ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Swords [TaoKacha]

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 55





                 กลางดึก คนทั้งสองนอนบนเตียงเดียวกันเช่นทุกคืน แต่คืนนี้เต๋ายังคงนอนไม่หลับ เนื่องจากสัมผัสนุ่มๆของแก้มองค์ชายยังติดอยู่ในใจ ยิ่งเห็นใบหน้าน่ารักที่หันมาหลับตาพริ้มอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเมื่อตอนเย็นก็ยิ่งตามมารบกวน จ้องมองนานๆเข้าก็รู้สึกอยากสัมผัสอีกจนได้

     

              จับนิดจับหน่อย คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

     

                ว่าแล้วก็นอนตะแคงขยับตัวเข้าใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างเล็ก มือขาวยกขึ้นลูบผิวหน้าเนียนอย่างเบามือ ไล่ตั้งแต่พวงแก้มอิ่ม ปลายจมูกมน ริมฝีปากแดงระเรื่อ เรื่อยลงไปถึงช่วงคอ

     

              นุ่ม... นุ่มมากจริงๆ...

     

                คชาขยับตัวนิดๆ ชายหนุ่มจึงละมือออกเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะตื่น ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบร่างบางไว้หลวมๆ แม้จะหยุดสัมผัสแล้ว แต่ก็ยังหยุดมองไม่ได้

     

                รอจนคิดว่าองค์ชายหลับสนิท มือแกร่งก็เลื่อนขึ้นสัมผัสแก้มนิ่มอีกครั้ง

     

                ความรู้สึกตื่นเต้นค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความหลงใหลในใบหน้าหวานๆ เขาขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

     

              ขออนุญาตนะ... องค์ชายคชา...

     

                ริมฝีปากได้รูปประทับจุมพิตเบาๆที่หน้าผากและลงมาประทับอีกทีที่แก้มใสๆ ก่อนจะผละออกมา แล้วโอบกอดร่างบางไว้เหมือนเดิม

     

                เต๋ารู้สึกไปเองหรือเปล่านะ ว่าเห็นคชาเผลอยิ้มเขินออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะซุกตัวเข้ากับอกอุ่นๆของเขา

     

              หรือว่าเจ้าตัวเล็กนี่จะไม่ได้หลับ???

     

     

                ...

     

     

                ...

     

     

    ...

     

     

                ช่วงนี้ชีวิตประจำวันของช่างเต๋าสบายขึ้นมาก เนื่องจากองค์ชายคชาเริ่มเรียนรู้ที่จะช่วยทำงานบ้านรวมถึงช่วยทำอาหารง่ายๆ แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แบบนักแต่ก็พอแบ่งเบาภาระได้แทบทุกงานแล้ว ทำให้เขามีเวลาพักผ่อนและมีเวลาทำอาวุธได้มากขึ้น นอกจากนี้ ท่าทีอ้อนๆที่มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่คืนนั้นก็ทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด

     

                ราวกับได้ครอบครองสมบัติหวงห้ามล้ำค่าแต่เพียงผู้เดียว

     

                ช่างหนุ่มกำลังใช้สมาธิอย่างหนักกับการทำลวดลายด้ามดาบเล่มสุดท้ายของวันนี้ ซึ่งเขาต้องการให้งานชิ้นนี้ออกมาละเอียดประณีตที่สุด มือซ้ายยื่นส่วนด้ามที่ทำจากเงินแท้เข้าไปในกองไฟร้อนๆ จับเอาไว้แน่น ในขณะที่มือขวาใช้เหล็กกล้ายาวแหลมบรรจงสลักเนื้อเงินที่อ่อนตัวลงให้เป็นร่องลาย

     

    “พี่ต๋าวววว ชาอาบน้ำให้เจ้าเพรสโต้เสร็จแล้วน้า~” เสียงใสๆตะโกนบอกขณะเจ้าตัวถือถังน้ำใบใหญ่เดินมานั่งข้างๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มีท่าทีจะสนใจ คชาจึงชะโงกหน้าไปดูสิ่งที่อยู่ในมือเต๋าเงียบๆ รู้สึกเพลิดเพลินไม่น้อยกับการจ้องมองลายเส้นคมๆที่พี่ชายคนเก่งค่อยๆลากอย่างตั้งใจ มองอยู่นานจนกระทั่งลายวิจิตรนั้นเต็มพื้นที่ ส่วนด้ามของดาบจึงถูกนำออกจากเปลวไฟมาพักไว้

     

    “ดาบสวยมากเลยพี่เต๋า...”

     

    “อืม... แกะลายอยู่นานเลยล่ะ” เสียงทุ้มตอบ “เอ้อ... คชาบอกว่าอาบน้ำให้เพรสโต้เสร็จแล้วใช่มั้ย?”

     

    “เรียบร้อย ฝีมือระดับนี้แล้ว” คชายิ้มทะเล้น

     

                “ขอบใจมากนะ คงเหนื่อยน่าดู”

     

                “ไม่เป็นไรหรอก ชาชอบเจ้าเพรสโต้ มันใจดีมากเลย เมื่อกี้มันพาชาไปเล่นข้างนอกด้วย”

     

                “พอขี่ม้าเป็นแล้วก็ซนใหญ่เลยนะ” เต๋าหัวเราะ

     

                “อิอิ” องค์ชายตัวเล็กหัวเราะคิกคักตาม “ทานมื้อเย็นกันเถอะพี่เต๋า ชาหิวแล้ว”

     

                “เดี๋ยวก่อนนะ อีกนิดนึง” มือขาวเอื้อมไปหยิบค้อนและเหล็กแหลมขึ้นมา

     

                “อ้าว ยังไม่เสร็จเหรอพี่เต๋า?”

     

                “อื้ม เพิ่งคิดได้ว่าน่าจะเพิ่มตรงนี้อีกนิด”

     

                “งั้นชาไปอุ่นให้แล้วยกมาทานกับพี่เต๋าตรงนี้ดีกว่า”

     

                พูดจบร่างเล็กก็เดินไปที่เตาหิน จุดไฟอุ่นซุปข้นที่ช่างหนุ่มทำเอาไว้ตั้งแต่มื้อเที่ยง ไม่นานนักก็เดินยิ้มหวานกลับมาพร้อมชามสองใบใหญ่ ตรงไปนั่งใกล้ๆร่างสูงที่รออยู่

     

                “อะไรเนี่ย...” เต๋าบ่นปนขำ

     

                ก็ซุปชามที่ร่างบางยกมาให้เขา ถูกตกแต่งเป็นรูปหน้าคนกำลังยิ้ม โดยใช้ขนมปังกรอบมาวางเรียงๆไว้ด้านบน ดูๆไปก็น่ารักดีเหมือนกัน

     

                “ก็... ตอนทำงานพี่เต๋าชอบทำหน้าเครียด ชาอยากให้ยิ้ม ก็เลยทำหน้ายิ้มไง” คชาหัวเราะแก้เขิน “งานพี่เต๋าเสร็จแล้วใช่มั้ย?”

     

                “อื้ม... นี่ไง องค์ชายว่าดาบนี่สวยมั้ย?” พูดพลางส่งผลงานที่เพิ่งเสร็จหมาดๆให้ดู

     

                “สวยอยู่แล้วล่ะ” มือนิ่มรับเอาดาบเล่มนั้นไปชื่นชมอย่างละเอียด ก่อนจะสะดุดตากับตัวอักษรเล็กๆที่ถูกตอกไว้ตรงโคนดาบ

     

    Kacha’s

     

                “นี่คืออะไรเหรอพี่เต๋า?” เสียงหวานถามอย่างสงสัย

     

                “ก็เป็นของคชาไง” ช่างหนุ่มตอบเสียงเรียบ

     

                “...” ใบหน้าน่ารักเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

     

                “ดาบนี่ทำให้คชา จะได้มีเป็นของตัวเอง เอาไว้เรียนดาบ ไว้ป้องกันตัว” เต๋าอธิบาย “แล้วที่ต้องสลักชื่อไว้แบบนี้เพราะถ้าเจ้าของซุ่มซ่ามทำตกไว้ คนจะได้เอามาคืนถูก”

     

                ได้ยินอย่างนั้น คชาก็รู้สึกอิ่มใจเป็นที่สุด

     

              ดาบสวยขนาดนี้... พี่เต๋าตั้งใจทำให้ชา...

     

                “พี่เต๋าอ้ะ ทำเหมือนชาเป็นเด็กไปได้” องค์ชายแกล้งทำเสียงงอนๆก่อนจะยิ้มกว้าง วางดาบเข้าไปเกาะแขนแกร่งด้วยความดีใจ “ขอบคุณพี่เต๋ามากจริงๆนะ ชาจะรักษาอย่างดีที่สุดเลย”

     

                ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหัวกลมๆของเด็กขี้อ้อน หัวเราะเบาๆให้กับท่าทีน่ารักสดใสนั้น การแสดงออกอย่างอ่อนโยนของเขายิ่งทำให้องค์ชายตัวน้อยรู้สึกสุขใจมากขึ้นอีก

     

              พี่เต๋าน่ากอดจังน้า~

    ^__________^

     

     

                ...

     

     

                ...

     

     

    ...

     

     

                วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาจะต้องเข้าเมืองเพื่อนำอาวุธที่ทำขึ้นไปส่ง และแวะซื้อวัตถุดิบกลับมาประกอบอาหารสำหรับตัวเองกับเด็กหลงทางที่เขาเอามาซ่อนไว้ในบ้าน ซึ่งเมื่อคืนถูกเขาแอบหอมแก้มตอนหลับไปครั้งหนึ่ง และเมื่อเช้านี้เจ้าตัวเล็กนั่นยังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาช่วยจัดสัมภาระ ทั้งสองเรื่องเป็นเหตุให้เขาอารมณ์ดีไม่หายมาจนถึงตอนนี้

     

              เสร็จธุระแล้วคงต้องแวะซื้อขนมไปฝากเจ้าตัวยุ่งที่บ้านสักหน่อย

     

                ร่างสูงสง่าพร้อมม้าคู่ใจหยุดลงที่ท่าเรือประจำเมือง เขาส่งอาวุธที่ทำขึ้นทั้งหมดให้กับชายชาวเปอร์เซียผู้เป็นนายหน้ารับซื้อ ซึ่งก็มีความสนิทสนมคุ้นเคยกันระดับหนึ่ง

     

                “มาตรงเวลาเหมือนเคยเลยนะท่านเต๋า” ชายผู้นั้นทักทาย “ฝีมือของท่านก็ยังดีไม่เปลี่ยน ดูสิ มีดนี่คมกริบเงาวับ ดาบยาวเล่มนี้ก็งามสง่าจริงๆ”

     

                “ท่านเซจก็ชมเกินไป” ช่างหนุ่มหัวเราะ “เอ้อ วันนี้ค้าขายดีมั้ยท่าน?”

     

                “ตลาดช่วงนี้ซบเซาลงบ้าง พ่อค้าบางคนเขากลัวพวกกบฏที่เพ่นพ่านในเมืองมาปล้นเอาก็เลยเก็บตัวเงียบ”

     

                “กบฏพวกนั้นรังแกชาวบ้านด้วยหรือ?”

     

                “ฉันเองก็ไม่รู้แน่ เห็นคนเขาลือเรื่องนี้กันเยอะแยะ”

     

                “ลือกันว่าอย่างไรบ้างล่ะท่าน?”

     

                “เรื่องข่าวสารบ้านเมืองต้องถามเขาล่ะ” ชายชาวเปอร์เซียหันไปเรียกเจ้าหน้าที่ดูแลการค้าท่าเรือที่บังเอิญเดินผ่านมา “ท่านอ้น ว่างไหม แวะมาทางนี้หน่อย”

               

    “มีอะไรหรือ ท่านเซจ” เขาผู้นั้นตอบรับอย่างคนอัธยาศัยดี

     

    “ท่านเต๋าเขาไม่ได้เข้าเมืองมาหลายวัน เลยอยากจะรู้เรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองช่วงนี้บ้าง ช่วยเล่าให้เขาฟังหน่อยสิท่าน”

     

    “ก็อย่างที่รู้ๆกันล่ะ” อ้นเปิดประเด็น “กบฏกระจายอยู่ตามเมือง บางทีก็มีปะทะเล็กๆกับพวกทหาร ชาวบ้านก็เสียขวัญกันใหญ่ ทหารเลยต้องออกมาดูแลเข้มขึ้น นี่ก็ได้ยินมาจากเพื่อนที่เป็นทหารว่าตอนนี้ในวังกำลังเตรียมทำศึกใหญ่กวาดล้างพวกมัน”

     

    “สถานการณ์จะร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ?” เต๋าถามอย่างกังวล

     

    “อันที่จริงก็คงไม่บาดหมางกันขนาดนี้ถ้าพวกกบฏไม่ลักพาตัวองค์ชายเล็กไปจากวัง เขาตามหากันวุ่นวายใหญ่ นี่องค์ชายก็หายตัวไปเกือบครึ่งเดือนแล้ว จนเริ่มมีคนพูดกันว่าองค์ชายเล็กสิ้นพระชนม์ พระราชาเลยยิ่งพิโรธหนัก”

     

    “บ้าไปแล้ว!” เสียงทุ้มเผลอสบถ

     

    “นั่นสิ บ้าจริง คิดว่าพอสงครามหัวเมืองครั้งที่แล้วจบไป บ้านเมืองเราจะไม่มีสงครามแล้วซะอีก” เจ้าหน้าที่หนุ่มเข้าใจว่าคู่สนทนากำลังกังวลเรื่องเดียวกัน “อยู่สุขสบายกันได้ไม่นาน จะต้องหวาดกลัวกันอีกแล้วเหรอเนี่ย”

     

    พูดคุยกันต่ออีกสักพัก เต๋าก็ขอปลีกตัวออกมา เขาขี่เจ้าเพรสโต้ไปที่ย่านอาหาร ปล่อยให้มันเดินเล่นอยู่ด้านนอก ส่วนตัวเขาเข้ามานั่งใช้ความคิดอย่างหนักอยู่ในบาร์เล็กๆ

     

    จะบ้าหรือไง องค์ชายคชายังไม่ตายซะหน่อย!!!

    ควรจะส่งตัวคชาคืนเพื่อลดความตึงเครียดใช่ไหม?

    สถานการณ์แบบนี้ จะพาองค์ชายที่ยังสู้กับใครไม่เป็นกลับเข้าวังอย่างปลอดภัยได้ยังไง?

    ถ้าองค์ชายตัวเล็กนั่นกลับไปแล้ว บ้านจะเงียบเหงาแค่ไหน?

    หรือถ้าคิดอยากซ่อนตัวองค์ชายไว้ตลอดไป จะเห็นแก่ตัวเกินไปไหมนะ???

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×