ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Swords [TaoKacha]

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 14

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 55



    “พี่เต๋าตื่นแล้วเหรอ!?

     

    เป็นเพราะเต๋าหลับไปถึงสองวันเต็มๆ องค์ชายคชาจึงรู้สึกโล่งใจและดีใจจนทนรอไม่ไหว ทันทีที่นายทหารเข้ามาแจ้งข่าวกลางดึกก็รีบตามออกไปพบพี่ชายคนพิเศษของตน ลืมกลัวความมืด ลืมคำสั่งของพี่ชายแท้ๆที่ไม่ให้ออกไปไหนตามลำพังตอนกลางคืนเสียสนิท

     

    หลังสงครามจบลง ทหารหลายนายก็ลากลับไปเยี่ยมครอบครัวชั่วคราว ทำให้บริเวณวังเงียบเหงากว่าปกติ ร่างบางเดินมาถึงบ้านพักหลังเล็กๆท้ายวัง ค่อยๆเปิดประตูเข้าไปด้านใน และพบว่าชายหนุ่มกำลังนั่งให้หมอทำแผลให้ใหม่ บาดแผลลึกจากการถูกยิงด้วยธนูและการผ่าเอาลูกธนูออกดูน่ากลัวเกินไป ยิ่งเห็นว่าเต๋าต้องทนเจ็บหนักคชาก็แทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แข็งใจเดินเข้าไปจับมือพี่ชายเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง

     

    พี่เต๋าต้องเจ็บขนาดนี้เพราะช่วยชาไว้แท้ๆ

     

    “พี่เต๋า... อดทนหน่อยนะ...” เอ่ยปลอบเสียงสั่น

     

    “ไม่เป็นไร...” เสียงทุ้มกัดฟันตอบ “ชาหลับตาก็ได้นะ... อย่ามองเลย...”

     

    ได้ยินอย่างนั้นคนขวัญอ่อนก็ทำตาม แต่มือเล็กๆก็ยังประสานมือแกร่งเอาไว้ ราวกับต้องการแบ่งเบาความเจ็บปวดมาบ้าง จนกระทั่งหมอใช้ผ้าพันปิดแผลเสร็จ

     

    “ท่านหมอโปเต้... พี่เต๋าต้องทำอะไรอีกไหม?” องค์ชายถาม

     

    “ต้องทานยาสักหน่อย... ผู้ช่วยกำลังไปเตรียมอยู่ อีกไม่นานก็มาแล้ว”

     

    “แล้ว... แล้วเมื่อไหร่พี่เต๋าถึงจะหายเจ็บล่ะ?”

     

    “คงต้องใช้เวลาสักพักน่ะขอรับ ถ้าไม่ติดเชื้อเพิ่มแผลคงดีขึ้นภายในสองสัปดาห์ ส่วนร่างกาย ถ้าดูแลดีๆก็จะฟื้นเร็วขึ้น”

     

    “งั้นต้องรบกวนท่านหมอแล้วล่ะ แต่เราขอช่วยดูแลด้วยได้ไหม ช่วยกัน พี่เต๋าจะได้หายเร็วๆ”

     

    “ได้สิขอรับ”

     

    ทั้งหมอเต้และเต๋าส่งยิ้มเอ็นดูในความมีน้ำใจขององค์ชายตัวน้อย พูดคุยกันต่อได้ไม่นาน ผู้ช่วยหมอก็กลับมาพร้อมถ้วยยาและอุปกรณ์เช็ดตัว

     

    “เดี๋ยวท่านเต๋าทานยานี่ก่อน จะช่วยให้แผลไม่อักเสบและสมานเร็วขึ้น” หมอหนุ่มส่งถ้วยยาให้

     

    “อืม...” ตอบรับแล้วกลั้นใจกลืนยาขมนั่นลงคอจนหมด

     

    “ดื่มน้ำล้างคอสักหน่อย แล้วเช็ดตัวลดไข้นะ”

     

    ผู้ช่วยของหมอโปเต้วางอ่างน้ำเล็กๆไว้ข้างเตียง เอาผ้าลงไปชุบน้ำ แต่องค์ชายคชาก็ท้วงขึ้นเสียก่อน

     

    “เอ่อ... ขอเราทำให้พี่เต๋าเองได้ไหม?”

     

    หมอและผู้ช่วยนิ่งไปพักหนึ่ง ตีความจากท่าทางและคำพูดขององค์ชายแล้วก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง จึงตัดสินใจขอตัวออกมา ปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง

     

    ร่างบางขยับขึ้นไปนั่งอยู่ตรงหน้า มือเล็กค่อยๆซับผ้าเปียกหมาดๆไปตามใบหน้าขาวที่วันนี้ดูโทรมลงกว่าที่เคย มือสั่นนิดๆเมื่อเริ่มไล่ลงมาตามแผ่นอกเปลือยเปล่าและหน้าท้องแกร่ง ทว่าความเป็นห่วงมีมากกว่าความเขินอาย ขยับอ้อมไปเช็ดแผ่นหลังกว้างอย่างระมัดระวัง ยังดีที่มีผ้าพันปิดแผลอยู่ คชาจึงคลายความกังวลลงบ้าง กระทั่งเสร็จเรียบร้อยจึงกลับมานั่งคุยกับพี่ชาย

     

     “พี่เต๋า... เป็นยังไงบ้าง...”

     

    “ก็มึนๆหัว แล้วก็ปวดแผลนิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็หายแล้วล่ะ องค์ชายคชาดูแลดีขนาดนี้” พยายามพูดให้อีกฝ่ายสบายใจ

     

    “ชาไม่เชื่อหรอก...” เสียงหวานเริ่มสั่นเครือ “ขอโทษนะพี่เต๋า... ชาทำให้พี่เต๋าต้องเจ็บหนัก...”

     

    “อย่าคิดมากสิ ชาไม่ได้ทำอะไรพี่ซะหน่อย” เต๋าปลอบ “ต้องขอบคุณชาด้วยซ้ำที่เสี่ยงวิ่งไปตามคนมาช่วยพี่ ถ้าไม่มีคชาพี่คงไม่รอด”

     

    “ก็พี่เต๋าช่วยชาไว้นี่นา... ชาต่างหากที่ต้องชอบคุณพี่เต๋า...” แขนเรียวโอบกอดร่างสูงหลวมๆเพราะกลัวจะกระทบกระเทือนบาดแผล “ชาอยากตอบแทนพี่เต๋า พี่เต๋าต้องการอะไร ชาจะทำให้ทุกอย่าง”

     

    “ไม่ต้องหรอก พี่แค่อยากช่วย เห็นชาไม่เป็นไรก็ดีใจแล้ว” ยกมือขึ้นลูบหัวกลมๆอย่างที่ชอบทำ

     

    “ไม่เอาอ้ะ... ชาจะเอาเปรียบพี่เต๋าได้ยังไงกัน...” ใบหน้าน่ารักซุกลงกับไหล่กว้าง แต่ก็ไม่กล้าทิ้งน้ำหนักตัวลงไป “ให้ชาทำเพื่อพี่เต๋าบ้างนะ”

     

    “อืม... ถ้าอย่างนั้น...”

     

    คนตัวโตกว่าลังเลอยู่พักหนึ่ง มีบางอย่างที่เขารู้สึกกับคชามานาน ยิ่งในเวลาที่อีกฝ่ายทำตัวน่ารักแบบนี้ เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังแบบนี้ ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกที

     

    “รัก”

    อาจจะพอมีหวัง

    แต่มันจะไม่เหมาะสมหรือเปล่านะ?

     

    “พี่เต๋าคิดนานจัง...” องค์ชายทักขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางๆ

     

    “ก็อยากได้หลายอย่างนี่นา...” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก

     

    “งั้นชาไปหากระดาษมาจดก่อนนะ”

     

    พูดจบ คนตัวเล็กก็ทำท่าจะลุกออกไปหากระดาษปากกาจริงๆ จนอีกคนต้องรั้งเอาไว้

     

    “ไม่ต้องไปไหนหรอก พี่พูดเล่น”

     

    พอเห็นว่าร่างสูงหัวเราะ แก้มเนียนก็พองออกอย่างงอนๆ

     

    “พี่เต๋าอ้ะ ชาจริงจังนะ” เสียงใสตัดพ้อ

     

    “ขอโทษ... พี่จริงจังบ้างก็ได้...” เต๋าดึงร่างบางให้นั่งลงใกล้ๆ แล้วจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวย “มันอาจจะไม่สมควรนะ...”

     

    คชานิ่งรอฟังประโยคต่อไปอย่างตั้งใจ

     

    “แต่พี่ขอรักคชาได้มั้ย?”

     

    ประมวลผลอยู่สักพัก แก้มใสก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด รู้สึกได้ว่าใบหน้าของตัวเองร้อนฉ่า ซ่อนรอยยิ้มไม่มิด พูดอะไรไม่ออก ได้แต่นั่งตัวเกร็งหลบสายตาเว้าวอนของอีกฝ่าย

     

    ไม่เห็นต้องขอเลย

    ก็ที่พี่เต๋าทำให้ชามาตลอด มันไม่ได้แปลว่ารักหรอกเหรอ

    >////<

     

    “อนุญาตรึเปล่า?”

     

    “ก... ก็... แล้วแต่พี่เต๋าสิ...”

     

    “แล้วชาเต็มใจให้พี่รักรึเปล่า?”

     

    “อ...อื้อ...” เขินจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว

     

    “ถ้างั้น... จูบได้มั้ย?”

     

    พี่เต๋า... มาขอกันตรงๆแบบนี้...

    >////////<

     

    “อ... อื้ม...”

     

    “เข้ามาใกล้พี่อีกนิดสิ”

     

    ร่างเล็กเริ่มสั่นด้วยความตื่นเต้นขณะเป็นฝ่ายขยับเข้าหา เอวถูกโอบรวบเข้าหาร่างสูงจนแทบไม่เหลือที่ว่างระหว่างทั้งสอง มือร้อนลูบแผ่นหลังบางเบาๆเพื่อช่วยลดความประหม่า

     

    “ขออนุญาตนะ”

     

    พูดจบ ริมฝีปากสวยก็ถูกประทับจูบแผ่วเบา ก่อนจะถูกดูดดึงและรุกล้ำอย่างนุ่มนวลจนคชาเคลิบเคลิ้ม หลับตาพริ้ม โอบลำคอหนาไว้เป็นหลักยึด แล้วพยายามจูบตอบอย่างไม่ประสีประสา แต่แค่นั้นก็ทำเอาเต๋าใจเต้นแรง ดูเหมือนจูบนั่นจะลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงหอบครางหวานๆที่เริ่มหลุดลอดออกมาทำให้เขาได้สติ

     

    ชายหนุ่มเป็นฝ่ายหยุดจูบแสนหวานนี้ไว้ก่อนที่อะไรๆจะเลยเถิด สวมกอดร่างอ่อนระทวยไว้หลวมๆ

     

    “แค่นี้ก็มากเกินพอแล้วล่ะ” เขาส่งยิ้มอบอุ่น “ที่ทำไปทุกอย่าง... เพราะพี่รักคชานะ...”

     

    “ชารู้...” องค์ชายตัวเล็กรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อหยุดอาการใจสั่นระรัวของตัวเอง พยายามพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังทั้งที่ใบหน้าร้อนผ่าว “พี่เต๋านอนพักต่อเถอะ ชาต้องกลับแล้ว เดี๋ยวพี่ต้นรู้ว่าชาแอบออกมาตอนดึกๆจะโดนห้ามไม่ให้มาหาพี่เต๋าอีกนะ”

     

    “องค์ชายต้นไม่อยากให้พบพี่แล้วเหรอ?” ได้ยินอย่างนั้นก็ใจเสีย

     

    “ไม่ใช่แบบนั้น... พี่ต้นแค่ไม่อยากให้ชาออกมาข้างนอกตอนดึกๆ เพราะกลัวชาจะโดนใครแอบมาจับตัวไปทำอะไรอีก แถมบ่นอีกว่าชาเป็นองค์ชายที่ลักพาตัวง่ายที่สุดในโลก” อธิบายพร้อมกับถือโอกาสฟ้อง “แต่พี่ต้นไม่ได้ห้ามชาเจอพี่เต๋าแล้วนะ ตอนที่พี่เต๋ายังไม่ตื่น ชาขอพี่ต้นมาหาพี่เต๋าตั้งหลายครั้ง พี่ต้นก็อนุญาตทุกครั้งเลย แต่ว่าคืนนี้ชาต้องกลับก่อนนะ ไม่อยากโดนพี่ต้นดุอ้ะ”

     

    “อื้ม...” เสียงทุ้มตอบรับด้วยความยินดีลึกๆ “แต่ชาต้องให้ทหารพาไปส่งนะ อย่ากลับเองคนเดียวเลย”

     

    “อ... อื้อ... แล้วพรุ่งนี้ชาจะมาหาพี่เต๋าใหม่นะ” คชาหลุดยิ้มเขินออกมาเมื่อได้รับความใส่ใจแม้ในเวลาที่อีกฝ่ายยังเจ็บ “พี่เต๋าหลับตาก่อนเร็ว”

     

    “ทำไมล่ะ?”

     

    “นะ...”

     

    น้ำเสียงอ้อนๆทำให้เต๋ายอมทำตามโดยไม่ได้ซักถามต่อ ไม่นานนักเขาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสบางเบาบนริมฝีปาก

     

    คชา... จูบ... ???

     

    นิ่งไปเพราะความดีใจระคนประหลาดใจ แล้วก็มีเสียงหวานที่สั่นนิดๆมากระซิบข้างหู

     

    “ชาก็รักพี่เต๋านะ”

     

    “ชา...” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้าง

     

    “หายไวๆนะพี่เต๋า ชากลับก่อนน้า~

     

    องค์ชายตัวเล็กรีบเดินดุ๊กดิ๊กออกจากห้องด้วยความเขินจัด ปล่อยให้คนเจ็บนั่งยิ้มไม่หยุดอยู่ตามลำพัง

     

    น่ารัก...

    น่ารักมากจริงๆ...

     
     


    **************************************************************


    ขอโทษที่ช้านะคะ ยังมีใครอ่านอยู่อีกมั้ยเนี่ย T/|\T



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×