ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Swords [TaoKacha]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 55





               ปวดฉี่!!!

     

    ความรู้สึกดังกล่าวทำให้องค์ชายคชาต้องฝืนใจลุกออกจากอ้อมกอดอุ่นๆของเต๋าตั้งแต่เช้ามืด ร่างเล็กที่ยังงัวเงียหยิบตะเกียงจากหัวเตียงเดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำหน้าบ้าน ขณะที่กำลังจะกลับมานอนต่อ สายตาก็พลันสะดุดกับเจ้าก้อนกลมๆที่ขยับยุกยิกอยู่บนพื้นทางเดิน

     

    “อะไรน่ะ?”

     

    องค์ชายเล็กถึงกับตาสว่าง รีบตรงเข้าไปหา ตั้งใจจะดูว่าเจ้าก้อนกลมนั่นคืออะไรกันแน่ ร่างเล็กนั่งยองๆลงข้างก้อนกลมปริศนา ใช้แสงสว่างจากตะเกียงช่วยส่อง แม้จะเห็นรายละเอียดไม่มาก แต่ก็พอทำให้มองเห็นได้ว่าก้อนกลมนั่นมีขนสีขาวๆปกคลุมอยู่ แต่ก็มีบางหย่อมที่ดูเหมือนขนจะหลุดหายไป บางจุดก็เป็นคราบสีแดงเข้ม

     

    นิ้วเรียวค่อยๆจิ้มเจ้าก้อนปริศนานั่นเบาๆ มันสะดุ้งแล้วผงกหัวขึ้นมองอย่างตื่นกลัวแต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ไกล คชาเองก็ตกใจไม่แพ้กัน

     

    “น... นี่มันลูกเป็ดใช่มั้ย...” เขาพูดเสียงสั่น “มันยังไม่ตายด้วย... ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้...”

     

    เมื่อไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร องค์ชายตัวน้อยก็ตัดสินใจเข้าไปขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่ม

     

    พี่เต๋ายังหลับอยู่เลย ถ้าปลุกขึ้นมาพี่เต๋าจะโกรธชามั้ย T^T

     

    ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำให้องค์ชายลำบากใจกว่าเรื่องเป็ด คงจะเป็นเรื่องการปลุกพี่ชายคนนี้นี่แหละ

     

    “พี่เต๋า... พี่เต๋า... ตื่นมาช่วยชาหน่อยสิ... พี่เต๋า...” เสียงหวานเรียกซ้ำๆ พร้อมกับสะกิดเบาๆที่แขนของคนนอนหลับ

     

    ไม่ได้ผลแฮะ พี่เต๋าไม่ขยับเลย ><””

     

    คนตัวเล็กยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่เนื่องจากไม่กล้าปลุกแรงกว่านี้ แต่พอคิดถึงเจ้าลูกเป็ดที่ขดตัวสั่นอยู่นอกบ้านก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงรวบรวมความกล้า ขยับเข้าไปใกล้หูของอีกฝ่าย แล้วเรียกเต็มเสียง

     

    “พี่เต๋า!

     

    วิธีนี้ได้ผล ร่างสูงลุกพรวดขึ้นจากเตียงทันที

     

    “มีอะไร?” คนถูกกวนถามอย่างหงุดหงิด

     

    “ชาขอโทษ...” ท่าทางพี่เต๋าจะโกรธ T^T

     

    “มีอะไรก็ว่ามา” แม้ว่าหน้าจะหายบึ้ง แต่น้ำเสียงก็ยังขุ่นอยู่

     

    “คือ...” คชาอ้ำอึ้ง “เป็ด...”

     

    “เป็ดอะไร?”

     

    “ชาเจอลูกเป็ดบาดเจ็บอยู่หน้าบ้าน”

     

    “เป็ดเนี่ยนะ???” เต๋าเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ “มันมาอยู่นี่ได้ไง?”

     

    “ชาก็ไม่รู้เหมือนกัน มันเลือดออกด้วย ชาไม่อยากให้มันตาย พี่เต๋าช่วยมันได้ไหม?” องค์ชายเกาะแขนคนเป็นพี่ ขณะเอ่ยขอร้องด้วยเสียงเศร้าๆ

     

                เห็นท่าทางแบบนั้น ชายหนุ่มก็ใจอ่อนลืมความโกรธเมื่อครู่ พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามเด็กขี้อ้อนออกไป

     

                “มันเจ็บหนักเหมือนกันนะเนี่ย” เสียงทุ้มกล่าว ทำเอาคชาหน้าเสีย

     

                “พี่เต๋าช่วยหน่อยนะ ชาไม่อยากให้มันตาย” ร้องขอด้วยเสียงสั่นเครือ

     

                “เอามันเข้ามาในบ้านก่อนดีกว่า”

     

                พูดจบ ช่างหนุ่มก็อุ้มเจ้าก้อนกลมๆเปื้อนเลือดนั่นเข้าไปในบ้านทันที เขาวางมันลงบนโต๊ะกินข้าว รื้อเอายาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลออกมา สั่งให้องค์ชายถือตะเกียงส่องที่ตัวสัตว์บาดเจ็บ มือขาวค่อยๆวักน้ำอุ่นชะล้างสิ่งสกปรกออก เอายาข้นๆป้ายบนปากแผลตามลำตัว แล้วใช้เศษผ้ายาวๆพันรอบขาสีเหลืองข้างหนึ่งซึ่งเป็นแผลลึก องค์ชายได้แต่ยืนมองอยู่ข้างๆอย่างหวั่นๆ

     

                “ทำแผลเสร็จแล้ว นายไปหาอะไรอุ่นๆมาให้มันนอนหน่อย” เต๋าสั่ง

     

              อะไรอุ่นๆ อะไรดีล่ะ  =.=???

     

                องค์ชายตัวเล็กยืนคิดอยู่สักพัก ก็วิ่งไปหยิบเอาเสื้อผ้าของตัวเองมายื่นให้

     

                “จะใช้นี่จริงๆเหรอ... ไม่ได้หรอก...” ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไปหยิบตะกร้าใบใหญ่นั่นมาดีกว่า ฉันจะไปเอาหญ้าแห้งมาปูให้มันด้วย”

               

                ไม่นานนัก ลูกเป็ดเลอะเลือดก็ได้ไปนอนในตะกร้าหญ้าอุ่นๆที่มีผ้าคลุมไหล่ขององค์ชายปูทับอีกหนึ่งชั้น ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวเศษหญ้าจะเข้าไปทำให้แผลติดเชื้อ แม้เต๋าจะบอกให้ใช้เศษผ้าที่มีในบ้านแทนก็ไม่ยอมเพราะกลัวว่าผ้าจะไม่สะอาดพอ

     

              ถึงกับสละผ้าคลุมไหล่ตัวเองให้มันเลยเหรอ?

    อ่อนโยนจริงๆ ดูๆไปองค์ชายคชานี่ก็ทำอะไรน่ารักดีนะ :)

     

     

                ...

     

     

                ...

     

     

    ...

     

     

                ช่วงสายของวัน คนตัวเล็กยังคงวุ่นวายอยู่แต่กับเจ้าเป็ดน้อยในตะกร้าบนพื้นบ้าน นั่งจ้องบ้าง ชวนเป็ดคุยบ้าง จนอีกคนต้องเอ่ยปากเรียก

     

                “มากินข้าวได้แล้วองค์ชาย”

     

                มือนุ่มๆแตะเบาๆบนหัวเป็ดเป็นการลา ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินดุ๊กดิ๊กไปนั่งทานอาหารฝีมือพี่ชายใจดี แต่ก็ยังไม่เลิกสนใจเรื่องเป็ดน้อยนั่นเสียที

     

                “พี่เต๋าว่าเจ้าเป็ดน้อยมานอนเจ็บอยู่หน้าบ้านเราได้ยังไง?” เสียงใสถาม

     

                “อืม... คงโดนตัวอะไรกัดแล้วคาบมาทิ้งไว้มั้ง” เต๋าสันนิษฐาน “อาจจะมาจากฝูงที่อยู่ในป่า ตรงบึงที่เราเคยขี่ม้าผ่านด้วยกันน่ะ แสดงว่ามันโดนลากมาไกลเหมือนกันนะ”

     

                “ถ้างั้นชาขอเลี้ยงมันไว้ได้ไหม?”

     

                “ไม่ได้” เสียงทุ้มปฏิเสธ

     

                “ทำไมล่ะพี่เต๋า มันน่าสงสารออก” คชาตัดพ้อด้วยความผิดหวัง

     

                “เป็ดป่าก็มีฝูงของมัน เราจะไปฝืนธรรมชาติสัตว์ได้ยังไง?” เต๋าอธิบาย “ต่อให้เราเลี้ยงดีแค่ไหนก็ไม่เหมือนให้มันอยู่กับพวกของมันหรอกนะ วิธีอยู่ วิธีกิน จะไปเลียนแบบธรรมชาติได้ไง ลองคิดดูสิ ถ้าฉันพานายออกไปทิ้งไว้ในฝูงสิงโต ให้พวกมันดูแลนายแทน พวกมันก็เลี้ยงนายอย่างดีในแบบของมัน เอาซากแกะสดๆมาป้อนทุกวัน นายจะชอบมั้ยล่ะ? ลองคิดดู... จะอยู่กับฉันหรือกับสิงโต?”

     

                “อยู่กับพี่เต๋า...” องค์ชายเถียงไม่ออก

     

    ถ้าคิดแบบที่พี่เต๋าบอก... หมายความว่ายังไงเจ้าเป็ดมันก็อยากกลับฝูงมากกว่าสินะ... T^T

     

    “เห็นมั้ยล่ะ...” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเศร้า “แต่จะอนุญาตให้เลี้ยงจนกว่าแผลมันจะดีขึ้น แล้วเราพามันกลับไปหาเพื่อนๆด้วยกัน แบบนี้ตกลงไหม?”

     

    “อื้ม...” ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มบางๆอย่างพอใจ

     

    “งั้นก็กินข้าวต่อได้แล้ว...”

     

    “อื้ม... แต่ว่า...”

     

    “ว่าไงอีก... องค์ชายตัวยุ่ง...”

     

    “ชาขอแบ่งข้าวของชาให้มันกินบ้างนะพี่เต๋า... ชากลัวมันหิว...” พูดพลางส่งสายตาวิงวอน ด้วยกลัวว่าคนทำอาหารจะไม่ยอมอีก

     

    “ก็เอาสิ...” เต๋าอนุญาตพร้อมส่งยิ้มอ่อนโยนให้ องค์ชายตัวน้อยยิ้มหวานทันทีด้วยความดีใจ จนเขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมไปลูบหัวเด็กขี้อ้อนด้วยความเอ็นดู

     

    ใจดีจัง พี่เต๋าของชา ^_______^

     

     

                ...

     

     

                ...

     

     

    ...

     

     

    ตลอดสามวันที่ผ่านมา คชาใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับการดูแลเจ้าเป็ดจนบาดแผลเริ่มหาย รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นลูกเป็ดสีขาวนั่นพยายามเดินดุ๊กดิ๊กรอบๆตะกร้า

     

    เจ้าเป็ดน้อยเดินได้แล้ว ดีจังที่พี่เต๋าช่วยมันไว้ได้

    แล้วที่มันแข็งแรงเร็วขนาดนี้ เป็นเพราะชาให้อาหารมันเยอะแน่ๆ ^____^

     

    แต่ยิ่งเป็ดหายเจ็บเร็วเท่าไหร่ ลึกๆแล้วองค์ชายก็ยิ่งกังวลมากเท่านั้น เพราะนั่นหมายความว่าจะต้องพาเจ้าเป็ดน้อยกลับฝูงตามที่สัญญากับอีกคนไว้ ช่วงเวลาสั้นๆกลับทำให้เขารู้สึกผูกพันกับมันอย่างไม่น่าเชื่อ คงเป็นเพราะความน่ารักของมัน และความรู้สึกอิ่มใจจากการได้ปกป้องอะไรบางอย่าง

     

    วันนี้แล้วสินะ ที่ชาจะต้องพาเจ้าเป็ดน้อยไปคืนเพื่อนๆของมัน

    เมื่อเช้าพี่เต๋าเห็นแล้วว่ามันหายดี เลยบอกให้ชาเล่นกับมันให้เต็มที่

    แล้วพอพี่เต๋ากลับมาจากในเมือง จะเอามันไปส่งด้วยกัน

    เหลือเวลาแป๊บเดียวเอง ชาหาอะไรให้มันกินอีกดีกว่า

     

    คิดได้อย่างนั้น องค์ชายก็หยิบเอาผักบนโต๊ะใส่เพิ่มลงไปในถ้วยอาหาร

     

    “กินเยอะๆนะ จะได้อ้วนๆ” มือเล็กลูบขนเจ้าเป็ดน้อยอย่างรักใคร่

     

    ไม่นานนัก พี่ชายเจ้าของบ้านก็กลับมาถึง เห็นภาพน่ารักๆของหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นลูบหัวองค์ชายตัวน้อยอย่างที่ทำบ่อยๆในช่วงนี้

     

    คนตัวเล็กหันมายิ้มให้เช่นเคย เพียงแค่ขณะนี้ นัยน์ตาดูเศร้าลงนิดหน่อย

     

                “พร้อมจะไปรึยังองค์ชาย?” ถามด้วยน้ำเสียงนุ่มๆเพราะความเห็นใจ

     

                “อื้ม...” คชาพยักหน้า ก่อนจะอุ้มเจ้าเป็ดน้อยเดินออกจากบ้านพร้อมเต๋า

     

                ร่างเล็กปีนขึ้นขี่เจ้าเพรสโต้ด้วยความชำนาญกว่าครั้งแรก มือแกร่งส่งเจ้าเป็ดตัวกลมๆให้อุ้มไว้ ก่อนที่ร่างสูงจะตามขึ้นไปนั่งซ้อนด้านหลังแล้วจับบังเหียน

     

                “นายอุ้มเป็ดมือเดียวไหวมั้ย เอาอีกมือเกาะอานไว้ด้วย จะได้ไม่ตกลงมา”

     

    องค์ชายทำตามคำสั่งเพื่อความปลอดภัย แต่กระนั้น แขนขาวๆข้างหนึ่งก็ยังเลื่อนลงไปช่วยล็อคเอวบางไว้

     

    เพียงครู่เดียว เจ้าม้าสีดำก็พาอีกสามชีวิตมาถึงบึงกว้าง คนทั้งสองลงมายืนเตรียมตัว

     

    องค์ชายคชายืนมองฝูงเป็ดป่าเบื้องหน้าสลับกับเจ้าเป็ดน้อยในอ้อมกอด สูดหายใจเข้าลึกๆ ลูบขนขาวๆนั่นอีกครั้ง แล้วหันมาพยักหน้ากับคนตัวโตกว่า

     

    วงแขนแข็งแรงโอบเอวนิ่มไว้ พาเดินเข้าไปใกล้ฝูงสัตว์ปีกมากขึ้น... มากขึ้น...

     

    องค์ชายยืนนิ่ง ก่อนจะวางลูกเป็ดสีขาวลงกับพื้น ปล่อยให้มันเดินกลมกลืนหายไปกับฝูง ส่วนตัวเองก็หันหลังเดินกลับมาที่ม้าพร้อมกับช่างหนุ่ม

     

    “โตเร็วๆนะ เจ้าเป็ดน้อย” คชายิ้มเศร้าพร้อมๆกับโบกมือลา

     

    “รู้มั้ยว่าคชาเองก็โตขึ้นนะ...” พูดพร้อมกอดไหล่อย่างจะปลอบ

     

    “พี่เต๋า...”

     

    แม้ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย แต่คำที่อีกฝ่ายใช้เรียกและท่าทีอบอุ่นเหล่านั้นก็ทำให้หัวใจพองโตขึ้นอย่างประหลาด จนร่างบางต้องหันทั้งตัวมากอดพี่ชายเอาไว้

     

    “ไม่โกรธใช่มั้ย ที่บอกให้เอาเจ้าเป็ดมาคืนแบบนี้” เสียงทุ้มเอ่ยถาม

     

    “ไม่โกรธหรอก ชาเข้าใจที่พี่เต๋าอธิบาย” พูดจบก็ส่งยิ้มหวานให้อีกครั้ง ทั้งๆที่น้ำตาเริ่มจะคลอเบ้า

     

    เห็นอย่างนั้น อ้อมแขนขาวก็กระชับกอดร่างเล็กไว้แน่นขึ้น คชาเอนศีรษะซบลงบนไหล่กว้าง พยายามทำเข้มแข็งห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ เต๋าจึงยกมือขึ้นลูบผมของอีกฝ่ายเพื่อปลอบโยน

     

    “เก่งมาก... ชาทำดีแล้วนะ...” คนตัวโตกว่ากล่าวชมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

     

    “พี่เต๋า...”

     

    ขณะที่พูดหัวกลมๆก็ขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของชายหนุ่มมากขึ้น ทำให้ผิวแก้มของทั้งสองสัมผัสกันจนได้ องค์ชายรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าแต่ก็ไม่อาจหนีสัมผัสนั้น เมื่อมือแข็งแรงข้างหนึ่งยังคงประคองศีรษะของเขาให้อยู่แนบชิด

     

    ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนุ่มของแก้มใสที่ได้สัมผัสก็ทำให้เจ้าของมือใจเต้นเช่นเดียวกัน





    ************************************************




    **สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณผู้อ่าน**

    มีความสุขมากๆนะคะ เจอแต่สิ่งดีๆคนดีๆ

    ทำอะไรสำเร็จราบรื่น สมหวังทุกประการน้า~





    ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจค่ะ


    ^________^




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×