่วงมากนัก...ที่ผมพูดเช่นนี้ก็เพราะยังมีลูกชายอีกคนที่ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาอย่างลูกคนอื่นๆ นั่นก็คือกานต์ธวัช...สองปีที่เขาไปเรียนเมืองนอกเพื่อกลับมาบริหารบริษัทอีกแรงหนึ่ง วันนี้เขาทำสำเร็จแล้ว โอกาสนี้ผมขอแนะนำผู้บริหารบริษัทเมืองหรรษาดีกรีนักเรียนนอก...กานต์ธวัช...ลูกชายผมเองครับ

                    สิ้นเสียงประกาศของคุณวิกานต์ เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องขึ้นพร้อมทั้งร่างสูงโปร่งของกานต์ธวัชในชุดสูทสีเข้ม สง่าผึ่งผายก็ก้าวขึ้นบนเวทีแล้วเดินมายืนเคียงข้างบิดาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แขกเหรื่อในงานต่างมองเป็นสายตาเดียวกันเมื่อคุณวิกานต์เปิดตัวลูกชายคนเล็กผู้บริหารอีกคนของบริษัทในวันนี้ ด้วยรูปร่างและลักษณะโดดเด่นไม่แพ้พี่ชายทั้งสองทำให้แขกสาวๆ ในงานต่างหมายตาไม่น้อย แม้กระทั่งไอรยาก็ถึงกับตะลึงชั่วครู่

                    หากคนที่ช็อกกว่าคนอื่นคงจะเป็นรุจิภา หญิงสาวถึงกับมองร่างสูงๆ ของกานต์ธวัชที่ยืนอยู่บนเวทีนิ่งอึ้งไปนาน เวลาสองปีที่เขาเรียนจบและเวลาอีกสองปีที่เขาไปเรียนเมืองนอก เธอไม่เคยเจอเขาอีกเลย...และวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน หญิงสาวไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่ได้เจอเขาในวันนี้ เหมือนภาพในวันเก่าฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัวไม่หยุด

                     ด้านบนเวที คุณวิกานต์ยื่นไมโครโฟนให้ลูกชายเพื่อกล่าวบางอย่างกับแขกในงาน เมื่อรับไมค์มาแล้ว ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้น

                    สวัสดีครับ ผมกานต์ธวัช ลูกชายของคุณพ่อ...ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้กลับมาร่วมงานแต่งงานของพี่ตะวันและคุณมุกในวันนี้ ผมขอให้ทั้งสองมีความสุขและดูแลความรักของกันและกันตลอดไป และผมเองก็คงจะได้เป็นอาของหลานในไม่ช้า...เวลาสองปีกว่าๆ ที่ผมเรียนอยู่เมืองนอก ความรู้ด้านบริหารทุกอย่างที่เก็บเกี่ยวมา ผมจะนำมาบริหารบริษัทให้ดีสมกับที่คุณพ่อและพี่ๆ ไว้ใจ...ผม...!!!...ภา!... ท้ายประโยคแผ่วเบาเมื่อสายตาปะทะเข้ากับใบหน้าสวยอันสะดุดและคุ้นตามาก่อน

                    ร่างสูงของกานต์ธวัชคล้ายกลายเป็นหิน สายตาของเขามองทะลุผ่านแขกในงานตรงมายังร่างบางที่นั่งบนเก้าอี้เบื้องหน้า...รุจิภา...นั่นเธอจริงๆ หรือ

                    แขกเหรื่อในงานต่างมองตามสายตาของเขาเป็นตาเดียวกัน

                    เจ้าวัช...!” คุณวิกานต์กระซิบเตือนสติลูกชาย กานต์ธวัชจึงได้สติกลับมา

                    ผม...ขอขอบคุณทุกท่านครับ เขากล่าวจบทันทีคุณวิกานต์จึงจับไมค์มาพูดต่อ

                    คงไม่มีอะไรแล้ว ขอเชิญทุกท่านร่วมฉลองงานในค่ำคืนนี้ได้ตามอัธยาศัยครับ

                    สิ้นคำเอ่ยของคุณวิกานต์ ดนตรีบรรเลงแผ่วเบาจึงดังขึ้นพร้อมกับหนุ่มสาวในงานทยอยออกมากลางฟลอร์เต้นรำและสังสรรค์ตามอัตภาพ

                    เมื่อทุกอย่างดำเนินต่อไป รุจิภารู้สึกอึดอัดไม่น้อยจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยมีเกศเกล้านำทางไป ส่วนนพรุจนั้นกลับเป็นโอกาสที่เขาได้นั่งคุยกับไอรยาอย่างออกรส หากนั่นไม่ได้ทำให้คุณนันทพร มารดาของเขาพอใจเลยสักนิด เพราะคนที่วาดหวังให้เป็นลูกสะใภ้คือรุจิภา ไม่ใช่นางแบบอย่างไอรยา

    .........................

                    รุจิภาขอตัวไปเข้าห้องน้ำไม่นาน กานต์ธวัชเดินตรงมายังโต๊ะที่กานต์ธรและเกศเกล้านั่งอยู่พร้อมทั้งไหว้ผู้อาวุโสและทักทายตามอัธยาศัย คุณอรุณีได้โอกาสจึงเอ่ยขึ้นกับชายหนุ่ม

                    พ่อวัชหรือคะเนี่ย ป้าไม่เห็นตั้งนานแน่ะ ดูสิโตเป็นหนุ่มเชียว...เออ...จริงสินะ พ่อวัชคงยังไม่รู้จักกับน้อง...นี่น้องไอซ์ ลูกสาวของป้าเองจ้ะ

                    คุณอรุณีได้โอกาสแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน ไอรยาลุกขึ้นแล้วไหว้กานต์ธวัชพลางยิ้มหวานให้เขา ชายหนุ่มรับไหว้พร้อมกับยิ้มตอบเช่นกัน

                    ยินดีที่ได้รู้จักครับ

                    ไอซ์ก็ยินดีที่ได้รู้จักพี่วัชค่ะ

                    เชิญตามสบายนะครับ ผมขอตัวก่อน

                    กานต์ธวัชขอตัวด้วยจิตใจของเขาในเวลานี้ไม่อยู่กับตัวเสียแล้ว ชายหนุ่มเหลียวมองไปทั่วห้องโถงอย่างค้นหาใครบางคนทำให้ผู้เป็นพี่ชายที่อยู่ใกล้ต้องถามสงสัย

                    มีอะไรหรือวัช...นายกำลังมองหาใครอยู่ ผู้เป็นพี่ชายถามน้องชายอย่างสงสัย

                    ผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไปไหนครับ

                    นายกำลังหมายถึงคุณภาหรือเปล่า พี่ชายถาม

                    ครับ...

                    คุณรู้จักภาด้วยหรือครับ คนที่เอ่ยถามคือนพรุจ เขาหรี่ตามองกานต์ธวัชอย่างแคลงใจไม่น้อย

                    ผม...ไม่แน่ใจว่าใช่เธอหรือเปล่า...ผมขอตัวก่อนนะครับ

    บอกแล้วกานต์ธวัชก็เดินเลี่ยงออกไป กานต์ธรได้แต่ส่ายหน้าที่น้องชายยังอารมณ์ร้อนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน วาคิมและณรานุชที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ ถึงกับถอนใจเมื่อเห็นท่าว่าจะยุ่งกันไปใหญ่เสียแล้ว

    นพรุจสงสัยไม่น้อยเมื่อมองตามร่างสูงของกานต์ธวัชที่เดินผละไปแล้ว ไอรยาก็เช่นกัน เธอยังสนใจกานต์ธวัชจึงมองตามร่างสูงที่เดินผละไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมาคุยกับชายหนุ่มตามมารยาท

                    ถึงแม้จะคุยกับนพรุจ แต่เธอก็คิดว่ากานต์ธวัชคงจะรู้จักกับรุจิภามาก่อนเป็นแน่ ผู้หญิงธรรมดาไม่มีอะไรอย่างนั้นหรือที่เขาสนใจ ถ้าเปรียบกับเธอแล้วคนละระดับก็ว่าได้ แต่เอาเถอะ ยังไงเธอก็ยังมีเวลาที่จะได้รู้จักกับเขาอีกนาน

                    ขณะเดียวกันนั้น ภายในห้องรับรองเจ้าบ่าวเจ้าสาว บุญยุดาและแทนภัทรก็รีบเข้ามารายงานให้ขวัญมุกและกานต์ตะวันทราบเรื่องกานต์ธวัช เพราะจำได้ว่าหญิงสาวที่กานต์ธวัชเผลอเอ่ยชื่อออกมานั้นคือน้องร่วมสถาบันกันมาก่อน

                    ดาแน่ใจนะว่าตาไม่ฝาด

                    ฉันจะตาฝาดได้ยังไงกันมุก...นายแทนก็เห็นเต็มสองตาเหมือนกัน

                    ใช่ครับ แทนภัทรยืนยันเสียงแข็ง

                    กานต์ตะวันนิ่งครุ่นคิดบางอย่างในใจ มันอาจจะเป็นเกมของพรหมที่ลิขิตเอาไว้ก็เป็นได้ เวลาหลายปีที่กานต์ธวัชไปเรียนเมืองนอกแล้วกลับมาในวันนี้ จู่ๆ ก็ได้พบหญิงสาวที่เคยรักอีกคราหนึ่ง

                    ถ้าหากนายวัชจำผู้หญิงคนนั้นไม่ผิดจริงๆ ก็นับว่าโลกกลมเหลือเกิน แต่ทั้งสองเคยมีปัญหากันมาก่อนไม่ใช่หรือครับ

                    ค่ะ เมื่อก่อนเคยมีปัญหากับมุก แต่มุกกับเธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนะคะ

                    ถ้าหากนายวัชจะกลับไปรักเธอจริงๆ ก็คงจะยากเอาการ เธอมีชายหนุ่มควงมาในงานด้วยนี่ครับ แทนภัทรเอ่ยตามที่รู้มา

                    อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ความรักที่แท้จริงต้องการเครื่องพิสูจน์ใจเสมอ กานต์ตะวันบอกอย่างเข้าใจถ่องแท้ทำให้ทุกคนเห็นด้วยกับเหตุผลนี้ ด้วยความรักของเขาและขวัญมุกผ่านบทพิสูจน์ใจมาแล้ว

    .............................

                    กานต์ธวัชเดินทั่วงานแต่ก็ไม่พบหญิงสาวอย่างที่ตั้งใจจนกระทั่งเดินมาถึงห้องน้ำสตรี เขาจึงเห็นเกศเกล้า พี่สะใภ้ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ เกศเกล้าหันมาเห็นพอดีจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย

    วัชมาเข้าห้องน้ำหรือ

    เปล่าครับพี่เกศ...ผมแค่ตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง เขาถามพลางเหลียวมองหญิงสาวที่เดินเข้าออกห้องน้ำไปด้วย

    ใครหรือ...อย่าบอกนคือผู้หญิงที่วัชมองตอนอยู่บนเวที

    ใช่ครับพี่เกศ...พี่เกศเห็นเธอมั้ยครับ

    เกศเกล้ามองหน้าอีกฝ่ายอย่างช่างใจก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ด้วยรู้ว่าคงจะหมายถึงรุจิภาที่เธอมาพาเข้าห้องน้ำ หญิงสาวพอรู้บางอย่างเกี่ยวกับกานต์ธวัชมาบ้างจึงขอให้เขาไปรอด้านนอกกระทั่งรุจิภาออกมาจากห้องน้ำ เกศเกล้าจึงชวนเธอออกมาเดินเล่นด้วยกัน

    พี่เกศมีอะไรหรือคะ

    เปล่าหรอกจ้ะ พี่เห็นภาไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ก็เลยชวนมาเดินเล่น...

    รุจิภาไม่ตอบนอกจากพยักหน้าเบาๆ สีหน้าคล้ายมีเรื่องครุ่นคิดในใจ

    ภารู้จักคุณกานต์ธวัชหรือเปล่าจ๊ะ

    จู่ๆ เกศเกล้าก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมาทำเอารุจิภาทำอะไรไม่ถูก

    เอ่อ...ภา...คือ...

    ยังไม่ทันเอ่ยอะไรมากไปกว่านั้น ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มก็ปรากฏกายออกมาจากกำแพงแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าในระยะไม่ไกลนักเล่นเอารุจิภาแทบหยุดหายใจ...กานต์ธวัช...

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×