คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8
ม้าสีดำพาเจ้านายทั้งสองลงจากเขา ระหว่างทางองค์ชายตัวน้อยก็มองไปรอบๆเพื่อเก็บภาพความทรงจำจากป่าแห่งนี้ ขณะเดียวกันก็เกาะเอวแข็งแรงของพี่ชายคนสำคัญเอาไว้และพยายามซึมซับไออุ่นจากแผ่นหลังกว้างเบื้องหน้า
มาไกลขนาดนี้ ถ้าชาจะขออยู่กับพี่เต๋าต่อก็คงไม่ทันแล้ว เศร้าจัง
ถ้าขอให้พี่เต๋าไปอยู่ด้วยกัน คนอย่างพี่เต๋าก็คงไม่ยอมแน่ๆ
แต่พอกลับไปถึงวังแล้ว ชาก็คงร่าเริงกว่านี้เอง
ไม่เป็นไร ชาจะไม่งอแง ชาต้องทำได้
พี่เต๋าเคยบอกว่าเป็นองค์ชายต้องเข้มแข็ง
...
...
...
ผ่านไปครู่ใหญ่ ทั้งสามชีวิตก็เข้าสู่เขตเมือง เต๋าบังคับให้เจ้าเพรสโต้วิ่งช้าลง ส่วนองค์ชายคชาก็แอบมองข้างทางอย่างกังวลระคนตื่นเต้น
ช่วงนี้บรรยากาศดูเงียบเหงาไปบ้างเพราะสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ร้านค้าบางร้านปิดตัวลง บางบ้านก็ปิดประตูเงียบ แต่ก็ยังมีพ่อค้าและชาวเมืองส่วนหนึ่งที่ยังต้องทำมาหากิน กำลังทหารจึงต้องคอยออกตรวจตราไปทั่วทุกตรอกซอยเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับคนเหล่านั้น
ทว่ามีชาวเมืองคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาที่ม้า พร้อมๆกับโบกมือทักทายเต๋า
เห็นแบบนั้น คชาก็รู้สึกเกร็งจนเผลอกอดเอวพี่ชายแน่น
พี่เต๋าบอก ต้องไม่ให้ใครรู้ว่าชาเป็นองค์ชาย!
“คนรู้จักพี่เอง ไม่เป็นไรนะ อยู่เฉยๆ ” เสียงทุ้มกระซิบบอก
“เป็นไง นายยังสบายดีอยู่นะ” ชายผู้นั้นทักทาย
“สบายดี ขอบคุณมาก” เต๋าตอบพร้อมรอยยิ้ม
“เอ้อ ดีๆ แล้วนี่พาใครมาด้วยล่ะ ไม่เคยเห็นเลย”
“อ๋อ... นี่... น้องชายฉันเอง... เออ...แล้วนายเป็นไงบ้าง ไม่เจอกันนานเลย”
“ก็อย่างที่เห็นน่ะ เหนื่อยดีเหมือนกัน”
“ช่วงนี้ก็แบบนี้แหละ เดี๋ยวก็ดีขึ้น” ช่างหนุ่มยิ้มปลอบ “เดี๋ยวฉันขอตัวก่อน ต้องรีบพาน้องไปธุระ”
“อือ ไปเถอะ ไว้เจอกัน”
หลังจากปลีกตัวจากชายคนนั้นสำเร็จ องค์ชายคชาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ดีนะที่เขาไม่ได้ถามมากเรื่องชา” เสียงหวานเปรย
“อืม... ชาใกล้จะปลอดภัยแล้วนะ อีกนิดเดียวก็ถึงเขตวังแล้ว”
ใกล้ถึงแล้วเหรอ...
ทำไมชาไม่ดีใจเลยล่ะ...
รู้สึกใจหายยังไงไม่รู้...
เดี๋ยวพี่เต๋าก็ต้องไปแล้วสินะ...
...
...
...
เวลาผ่านไปไม่นาน คนทั้งสองก็เข้าใกล้กำแพงพระราชวังสีขาวสะอาด ซึ่งมีทหารยืนประจำอยู่ทุกประตู
“นี่ไง ถึงวังของคชาแล้วนะ” เต๋าเอ่ยขึ้น
“อื้ม...” คชาตอบรับอย่างเศร้าๆ “แต่เดี๋ยว พี่เต๋าเห็นสามคนที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั่นมั้ย?”
“อืม... มีอะไรเหรอ?”
“ชาว่าพวกเขาดูแปลกๆ เหมือนพยายามจะมองลอดเข้าไปข้างในประตู พวกเขาจะทำอะไรไม่ดีรึเปล่า เราไปคุยกับพวกเขากันมั้ย?” องค์ชายกล่าวด้วยความกังวล
“พวกทหารก็คงระวังอยู่ เราอย่าเข้าไปยุ่งเลย ถ้าพวกนั้นเป็นคนร้ายจริงจะทำยังไง ชากลับเข้าไปในวังให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยสั่งให้คนมาจัดการไม่ดีกว่าเหรอ?”
“แต่ว่า...”
“เชื่อพี่เถอะ... เพื่อตัวชาเองนะ อุตส่าห์กลับมาถึงวังแล้ว อย่าเสี่ยงอันตรายอีกเลย”
คชาทำท่าจะคัดค้านอีก แต่เมื่อเห็นสายตาห่วงใยที่จ้องมองมาก็ยอมพยักหน้ารับ
เจ้าเพรสโต้พานายทั้งสองไปหยุดตรงหน้านายทหารที่ยืนคุมประตูใหญ่ ทหารนายนั้นจึงเข้ามาสอบถาม
“นายสองคนมีธุระอะไร?”
“ขอพวกเราเข้าไปข้างในหน่อย เรามาขอพบพระราชา” เต๋าพูด
“สถานการณ์แบบนี้ คงอนุญาตให้ใครเข้าไปในเขตพระราชฐานง่ายๆไม่ได้หรอกนะ ถ้ามีเรื่องอะไรก็ฝากไว้ ฉันจะไปกราบทูลให้เอง” ทหารเวรปฏิเสธ
“เรื่องนี้ฝากใครไม่ได้...”
“เรื่องสำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
“ฟังแล้วอย่าส่งเสียงดังนะ...” ชายหนุ่มพูดเสียงเบาลง “ฉันพาองค์ชายคชามาส่ง... ข้างหลังนี่...”
ทหารนายนั้นหันไปพิจารณาบุคคลที่นั่งด้านท้ายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วนิ่งอึ้งไป
“ทีนี้อนุญาตแล้วใช่มั้ย” เต๋าถาม ทหารพยักหน้า “งั้นช่วยนำทางพวกเราไปหน่อยเถอะ”
...
...
...
เจ้าเพรสโต้ยืนรออยู่ด้านล่าง ในขณะที่ช่างหนุ่มและองค์ชายนั่งรอพระราชวงศ์ทั้งสามอยู่ในโถงพระราชวัง ไม่นานนักพระราชาและพระราชินีก็เสด็จ โดยมีองค์รัชทายาทเดินตามหลังมา
เมื่อเห็นองค์ชายเล็กที่หายตัวไปเกือบครึ่งเดือน ทั้งสามต่างเข้ามารุมล้อมด้วยความเป็นห่วง
“คชาเป็นอย่างไรบ้างลูก บาดเจ็บที่ไหนหรือเปล่า?” องค์ราชินีถามเสียงเครือพร้อมกับกอดร่างบางแน่น
“ชาไม่เป็นไรเลยนะ ท่านแม่สบายใจได้” องค์ชายกอดตอบพระมารดาด้วยน้ำตาคลอ “ท่านพ่อ พี่ต้น ชากลับมาแล้วนะ ชาปลอดภัยดี พี่เขาช่วยชาไว้”
พระราชาและองค์รัชทายาทส่งยิ้มให้กับองค์ชายตัวน้อย
“ขอบใจเธอมากที่พาลูกของเรามาส่ง” พระเจ้าแผ่นดินหันไปพูดกับเต๋า
“เป็นหน้าที่ของประชาชนอย่างกระหม่อมที่ต้องปกป้ององค์ชาย” เสียงทุ้มตอบอย่างเกร็งๆ
จริงๆแล้ว ที่ปกป้องขนาดนี้ไม่ใช่เพราะเป็นหน้าที่หรอกนะ
“ยังไงก็ขอบใจมากจริงๆ เธออยากจะได้อะไรเป็นรางวัลหรือเปล่า?”
“กระหม่อมไม่ต้องการอะไรตอบแทนทั้งนั้น” พูดกับพระราชา ทว่าสายตากลับวอกแวกไปมององค์ชายเล็ก
“นายชื่ออะไรน่ะ?” จู่ๆองค์ชายต้นก็ถามขึ้น หลังจากสังเกตใบหน้าของช่างหนุ่มอยู่นาน
“เต๋า...” เจ้าของชื่อตอบไม่เต็มเสียง
“นายทำอาชีพอะไร บ้านอยู่ที่ไหน ทำไมเราถึงรู้สึกคุ้นหน้าขนาดนี้”
“เอ่อ... กระหม่อมเป็นช่างทำอาวุธ อาศัยอยู่บ้านเล็กๆแถวชายป่าทางทิศเหนือ” แม้จะไม่อยากเปิดเผยนัก แต่เขาก็ไม่อยากโกหก
“เหรอ... อย่างนั้นก็คงไม่เคยเจอกัน เราอาจจะแค่รู้สึกไปเอง” ถึงจะพูดอย่างนั้น รัชทายาทก็ยังคงเคลือบแคลงใจ “เอาเถอะๆ ยังไงก็ขอบใจนายมาก”
ชายหนุ่มหันไปสบตากับองค์ชายตัวเล็กอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกล่าวกับองค์ราชา
“องค์ชายคชาปลอดภัยแล้ว กระหม่อมก็ขอทูลลา”
“ตามสบายเถอะ ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกมา เรายินดี”
ร่างสูงโค้งคำนับเหล่าราชวงศ์ ก่อนจะหันหลังเดินกลับ
“เดี๋ยวก่อนพี่เต๋า” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “ท่านพ่อท่านแม่ ชาขออนุญาตเดินลงไปส่งพี่เต๋าได้มั้ย?”
เมื่อทั้งสองท่านพยักหน้า คนตัวเล็กก็เดินไปกับช่างหนุ่มทันที โดยมีองค์รัชทายาทมองตามด้วยความสงสัยไม่หาย
ทำไมคชาถึงดูอาลัยอาวรณ์จัง... สนิทสนมกันขนาดนั้นเชียว...
แล้วเราไม่เคยเจอเจ้าคนชื่อเต๋าจริงๆเหรอ... ทำไมรู้สึกคุ้นมาก... แต่ก็นึกไม่ออกเสียที...
...
...
...
องค์ชายคชาเดินไปกับเต๋าจนถึงใต้ต้นไม้ที่เจ้าเพรสโต้ยืนรออยู่ มือเล็กยื่นไปลูบหัวม้าสีดำอย่างเศร้าๆ
“เจ้าเพรสโต้ ขอบใจมากนะที่ให้ชาขี่มาตลอด ชาต้องคิดถึงเพรสโต้มากแน่ๆ”
ราวกับถ่ายทอดความรู้สึกไปถึง เจ้าเอียงหัวเข้าหาองค์ชายตัวน้อย ยอมให้ลูบอยู่อย่างนั้น
สักพัก คชาก็ละความสนใจจากม้าตัวโปรด หันไปพูดคุยกับพี่ชายคนพิเศษ
“ชาขอบคุณพี่เต๋ามากจริงๆนะ ชาดีใจที่ได้เจอพี่เต๋า ชาจะไม่ลืมเลย”
ขณะที่องค์ชายพูดน้ำตาก็เริ่มคลอปริ่ม จนชายหนุ่มต้องดึงตัวมากอดปลอบด้านหลังต้นไม้เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น
“พี่ก็ดีใจที่ได้เจอชา อย่าร้องไห้เลยนะ จากนี้ไปต้องเข้มแข็งรู้มั้ย” มือขาวลูบหัวกลมๆที่ซุกอยู่ตรงไหล่ “แล้วช่วงนี้ก็ระวังตัวให้มากๆ พี่ไม่อยากให้ชาเจออันตรายอีก เข้าใจมั้ย”
“ชาไม่อยากให้พี่เต๋ากลับเลย เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วเหรอ” คนตัวเล็กเริ่มร้องไห้หนัก เต๋าจึงช่วยปาดน้ำตาให้
“อย่าร้องไห้อีกเลยนะ” อาการเศร้าโศกขององค์ชายทำเอาอีกคนน้ำตาคลอไปด้วย “พี่จะรอวันที่ชาเรียนจบแล้วได้ออกไปช่วยราชการ เผื่อว่าจะมีโอกาสได้เห็นหน้าอีกสักครั้ง”
“ชา... ชาต้องคิดถึงพี่เต๋ามากแน่ๆ พี่เต๋าคิดถึงชาบ้างได้มั้ย”
“ได้สิ... ได้... พี่จะคิดถึงชา...” วงแขนกว้างโอบรัดร่างบางที่กำลังสั่นสะอื้น “ชาหยุดร้องไห้เถอะนะ... ตาบวมหมดแล้ว... นะ... องค์ชายคนเก่ง... พี่จะคิดถึงชาเสมอ...”
“สัญญานะ...” องค์ชายตัวเล็กพยายามกลั้นน้ำตาอย่างน่าสงสาร
“สัญญา” ชายหนุ่มรับปาก กอดพลางลูบหัวพลางจนคชาหยุดร้องไห้ ก่อนจะจำใจคลายอ้อมกอดออกช้าๆ “ตอนนี้ชากลับเข้าไปหาทุกคนเถอะ ออกมานานมากแล้ว พวกท่านคงเป็นห่วงแย่”
“พี่เต๋าต้องไปจริงๆแล้วใช่มั้ย...” ถามด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร
“อื้ม...”
“ก่อนจะไป... พี่เต๋าหลับตาหน่อยได้มั้ย...”
“หลับตา?”
“นะ...”
เต๋าหลับตาลงตามคำขอร้องนั้น สักพัก มือเล็กก็ยกขึ้นเกาะบ่ากว้าง ก่อนที่องค์ชายตัวน้อยจะรวบรวมความกล้า ประทับริมฝีปากนุ่มๆลงบนแก้มของพี่ชายคนสำคัญ
“ชา...” ชายหนุ่มตกใจไม่น้อย
“ก็... พี่เต๋าเคยทำแบบนี้ตอนชาหลับใช่มั้ย...” คชาถามเสียงเบา
คชา... รู้มาตลอดเหรอ...
“ก็... ก็ใช่...”
“ชา... ชาก็เลยอยากให้พี่เต๋ารู้สึกดีแบบที่ชารู้สึกบ้างสักครั้ง...”
“เวลาที่พี่ทำ... ชาก็รู้สึกดีใช่มั้ย...” คนตัวโตกว่าถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อื้ม...” ตอบพร้อมพยักหน้าอย่างเขินอาย แต่เพราะเวลาเหลืออยู่ไม่มากนัก คชาจึงไม่หลบสายตาอย่างที่ควรเป็น กลับจ้องมองใบหน้าของพี่ชายคนพิเศษเนิ่นนานราวกับต้องการจดจำไว้ชั่วชีวิต
“ถ้าอย่างนั้น... พี่ขออนุญาตอีกครั้งสักนะ...” เต๋าจุมพิตเบาๆบนหน้าผากของเด็กขี้อ้อนเป็นครั้งสุดท้าย “แต่พี่ต้องกลับแล้ว... เข้มแข็งเอาไว้นะ... พี่จะคิดถึงชาเสมอ...”
“ชาก็จะคิดถึงพี่เต๋า...” พูดพลางกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลลงมาอีกครั้ง
ร่างสูงปีนขึ้นม้าด้วยความชำนาญ หันมามองร่างเล็กที่ยืนฝืนยิ้มหวานให้ แล้วตัดใจบังคับเจ้าเพรสโต้ให้วิ่งออกไปจากบริเวณนั้น ทำเข้มแข็งทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน
ใจหาย... ต่อไปนี้คงไม่ได้เจอคชาอีกแล้ว...
ไม่มีอีกแล้ว... จบแล้วสินะ...
ความคิดเห็น