ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silver Swords [TaoKacha]

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 55






                 เป็นเวลาสามวันเต็มๆที่องค์ชายคชาฝึกการฟันดาบอย่างจริงจัง โดยที่องค์ชายต้นไว้ใจฝากน้องให้นักดาบธาเลสอบรมดูแล ในขณะที่ตัวเองต้องออกไปประชุมเข้มเพื่อวางแผนการรบร่วมกับเหล่าหัวหน้ากอง เนื่องจากสถานการณ์ช่วงนี้กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

     

                ทันทีที่พี่ชายกลับเข้ามารับที่ลานฝึก องค์ชายเล็กก็ขอลาอาจารย์เพื่อเข้าไปพูดคุยด้วย

     

                “กลับมาแล้วเหรอพี่ต้น วันนี้เหนื่อยมั้ย?” เสียงหวานถามไถ่

     

                “เหนื่อยมาก” รัชทายาทถอนหายใจ “พี่พยายามดูแลคนของเราอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังดีไม่พอ เมื่อเช้านี้ก็เกิดปะทะกันจนทหารของเราตายไปอีก 7 คน เรื่องมันไม่น่าเกิดขึ้นเลยคชา”

     

                “ใจเย็นๆก่อนนะพี่ต้น” มือเล็กบีบนวดไหล่ของพี่ชายเบาๆ “พี่ต้นพักผ่อนก่อนดีมั้ย หยุดคิดเรื่องพวกนั้นสักพักเถอะนะ ชาเป็นห่วง”

     

                “แต่มันเป็นหน้าที่พี่”

     

                “ชาเข้าใจ แต่พี่ต้นเอาแต่เครียดอยู่แบบนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เรากลับไปพักผ่อนที่ตำหนักกันเถอะนะ พอใจเย็นแล้วค่อยคิดแผนต่อ เชื่อชานะ”

     

                “เอางั้นก็ได้”

     

    ต้นฝืนยิ้ม ก่อนจะเดินกลับที่พักพร้อมกับน้องชาย เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ยาวฟากหนึ่งอย่างอ่อนแรง คชาเห็นอย่างนั้นจึงรีบหยิบแก้วน้ำมาให้ดื่ม แล้วนั่งอยู่ข้างๆราวกับจะให้กำลังใจ

     

    องค์รัชทายาทนั่งเหม่อลอยอยู่สักพักก็มีขุนนางนายหนึ่งเข้ามาเรียก พร้อมกับม้วนเอกสารบางอย่างในมือ

     

    “มีธุระอะไร?”

     

    “ที่องค์รัชทายาทให้สืบประวัติของคน...”

     

    พูดไม่ทันจบก็ถูกส่งสัญญาณให้เงียบ องค์ชายต้นเดินนำขุนนางนายนั้นออกไปทางหลังตำหนักเพื่อให้พ้นจากการรับรู้ของน้องชาย โดยที่องค์ชายเล็กได้แต่มองตามอย่างงุนงง

     

    ไม่นานนัก คนเป็นพี่ก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเฉย หากแต่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธจนคชาสังเกตได้

     

    “พี่ต้น... เป็นอะไรรึเปล่า?”

     

    “ไม่มีอะไรหรอกคชา”

     

    น้ำเสียงเรียบเย็นที่ตอบกลับมาฟังดูน่ากลัวอย่างประหลาด ทำให้น้องไม่กล้าแม้แต่จะถามต่อ

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

                ระหว่างที่ร่างบางนั่งเกร็งอยู่ข้างพี่ชายที่กำลังอารมณ์ไม่ดี ก็เหมือนมีเสียงสวรรค์มาช่วยไว้

     

                “มีคนฝากของมาถวายองค์ชายคชาขอรับ” ทหารยามโค้งคำนับและห่อกระดาษใบหนึ่งให้

     

                องค์ชายตัวเล็กรับสิ่งนั้นมาด้วยความตื่นเต้น เปิดดูทันที เผื่อว่าจะเป็น...

     

                “พี่เต๋า!” เสียงหวานอุทานออกมาด้วยความดีใจ ดังจนต้นหันมามอง

     

                “อะไรเหรอคชา?”

     

                “พี่ต้น... พี่เต๋ายังไม่ลืมชา...” คชายิ้มกว้าง แล้วก้มลงอ่านจดหมายที่แนบมาในใจ

     

              ยังสบายดีอยู่ใช่มั้ยองค์ชายคชา

    พี่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี รู้สึกเป็นห่วงก็เลยเอาเครื่องรางนี่มาให้ เก็บไว้ล่ะ จะได้ปลอดภัย

    รักษาตัวด้วยนะ

     

    –พี่เต๋า-

     

                ข้อความสั้นๆที่เขียนมาทำเอาองค์ชายน้ำตารื้น มือเล็กหยิบแท่งไม้แกะสลักเล็กๆจากห่อขึ้นมากำไว้แน่น

     

    บอกให้ชารักษาตัว...

    แต่พี่เต๋ากลับเสียงอันตรายเอาเครื่องรางเข้ามาให้ชาเนี่ยนะ...

     

                “ตอนนี้เขาคนนั้นยังอยู่ไหม?” หันไปพูดกับทหารอย่างมีความหวัง

     

                “เขาฝากของไว้กับทหารเวรหน้าประตู ไม่ได้เข้ามาในวังหรอกขอรับ”

     

                ได้ยินอย่างนั้น แววตาก็เศร้าลง

     

              สองคนนี้... มีความสัมพันธ์กันยังไงนะ...

     

                “ถ้าคชาอยากเจอเขา ก็ให้ทหารตามตัวเขาเข้ามาพบสิ” จู่ๆองค์ชายต้นก็พูดขึ้น

     

                “ได้เหรอพี่ต้น” ดวงตากลมกลับมามีประกายอีกครั้ง

     

                “แน่นอน น่าจะยังไปไหนไม่ไกลหรอก” รัชทายาทยืนยัน แล้วหันไปออกคำสั่ง “จำหน้าเขาได้ใช่ไหม รีบส่งคนออกไปตามหา แล้วพาเข้าไปหาฉันกับคชาที่ห้อง”

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    เต๋าถูกพาตัวมายังห้องทรงงานขององค์รัชทายาทแบบไม่ทันได้ตั้งตัว สายตาคมๆที่จ้องมาทำเอาเขาเกร็งไปหมด

     

    “น้องของเราอยากพบนาย” ต้นกล่าวเสียงเข้ม ก่อนจะหันไปพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้น “ออกมาคุยกับเขาสิคชา เห็นมั้ยล่ะ พี่บอกแล้วว่าต้องได้เจอ”

     

    ร่างบางค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มอย่างตื่นเต้น

     

    “พี่เต๋า... พี่เต๋าจริงๆด้วย...” คชาตื้นตันจนเกือบจะร้องไห้ “ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆนะพี่เต๋า ชาดีใจที่สุดเลย”

     

    ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่วงแขนเล็กกลับเข้าไปสวมกอดร่างสูงเอาไว้แน่น แม้ว่าเต๋าจะไม่ได้กอดตอบ

     

    “ชาคิดถึงพี่เต๋าทุกวันเลยนะ พี่เต๋าคิดถึงชาบ้างรึเปล่า”

     

    เสียงหวานๆและท่าทางอ้อนๆทำให้ช่างหนุ่มรู้สึกอยากโอบกอดร่างเล็กตรงหน้าและลูบผมนิ่มๆอย่างที่เคยทำใจจะขาด แต่เพราะฐานะที่เปลี่ยนไป เขาจึงไม่มีสิทธิ์อีกแล้ว

     

    “คิดถึงสิองค์ชาย” เสียงทุ้มตอบ ขณะที่ยกมือขึ้นแตะเอวบางเบาๆ

     

    เขาอาจจะทำได้แค่นั้น

     

    “นี่...” องค์ชายต้นท้วงขึ้น เขาจึงจำใจปล่อยมือ “คชาด้วย...”

     

    องค์ชายตัวน้อยซึ่งกำลังมีความสุขยอมคลายอ้อมกอดตามคำสั่ง หันไปมองพี่ชายแท้ๆอย่างงุนงง

     

    “พี่มีเรื่องต้องคุยกับเขาสักหน่อย ออกไปรอข้างนอกก่อนนะ เอ้อ แล้วก็ฝากวานใครสักคนไปตามท่านลอร์ดโมเช่เข้ามาหาพี่หน่อย แกไปนั่งรอที่โถงก็ได้ เสร็จธุระแล้วพี่จะรีบออกไปหา”

     

    “อื้ม” องค์ชายเล็กยิ้มรับก่อนจะเดินออกจากห้อง โดยไม่ลืมหันมาหาเต๋า “เดี๋ยวคุยกันนะพี่เต๋า”

     

    หลังจากองค์ชายคชาออกไป บรรยากาศภายในห้องก็อึดอัดขึ้นทันตา

     

    “คิดว่าเวลาจะช่วยลบล้างความผิดของตัวเองได้หรือไง อดีตหัวหน้ากองเต๋า” องค์รัชทายาทเริ่มพูดก่อน

     

    ชายหนุ่มรู้สึกชาวาบไปทั้งหน้า เนื่องจากรู้ตัวว่าอดีตที่ตนพยายามซ่อนเร้นได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาแล้ว

     

    “กระหม่อมรู้ดีว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นมันผิด แต่กระหม่อมก็มีเหตุผล หากองค์รัชทายาทต้องการฟังคำอธิบาย...”

     

    “เราไม่อยากเสียเวลาฟังคำแก้ตัวจากคนไม่มีเกียรติอย่างนาย” ต้นขึ้นเสียง “ที่เราสงสัยคือนายกลับมาที่นี่ทำไม? แล้วต้องการอะไรจากน้องชายเรา?”

     

    “กระหม่อมเป็นห่วงองค์ชายคชาเท่านั้น ไม่ได้มีเหตุผลอื่น”

     

    “จะให้เราเชื่อคำพูดของคนทรยศอย่างนายได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าจะหลอกใช้คชาเป็นเครื่องมือเหรอ”

     

    “องค์รัชทายาทกำลังเข้าใจผิด กระหม่อมหวังดีต่อองค์ชายคชาด้วยความบริสุทธิ์ใจ”

     

    “ความบริสุทธิ์ใจ? จากทหารที่นำข้อมูลของกองทัพไปให้ศัตรูในสงครามหัวเมืองเมื่อสามปีที่แล้วน่ะเหรอ พอกองทัพรบชนะนายก็สู้หน้าใครไม่ได้ จนต้องหนีไปอยู่ในป่าไม่ใช่หรือไง หนอนบ่อนไส้อย่างนายยังกล้าพูดอีกเหรอว่าหวังดีกับคชา” องค์ชายต้นเหยียดยิ้ม

     

    “กระหม่อมไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้น ถึงจะหนีออกจากกองทัพจริง แต่ก็ไม่เคยคิดทรยศบ้านเมือง” เสียงทุ้มพยายามอธิบาย

     

    “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว เราจะไม่ปล่อยให้นายทำร้ายอาณาจักรและน้องชายของเราได้ง่ายๆอีก ...แต่เห็นแก่ที่พาคชากลับวัง เราจะเมตตาไม่ประหารชีวิต” รัชทายาทหันไปพูดกับท่านลอร์ดที่เพิ่งมาเข้าเฝ้าตามคำสั่ง “คนนี้เราฝากดูแลใกล้ชิดหน่อยนะท่านโมเช่ ช่วยส่งเขาไปเป็นพลทหารสักกอง เลือกเอากองที่เจ้าคนทรยศนี่จะใช้อิทธิพลอำนาจเก่ากับใครไม่ได้ จับตาดูพฤติกรรมด้วย ถ้าพบว่ามีอะไรน่าสงสัยก็ส่งตัวมาให้เราจัดการได้เลย”

     

    ลอร์ดโมเช่น้อมรับพระบัญชา ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องควบคุมตัวเต๋าออกไปทันทีโดยเจ้าตัวไม่มีโอกาสโต้แย้ง

     

    ต้นมองตามอดีตหัวหน้ากองฝีมือดีที่ขณะนี้ถูกบีบบังคับให้กลายเป็นพลทหารชั้นล่างสุดด้วยความรู้สึกโกรธปนเหนื่อยใจ

     

    “เสียดายความสามารถของนายจริงๆ ทำตัวเองแท้ๆ”





    *********************************************






    สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน


    ขณะที่เต๋ากับคชาได้เจอกัน เหตุการณ์ก็กลับตึงเครียดขึ้นซะงั้น

    แอบรู้สึกว่าตัวเองเขียนเรื่องหนักๆไม่ค่อยถนัดเลย

    แต่ผูกปมไว้แล้ว ยังไงก็จะช่วยสองคนนี้แก้สถานการณ์ให้ได้


    ฮึ่ยยย  >"<!!!!!


    อืม... มันเครียดเกินไปมั้ยเนี่ย...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×