ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พิชิตไข่มังกร
สิ่งที่พระสวามีบอกยังดังกึกก้องในหัวของราชินีผู้สง่างาม ในเวลาพรบค่ำนี้ พระนางยังทรงเหม่อมองพระอาทิตย์ลับฟ้าอยู่ในห้องบบรทมส่วนพระองค์อย่างสงบ มีเพียงโอโลล่าพระพี่เลี้ยงคนสนิทเพียงคนเดียวที่รอคอยเสียงตอบรับจากราชินีผู้แสนสง่า หล่อนมิได้พูดคุยอันใดหลังจากบทสนทนาระหว่างพระสวามีผู้เป็นยอดกษัตริย์จบลง
'เจ้าทำตามที่ข้าขอเถอะ ซาเฟียร่า'
'หม่อมฉัน มิอยากได้ลูกสาว หากเรากินไข่มังกรนั้นลงไป ลูกก็มิใช่ลูกของพระองค์กับหม่อมฉันอยู่ดีเพค่ะ'
'มันจะมิใช่ได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งนั้นออกมาจากร่างกายเจ้า' ราชาไททันกุมมือราชินีของเขาไว้แน่นแนบแก้มด้านซ้ายด้วยความรักและถนอม....ราชินีของเขา ราชาหลงรักในความงามของราชินีมาเสมอ
'แต่ในเมื่อพระองค์บอกเองว่านั้นคือธิดาของมังกร ฝากครรหม่อมฉันมาเกิด ในเมื่อรู้เช่นนั้นทำไมเราจึงยอมให้อสูรกายเกิดกับเราล่ะเพค่ะ'
'มันเป็นวิธีเดียวที่เรานึกออก มันจะปกป้องเราจากซุส' ราชาไททันชักสีหน้าพร้อมเน้นเสียงอย่างใจเย็น เหมือนพระองค์พยายามควบคุมสติของตนที่กำลังแตกพล่าน
'หม่อมฉันมิเคยเห็นพระองค์เชื่อเรื่องเทพ เหตุใดถึงทรงทำตามนิมิตเทพละเพค่ะ'
'ข้ามีเหตุผล'
'เหตุผลอันใด ในเมื่อพระองค์มิกลัวแม้กระทั้งเทพ เรื่องสู้รบกับเทพเจ้าซุสใยต้องกังวลเพค่ะ!'
'ซาเฟียร่า!!!' ราชาไททันหุนหันกระฉากแขนของราชินีเข้าใกล้ตนจนนางร้องโอ้ยครวญด้วยความเจ็บ เหล่าข้าทาสบริวารต่างตื่นตกใจกับการกระทำอันเกรี้ยวกราดนี้
เหตุใดซาเฟียร่าถึงมิเข้าใจพระองค์ พระองค์ทำทุกอย่างเพียงเพราะสายตาเดียวที่เห็นก่อนสิ้นใจในนิมิต นั้นก็คือนาง นางเพียงคนเดียวที่กษัตริย์ผู้เย่อหยิ่งยอมทำเรื่องไร้สาระตามคำแนะนำของนิมิตเทพ นิมิตที่ราชาไททันได้เห็นนั้นมันน่ากลัวเกินกว่าซาเฟียร่าจะเข้าใจ ....
'จงฟังข้านะซาเฟียร่า เจ้าคือราชินี ถ้าเรื่องแค่นี้เจ้าทำให้ราชาแห่งนครโอลิมซีมิได้ เจ้าก็มิมีความหมายอันใดในนครแห่งนี้ ข้ามิได้รับเจ้ามาจากพระบิดาของเจ้า เพื่อให้เจ้าปลูกดอกทานตะวันโง่เง่านั้น หรือแม้แต่ขอพระโอรสจากเทพเจ้าที่เจ้าศรัทธาหรอกนะ ....นี้คือความจริงที่เราจะต้องทำ มันเป็นสิ่งที่ข้าจะได้ธิดา ข้าจะต้องดั้นด้นไปเอาไข่มังกรนั้นมาเพื่อเจ้า และเลิกคิดซะว่านั้นมิใช่ธิดาของเรา หากแต่เกิดจากร่างกายเจ้า นั้นก็คือของเจ้า' ราชาไททันสะบัดราชีนิของตน อย่างแรงด้วยโทสะ นางมิอาจทรงตัวได้จึงล้มลงกับพื้น ขณะที่ราชาไททันเดินออกจากสวนดอกทานตะวันไป ในพระทัยก็คิดถึงสิ่งที่ซาเฟียร่าหมิ่น ซึ่งพระองค์มิคิดว่าพระธิดาจากเมืองใหญ่อย่างมหานครรูเซีย จะอ่อนแอและไม่มีความเป็นราชินีขนาดนี้ เขามิได้ทำสงครามเพื่อแย่งชิงนางมาเพียงเพราะว่าความงดงามของนางเพียงอย่างเดียว หากแต่ราชินีคือแม่ของแผ่นดิน เป็นคนที่ต้องแข็งแกร่งลองลงมากับราชาไททัน การทำสงครามแย่งชิงสตรีที่มิประสาอะไร หากรู้ว่าซาเฟียร่ามิสมควรคู่ ก็สายไปเสียแล้ว เพราะราชาไททันทรงรักราชินีพอๆกับรักนครโอลิมซีแห่งนี้ เพราะถ้าหากมิทรงรักคงจะปล่อยให้นางนอนโศกเศร้าคนเดียวจนตายไปแล้วก็ได้ ....
'หม่อมฉันแค่อยากจะมีพระโอรสเพื่อพระองค์ พระองค์ก็ทรงทราบว่าหม่อมฉันพยายามเพียงใดเพื่อสิ่งนี้'
'ข้ามิอยากได้โอรสในตอนนี้ ยิ่งเกิดจากเจ้าในเวลานี้ ยิ่งมิอยากได้'ราชาไททันทรงบอกออกมาเบาๆ แต่มิมีใครได้ยิน หรือเข้าใจในความหมายของพระองค์ นอกเสียจาก...พระองค์เอง
นานจนตะวันลับตาซาเฟียร่าจึงคลุมผ้าสาหรีสีขาวบางบนศรีษะแปลงกายเป็นสาวชาวเมืองธรรมดาออกจากราชวังไป แม้รู้ว่าทำผิดกฏแต่ก็มิอาจจะทนรอพระสวามีที่เร่งรีบออกไปได้ นางมีเรื่องต้องทำเช่นเดียวกับพระสวามี
"ราชินีเพค่ะ ทรงขึ้นอาชาด้านหลังสวนใหญ่ มีทหารของเสด็จอาทรงรออยู่" โอโลล่าเอ่ยขณะปีนลงกับพื้นสนาม
"อื้ม" ราชินีที่ตอนนี้ดูเหมือนคนธรรมดา กำลังวิ่งออกไปยังทางออกด้านหลัง ที่มีอาชารออยู่ นางมีเรื่องที่ต้องคุยกับคนๆนึง และจะต้องคุยให้ได้
อาชาวิ่งออกมาจากวังโดยการควบคุมของทหารชั้นเอก พาราชินีของราชาไททันออกมาไกลจนสุดลบสายตาทางชานเมืองด้านนอก ราชินีเข้าไปในกระท่อมอันเล็กและพุพังเพื่อกับ....เจ้าแห่งศาสตร์มืด....
"มาแล้ว มาแล้วมาแล้ววว" เสียงของยายแก่พูดวนไปวนมายายแก่ผมสีขาวโพล่นตาบอดเดินมาใกล้ๆราชินีที่ถอดผ้าคลุมหัวออกจนหมด พระนางทรงลังเลว่า ยายเฒ่านี้มองเห็นหรือไม่
"มาทำอันได แม่สาวน้อย" และนั้นคือคำตอบว่านางอาจจะทรงมองมิเห็น
"รา....นายหญิงข้าต้องการคำปรึกษาจากท่าน"
"คำปรึกษางั้นหรอ" ยายเฒ่าว่าขณะเดินงกๆเงินๆ หยิบน้ำที่คล้ายน้ำโคนมาวางต่อหน้าแขก ปานว่านั้นคือน้ำดื่มอันบริสุทธิ์ ราชินีมิทรงมีท่าที่รังเกรียจ นางนั่งลงตรงเก้าอี้ไม้ห่างจากยายเฒ่าไม่เยอะมาก เพียงโต๊ะขั้นกลาง
"ซา-เฟีย-ร่า"
"เจ้า....เจ้ารู้" โอโลล่าเอ่ยทักเสียงสั่น ราชินีมีท่าทีตระหนกแต่ก็ทรงเก็บอาการไว้เงียบกริบ
"ข้าพูดลอยๆน่ะ"
"ข้าเข้าเรื่องเลยแล้วกัน จะได้มิเสียเวลาเจ้ามาก"
"ว่ามาสาวน้อย" ยายเฒ่าเดินมาพร้อมกับไม้เท้านึงอัน ว่าพร้อมกับส่งยิ้มไปทางราชินี ที่ตอนนี้นางคิดว่ายายเฒ่าตาบอด แต่ความจริง...มิมีใครรู้ได้
"มรกรตแดงคืออะไร ข้าเคยได้ยินตำนาน แต่มิทรงเข้าใจว่ามันจะทำให้เราซ่อนตัวจากซุสได้อย่างไร"
"...." ยายเฒ่าหัวเราะขึ้นเสียงสั่น และเงียบลง ไปมาสลับกันก่อนจะวางไม้เท้าเสียงดังลงกับโต๊ะ
ปัง!!!!
"บังอาจมากยายเฒ่า" โอโลล่าเอ่ยเตือน แต่ราชินีทรงยกมือห้ามปรามไว้ก่อน การที่โอโลล่าถนอมนางเกินไปอาจจะทำให้ยายเฒ่าสงสัย
"ว่าไง เจ้ารู้ หรือ...ไม่รู้"
"ว่ากันว่า มรกรตแดงก็คือ ...อัญมณีที่ซุสส่งลงมาให้กับราชินีมังกร"
"ซุส เทพเจ้าซุสงั้นหรอ"
"เทพเจ้าผู้มักมากหลงรักราชินีมังกรอสูรกายที่แฝงร่างได้เช่นเดียวกับมนุษย์ มังกรน่ะกลายร่างไปมาได้ โดยที่คนเราไม่รู้ และซุสเองเท่านั้นที่ได้ร่วงรู้...แต่ก็ว่าน่ะสเหน่นางมังกรมิอาจห้ามใจ มันชวนเย้ายวน น่าหลงไหล".
"แปลว่ามังกรสามารถแปลงกายได้งั้นหรอ?" ราชินีเก็บความสงสัยไว้มิอยู่
"ตอนนั้น...ซุสคิดเช่นนั้น และก็ได้หลับนอนกับราชินีมังกร...เจ้าก็รู้ว่าเทพเล่นชู้กับอสูรกายมันเป็นเรื่องที่อัปยศ และไม่มีทางที่เทพีเฮร่าจะรับได้ นางทรงเกลียด"
"......".
"ฮ่ะๆๆ รุ้มั้ยว่าทำไม มรกรตแดงจึงกำเนิด ....มรกรตแดงคือตัวแทนความรัก...ของอสรูกายกับเทพ"
"หมายถึง ราชินีมังกรทรงท้อง" ราชินีค่อยๆทำความเข้าใจกับเรื่องเล่านี้ แต่ก็มิอาจเก็บซ่อนความอยากรู้ไว้ได้
"มังกรน้อยถือกำเนิด...และนั้นทำให้เฮร่าทรงเกลียด นางทรงอสารพิษแม่งป่องลงมาสังหารมังกรน้อย ตัวแทนความรักของเทพกับอสูรกาย..ฮ่าๆๆ ช่างตลกเหลือร้าย"
"งั้นมรกตแดงคือ...โอรสงั้นหรอ"
"ยังไม่จบ.... นางไม่อาจทำร้ายอะไรหนามย่ออกได้ จึงได้ลงไปต่อกรกับราชินีมังกร ราชามังกรรู้ว่าราชินีที่รักสมสู่กับเทพจึงได้ฆ่านาง....เมื่อนางตาย"
"ราชินีมังกรตาย...เพราะราชามังกรทรงรู้ว่านางมีชู้"
"กฏของกรรมไงล่ะ" ยายเฒ่ากัวเราะก่อนจะกินน้ำโคนนั้นลงคอ โอโลล่าพะเอืดพะอมกับสิ่งที่เห็น มิต่างกับราชินีที่ทรงงดงาม แต่นางก็เลี่ยงที่จะแสดงกิริยาออกมา
"ลูกชายนางล่ะ โอรสมังกรกับซุส" ราชินีถามด้วยึความอยากรู้ หิวกระหายในเรื่องราวที่ยายเฒ่าเล่า
"สงครามของมังกรและเทพเกิด แต่อสรูกายก็มิสู้เทพ...จึงได้ต่อรองด้วยสายเลือด"
"หมายความว่าราชามังกรใช้โอรสของซุสเป็นตัวประกัน"
"ราชามังกรร้ายกราจกว่านั้น เพราะทรงรู้ว่าลูกที่เกิดจากเทพ สามารถให้ผลได้1 ประการถ้าหากเราได้ดื่มเลือดของลูกครึ่งเทพ...."
"เลือดของลูกครึ่งเทพ...งั้นหรอ?" ราชินีใช้ความคิด แต่มินางก็ทรงรู้ทางว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นเช่นไร
"เจ้าต้องเห็นตอนที่ฟ้าพิโรธ ซุสทรงทรมานปางตายเมื่อรู้ว่าราชามังกรจับมังกรน้อยนั้นกิน..."
"โหดร้ายที่สุด" โอโลล่าเอ่ยขณะเดินเข้าไปจับไหล่ของราชินีที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
"มันไม่อะไรในโลกนี้สวยงามอยู่ด้านเดียว..." และนั้นคือความจริงที่สุดที่ของยายเฒ่า ราชินีผู้อ่อนไหวเอ่ยในใจ หล่อนกลัวว่าสวามีที่แข็งแกร่งจะพ่ายแพ้ต่ออสูรกายมังกรนั้น
"แล้ว...ราชามังกรเป็นอย่างไรต่อ"
"พรที่ขอคือการบดบังเผ่าพันธ์จากเทพทุกองค์ เทพเจ้าจะมิเห็นเหล่าอสูรกายร้ายนี้อีก หากแต่...เทพีเฮร่า.."
"..." ราชินีนิ่งงันอย่างตั้งใจฟัง
"ดอกไมลี่ย์ ที่ปลูกในสวนของเฮร่าจะออกดอกปีล่ะ1 ครั้ง และทุกครั้งจะสามารถทำให้พื้นใต้พิภพของเทพเจ้าสว่างไสว เมื่อนั้นจะมองเห็นรังมังกร..."
"หมายความว่าอย่างไร ดอกไม้แค่ดอกเดียวจะเปิดทวารทั้ง3ได้อย่างนั้นหรอ"
"4ต่างหากเจ้าค่ะ...4อย่าง" ยายเฒ่ายกนิ้วเมือขึ้นขณะไล่รายชื่อพิภพทีร่ละอัน ละอัน...
"1 นครโอลิมปัสที่อยู่ของทวยเทพ...2 นครมนุษย์ที่อยู่ของสัตว์บาปหนาผู้ต่อกรกับทุกสิ่งและ....3มหานครโอเชี่ยน มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เจ้าพิภพที่มิมีใครรู้จัก"
"มหานครโอเชี่ยนงั้นหรอ" โอโล่ล่านั่งนึกตามที่ยายเฒ่าบอก
"และ4...พิภพที่ร้อนละอุดั่งไฟเผ่า พิภพโลกันย์ โลกที่มีโลกิเจ้านครรอเราที่ตายแล้วรึยังไม่ตายทุกคน..."
"ข้าว่าเรื่องนครที่เจ้าวามันเกิดจริงไปยายเฒ่า เอาเป็นว่าเจ้าบอกว่าดอกไม้ลีย์มีอำนาจพอที่จะเปิดทวารที่4หรือ3 ได้งั้นหรอ" ราชินีมิมากความกับยายเฒ่าเจ้าเล่ห์นางอาจจะหาเรื่องมาหลอกล้อได้หมด นางคิดในใจว่าจะมิหลงเชื่อ
"เมื่อนั้นซุสจะลงมาสังหารมังกร1ตัว และนำหัวมันขึ้นไป เป็นเช่นนั้นทุกๆปี ปีละ1หัว เพื่อสังเวยวิญญาแก่โอรสมังกร" งั้นหรอ...ราชินีนึกขันคำโกหก แต่หล่อนมิได้ไม่เชื่อ เพราะเสด็จอาของราชินีเคยบอกว่ายายเฒ่านี้แหล่ะคือนิมิตเทพรุ่นเก่าของนครโอลิมซี
"ข้ามีคำถามที่อยากจะถามเจ้า ข้าอยากรู้ว่าเราจะกินไข่มังกรนั้นได้อย่างไร"
"...ฮ่าๆ ช่างเป็นคำถามที่ใสซื่อเหลือเกินเพค่ะ...ฮ่ะๆ" ยายเฒ่าขำและค่อยๆลุกขึ้นและหันหน้าไปยังเตาที่ก่อไฟเพื่อหุ้งต้มอาหาร
"ไข่มังกรให้ลูกแฝดกับทุกคนที่กินมัน...เพราะในร่างมังกร1ไข่ เท่ากับคน2คน..."
"หมายความว่า คนที่อยากได้ลูกแฝดก็ต้องกินไข่มังกรใช่มั้ย งั้นไข่มังกรที่กินเข้าไปจะช่วยให้คนตั้งครรภ์ลูกของมังกรงั้นหรอ"
"ไม่ใช่....อย่างที่บอก คนกิน1ไข่ จะได้ลูก2คน แต่มังกรมีเพียง1 เด็กทุกคนที่เกิดจากการกินไข่มังกรจะเป็นแฝดหญิง....ไม่รู้ทำไม ทุกคนต้องเป็นสตรี"
"หากเช่นนั้น การที่มีใครสักคนในเมืองคลอดลูกแฝด คนทั้งหลายก็จะรู้ว่าเด็กเกิดจากการกินไข่มังกรใช่หรือไม่" ราชินีซาเฟียร่านึกกังวล หากหล่อนต้องถือกำเนิดลูกแฝดโดยการโดนขรหาว่ากินไข่มังกรแล้วไซร้ นั้นอาจมิใช่ทางที่ราชินีผู้สูงศักดิ์ยินยอม
"ไม่มีใครรู้หรอกเพค่ะ...รึท่านรู้มาตั้งนานแล้ว.."
"ไม่..." ราชินีตอบกลับเสียงแผ่ว นางมิเคยรู้ ราชาไททันก็มิเคยรู้ มีเพียง...มีเพียงนิมิตเทพและยายเฒ่า
"แต่คนที่ท้องลูกแฝดก็จะรู้ เพราะ...."
"แต่มิมีใครท้องลูกแฝดสาวนี้เจ้าค่ะรึว่า...ท่านเคยเห็น" และนั้นทำให้ราชินีมีสีหน้าผ่อนคลายลง
"ข้ารู้ว่าท่านร้อนรนมาเพื่ออะไร แต่โลหิตมังกรจะไหลเวียนในตัวลูกสาวฝาแฝดท่าน เพราะนางเกิดจากไข่มังกร และไม่ช้า ถ้าซุสฆ่ามังกรหมด ใครก็ตามที่มีโลหิตของโอรสมังกรในตัว ก็จะต้องตายเช่นเดียวกับทุกๆตัวที่ตาย"
"เช่นนั้น....เช่นนั้นแล้วจะทรงทำอย่างไรเพค่ะ" โอโลล่าร้อนรน หล่อนลุกหลิกไปมาทำให้ราชินีซาเฟียร่าขาดสติไปด้วย ราชินีมีสีหน้าที่ไม่ได้ หากเป็นดังที่ยายเฒ่ากล่าว ลูกของนางก็จะต้องตาย ต้องตายในน้ำมือของซุส...งั้นหรือ งั้น....ควรทำเช่นไรดี
"ข้าจะทำอย่างไรให้ข้าท้องลูดแฝดสาว แต่มิมีสายเลือดโอรสมังกร..."
"เรื่องนี้...บรรชาสวรรค์ส่งมาเพค่ะ"
"ถ้ามิท้องลูกของมังกร...ก็"
"เมืองโอลิมซีก็จะมีสงคราม มิช้าทั้งโอลิมซีจะย่อยยับ..."
"ข้าก็ยังมิเข้าใจอยู่ดี จู่ๆเราจะเกิดสงครามได้อย่างไร"
"มอร์กาน่า...กำลังจะกำเนิด หากมิสายลูกแฝดจะช่วยให้ราชามิร้อนรนตามหานางก่อนเวลาอันควร"
"ยายเฒ่า เจ้าพูดว่ามอร์กาน่า ใคร ใครกัน"
"นั้นคือคำถามที่ราชาไททันก็กำลังตามหาอยู่เพค่ะ....ราชินี" ยายแก่เอ่ยเสียงเบา และนั้นทำให่ราชินีชะงักไปถึงอย่างนั้น ก็สายไปเสียแล้วที่จะปกปิดเรื่องทั้งหมด...ึความสงสัยนำพาให้ราชินีต้องเผยคำถามมากมายที่บ่งบอกสถานะของตนเอง ราชินีแห่งโอลิมซีกำลังกระหายความอยากรู้
"ช่วยข้า ช่วยข้าและเจ้าจะได้ทุกอย่างที่อยากได้..." ราชินีคุกเข่าต่อหน้ายายเฒ่า ยายเฒ่าหันมามองราชินีและยิ้มด้วยสีหน้าเวทนา รู้สึกเห็นใจราชินีผู้อ่อนแอคนนี้มาก แต่....หากจะฝืนชะตาก็มิเห็นสมควร เพราะราชาไททันดั้นด้นไปเพื่อแลกกับการมีชีวิตของซาเฟียร่า มันฝืนกฏของชะตามิได้
"ในอีหลายสิบปี หนทางจะมีทางแก้ แต่...มิใช่ในเวลานี้ จงอดทนรอเวลาเถอะเพค่ะ"
ช่างสิ้นหวังเหลือเกิน ซาเฟียร่านอนอยู่บนที่บรรทมรอสวามีที่รักกลับมา ราชาไททันหายไปเกือบ7วันได้ ไม่รู้ว่าสวามีจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เมื่อรู้เช่นนั้นว่าราชาไททันทรงมุ่งมั่นเพียงใด ราชินีก็ยิ่งกระตือรือร้นหาทางออกในเรื่องนี้มากเท่านั้น แต่ในหัวใจก็หนักอึ้งไปด้วยเรื่องมากมาย หากวันใดลูกสาวถูกฆ่าตาย...วันนั้น...วันนั้น 3
"ราชินีเพค่ะ" ความคิดฟรุ้งซ่านได้หยุดลง และราชินีหันไปตามเสียงเรียกที่หน้าประตูห้อง พี่เลี้ยงคนสนิทของหล่อน โอโลล่าสวมชุดกรีกโรมันสีเหลืออ่อน ใบหน้าอิดโรยของคนแก่และมีผมสีฟางธรรมชาติ หล่อนเป็นสาววัยลางคนที่ใจดีกับราชินีผู้อ่อนแอเสมอ
"ว่าอย่างไรโอโลล่า"
"พระมหาอุปราชเสด็จกลับมาแล้วเพค่ะ แต่..."
"แปลว่าราชาข้าเสด็จกลับแล้ว" ราชินีลุกจากที่บรรทมและวิ่งตรงมายังโอโลล่าด้วยสีพระพักต์ที่ตื่นเต้น ดีใจ
"ไม่เพค่ะ ราชาไททันยังมิทรงกลับมา มาเพียงพระอุปราช"
"หะ เจ้าหมายถึงอุปราชกลับมาโดยไร้เงาสวามีข้างั้นหรอ"
"เพค่ะ" โอโลล่าหลุบตาลงต่ำขณะเอ่ยเช่นนั้น นางรู้สึกผิดในใจและรู้ว่าราชินีซาเฟียร่ารู้สึกแย่แค่ไหน...
"7วันแล้ว สวามีข้าเป็นเช่นไร..."
"ลองไปถามท่านอุปราชดีกว่าเพค่ะ ว่าเหตุใดจึงเสด็จกลับมาก่อน"
"ไว้เวลาเย็นข้าจะไป" ซาเฟียร่าเอ่ยก่อนจะนั่งลงข้างหน้าต่างเหม่อมองท้องฟ้าเช่นที่เคย
....คิดถึงท่านเหลือเกิน สวามีข้า
ราชาไททัน ยอดรัก................
ว่ากันว่ากษัติย์แห่งโอลิมซีคือเครื่องเมืองรบจากเฮอร์คิวริส พวกเขาคือลูกหลานของเฮอร์คิวริส เทพครึ่งมนุษย์ แต่กษัตริย์ไททัน แตกต่าง เพราะพระองค์ไม่คิดเช่นนั้น พระองค์คือว่าตนนั้นคือ ลูกกษัติย์ยอดนักรบอย่าง ยูเคไทน์ พระบิดาที่ทรงแข็งแกร่งและยอดวีรกษัตริย์ นั้นคือแบบอย่างของราชาไททัน ตามจารีตประเพณี เด็กทารกที่เกิดจากสายเลือดกษัติย์ ต้องได้รับการตรวจดวงชะตาจากนิมิตเทพ ว่าจะอยู่หรือจะรอด หากมิรอดอาจจะต้องตาย....แต่ถ้านิมิตเทพเห็นถึงความแข็งแกร่งภายในใจ เด็กจะรอด มิใช่แค่ลูกกษัตริย์ แต่ชาวโอลิมซีทุกคน ไม่มีเด็กพิการในเมือง พวกป่วยขี้โรค ชาวโอลิมซีศรัทธาในความแข็งแกร่งของร่างกาย เมื่อครั้งราชาไททันยังทรงพระเยาว์ ต้องออกไปฝึกความเป็นนักรบตั้งแต่อายุ7ขวบ ต้องอยู่ในได้ท่ามกลางหิมะที่หนาวเหน็บ สู้แม้จะอ่อนแอเพียงใด ไม่ไหวกลัว พระองค์เคยฆ่า ศัตรูและสัตว์ประหลาดมากมาย...แต่ มิเลยเผชิญกับมังกร มังกรมีเพียงในตำนาน ที่หลายเมืองเล่าขานไม่เหมือนกัน บ้างว่าพวกมันน่ากลัว บ้างว่าพวกนั้นคืออสูรกายร้าย และบ้างว่ามันคือ...ศัตรูของเทพ แต่ราชาแห่งโอลิมซียังมิปักใจเชื่อ พระองค์มีจิตใจเข้มแข็งมาก อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ
"เราเดินทางมาหลายชั่วแรมแล้วพระองค์ ทิศตะวันตกแน่หรือพะยะค่ะ" องค์รักษ์คู่ใจนามว่าซูรัส เอ่ยถาม เขาคือเด็กที่ป่าเถื่อนและเข้มแข็งที่สุดในโอลิมซีลองจากกษัตริย์. แต่นั้นก็ยังมีน้องชายต่างพระมารดาอย่าง โพเซียสร่วมเดินทางไปด้วย พร้อมทหารอีก2คนที่เจนสนามรบพอๆกับราชาไททัน ราชาผู้กล้าหาญมีใจมุ่งมั่นเด็ดเดียว มิหวั่นต่อคำถามขององค์รักษ์คนสนิท
"เรายังเดินไปไม่ถึงลุ่มแม่น้ำใหญ่เลยซูรัส"
"นางจะโกหกแล้วหรือไม่พระองค์...."
"นิมิตเทพอยู่กับเรามาตั้งแต่นางถือกำเนิด มีนิมิตไหนที่นางมองมิเห็นบ้างล่ะ?" และนั้นเป็นคำถามที่ทุกคนต่างรู้คำตอบ นางมิเคยผิดพลาด และแท้จริง นางมิเคยพูดปลด แต่ถึงอย่างนั้นซุรัสก็ยังมิหายห่วง
"พี่ท่านข้าว่าทางที่เราเดิน อาจจะลัดเลาะออกมานอกเส้นทาง มองตามแนวนกที่มุ่งสู่ทิศตะวันตกสิพะยะค่ะ"
"เจ้าพึ่งเคยเดินป้าเป็นแน่...ไพเซียส" ราชาไททันหันมาหัวเราะน้องชายต่างพระมารดา โพเซียสยิ้มมุมปาก เป็นเชิงขบขัน แต่ทว่าในใจ...มิใช่เช่นนั้น
"เอาเป็นว่าอีกไม่เกิน1ยามเราจะถึงลุ่มแม่น้ำหากเมื่อถึง เราจะพักเอาแรง1แรม ก่อนออกเดินทางต่อ"
"ถามจริงนะพะยะค่ะราชาข้า...ท่านดั้นด้นมาเพื่อเอาไข่มังกร เพื่ออะไรกัน"
"มันคือสิ่งวิเศษ" ราชาไททันเลี่ยงคำตอบ ขณะที่พระองค์เดินอย่างมุมานะ และนั้นทำให้ซูรัสยิ่งเครือบแครง
"มันมิได้วิเศษขนาดนั้น ข้ากระหม่อม พระองค์ก็ทรงรู้ว่าเรามิเคยรบกับมังกร หลายศตวรรษที่มันหลับไหลมิออกมา"
"เจ้ากลัว? หรอกหรอ" โพเซียสเอ่ยถามเสียงหยัน ความขับขันจากเด็กหนุ่มน้องชายราชาไททันทำให้ ซูรัสหัวเสีย
"น้อยๆหน่อย องค์ชาย ข้านี้น่ะจะกลัว มิมีวันหรอก...เพียงแต่ข้าสงสัย"
"เก็บคำถามของเจ้าไว้เถอะ นั้นแม่น้ำ" กษัตริย์ไททันว่าพล่างชี้ไปที่ลุ่มน้ำสีเขียวฟ้าอล่ามงดงาม ลุ่มแม่น้ำใหญ่สายธารที่จะนำทางสู่มังกร
"โว้วววแม่เจ้า..." ทหารสองนายรีบดันดั้นวิ่งก่อนหน้าราชา แต่ถึงอย่างนั้นราชาแห่งโอลิมซีก็มิคิดเอาความ ความกระหายน้ำทำให้ทุกคนมิสงสัยอันใดต่อไป เียงปราถนาจะได้ดื่มน้ำนี้ เพียงพอ
"แม่น้ำใหญ่ ตามที่ท่านบอกจริงๆพี่ท่าน"
"มันอาจถึงเวลาที่เจ้าควรออกรบได้แล้ว โพเซียส" และนั้นเป็นคำหยอกล้อที่โพเซียสเกลียดชัง....กษัตริย์ผู้หลงตัวเอง เขาด่าและส่งสายตาเกลียดชังในใจ แต่มันมีความกลัวปิดบังจนเกินกว่าจะกล้าแสดงออกมา
"ในที่สุดก็มาถึงครึ่งทาง"
"เริ่มต้นต่างหาก...ซูรัส" ราชาไททันลงไปในยน้ำก่้อนจะล้างพระพักต์พระองค์ทั้งดื่มน้ำให้ชื่นใจ
"เห็นพระองค์อยู่ในน้ำแล้ว ข้านึกถึงตอนเราสู้รับกับพวกครึ่งม้า"
"เซนทรอ" ราชาเรียกชื่อ คนครึ่งม้า ซูรัสพยักหน้าและเอ่ยต่อ
"พะยะค่ะ เราสู้กับมันเกือบ10วัน กว่าพวกมันจะยอมแพ้พ่าย"
"ถึงกระนั้น ก็ใช้เวลาล่วงมาเกือบ10" โพเรียสเดินเข้ามานั่งบนโคดหินก่อนจะเอ่ยต่อท้าย... ซูรัสนึกชัง แต่มิคิดจะตอบอันใดไป เพราะราชาไททันก็ทำเช่นนั้น
"เจ้าจะรู้กำหนดเวลาได้อย่างไรโพเซียสในเมื่อเจ้ามิเคยรบชนะเลย"
"ฮ่าๆๆๆ พระองค์ทรงหยอกล้อพระอนุชาน่ารักเสมอ"
ไอ้สวะ !!
เรื่องขบขนนั้นทำให้โพเรียสหน้าชา เขาเกลียดไอ้องค์รักษ์แสนโง่เง่าของพี่ชายตน พี่ชายต่างมารดาที่มิเคยเห็นความเก่งกล้าของพระอนุชาเลย น้องต่างพระมารดาที่พระองค์จำต้องรับอุปถัมตามคำขอ ของอดีตกษัตริย์ยูเคไทน์
"เจ้าขำอะไรนัก"
"ท่านไง มิเคยรบแต่กล้าถามถึงวันเดือนปีในการรบ ช่างน่าขำเสียจริง"
"หุปปากเจ้าเถอะ เจ้าสุนัขรับใช้"
"หยุดหยาบคายซะ โพเซียส!!!" เสียงกำหลาบของราชาไททันทำให้ทั้งสองคนหยุดอาการดึงดันใส่กัน และพระอนุชาก็สงบลงดังไฟโดนน้ำ ....
"เลิกถกเถียงกันได้แล้ว พวกเจ้าควรจะแยกย้ายกันไปตั้งที่พัก หากอีก1ยามฟ้าจะมืดเราจะมิมีที่พักเสียก่อน"
"น้อมบรรชาพะยะค่ะ" ซูรัสเอ่ยน้อมรับ และเดินจากไปทิ้งไว้เพียงโพเซียสที่มองตามองค์รักษ์คนสนิทของราชาไททันด้วยความโกรธแค้น ไอ้สวะเอ้ย
"เจ้าก็เช่นกันหักทำตนให้เหมาะกับราชวงศ์โอลิมซีด้วย"
"ข้านี้น่ะ..."
"เจ้าอย่าลืมฐานันดรตนเอง เจ้ามิใช่ลูกกษัตริย์โดนสมบูรณ์แท้ โพเรียส เพียงแต่เจ้าคือลูกชายของราชายูเคไทน์ แต่แม่เจ้ามิใช่ราชินีเรเนเมส...เช่นข้า ความสามราถเจ้า...ก็ควรจะพัฒนาให้สมกับสายเลือกกษัตริย์เช่นกัน" ราชาไททันเอยดุด้วยความรำคราญ น้องชายต่างพระมารดามิเคยทำเรื่องดีๆให้เลย นอกจากเรื่องไร้สาระที่ราชาไททันต้องตามแก้ ดูก็รู้ว่าใครเก่งกว่าใคร แต่โพเรียสมิคิดเช่นนั้น ในใจมิเคยคิดอยากร่วมใเชื้อสายกษัตริย์นี้กับราชาไททัน
"สักวันหนึ่ง ข้าจะเอามีดปาดคอเจ้า ไททัน"
เสียงนั้นดังกรึกก้อง....ในใจของโพเรียสเพียงผู้เดียว
สักวันจะเป็นวันที่ข้าได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ราชาไททันจะตายด้วยเท้าของเขา และนั้นคือการสาบานในใจของ
โพเซียส .
.......................................................................................................................
To be Continue 3. การกำเนิดลูกแฝด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น