ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Swords [TaoKacha]

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      1
      13 ม.ค. 55




                 แม้ว่าเจ้าตัวเล็กจะหลับฝันหวานไปนานแล้ว แต่เต๋าก็ยังข่มตาไม่ลงสักที ยิ่งจ้องมองใบหน้าของคชาใกล้ๆก็ยิ่งรู้สึกหนักใจ ความคิดมากมายวนเวียนในหัว

     

              ต้องพาองค์ชายคชาไปคืน จะได้เลิกเข้าใจผิดกันซะที สถานการณ์อาจจะดีขึ้น

     

              แต่มันจะช่วยได้จริงๆเหรอ?

     

              แต่ยังไงองค์ชายก็ควรได้กลับไปอยู่ในวัง

     

              แต่อันตรายแบบนี้จะพากลับเข้าไปยังไงดี อย่าเพิ่งเลยดีกว่า

     

              แต่เราก็ไม่มีสิทธิ์รั้งคชาไว้ไม่ใช่เหรอ?

     

              แต่...

     

              แต่.......

     

              แต่...........

     

                เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นทำให้เขากลายเป็นคนไม่เด็ดขาด ทั้งๆที่เมื่อตอนเย็นนั่งคิดอยู่นานจนตัดสินใจจะรีบส่งตัวคืนแท้ๆ แต่เมื่อครู่เจ้าเด็กขี้อ้อนก็มาทำให้หวั่นไหวอีก

     

                แล้วก็เผลอคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่องค์ชายหลงทางมาพักอยู่ด้วย

     

              คนอะไรบอบบางชะมัด... นิดๆหน่อยๆก็ป่วยแล้ว...

     

    ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง จะดูแลบ้านเมืองไหวเหรอ...
    เอ๊ะ แต่ตอนนี้ก็เป็นหลายอย่างแล้วนี่นา...

     

              เด็กขี้อ้อนเอ๊ย... อยู่ๆก็มาขอเรียกว่าพี่ชาย... ทำแบบนี้กับทุกคนมั้ยเนี่ย...

              แล้วช่วงหลังๆมานี่... ทั้งอ้อนทั้งเอาใจ... อยู่ที่วังจะทำตัวแบบนี้มั้ยนะ...

     

              ทำไมยอมให้กอดง่ายจังนะ... กอดตอบเราด้วย... แต่ก็ดีเหมือนกันนะ...

     

              เป็นองค์ชายที่จิตใจดีจริงๆ รักม้า แถมยังช่วยเหลือเป็ดบาดเจ็บอีก

     

              เป็ดงั้นเหรอ?

    เจ้าเป็ดน้อยของชา...

              ลูกเป็ดบาดเจ็บที่คชาขอเลี้ยงแต่เราบอกให้พากลับฝูงเพราะไม่อยากให้ฝืนธรรมชาติ...

              เชื่อฟังดีมาก... ทั้งๆที่ตัวเองก็คงไม่ได้เต็มใจเท่าไหร่... เป็นเด็กดีจริงๆเลย...

              ตอนพามันไปส่ง... คชาเกือบจะร้องไห้... คงรักมันมากสินะ...

             

              เริ่มเข้าใจความรู้สึกขององค์ชายคชาตอนนั้นแล้วล่ะ...

              ใจหาย...

     

              เอาเถอะ... ธรรมชาติขององค์ชาย ก็ควรจะอยู่ในวัง มีชีวิตที่สุขสบายต่อไป

              อย่ายื้อไว้ อย่าฝืนเลย

     

     

                ...

     

     

                ...

     

     

    ...

     

     

              ร่างเล็กขยับยุกยิก ก่อนจะค่อยๆปรือตารับแสงสว่างยามเช้า เมื่อรู้สึกได้ว่าข้างกายตัวเองว่างเปล่าก็รีบลุกขึ้นนั่ง องค์ชายที่ยังงัวเงียมองไปรอบๆห้อง เห็นว่าพี่ชายคนพิเศษของตนนั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ที่พื้นก็ตรงเข้าไปนั่งข้างๆ

     

                “เสื้อผ้าชานี่... พี่เต๋าจะทำอะไรเหรอ...”

     

                เต๋าหันมายิ้มบางๆให้ ก่อนจะตอบ

     

                “ช่วยเก็บเสื้อผ้าไง...” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง “องค์ชายคชาจะได้กลับวังแล้วนะ... ดีใจมั้ย...”

     

                ได้ยินอย่างนั้น องค์ชายตัวเล็กก็หายงัวเงียเป็นปลิดทิ้ง

     

                “หมายความว่า...” เสียงหวานกล่าวอย่างไม่มั่นใจนัก

     

                “วันนี้พี่จะพาคชาไปส่ง...”

     

              วันนี้เลยเหรอ... ทำไมเร็วจัง... แล้วทำไมพี่เต๋าถึงไม่บอกชาล่วงหน้า...

     

                คนตัวเล็กนิ่งไปพักใหญ่ จนกระทั่งมือขาวมาสะกิดเตือน

     

                “ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ จะได้เข้าเมืองกัน ใส่ชุดนี้นะ”

     

                แม้จะยังตั้งตัวไม่ทัน แต่ร่างบางก็ทำตามคำสั่งเช่นเคย รับเสื้อผ้าชุดหนึ่งจากมือชายหนุ่ม เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าเสื้อผ้านั้นไม่ใช่ของตัวเอง แถมยังเก่าจนหมอง ถือเดินออกไปอาบน้ำด้านนอก คชาไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงนกร้องที่เขาเคยชอบฟัง เพราะตอนนี้ในใจฟุ้งซ่านไปหมด

     

             

              จริงเหรอ...

     

    ชากำลังจะได้กลับวังไปหาท่านพ่อท่านแม่กับพี่ต้น...

              หมายความว่าชาต้องไปจากที่นี่แล้วสินะ...

             

              ชาต้องดีใจสิ... ชาอยากเจอทุกคนที่วัง... ชาคิดถึงทุกคนจัง...

     

              แต่พี่เต๋าล่ะ... พอชากลับไปแล้วจะได้เจอกันอีกมั้ย...

     

              คงจะยาก... ชาอยู่แต่ในวัง... ก่อนหน้านี้พี่เต๋ายังไม่เคยเห็นหน้าชา... ไม่รู้จักชาด้วยซ้ำ...

              กลับไปชาก็ต้องอยู่ในวังเหมือนเดิม... ส่วนพี่เต๋าก็อยู่เงียบๆที่นี่เหมือนเดิม...

              ถ้าไม่ได้เจอกันอีก... นานๆไป พี่เต๋าจะลืมชามั้ยนะ...

     

              กลัวจัง...

               

     

                ...

     

     

                ...

     

     

    ...

     

     

                เวลาผ่านไปพักใหญ่ คนตัวเล็กก็สวมเสื้อผ้าเก่าของช่างหนุ่มเดินกลับเข้ามาในบ้านพร้อมสีหน้าไม่สู้ดี เต๋าเห็นอย่างนั้นจึงเข้าไปหยอกหวังจะให้ผ่อนคลาย ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

     

                “ยิ้มหน่อยสิองค์ชาย... คิ้วย่นหมดแล้ว...” พูดพลางใช้นิ้วคลึงเบาๆตรงหว่างคิ้วอีกฝ่าย

     

                การกระทำนั้นทำเอาองค์ชายขอบตาร้อนผ่าวอย่างไร้เหตุผล

     

                “พี่เต๋า...”

     

                “ว่าไง?”

               

                “ทำไมพี่เต๋าถึงรีบส่งชากลับล่ะ”

     

                “มันจำเป็น... อีกอย่างชาจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวไง... ไม่ดีเหรอ... ชาเป็นองค์ชาย อยู่ที่นี่ไม่เหมาะหรอกนะ”

     

                “พี่เต๋าไม่อยากให้ชาอยู่แล้วเหรอ...” ถามด้วยเสียงสั่นนิดๆ น้ำตาเริ่มคลอ

     

                “ไม่ใช่แบบนั้น...” มือแกร่งลูบหัวปลอบคนคิดมาก “ชาเป็นองค์ชายของทุกคนไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ในเมืองลือกันว่าชา... เอ่อ...ตายแล้ว ชาควรจะรีบกลับไปแสดงตัวนะ อีกอย่าง ทั้งพระราชา พระราชินี องค์รัชทายาท ก็คงเป็นห่วงชามาก ชากลับไปอยู่กับพวกเขาเถอะ”

     

                “แล้วพวกกบฏ...”

     

                “เรื่องนั้น...” ชายหนุ่มมองตาองค์ชายอย่างจริงจัง “ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไม่ยอมให้ใครจับตัวชาไปอีก ชาจะต้องปลอดภัย”

     

                ถึงลึกๆแล้วจะยังกังวล แต่เมื่อได้ยินถ้อยคำยืนยันหนักแน่นขนาดนั้น ร่างเล็กก็ตื้นตัน โผเข้ากอดพี่ชายใจดี น้ำตาที่กลั้นไว้ก็พาลหยดลงมาจนได้

     

                “พี่เต๋า... ขอบคุณนะ... ขอบคุณจริงๆ พี่เต๋าดีกับชามาก”

     

                วงแขนกว้างโอบเอวบางไว้เช่นกัน มือข้างหนึ่งช่วยปาดน้ำตาให้

     

                “ก็ชาเป็นเด็กดี...” เสียงทุ้มกล่าว “ถ้าไม่ใช่ชา พี่อาจจะไล่ออกไปนอกบ้านตั้งแต่วันแรกแล้วก็ได้”

     

                ประโยคที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนนั้น ทำให้องค์ชายคลี่ยิ้มทั้งน้ำตา

     

                “เพราะชาเชื่อฟังพี่เต๋าใช่มั้ยล่ะ”

     

                “เด็กเอ๊ย...” เต๋าส่ายหน้าทั้งๆที่ยังยิ้ม “พร้อมจะไปรึยังองค์ชาย?”

     

                “ยังไม่พร้อมได้มั้ย ชาอยากอยู่กับพี่เต๋าต่ออีกนิดได้มั้ย”

     

    องค์ชายคชาเอ่ยขอพร้อมสายตาอ้อนวอน ทำเอาอีกคนใจอ่อนยวบอีกครั้ง

     

    วันสุดท้าย... เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆก็แล้วกัน...

     

    “งั้นให้เจ้าเพรสโต้แวะพาไปเล่นบนภูเขาสักพักก่อน แล้วค่อยพาคชากลับวัง แบบนี้ดีมั้ย?”

     

    “อื้ม...” เสียงหวานตอบ ตอนนี้เขาหยุดร้องไห้แล้ว

     

    เต๋าหอบหิ้วห่อผ้าใบย่อมที่บรรจุสัมภาระขององค์ชายไปแขวนไว้ข้างตัวม้า ส่วนดาบเล่มสวยที่เขาตั้งใจและเต็มใจมอบให้องค์ชายหลงทางนั้น เขาใส่ปลอกเหน็บไว้อย่างดี และไม่ลืมหยิบหมวกใบหนึ่งติดมือออกไปด้วย

     

    “คชา มาขึ้นม้าได้แล้ว” ช่างหนุ่มเรียก

     

    คนตัวเล็กปีนขึ้นม้าไม่สะดวกนักเพราะเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าตัวจนรุ่มร่าม แขนแกร่งจึงต้องช่วยประคอง ร่างสูงตามขึ้นไปนั่งประกบด้านหลังเช่นเดียวกับทุกครั้ง เขาเอื้อมไปกุมบังเหียนอย่างชำนาญ ก่อนที่เจ้าเพรสโต้จะออกตัววิ่งขึ้นเขา

     

    เมื่อถึงจุดหมาย ทั้งสองคนพากันไปนั่งเล่นที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นเดิม ทว่าในวันนี้ทั้งคู่นั่งพิงโคนต้นไม้ ทำให้ใกล้ชิดกันมากกว่าครั้งก่อน

     

    “พี่เต๋าดูสิ... เจ้าเพรสโต้มันกินดอกไม้ด้วย...” เสียงใสว่า พร้อมกับชี้ชวนให้ดูเจ้าม้าสีดำ

     

    “มันคงอยากเปลี่ยนรสชาติบ้างล่ะมั้ง...”

     

    “ถ้าคนกินบ้างจะเป็นอะไรมั้ยนะ...”

     

    “ไม่รู้...ชาก็ไปเด็ดมาชิมสิ...” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ทำเอาองค์ชายหน้ามุ่ย

     

    “พี่เต๋าอ้ะ...”

     

    “เออนี่... กลับวังแล้วชาจะทำอะไรบ้างล่ะ” เสียงทุ้มเปลี่ยนเรื่อง

     

    “อืม...” คชาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ชาก็คงไปหาท่านพ่อท่านแม่กับพี่ต้นก่อน แล้วก็คงเรียนวิชาต่างๆในวังเหมือนเดิมแหละ... พี่เต๋าล่ะ...”

     

    “ก็คงอยู่ที่นี่เหมือนเดิม... เผื่อว่าจะมีเด็กหลงทางมาอยู่อีกสักคน...”

     

    พี่เต๋าอยากให้มีคนหลงมาอยู่ด้วยอีกเหรอ เพิ่งบอกเองแท้ๆว่า...ถ้าไม่ใช่ชา...

     

    เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกว่าซึมไป ก็รีบกุมมือนุ่มเอาไว้

     

    “พูดเล่นน่า... แค่เด็กขี้แยคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่...” กล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

     

    ได้ยินอย่างนั้นองค์ชายก็ใจชื้นขึ้น เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่เอนศีรษะซบไหล่ของพี่ชายคนสำคัญอยู่เงียบๆ

     

    “ชารู้มั้ย... จริงๆแล้วพี่ก็มีน้องชายอยู่คนหนึ่ง อายุน่าจะพอๆกับชาเนี่ยแหละ” เต๋าชวนคุย

     

    “จริงเหรอ... ชาไม่เคยเจอเลยนี่เนอะ...” คชาประหลาดใจนิดๆ

     

    “อืม... ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วล่ะ...” เขายิ้มบางๆให้ “เสียดายที่ชาไม่มีโอกาสได้เจอ”

     

    “แล้วเขาจะโกรธมั้ยที่อยู่ๆชาก็มาแอบขอพี่เต๋าเป็นน้องแบบนี้...”

     

    “ไม่หรอก” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “น้องพี่ไม่คิดมากขนาดนั้น มันใจกว้างจะตาย แถมยังเป็นคนเก่งด้วยนะ แต่ก็ใจร้อนไม่เบา จะว่าไปพี่ก็คิดถึงมันอยู่บ่อยๆ”

     

    ได้ยินพี่ชายคนสำคัญพูดว่าคิดถึงน้องชายอีกคน องค์ชายก็รู้สึกชาๆอย่างบอกไม่ถูก

     

    “เขาคงสนิทกับพี่เต๋ามาก...” พูดด้วยเสียงเบาลงจนอีกฝ่ายสังเกตได้

     

    “ใช่... แต่ชากับน้องพี่ไม่เหมือนกันสักหน่อย... น้อยใจหรือไง... หืม...”

     

    “เปล่า”

     

    คชาฝืนยิ้มให้ เต๋าเห็นอย่างนั้นจึงยกแขนขึ้นโอบไหล่บางไว้

     

    “อย่าเศร้าสิ ตอนนี้พี่นั่งอยู่กับชา แล้วพี่ก็กอดชาอยู่ แบบนี้ไม่เรียกว่าสนิทหรือไง”

     

    “อื้ม...”

     

    องค์ชายรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ขยับตัวเข้าแนบชิดร่างสูงมากขึ้นๆ ปล่อยให้วงแขนอบอุ่นกอดอยู่อย่างนั้น

     

    ดีจัง... อยากอยู่แบบนี้ตลอดไปเลย...

     

     

                ...

     

     

                ...

     

     

    ...

     

     

    “สายมากแล้ว ออกเดินทางกันเถอะนะ” ชายหนุ่มกล่าวกับเด็กขี้อ้อนที่ยังคงซุกตัวอยู่ในอ้อมกอด

     

    “อื้ม...”

     

    หมดเวลาแล้วสินะ...

     

    คชาจำใจยอมรับ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปหาเจ้าม้าพร้อมเต๋า

     

    มือขาวลูบผมขององค์ชายอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ทำเอาองค์ชายคชาที่พยายามทำเข้มแข็งเกือบจะร้องไห้ ชายหนุ่มบีบไหล่เล็กเบาๆ ก่อนจะหยิบหมวกที่เตรียมไว้ออกมาสวมให้เพื่ออำพรางหน้าตา

     

    “เดี๋ยวครั้งนี้คชานั่งซ้อนท้ายนะ พอเข้าเมืองก็พยายามอย่าหันมองข้างทาง ก้มๆหน้าหน่อยก็ดี คนจะได้ไม่เห็น ถ้าคนแตกตื่นชาจะกลายเป็นเป้าแล้วอาจจะโดนพวกนั้นโผล่มาจับตัวไปอีกรอบ อยู่เงียบๆ ไม่ต้องสนใจใคร เข้าใจมั้ย?”

     

    “อื้อ... แล้วชาต้องเอาอะไรมาคลุมหน้ารึเปล่า?”

     

    “อย่าเลย... จะยิ่งผิดสังเกตเข้าไปใหญ่ ทำเหมือนคนทั่วๆไปดีกว่า”

     

    “อื้ม...” องค์ชายพยักหน้า

     

    “งั้นก็ขึ้นม้าเถอะ”

     


    ************************************



    สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน


    กลับมาแต่งต่อตามสัญญา วันที่ 13 เป๊ะ แหะๆๆๆๆ

    ช่วงสอบที่ผ่านมา รู้สึกว่าชีวิตโดนทำร้ายมามาก

    ถึงกับต้องนั่งปรับอารมณ์ก่อนแต่งอยู่ซํกพักเลยค่ะ



    ขอบคุณที่ยังแวะมาอ่านกันนะคะ  >"<



    ขอกอดทีนึง~ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×