ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1. แอนโดร่า ทำนายฝัน
ว่ากันว่า เจ้านครโอลิมซีนั้น คือบุตรชายของเฮอร์คิวริส เขาช่างแข่งแกร่ง และเป็นขุนพลนำทัพที่กล้าหาญชาญศึก ไม่ว่าสมรภูมิใดๆ เจ้านครนามว่าไททัน จะย่างก้าวไปที่ใด หากแม้ประกาศสงครามแล้วไซร้ เมืองนั้นต้องเป็นจุน เว้นแต่เพียงความฝันเดียวที่มิอาจไปถึง ความฝันในทุกราตรีของเจ้านครผู้กล้าหาญ เสียงหัวเราะนั้นไม่เคยคุ้นหู แต่ทุกครั้งที่หลับไหล จะได้ฟังทุกร่างตรี ใบหน้านั้นมิได้เห็น แต่รับรู้ว่าคือสตรี ที่ช่างมะผิวขาวดุดแดดรุ่งอรุณ
ราชาไททัน ทรงฝันถึงสิ่งที่มาเกือบ6ปี แม้จะไม่เคยเอ่ย แต่ทุกราตรีนี้ช่างรุนแรงขึ้น กัดกินความต้องการอยากรู้ อยากค้นหาว่า เทพธิดาจากไหน ทรงเลนตลกกับพระองค์ ราชาที่มากด้วยขุนพลและผู้ชนะศึกที่กล้าหาญ
"ข้าจะต้องฝันถึงนางอีกกี่ราตรี" ราชาไททัน ทรงลุกจากเตียงขณะตื่นจากบรรทมด้วยใจร้อนรุม ทรงไม่ไหวแล้ว ในหัวจะระเบิดด้วยความใคร่รู้ หันไปหาราชินีซาเฟียร่าผู้งดงามนั้นยัง นอนหลับนิ่งอยู่ข้างกาย หากแต่...ไม่ใช่นาง นางมิใช่คนที่อยู่ในฝันพระองค์ ความร้อนรุ่มนั้นทำให้ ราชาผู้หิวโหยความอยากรู้นำทางตนไปหา นิมิตเทพ หรือ ผู้ทำนายความฝัน ดวงชะตาของพระองค์ กฏของนิมิตเทพคือ 1. นางต้องบริสุทธิ์ตราบชั่วนิรันดิ์ มิฉะนั้นนางจะไม่สามารถมองอนาคตได้อีก 2.นางต้องอยู่บนหอคอยสูงสุดเหนือเมือง เพราะแสงพระจันทร์จะมองนิมิตอันดี ตามความเชื่อของชาวเมืองโอลิมซี และ ข้อสุดท้าย 3.นางจะทำนายให้ใครไม่ได้หาก เจ้าของนายคือราชาไททัน มิทรงอนุญาติ
แน่นอนว่าขุนพลนักรบอยากรู้ดวงชะตาตน แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีสิทธิ์ครอบครองนิมิตเทพ มีเพียงราชาไททันเท่านั้นที่ยั่งรู้สิ่งใด จะได้รู่อย่างที่หวัง ราชาไททันเดินออกจาราชวงไปอย่างสงบ โดยไม่ต้องการองค์รักษ์สักคน เพราะนี้คือความกลัดกลุ้มที่แน่นอยู่ในใจมานาน จนไม่ต้องการพิธีรีตองในการเสด็จ เมื่อมาถึงหอคอยใจกลางเมือง ที่เป็นที่อยู่เดียวของนิมิตเทพ หรือผู้ทำนายชะตาของพระองค์ พระองค์ไม่รอช้าที่จะเร่งรีบเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดที่สูงราวฟ้า ความอยากรู้ นั้นทำให้แอนโดร่ารู้ถึงการมาของพระองค์ เจ้านครโอลิมซี
"ก๊อกๆ" ราชาไททัน เคาะประตูรัวๆ และเปิดเข้ามาโดยไม่ต้องรอผู้ใดอนุญาติ
"ว่าแล้ว ว่าพระองค์จะต้องมาหาข้า" แอนโดร่ายิ้มสง่าอยู่ริมหน้าต่าง หน้ามีเนตรสีขาวใสสว่างเช่นคนตาบอด แต่มิได้ตาบอด เนตรนั้นถูกเรียกว่า เนพอาโพโล เนตรสีขาวนั้นเอง
"ขอโทษที่ข้าต้องมารบกวนเจ้าในยามราตรี" ราชาผู้กลัดกลุ่มเอ่ยขอโทษเพียงเบาๆ และนั่งลงตรงโต๊ะที่ประจำของพระองค์เพียงผู้เดียว
"มิเป็นอันใด...เพราะถ้าหากท่ายอยากรู้เมื่อข้าหลับ ข้าก็ต้องตื่นมามองนิมิตนั้นให้พระองค์ได้เสมอ"
แอนโดร่าในชุดรากยาวสีเขียวมรกรต ทรงดีสวยเหมือนนางฟ้า หล่อนมัดผมเปียมวยมาข้างๆและทัดด้วยใบมะกูดและดอกมัมที่ประดับไว้ เป็นสัญญาลักษณ์ของเทพี อาเทร่า เทพีแห่งนิมิตที่คนเมืองบูชา
"นางคือใคร...."
"ท่านใจร้อนไป ราชาข้า" แอนโดล่ายกมือห้ามขณะที่ในมือกำลังก้มหยิบลูกแก้วประจำตัว สีใส
"ต้องขอโทษในความอยากรู้เกินไปของข้าด้วยบ แต่นี้มันฝันซ้ำๆมาเกือบทุกคืนตลอด6ปี" ราชาไททัน พลั่งพลูความอึดอัดออกมา บ้าชะมัด พระองค์รู้สึกโงงมที่กษัตริย์ผู้กล้าหาญจะบ้าคลั่งสตรีในฝัน
"ข้าจะลองให้ท่านบอกความฝัน โดยมองลูกแก้วนี้ผ่านตาของข้า" แอนโดล่านั่งลงและจ้องตาของราชาไททัน พระราชาไม่ทรงรอช้า รีบร้อนรนสบตานิมิตเทพของพระองค์
"เจ้าเห็นอะไร...." แอนโดล่าไม่ตอบ ขณะที่ราชาไททันร้อนใจถาม
"ท่านฝันมานานเท่าไหร่แล้ว ราชาข้า"
"6ปี 6ปีแล้ว" ราชาไททันตอบด้วยความเหนื่อยอ่อนใจ 6ปีที่งมงายในฝัน มิใช่วิศัยของวีรกษัตริย์เลย
"พระองค์ จะมิทรงตามหานาง นางจะเกิดขึ้นมาบนโลกนี้ ตามความปราถนาของซุส" แอนโดลาบอกขณะจ้องเขม็งเข้าไปในตาของราชาไททัน ลูกแก้วในมือนางเบ่งเป็นสีเขียวสว่างและปนสีส้มเข้ามาทีละนิด
"หมายความว่าเช่นใด...."
"นางมีตัวตนจริงๆ มีตั้งแต่วันที่ท่านเริ่มฝันถึง.....และ...." แอนโดล่านิ่งงันไป นั้นทำให้ราชาไททันร้อนใจ
"และ...อะไร?"
"นางคือสตรี....ที่ท่านไม่ควรนำมาที่โอลิมซี" ราชาไททันขมวดคิ้วกับคำพูดน่ากลัวนั้น น้ำเสียงของแอนโดล่ามันน่ากลัวกว่ามากจนราชาอยากจะหลับตาเพื่อยุติคำถามนี้....
"แรงปราถนานี้มิได้มีท่านเพียงคนเดียวที่ได้รับ ราชาข้า..." หมายความว่า...?
"วีรกษัตริย์ทุกคนที่อยู่ในมหานครต่างๆนี้ ล้วนฝันถึงนาง"
"ข้าก็ยังไม่เข้าใจ ทำไม...ทุกคนจะต้องฝันถึงนางด้วย"
"เพราะนางคือสิ่งที่ซุสทำให้บังเกิดขึ้น ทวยเทพมิทรงยินดีในสิ่งที่พระองค์ทรงมีปณิญาญบางอย่างในใจ"
"...."
"เชื่อเถอะราชาข้า อย่าแม้แต่จะตามหานางหรืออย่าแม้จะคิดถึงนาง...ภายในอีก10ปีข้างหน้า หากพระองค์ฝืนชะตานี้ได้ เมืองโอลิมซีจะยิ่งใหญ่"
"....." ราชาไททันทรงมิเข้าใจอะไรมาก แต่พระองค์ตั้งใจจะทำตาม
"มหานครจะพินาถหาก พระองค์คืดจะนำนางมา..."
"แล้วมีวิธีหยุดฝันข้าได้หรือไม่"
"มีเพค่ะ...."
"อย่างไร"
"ธิดาแฝดจะช่วยหยุดยั้งแรงปราถนาได้ ธิดาแฝดที่เกิดจากไข่มังกรในเมืองบอมเบยี"
"ข้ามิเข้าใจ หมายถึงข้าจะต้องมีธิดาแฝด? งั้นหรือ"
"พระองค์จำเป็นจะต้องมี....แต่มันยากมากหากท่านจะหวังพึ่งธรรมชาติ หม่อมฉันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นเพค่ะ" นั้นทำให้ราชาไททันงุนงง หากจะใช้วิธีอื่นเพื่อลูกแฝดนั้น ไม่เห็นการใดจะเหมาะสม
"ข้าจะทำอย่างไร ให้ราชินีข้าท้องลูกสาวฝาแฝด"
"ไข่มังกร บาบีเย ในเมืองนครมังกรแห่งบอมเบยี ทิศตะวันตก" แอนโดล่าเขย่าลูกแก้วแรงขึ้นๆขณะที่มองนิมิตที่อยู่ ของรังมังกรใหญ่ยักษ์ อสูรกายที่มิยุ่งกับคน....แต่คน กำลังจะยุ่งกับมัน
"เจ้าจะให้ข้านำไข่มังกรมาให้ราชินีกินงั้นหรอ?" ช่างชาญฉลาดสมกับกษัตริย์แห่งโอลิมซี แอนโดล่ายิ้มมุมปากก่อนจะพยักหน้า และ...
"และนางจะต้องกินไข่มังกรลูกที่ใหญ่ที่สุด ของมังกรตัวเมียที่ออกไข่ในคืนพระจันทร์เต็มดวง"
"เจ้าว่ามันจะดุบ้าเกินไปหรือไม่ ข้านี้นะจะทำเรื่องงมงายเช่นนั้น นิมิตเทพ"
"พระองค์ต้องเชื่อ และต้องทำเพค่ะ มันคือประสงค์เดียวที่พระองค์จะรอดพ้นจากโทสะของซุส"
"ซุสงั้นหรอ ข้านี้แหล่ะแข็งแกร่งกว่าซุส ข้าคือมนุษย์ตัวเป็นๆ มิใชjเทพสมุติขึ้นมาของชาวเมืองใดทั้งสิ้น" สิ้นเสียงนั้น ฟ้าก็ร้องพิโรธบรรดาลฝนฟ้าตกลงมาห่าใหญ่ สายฟ้าเปรี้ยงลงกลางหอคอยที่ราชาไททันยืนอยู่ แอนโดล่านิ่งงันกับท่าที ยโสของราชาแห่งโอลิมซี เขาเป็นแค่มนุษย์ผู้มีบาปเต็มตัว ยังจะกล้าเทียบตนกับเทพเจ้าบนฟ้า งั้นหรอ
"ข้าบอกท่านแล้ว และช่วยแก้ตามหน้าที่นิมิตเทพ หาก....พระองค์มิทรงเชื่อ จงเตรียมทหารที่กล้าแข็งเหนือเทพเพื่อสู้กับกองทัพอสูรกายที่รับคำสั่งซุสเถอะเจ้าค่ะ"
"เจ้าขู่ให้ข้ากลัวเทพงั้นหรอ แอนโดล่า" กษัตริย์ของนางเปล่งวาจาออกมาอย่างเดือดดาล ราชาไททันรู้สึกมิพอพระทัยกับคำดูถูกของนิมิตเทพที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า
"ซุสเป็นเทพเจ้าบนเทือกเขาโอลิมปัส มหานครเสียดฟ้าที่มีสายฟ้าเป็นอาวุธ พระองค์มิใช่เทพเจ้านะเพค่ะ ถ้าหากหากพระองค์กำลังจะตามหาตัวของนาง...ในมิช้านี้ พระองค์จะต้องก่อสงครามกับอสูรกายนับพัน"
"ข้าพร้อมรบ ชายชาติกษัตริย์มิกลัวตาย หากจะเป็นเทพจริงแล้วไซร้ข้าก็พร้อมจะทำ..."
"พระองค์จะมิสู้เพียงคนเดียว" และแอนโดล่าก็ให้ราชาไททันผู้ทรงทะนงค์ตนได้เห็นในสิ่งที่มิควรจะได้รู้ ภาพสงครามในมหานครโอลิมซี ภาพคนล้มตาย เพราะอสูรกายหน้ารังเกลียดนั้น และ....ซาเฟียร่า ถูกซุสเอามืดปาดคอตายลงต่อหน้า ภาพนั้นหยุดลงที่สายตาซาเฟียร่าที่มองมาที่พระองค์
ฮึกๆๆ แฮ่กๆ เสียงหอบหายใจรัวๆราวกับภาพตรงหน้านั้นคือความจริง
"นิมิตข้า...." แอโดล่าเอ่ยเสียงนิ่ง ขณะถอยมือห่างจากศีษระของราชาที่สิ้นฤธา
"จะต้องทำเช่นไร?"
"อย่างที่ข้าบอกเพค่ะราชาาข้า"
"ข้ามิเข้าใจ เจ้าจะให้ข้านำไข่มังกรนั้นมาเพื่อให้ราชินีมีลูกแฝด เด็กแฝดจะช่วยอะไรได้"
"เพราะเด็กแฝดมิใช่ลูกของพวกท่าน แต่ฝากท้องมากับท้องราชินี เมืองที่มีธิดาจากมังกรคือกำแพงคุ้มภัยที่ซุสจะมองมิเห็นพวกท่าน" แอนโดล่าบอกอย่างเยือกเย็น การที่มีมังกรอยู่ในเมืองมิสามารถเป็นไปได้ แต่หากมังกรฝากท้องคนมาเกิด เด็กที่เกิดคือสายเลือดของมังกรงั้นหรอ
"เจ้ากล้ามากที่จะให้ข้าเพาะสายพันธ์อสูรนั้น"
"สายพันธ์อสูรนั้นหลบซ่อนตัวจากเทพเจ้าอยู่นานนับ 10ศตวรรษเพราะพวกมันมีมรกตแดง เชื้อสายมังกรทุกตนมีมรกตแดง และซุสจะมองมิเห็น หากมรกตแดงมิถูกทำลาย ข้าให้ท่านนำไข่มังกรมาให้ราชินีกินเพราะนางจะต้องท้องลูกแฝด มังกรมีสายเลือดมรกตแดงทุกตัว และธิดาแฝดลูกท่านจะออกมาพร้อมกับมรกตแดงในสายเลือด และเมืองของเรา นครโอลิมซีจะปอดภัยเพราะเด็กแฝดที่เกิดจากไข่มังกรเพค่ะ"
"มรกตแดง เราก็ขโมยมันมาเลยสิ"
"ขนาดอสูรกายยังกลัวซุส จนต้องกินมรกตแดงเข้าไปในตัวเพื่อเก็บรักษามันไว้ เราเป็นเพียงมนุษย์มิอาจทำอะไรได้มากไปกว่านี้ เพค่ะ" แอนโดล่าเดินเข้ามาใกล้ราชาหัวดื้อที่ดึงดันหาข้อโต้งแย้งในเรื่องของเทพเจ้าซุส
"ซุสจะฆ่าข้าทำไม ข้าคนเดียวงั้นหรอ" ราชาไททันเอ่ยถามเสียงสงสัย
"ซุสทรงกริ้วที่มีวีรกษัติรย์ประกาศกรึกก้องว่าตนนั้นเหนือเทพ ....ถ้าพระองค์เป็นเทพเจ้าจะทรงทำเช่นไร?"
"ข้าจะฆ่ามัน..."
"ซุสทรงคิดเช่นพระองค์ โชคร้ายที่บรรดากษัติรย์ที่ท้าทายเทพ ดันเป็นราชาแห่งโอลิมซี" แอนโดล่าเชยคางกษัตริย์ของนางพร่างใช้เนตรสีขาวจ้องเข้าไป มองเห็นถึง ความสบสน...ลังเล...และหวาดกลัว
"ท่านต้องกลัว เพราะมนุษย์มีความกลัว"
"ข้าจะไปบอมเบยี บอกวิธีการขโมยไข่มังกรมา และทิศทางวันเดือนปีที่จะนำไข่มา ต้องการคนกำลังพลมากเท่าไหร่ข้าจะทำ" ราชาไททันเอ่ยด้วยความจำยอม ในเมื่อพระองค์สู้เทพเจ้าที่ไม่เคยเห็นไม่ได้ ก็ไม่แปลกที่จะปกป้องนครไว้ก่อน พระองค์รักราชินีของตนจนไม่อาจลบลืมสายตาคู่นั้นของ ซาเฟียร่าในนิมิตนั้นได้
"ดาบสีขาว อาชานัยและพลทหารคู่ใจพระองค์ ไปทางทิสตะวันตกตามลุ่มแม่น้ำใหญ่ จะเจอถ้ำมังกรอยู่ลึกในหุ่มเขา ร้อนดังราวา ถ้าหากจะขโมยไข่ต้องรอจนฟ้ามืด เพราะมังกร...ตาบอดตอนกลางคืนพวกมันได้กลิ่นเพียงอย่างเดียว เพค่ะ ราชาข้า" แอนโดล่ายิ้ม และย่อตัวก้มหัวทำความเคารพกษัตริย์ของนาง ราชาไททันถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าเอ่ยลา การมาหานางครั้งนี้ ใช่สิ่งที่ควรทำที่สุดแล้วหรือเปล่านะ.... พระองค์คงกำลังถามใจตัวเองอยู่.
หากจะมีสิ่งใดที่ราชาทรงเกลียดคงจะหนี้มิพ้นดอกทานตะวัน นับ100ต้นที่ ราชินีซาเฟียร่าปลูกมันเพื่อรอคอยการให้กำหนดบุตรชาย นางหวังเช่นนั้น เช่นราชินีทุกองค์ หวังจะได้พระโอรสสืบเชื้อสายที่หารกล้าของ ราชาไททัน
"ซาเฟียร่า" ราชาไททันเอ่ยเรียกราชินีของตนเบาๆ ขณะที่นางก้มลงตัดดอกทางตะวันนั้นอยู่กับข้าทาสทั้งหลาย ราชินีผู้มีใบหน้างดงามราวเทพธิดาหันตามทิศที่พระสวามีเรียกขาน ราชินียิ้มระมุนและยกตัวขึ้นสูงขณะที่กำลังก้มลงไปตัดดอกทางตะวัน ราชินีซาเฟียร่า สวมชุดคลุมสีมัมยาวรากพื้นพร้อมมงกุฏคริสตัลสีอวามารีน สีประจำเมืองโอลิมซี "พระองค์ทรงเสด็จมามิบอกข้าเลย" ซาเฟียร่าเดินเข้าสวมกอดราชาของหล่อน อย่างรักใคร่ ราชาไททันสวมกอดและจูบที่ขมับนางหนักๆ ก่อนจะถอดริมฝีปากจากกลิ่นที่คุ้นเคย
"ดอกทานตะวันนี้ ช่วยทำให้อาเทร่าปลื้มเจ้ามั้ย" ราชาไททันเอ่ยถามเสียงขบขัน
"เทพอาเทร่า เพค่ะ มิใช่อาเทร่า อย่างที่พระองค์หมิ่น"
"ฮ่าๆ ใหนเจ้ากลับเข้าข้างสุมติเทพได้" ราชินีมีสีหน้าลำบากพระทัย ในขณะที่สามีทรงมีสีหน้าตลกกับสิ่งที่ตนพูด
"พระองค์มิควรล้อเล่นกับทวยเทพนะเพค่ะ"
"หากเจ้าทำพระพักต์เศร้าอีกนิด จะต้องจำคิดว่าเจ้าปันใจให้เทพองค์ใดเป็นแน่" ราชาทรงหยุดเดินและสวมกอดราชินีจากด้านหลัง ราชินีคนงามทรงเขินอายจนมิเป็นอันทำอะไร
"ข้าทาสเห็นเยอะเพค่ะ พระองค์"
"ข้ามิเห็นสนใจเลย" และพร้อมทั้งเกยคางอันแหลมคุมด้วยหนวดที่ดูดุดันราวนักรบ วางพาดบนหัวไล่เล็กเนียนขาวนั้นของราชินี ราชินี ทรงเนียมอายราชาไททัน แต่ก็มิได้ขัดขืนเช่นตอนแรก
"ซาเฟียร่า ข้ามีเรื่องจำต้องให้เจ้าช่วย"
"เรื่องอันใดเพค่ะ"
"ข้าจำเป็นต้องมีลูดสาวฝาแฝด..."
"พระองค์!!!!"
..............................................................................................................................................................................
To connect 2. พิชิตไข่มังกร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น