คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Special Chapter II [100%] Ducky Babies
จบครบ 100% แล้วค่ะ นานมาก แหะๆ ยังมีใครอ่านอยู่มั้ย?
สำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาครั้งแรก
จะบอกว่ามันมีเรื่องราวก่อนหน้านี้ คือตอนพิเศษที่เราเคยลบออกไปนานแล้วอะ่ค่ะ
ถ้าใครยังไม่อ่านอาจจะงงรึเปล่า ว่าทำไมความสัมพันธ์มันกระโดดมาถึงนี่
ขออนุญาตย้อนไปขยายความเดิมให้คุณผู้อ่านที่ไม่ทันตอนนั้นนะคะ
http://www.mediafire.com/view/?43ivb5hpxryt42b
และด้านล่างนี่ คือตอนพิเศษตอนที่สอง ที่เสร็จครบสมบูรณ์แล้วค่ะ
***************************************
กลางดึก เต๋ากลับเข้ามาในบ้านพักด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน เหลือบเห็นคนที่กำลังคิดถึงเผลอหลับอยู่บนเก้าอี้ยาว จึงเข้าไปช้อนร่างเล็กๆนั่นขึ้นอุ้ม แล้วค่อยๆพาไปวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ ประทับจุมพิตแผ่วที่หน้าผากเนียน ก่อนจะกระซิบอ้อนเบาๆ เพราะไม่อยากรบกวนการนอนของอีกฝ่าย
“คิดถึงมากเลยรู้มั้ย”
พูดจบก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนิ่มๆนั่นสักฟอดด้วยความทะนุถนอม แต่กลับทำให้องค์ชายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจนได้
“พี่เต๋า...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างงัวเงีย เงียบไปพักใหญ่เหมือนกำลังประมวลผลอะไรบางอย่าง ก่อนจะหลบสายตาคนตัวโตกว่า แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม อาจเป็นเพราะยังไม่พร้อมที่จะสนทนา
“ชา... ตื่นแล้วเหรอ...” เสียงทุ้มยังพยายามชวนคุย มือขาวค่อยๆเกลี่ยไปตามผิวแก้มใส “เป็นไงบ้าง?”
ท่าทีอ่อนโยนนี้ทำเอาองค์ชายน้ำตารื้น แต่ก็ยังพยายามกลั้น ฝืนยิ้มบางๆตอบอีกคนเสียงสั่น
“พี่เต๋าพักผ่อนเถอะ”
ชายหนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ก้มลงหวังจะจุมพิตปลอบสักครั้ง แต่ใบหน้าน่ารักก็เบือนหนี
“คชา...”
ทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ เต๋ากุมมือเล็กไว้พร้อมส่งสายตาอ้อนวอน ทว่าอีกคนก็ยังไม่มีวี่แววจะคล้อยตาม เอาแต่กลั้นน้ำตาจนหน้าเริ่มแดง
“มาคุยกันก่อนเถอะนะ” เสียงทุ้มขอร้องอย่างเศร้าๆ “พี่ขอโทษ”
“ชา... ไม่เป็นไรหรอก...” คชายอมเอ่ยปากพูด แต่ก็ยังไม่ยอมสบตาสักที
“ไม่เป็นไรได้ยังไงล่ะ คุยกันก่อนเถอะนะ พี่เป็นห่วงชามากรู้มั้ย แบบนี้พี่ไม่สบายใจเลย”
เขาประคองมือนุ่มขึ้นมาจุมพิตเบาๆ เพียงเท่านั้น หยดน้ำตาที่กลั้นไว้นานก็ร่วงลงมาจนได้
“พี่เต๋าใจร้าย”
ชายหนุ่มใจหายวูบ ประคองร่างบอบบางขึ้นนั่ง แล้วตามเข้าไปสวมกอดปลอบจากทางด้านหลัง พยายามปาดซับน้ำตาให้ ทั้งๆที่อีกฝ่ายยังขืนตัว ไม่ยอมพักพิงบนแผ่นอกกว้าง แม้ร่างของตนจะเริ่มสั่น
“ขอโทษ...” วงแขนกว้างโอบคนตัวเล็กแน่นขึ้น พลางกระซิบด้วยน้ำเสียงวิงวอน “พี่กลับมาหาชาแล้วนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะหายไปไหนนานเลย มีพายุเข้าหนักตอนเดินทางเลยต้องหาที่พักชั่วคราว แต่พี่ก็คิดถึงชาตลอดเลยรู้มั้ย อย่าโกรธกันเลยนะ”
“เรื่องนั้นชารู้...” เสียงหวานตัดพ้อ “แต่พี่เต๋าหายไปตั้งหลายวัน ไม่ส่งข่าวกลับมาบ้างเลย รู้มั้ยว่าชาเป็นห่วงพี่เต๋าแค่ไหน”
“พี่ขอโทษ... ขอโทษจริงๆ...” ใบหน้าคมซุกลงกับไหล่บางอย่างรู้สึกผิด
“ชากลัวนะ พี่เต๋าต้องไปเสี่ยงอันตรายอยู่เรื่อยเลย ถ้าพี่เต๋าเป็นอะไรไปชาจะอยู่ได้ยังไงล่ะ” องค์ชายระบายความน้อยใจออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“ขอโทษนะคชา... พี่รีบที่สุดแล้ว พี่กลับมาอยู่ข้างๆชาแล้วนะ ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว”
“ชารู้... รู้แล้ว... พี่เต๋าไปนอนเถอะ”
“คุยกันก่อนสิคชา ยังโกรธพี่อยู่อีกเหรอ?”
“เปล่า...” คนตัวเล็กกลั้นน้ำตา พยายามจะลุกออกจากอ้อมกอด แต่กลับถูกวงแขนอบอุ่นโอบรัดไว้แน่นกว่าเดิม
“ชา...”
“...”
“เป็นอะไร... มาคุยกันก่อนเถอะนะ...”
“...”
“นะ...”
“ก็...พี่เต๋าสัญญากับชาไว้...”
“สัญญา?”
“ก่อนไปไง พี่เต๋าลืมแล้วเหรอ?”
“พี่ขอโทษ” เต๋าสลด “เรื่องงานเต้นรำใช่ไหม?”
“พี่เต๋ามาไม่ทัน พอชาไม่มีคู่ คนอื่นก็เข้ามายุ่ง เขาพยายามจะจูบชาด้วย” ตัดพ้อด้วยเสียงเครือ
“ว่าไงนะ?” ชายหนุ่มตกใจ
“ชาเกือบถูกคนอื่นที่ไม่ใช่พี่เต๋าจูบแล้วนะ พูดไปท่านพ่อก็ไม่เชื่อ แถมยังแกล้งพูดอีกว่าถ้าพี่เต๋าไม่กลับมา จะยกชาให้เขาแทน แล้วจะส่งผู้หญิงไปชดเชยให้พี่เต๋าทีหลัง ไม่ตลกเลยนะ จะให้ชาไม่น้อยใจได้ยังไงล่ะ ถ้าพี่เต๋าเปลี่ยนใจ...”
“มันเป็นใคร?” คนตัวโตถามเสียงเข้ม
คชาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ทั้งไม่เข้าใจความหมาย ทั้งตามอารมณ์ไม่ทัน จนอีกคนต้องช่วยขยายความ
“พี่หมายถึงคนที่กล้ามาขโมยจูบคชาตอนพี่ไม่อยู่ มันเป็นใคร?”
“องค์ชายอาณาจักรอื่น แขกของท่านพ่อ” องค์ชายเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอารมณ์เริ่มตึงเครียด “แต่ชายังไม่โดนจูบสักหน่อย พี่เต๋าใจเย็นก่อนสิ ชากลัวนะ”
“ชาเป็นของพี่ พี่ก็ต้องหวงสิ”
ถึงจะตกใจไม่น้อย แต่ท่าทางหงุดหงิดเพราะหึงหวงของคนรักก็ทำให้คชารู้สึกดีอยู่ลึกๆ
“ชาก็หวงพี่เต๋าเหมือนกัน... อยู่ไกลขนาดนั้น...” มือนุ่มยกขึ้นเกาะแขนขาว หวังให้อารมณ์เย็นลงบ้าง
“แต่พี่หวงชามากกว่า” มือแกร่งประคองใบหน้าน่ารักให้หันเข้าหา “พี่จูบชาได้คนเดียวรู้มั้ย?”
“อือ...” เสียงหวานรับ “พ... พี่เต๋า... อื้อ...”
ริมฝีปากอิ่มถูกช่วงชิงความหวานไปโดยไม่ทันตั้งตัว มือเล็กเกาะไหล่กว้างเป็นที่ยึด ก่อนที่ลิ้นอุ่นจะตอบสนองการหยอกเย้านั่นอย่างโหยหา ร่างบอบบางบดเบียดเข้าซุกอกกำยำตามแรงโอบรัด ใบหน้าเนียนแดงก่ำด้วยความรู้สึกบางอย่าง ส่งเสียงครางเบาๆในลำคอเมื่อผิวกายละเอียดถูกลูบไล้ผ่านเนื้อผ้า
ขณะที่เต๋ากำลังเพลิดเพลินกับความอ่อนหวานที่ห่างหายไปนาน คนตัวเล็กกว่ากลับขืนกายออกเสียอย่างนั้น จนเขาต้องถอนจูบออกอย่างเสียดาย
“ทำไมล่ะคชา?”
“พี่เต๋าขี้โกงนี่นา ชายังไม่ได้บอกเลยนะว่าหายโกรธแล้ว” องค์ชายแกล้งทำเสียงดุใส่
“ขอโทษนะ อย่าใจร้ายนักสิ ไม่ได้กอดมาตั้งนาน คิดถึงจะตายอยู่แล้วเนี่ย” ปลายจมูกซุกซนเกลี่ยตามพวงแก้มใสอย่างจะอ้อน “พี่มีชาแค่คนเดียว ตอนชาไม่อยู่ พี่ก็ไม่เคยไปคุยไปยุ่งกับใครคนอื่นเลยสักนิด พี่รักชาคนเดียวนะ เห็นใจพี่บ้างเถอะ ดีกันนะ”
“พี่เต๋าอ้ะ ไม่ต้องมาเนียนเลย” ได้ยินคำพูดหวานๆอย่างนั้นก็หลุดยิ้มออกมาจนได้ “ไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
“ไม่เอา ดีกันก่อน”
“ถ้าไม่ไปอาบน้ำ ชาจะงอนต่อแล้วนะ” องค์ชายตัวเล็กพองแก้มใส่ แต่ก็ถูกขโมยหอมไปอีกทีจนได้ “อื้อออ... ปล่อยก่อนสิพี่เต๋า ชาจะได้ไปเตรียมชุดให้”
“ขอจูบก่อนไปได้มั้ย”
“อย่าดื้อสิพี่เต๋า”
วงแขนแกร่งคลายออกอย่างอิดออด ก่อนจะยอมเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่เต็มใจนัก ทำเอาคนตัวเล็กนึกขำอยู่ในใจ
ก็ใครจะไปนึกว่าทหารตัวโตๆที่ทั้งฝีมือดีและเฉลียวฉลาดจนเป็นคนที่องค์รัชทายาทไว้วางใจที่สุด จะมางอแงคลอเคลียเป็นแมวยักษ์อ้อนเจ้าของ เพียงเพราะตัวเองไม่ยอมตามใจ
พี่เต๋าก็มีมุมน่ารักๆกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย ><”
...
...
...
นั่งรอบนเตียงไม่นานนัก ร่างสูงก็เดินเปลือยท่อนบนกลับเข้ามาในห้อง หยดน้ำเล็กๆยังเกาะตามผมเปียกและแผ่นอกแกร่งทำเอาคนแอบมองรู้สึกเขินขึ้นมา ทว่าจู่ๆ คนตัวโตกว่าก็เอนลงมานอนตักหน้าตาเฉย
“พี่เต๋า มันเปียกนะ ลุกเลย” เสียงหวานงอแง
“ไม่เอา จะนอน” ไม่พูดเปล่า มือแกร่งยังเกาะต้นขาเรียวไว้แน่น ชิงหลับตาก่อน เพื่อไม่ให้อีกคนขัดขืน
“พี่เต๋าอ้ะ...” เห็นท่าทางเหมือนเด็กๆแบบนี้ก็อดอมยิ้มไม่ได้ “ผมเปียก เช็ดก่อนสิ เดี๋ยวเป็นหวัดนะ”
“เช็ดให้หน่อย...”
“อื้อ...ลุกก่อน...” แขนบางดึงพยายามคนตัวโตขึ้นนั่ง “ทำไมวันนี้พี่เต๋าอ้อนจัง”
“ก็หวง กลัวมีคนมาขโมยไป” แขนขาวโอบร่างเล็กมานั่งตัก แล้วถือโอกาสประคองใบหน้าน่ารักเข้าใกล้ ประทับจูบแผ่วเบาบนริมฝีปาก
“ชาไม่ยอมโดนคนอื่นขโมยไปง่ายๆหรอกน่า...”
องค์ชายพูดเขินๆ ขยับลุกออกจากหน้าตักแข็งแรง ก่อนจะคว้าเอาผ้าที่อีกคนทำหล่นไว้บนเตียงกลับขึ้นมาซับหยดน้ำตามเส้นผมและร่างกายออกให้อย่างเอาอกเอาใจจนแห้งหมาด แล้วบีบนวดให้เบาๆบริเวณบ่า เต๋าหลับตาลงด้วยความผ่อนคลาย สักพักก็รู้สึกได้ถึงอ้อมแขนเล็กๆ ที่สวมกอดเขาไว้แน่นจากด้านหลัง
“พี่เต๋า... ขอโทษที่วันนี้ชางอแงใส่นะ...” เสียงหวานอ้อน “เหนื่อยมากมั้ย?”
“หายเหนื่อยแล้วล่ะ” คนตัวโตส่งยิ้มอบอุ่น “มีคนดูแลดีขนาดนี้”
“แต่พี่เต๋าอย่าลืมดูแลคนดูแลเยอะๆด้วยนะ ถ้าปล่อยให้เหงาอีก คนดูแลจะหนีไปให้คนอื่นดูแลจริงๆด้วย”
“ใครจะไปยอม...” หันไปโอบกอดร่างเล็กไว้แน่น จุมพิตเบาๆบนหน้าผากมน “ถ้ามีคนแย่งชาไป ไกลแค่ไหนพี่ก็จะตามไปเอาคืน”
“จริงๆนะ?” องค์ชายยิ้มเขิน
“ก็ชาเป็นของพี่...”
นิ้วแกร่งลูบผิวแก้มแดงเรื่ออย่างทะนุถนอม ก่อนจะลุกลามไปยังต้นคอระหง ริมฝีปากร้อนประทับจูบเบาๆ ปลายลิ้นชื้นเริ่มลากไล้ไปตามผิวบอบบาง ทำเอาร่างเล็กใจเต้นรัว
ก็ท่าทางแบบนี้...
แถมพี่เต๋ายังไม่ยอมแต่งตัวให้เรียบร้อยอีก...
มัน...
>////////////////////////////////<
ยังคิดไม่ทันจบ เรียวลิ้นซุกซนก็หันไปโจมตีติ่งหูนิ่ม สร้างความรู้สึกวูบวาบจนเผลอส่งเสียงในลำคอ ซึ่งผู้รุกรานก็ยังไม่มีท่าทีจะยอมรามือง่ายๆ
“อะ... พี่เต๋า... พ...พอแล้ว...”
“ทำไมล่ะ?” แม้ปากจะพูด แต่มือหนาก็ยังลูบไล้แผ่นหลังบอบบางผ่านเนื้อผ้า
“เดี๋ยว... พี่เต๋า... ย... หยุดก่อน... อือ... ใส่เสื้อก่อนเถอะ...” มือนุ่มๆดันอกแกร่งออกจากตัวเพราะความเขินจัด
“ก็ได้”
ร่างสูงยอมปล่อยคนตัวเล็กกว่าแล้วหันไปสวมใส่เสื้อผ้าทันที ไม่ลืมที่จะหยิบผ้าชื้นๆผืนนั้นไปตากด้านนอก จนคชารู้สึกเอะใจที่อีกฝ่ายว่าง่ายจนผิดสังเกต ตัดสินใจเดินตามออกไปด้วย
“พี่เต๋า...”
“ว่าไง?”
“คือ... อากาศเย็นเนอะ...”
“อืม...”
“พี่เต๋าอ้ะ...” ท่าทีเย็นชาผิดปกติ เร่งเร้าให้ร่างบางเป็นฝ่ายเดินเข้าไปเกาะแขน “โกรธเหรอ?”
“เปล่านี่” ชายหนุ่มฝืนยิ้ม
นี่พี่เต๋าโกรธเพราะไม่ได้กอดงั้นเหรอ?
ชาแค่เขินเฉยๆเองนะ ไม่ได้บอกว่าไม่ยอมให้กอดสักหน่อย
แล้วต้องทำยังไงต่อล่ะเนี่ย เข้าไปบอกตรงๆว่าให้กอดใหม่อีกรอบก็น่าอายเกินไปนะ
พี่เต๋าอย่างอนสิ ชาทำตัวไม่ถูก T___________________T
เงียบ...
“พี่เต๋า...” องค์ชายคชาเรียกเสียงอ้อมแอ้ม
“เข้าบ้านกันเถอะ ดึกแล้ว เลยเวลานอนชามาเยอะแล้วนะ”
“ไม่เป็นไร” เสียงหวานอ้อน “ชาไม่นอนแล้ว ไม่ได้เจอพี่เต๋าตั้งนาน อยากอยู่กับพี่เต๋ามากกว่า”
คำพูดน่ารักๆนั่นทำให้เต๋ารู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย จึงลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ แล้วดันร่างบางกลับเข้าข้างใน
“ไปนอนได้แล้ว”
“คืนนี้ท้องฟ้าสวย ชาอยากนั่งดูดาวกับพี่เต๋าก่อนได้มั้ยอ้ะ นะ” ดวงตากลมส่งสายตาง้ออีกทาง “ชาอยากอยู่กับพี่เต๋านะ พี่เต๋าไม่อยากอยู่ด้วยกันเหรอ?”
“เฮ้อ... อยากสิ” ชายหนุ่มเริ่มใจอ่อน “ไปตรงไหนกันดีล่ะ?”
องค์ชายคลี่รอยยิ้มหวาน ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำไปยังพื้นหญ้านุ่มๆทางด้านหลัง
“พี่เต๋านั่งก่อนสิ”
“อืม”
ร่างสูงทำตามคำชวนอย่างว่าง่าย เห็นอย่างนั้น คนตัวเล็กก็ตามเข้าไปนั่งซ้อนบนตักอย่างเขินๆ
“ดาวสวยจัง...” เสียงใสเอ่ยขึ้น หวังจะลดความประหม่าของตัวเอง “ตอนอยู่ที่บ้าน พี่เต๋าชอบดูดาวมั้ย?”
“ก็มีบ้าง...” วงแขนอบอุ่นสอดเข้ากอดเอวบาง เพื่อจัดท่าทางให้นั่งสบายมากขึ้น “ทำไมเหรอ?”
“ชาจำได้ว่าดาวที่บ้านพี่เต๋าสวยมาก แต่ถ้ามีโอกาสได้มองดาวจากบนภูเขาก็คงจะสวยเข้าไปใหญ่” เมื่อคนรักของตนกลับมาแสดงท่าทีห่วงใยตามปกติ องค์ชายก็ใจชื้นขึ้น ซุกตัวเข้าหาแผ่นอกแกร่งแนบสนิทยิ่งขึ้น
“อื้ม... เห็นชัดกว่านี้อีกนะ”
“อยากกลับไปอีกจัง อยากอยู่กับพี่เต๋าแค่สองคนแบบตอนนั้น ชามีความสุขมากเลยแหละ”
“แล้วตอนนี้ล่ะ?”
“ก็มีความสุขเหมือนกันเพราะว่าพี่เต๋าได้มาอยู่กับชา แล้วชาก็รักพี่เต๋าได้แบบไม่มีอุปสรรค” คชาอธิบายด้วยรอยยิ้ม “แต่ว่าบางที ชาเข้าใจนะว่าเป็นหน้าที่ของพี่เต๋า แต่พอพี่เต๋าต้องไปราชการที่ไหนไกลๆ ชาก็เหงานะ พี่เต๋าก็เหงาเหมือนกันใช่มั้ย?”
เต๋าพยักหน้า นั่งรอฟังต่อด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นมาก ปล่อยให้เสียงหวานๆเจรจาต่อไป
“เวลาที่พี่เต๋ากลับมา... ชาก็อยากอยู่กับพี่เต๋า... อยากให้พี่เต๋ากอดชาแน่นๆ อยากจะดูแลพี่เต๋า แล้วก็อยากเอาใจพี่เต๋าเยอะๆเหมือนกันนั่นแหละ... แต่ชาก็เขินนี่นา... เขินมากๆด้วย... ชาหมายถึง... เอาใจ... เรื่องที่... เอ่อ... แบบ...” ถึงตรงนี้ เจ้าตัวก็อายจนพูดต่อไม่ออก “พี่เต๋าเข้าใจชามั้ยอ้ะ?”
ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจบ้างอย่าง แต่ก็ยังแกล้งทำหน้าสงสัย อยากจะให้ใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงจัดกว่านี้
“คือที่ชาอยากไปบ้านพี่เต๋าเนี่ย เพราะว่า...”
ขนาดจะง้อนะเนี่ย... อ้อมออกนอกเรื่องอีกแล้ว...
ท่าทางเขินมากจริงๆนั่นแหละ
เด็กจริงๆเลยคชา
ดูซิว่าจะพูดอะไรต่อ
“ก็ถ้าไปดูดาวบนภูเขาที่บ้านพี่เต๋า ดาวจะสวยกว่านี้ใช่มั้ย เราก็ขี่เจ้าเพรสโต้ไปกัน ไปพักผ่อนบนภูเขา แวะไปหาเจ้าเป็ดน้อยที่เราเคยช่วยกันเลี้ยงตอนนั้น รอดูดาวด้วยกัน บรรยากาศต้องดีมากๆเลยใช่มั้ยอ้ะ เสร็จแล้วก็กลับมา...เอ่อ...นอนค้างด้วยกันแค่สองคน แบบที่เคยทำ... ลูก... เป็ดน้อย... ไม่ใช่ แต่ว่าพี่เต๋าต้อง... เอ่อ... ให้ชาตั้งสติก่อนแป๊บนึง... ชาจะตื่นเต้นเกินไป... อ่า... ไม่ได้ไม่ให้นะ... คือ... หมายถึงก่อนนอน... มันเขิน... ฮึ้ย... ชาพูดไม่รู้เรื่องแล้วอ้ะ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าพี่เต๋าหายโกรธชาเถอะนะ”
TT //////////// TT
“พี่ช่วยสรุปให้ละกันนะ” คนตัวโตกว่ากลั้นหัวเราะ “อยากมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองนานๆ แล้วก็จะบอกว่า จริงๆแล้วอยากให้พี่ ‘รัก’ ได้ตามใจ แต่วันนี้ตัวเองเขินมาก เลยอยากขอแก้ตัวใหม่อีกรอบ แบบนี้ใช่มั้ย?”
“ฮื่อ”
กว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้าใจได้ องค์ชายตัวเล็กก็แทบจะระเบิดตัวเองเพราะความอาย
“เจ้าเป็ดน้อยที่ช่วยกันดูแล หมายถึงลูกของเราใช่มั้ย?”
“อื้อ พี่เต๋าหายโกรธชาแล้วใช่มั้ยอ้ะ?” ว่าพลางส่งสายตาอ้อนวอน
“จะหายดีมั้ยนะ?” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูนิ่ม ร่างกายขยับแนบชิดกันจนแทบไม่เหลือที่ว่าง จงใจผ่อนลมหายใจร้อนๆไปหยอกล้อบริเวณซอกคอ ตามด้วยริมฝีปากอุ่นๆ
คชาสะดุ้งน้อยๆเมื่อได้รับสัมผัสวาบหวิว รอยยิ้มเขินอายปรากฏบนใบหน้าน่ารัก ก่อนจะออดอ้อนเบาๆด้วยเสียงหวานกว่าเดิม
“หายเถอะนะ เข้าบ้านกัน” มือเล็กเลื่อนไปแตะหัวเข่าของร่างสูง “ชายอมให้พี่เต๋าทำเป็ดน้อยอีกยี่สิบตัวเลยก็ได้”
...
...
...
<<เนื้อหาส่วนนี้เป็นสีสัน ไม่กระทบต่อเนื้อเรื่อง แต่ลงในนี้ไม่ได้ ถ้าอยากอ่าน โหลดได้ที่ http://www.mediafire.com/view/?9s6dwce53vly8er นะคะ เลื่อนหาส่วนที่ตัวหนังสือสีนี้เลยค่ะ ^_^>>
...
...
...
“องค์ชายคชา ท่านเต๋า ตื่นหรือยังขอรับ? ถ้าตื่นแล้วองค์รัชทายาทให้กระหม่อมมาเชิญ”
“ตื่นแล้ว! เดี๋ยวรีบตามไป ขอบใจมาก”
ตื่นนานแล้ว... แต่แม่เป็ดขี้เซาไม่ยอมตื่นซะที
ปลุกยากจัง ขนาดเมื่อคืนทำยังไม่ครบยี่สิบตัวนะเนี่ย
“คชา...”
ร่างสูงโน้มตัวลงไปจูบปลุกบนหน้าผากเนียน แต่สิ่งที่ได้รับคือ
“อื้อ...”
งัวเงียแล้วนอนต่อ เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้
“ตื่นได้แล้วนะ”
เต๋ายังพยายามปลุกต่อไป
แต่...
“งือ...ขอชานอนต่ออีกแป๊บนึงนะ...”
เพราะฉะนั้น ต้องแข็งใจใช้ไม้ตาย
“ตื่นเถอะชา ทุกคนรออยู่นะ เดี๋ยวก็โดนองค์ชายต้นแซวอีกหรอกถ้ารู้ว่าตื่นสายเพราะทำเป็ดน้อย”
พี่ต้น??? แซว??? ทำเป็ดน้อย???
ไม่ได้นะ!!!!!
>/////////////////[]////////////////<!!!!!!!
ได้ผล!
แม่เป็ดขี้เซาลุกขึ้นจากเตียงทันที
“พี่เต๋า... ไปหาพี่ต้นกันเลยมั้ย...” เสียงหวานเร่ง
“ชาล้างหน้าแปรงฟันก่อนดีมั้ย?”
“ทันเหรอ?”
“ทัน”
“งั้นรอชาแป๊บนึงนะ”
องค์ชายตัวเล็กตาสว่างเต็มที่ ลุกไปทำธุระอย่างรีบเร่ง จนเต๋าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตาม
ถ้าใช้วิธีนี้ตั้งแต่แรกก็เสร็จไปนานแล้ว
...
...
...
“คชา เมื่อคืนแกทำไรเต๋าอ่ะ?”
คำถามที่พี่ชายแอบกระซิบถามบนโต๊ะอาหาร ทำเอาน้องสะดุ้งเฮือกจนทุกคนสังเกตได้
โดนแซวอีกแล้ว มาก็ไม่สาย
แต่พี่ต้นรู้ได้ไงอ้ะ >o<””
“ป... เปล่าทำ...”
“แน่ะ... แล้วรอยแดงๆที่ซอกคอเต๋า... ข้างซ้าย...”
จริงด้วย o_O!!!
รอยตอนพี่เต๋าให้ชาเป็นคนทำเป็ดน้อยตัวที่สาม
ก็... มันรู้สึก... เลยเผลอ... จ๊วบๆไปนิดนึง... ><
น่าอายชะมัด ไม่น่านั่งข้างพี่ต้นเลย ฮือออออออ
TT /////// ^ //////// TT
“คิดถึงกันมากสินะ หึหึ”
“อย่าเสียงดังสิพี่ต้น”
“ดังอะไร ก็กระซิบกับแกอยู่สองคน”
“ทีพี่ต้นออกไปขี่ม้าเล่นกับใคร ชายังไม่บอกท่านพ่อท่านแม่เลยนะ”
“เฮ้ย! แกรู้ด้วยเหรอ?”
“ก็ชาเห็น วันนั้น...”
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งพูดไปนะ ยังไม่ได้คบกัน แค่คุยเฉยๆ”
“งั้นพี่ต้นต้องหยุดแซวชาก่อน ตกลงมั้ย?”
“ก็ได้ สงบศึก กินไป ทุกอย่างปกติ ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครสงสัยอะไร กิน”
เหมือนจะจบ
แต่...
พี่น้องคู่นี้... ถ้าจะกระซิบกันเสียงดังขนาดนี้... สีหน้ามีพิรุธขนาดนี้...
ถ้าคิดว่าไม่มีใครได้ยิน... ไม่มีใครสงสัยอะไร...
แม่กับพ่อก็ว่าตามนั้นแหละลูก
กินจ้ะกิน
-*-
*******************************
จบค่ะ แหะๆๆ ไม่ได้เขียนนานยังโอเคอยู่มั้ย ><
ส่วนตัวแล้ว เราชอบเวลาพี่น้องคู่นี้อยู่ด้วยกันอ่ะ
ตลก :)
ความคิดเห็น