NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HONGZAN "หงส์ซาน" (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : หงส์ซาน #4 ช็อคซินีม่า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.24K
      357
      1 ก.ย. 60




    #4 ช็อคซินีม่า 

    _______________________________________






    ผมยืนตะลึง ตัวแข็งทื่อ ตาเบิกกว้าง


    มันไม่ได้หักแขนผม


    มันไม่ได้ต่อยผม


    มันไม่ได้กระทืบเท้าผมแก้แค้นคืน


    แต่มันกำลัง


    “อึก...” 


    จูบผมอยู่ครับ!!


    สองมือมันยังกักผมไว้กับกำแพง ก้มเพียงหน้าลงมาจูบ จูบไม่จูบเปล่า มันยังแทรกลิ้นเข้ามาเกี่ยวลิ้นผมด้วย ผมยืนช็อก พอตั้งสติได้ก็รีบผลักมันออก แต่มันไม่ขยับ จะหนีมันก็ใช้แขนกั้นผมไว้ทั้งสองข้างซ้ายขวา ผมพยายามทึ้งดึงมันออก แต่ทำยังไงมันก็ไม่สะทกสะท้าน ผมเปลี่ยนจากการดิ้นรนเป็นจิกมันแทน 


    ไม่รู้ว่ามันรำคาญหรือเจ็บกันแน่ มันรั้งสองข้อมือผมไปกดติดกำแพงด้านหลัง 


    ให้ตาย ผมน่าจะเรียนวิชาขัดขืนลิ้นคนมาด้วยจะได้รู้วิธีต่อต้าน และต้องเรียนวิธีต่อสู้เวลาถูกจับขึงพรืดแบบนี้ด้วย 


    แล้วก็ให้ตายอีกรอบ!!


    มันจูบเก่งมาก!! 


    ปลายลิ้นเลาะอัดลิ้นผมภายในจนน่วมระบมอ่อนล้าไร้แรงขัดขืน หน้าผมแหงนไปตามแรงกด รู้สึกระทวยจากปากลามมาที่คอ พุ่งตรงมาที่อก ต่ำลงไปที่หน้าท้องพ่วงแขนขาให้ชาดิกแล้วก็โรยแรง ขาผมอ่อนยวบทันที กำลังจะร่วงแต่มันขยับเข้ามาใช้ลำตัวกดผมติดกำแพง มวลมากมายบิดเกลียวไปทั่วทั้งท้องน้อยจนตัวผมสั่นริก สมองเหมือนโดนสาดด้วยสีขาว น้ำตาคลอเบ้า


    ผมไม่ได้กำลังเสียใจ 


    ไม่ได้กำลังโกรธด้วย 


    แต่ท้องไส้มันปั่นป่วนแปลกๆ จนต้องหาทางระบายออกทางดวงตา ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปหมด ผมพยายามครางท้วง แต่เรี่ยวแรงถูกสูบหายไป เสียงท้วงผมถึงได้เครือครางจางอยู่แค่ในลำคอ มันบดขยี้กลีบปากผมแรง ลิ้นภายในก็รุกเร้าไม่หยุด


    แล้วมันก็ถอนปากออก ผมอ้าปากค้าง พยายามกอบโกยเอาอากาศเข้าปอด น้ำลายบางส่วนไหลตกมาที่มุมปาก สมองยังขาวโพลน ภาพตรงหน้ายังพร่าเลือน เรี่ยวแรงยังไม่กลับเข้าอู่ ขาแข้งแม่งเหมือนเป็นอัมพาต ยืนอยู่ได้ตอนนี้เพราะมันกดตัวผมติดกำแพงนี่แหละ


    “ทำไมไม่พยศต่อล่ะ” 


    “ไอ้” 

    ผมพยายามเค้นหาคำพูด แต่คิดไม่ออกครับ


    “หวานกว่าที่คิด” 

    มันก้มลงมาเลียน้ำลายตรงมุมปากผมเบาๆ ทิ้งมือผมเปลี่ยนมาเป็นโอบรอบเอวผมไว้แทน


    โห แขนผมร่วงผล็อยเหมือนหุ้นตกเลยครับ ตัวผมร่วงตามลงไปด้วยเซซบเข้ากับแผงอกกว้าง 


    น่าขายหน้าสุดๆ!! 


    ผมพยายามรวบรวมกำลังกลับคืน  

    แต่พระเจ้า มันดูดพลังผมไปหมดเลย แรงจะยืนยังแทบไม่มี มันงับติ่งหูผมเบาๆ ผมรีบเอียงหน้าหลบ


    “ทำตัวดีๆ”


    “เชื่อก็บ้าแล้ว” 

    ผมกอบกู้พลังเป็นครั้งสุดท้ายผลักตัวเองออก เช็ดคราบน้ำลายที่ปากแรงๆ มองกลับตาขวาง 


    “จะฟ้องป๊า”


    “ฟ้องว่าอะไร”


    ผมชะงัก 

    นั่นสิ ฟ้องว่าอะไร ฟ้องว่าโดนจูบงั้นเหรอ 


    หูย ศักดิ์ศรีกู


    ผมกำหมัดแน่น เหวี่ยงกำปั้นใส่มันสุดแรง กะเอาให้หน้าหล่อๆ ของมันเบี้ยวไปข้าง แต่มันเร็วกว่ารับไว้ได้ ผมปล่อยอีกหมัดตามไปติดๆ แม้พลังข้างซ้ายจะน้อยกว่าข้างขวาก็ตาม แต่ถ้าโดนเต็มๆ ก็ตาแตกได้เหมือนกัน


    มันเร็วกว่ารับไว้ได้อีก จับหมัดผมไปรวมกันไว้ด้านหลัง 


    มือไม่ว่างเท้ายังมี ผมจะกระทืบตีนมัน แต่มันก็ขยับหนีไปได้อีก ผมยกเข่าหวังกระแทกกล่องดวงใจมัน มันก็ยังเร็วกว่าใช้เข่ากั้นไว้ได้อีกเช่นกัน 


    มือไม่ได้ เท้าไม่ถูก เข่าไม่ถึง งั้นมึงก็เอาลูกโหม่งไปกินเลย! 


    มันหยุดผมไว้อีกครั้งด้วยการดึงข้อมือผมด้านหลังจนต่ำ โหม่งได้เพียงอากาศเท่านั้น ผมจ้องมันตาขวางอย่างนึกเจ็บใจ


    “แน่จริงตัวๆ ดิวะ” 


    “ชอบเหรอ แบบตัวต่อตัว”


    “ใช่”


    มันยกยิ้ม


    “ได้สิ แต่ที่นี่คงไม่เหมาะ ไว้ให้ลับตาคนกว่านี้สักหน่อยก่อน”


    “ได้เลย เราจะได้เห็นดีกัน”


    “นั่นน่ะสิ ฉันอาจจะได้เห็นอะไรดีๆ มากกว่าที่คิดก็ได้” 

    มันหัวเราะหึๆ จับผมพลิกหันหลังชนอกมัน คีบคางผมไว้กันดิ้นรน ผมพยายามฝืนดึงหน้าออก แต่มันไม่หลุด


    “ปล่อยดิวะ!”


    “พูดจาให้เรียบร้อย ฉันชอบคนพูดเพราะๆ”


    “ปล่อยกู!!” 

    เป็นไง เพราะพอไหม ผมหัวเราะหึๆ


    มันจิ๊ปาก


    “ดื้ออย่างที่เขาล่ำลือกันจริงๆ เด็กดื้อต้องถูกทำโทษ”


    “มึงไม่ใช่แม่กู ปล่อย” 


    “พูดเพราะๆ อาหงส์”


    “ไม่” 

    ผมกะยั่วให้มันแลกหมัดกันตัวต่อตัว มันจับผมพลิกหันไปเผชิญหน้าอีกรอบ ผมเตรียมสวนหมัดกลับ 


    แต่ไม่ทันครับ TT


    มันสวนกลับมาก่อน แต่ไม่ใช่ด้วยหมัด 


    เป็นปากมันเอง 


    อ้ากกกก สองรอบแล้วนะ มึงจูบกูสองรอบแล้วนะ!!!


    ผมครางท้วงอู้อี้ในลำคอ พยายามผลักมันออก แต่มันไม่ขยับสักนิด รสจูบของมันค่อยๆ พรากเรี่ยวแรงผมไป มือที่พยายามผลักไสแปรเปลี่ยนมาเป็นหาที่ยึดเหนี่ยว เสียงท้วงฮึดฮัดเปลี่ยนเป็นเสียงท้วงเบาๆ


    ไม่ใช่ท้วงสิ 


    นี่มันครางชัดๆ!!!


    ความรู้สึกต่อมาคือมือมันที่บั้นท้ายผม มันบีบเบาๆ จนผมเผลอครางตามแรงบีบนั้น


           มะ มึง มึง มึง มึงบีบก้นกู!


    มันถอนปากออก


    “นี่คือบทลงโทษสำหรับลื้อนะอาหงส์ เชื่อฟังเฮียดีๆ” 

    แล้วมันก็ปล่อยผมให้เป็นอิสระ ร่างที่ไม่มีอะไรรองรับทรุดฮวบลงไปนั่งขาพับที่พื้นทันที มันขยับปรับสูท หันไปมองกระจกเพื่อเช็กความเรียบร้อย หันหลัง เดินหล่อๆ ออกไป


    ผมยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม สมองเหมือนถูกกระชากแบตออกกะทันหัน 


    มึง มึง มึง มึ๊ง!!!!





    สองนาทีหลังมันเดินออกไป ผมเปิดน้ำทิ้งไว้ บ้วนปากเป็นรอบที่สิบ เช็ดๆ ถูๆ ริมฝีปาก ล้างจนเสื้อเปียกหัวเปียกไปหมด 


    ล้างรอยจูบที่มันทำ


    เจ็บใจครับ มันแกล้งผม มันต้องการย่ำยีศักดิ์ศรีผม


    ที่เจ็บใจคือ ผมตื่น!! 


    แต่ผมไม่ได้ช่วยตัวเองหรอก นับหนึ่งถึงสิบมันก็สงบแล้ว ร่างกายชายหนุ่มวัยยี่สิบ มันตื่นง่ายก็เรื่องปกติ แต่เจ็บใจที่มันตื่นเพราะถูกผู้ชายจูบนี่แหละ


    “คิดว่าตกส้วมตายซะอีก เข้าห้องน้ำอะไรของลื้อนานจริงๆ อาหงส์”


    ผมเงยหน้ามองเฮียฮันที่ยืนกอดอกอยู่หน้าประตู


    “ล้างทำไมหน้า เปียกหมดแล้ว เปื้อนอะไรมาถึงได้ถูจนปากแดงเจ่อขนาดนั้น”


    ตอนเฮียฮันทักผมยังถูอยู่ ผมเงยหน้ามองตัวเองในกระจก ปากเจ่อแดง สงสัยจะถูแรงไปจริงๆ เส้นผมเปียกมะล่อก ผมถอดสูทออกก่อนหน้านั้นแล้ว ตอนนี้เสื้อเชิ้ตเปียกไปครึ่งตัว ดวงตาลุกวาวเหมือนเสือแม่ลูกอ่อน


    “เยินหมดแล้วอาหงส์ รีบออกไปเร็ว อาหลงจะกลับแล้ว ไปส่งแขกหน่อย”


    “ไม่ไป จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”


    “เสียมารยาท ออกไปส่งก่อน แล้วค่อยเข้าห้องทีเดียว ป๊าสั่งมา อย่าดื้อ เดี๋ยวโดนตัดค่าขนมหรอก”


    ผมเม้มปากแน่น จำต้องคว้าเสื้อสูทมาถือ แต่ไม่ใส่หรอก ไปแบบไม่เรียบร้อยนี่แหละ


    ผมเดินหน้าหงิกออกไป


    “ไปทำอะไรมาอาหงส์ ตัวเปียกเชียว” 


    ผมไม่สนใจเสียงทักของม้า มองแขกบ้านแขกเรือนตาขวาง มันคงอ่านออกว่าผมกำลังไล่มันออกจากบ้านอย่างเอาเป็นเอาตาย มันมองตาผม เลื่อนต่ำลงไปที่ริมฝีปาก


    กูล้างมาไม่ต้องมอง


    ต่ำลงไปแถวๆ ลำคอ และเสื้อ

    แน่นอน มันเปียกมะล่อกราวกับอาบน้ำมา ชอบความเรียบร้อย ผมก็ทำตัวไม่เรียบร้อยใส่มันซะเลย 


    เป็นไงล่ะ มารยาทมีไว้สำหรับทุกคนยกเว้นมึง


    มันเลื่อนสายตามาสบตาผมอีกรอบ หันไปทางป๊า


    “งั้นผมขอลาล่ะครับ” 

    มันล่ำลาป๊า ขยับเดินเข้ามาใกล้ผม ก้มหอมแก้มเบาๆ ผมตัวแข็งทื่อ


    “เจอกันวันแต่ง”

    ผมมองมันตาขวาง มันหัวเราะ หันไปพูดอะไรกับป๊าและม้าเสียงเบา ป๊ากับม้าตาโต สักพักมันก็เดินขึ้นรถไป โดยคนเปิดประตูให้คือซันไรส์คนเดิม ประตูปิดลง ไม่กี่วิหลังจากนั้น รถคันหรูก็เคลื่อนออกจากบ้านไปช้าๆ 

     

    พอรถหายลับ ป๊าก็หันมามอง เดินมาตบไหล่ผม ทำหน้าภูมิใจ


    “อั๊วดีใจที่มีลูกอย่างลื้อ” 

    แล้วป๊าก็เดินจากไป ม้ายืนยิ้มกรุ้มกริ่ม ผมมองม้าด้วยสีหน้างุนงง ม้าเดินมาลูบหัวผมเบาๆ


    “ตอนท้อง ซินแสบอกว่าลื้อจะเป็นลูกสาวที่นำความโชคดีมาสู่บ้านเรา แต่พอเป็นผู้ชาย ป๊าก็ไม่ใช้บริการซินแสคนนั้นอีก เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าต่อให้เป็นผู้ชาย ลื้อก็ยังทำหน้าที่ได้ดี”


    ผมอ้าปากค้าง


    “เมื่อกี้หมอนั่นบอกว่าอะไร”


    “พูดไปลื้อก็ไม่รู้เรื่องหรอก เอาเป็นว่า ผลดีตกกับครอบครัวเราละกัน” 

    แล้วม้าก็เดินอารมณ์ดีเข้าบ้านไป


    ผมโดนน็อกดาวน์พาวเวอร์อยู่กับที่ ซันไรส์เดินเข้ามาใกล้ ดึงเสื้อสูทไปจากมือผม กลัดกระดุมให้ ผมยังยืนช็อกไม่หาย มันถอนหายใจแรง


    “ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านายจะมาหลงเสน่ห์คนขี้เหร่แบบนี้ได้”


    ผมอ้าปากค้าง


    “ยั่วเก่งเหมือนกันนี่ครับ”


    คะ ใครไปยั่วอะไรใครตอนไหน!!!


    “ไปอาบน้ำพักผ่อนได้แล้วครับ ผิวจะได้สวยๆ”


    อ้ากกกกกกกก กูจะฆ่าพวกเมิงงงงงงงง

     












    ซินแสที่ป๊าไม่ใช้บริการอีกเลยหลังจากผมคลอดย่างกรายเข้ามาในบ้านเราอีกครั้ง หนวดแบบอาแปะแท้ ตาเป็นขีด เคยสงสัยมาตลอดว่าเขามองเห็นด้วยเหรอ คิดว่าซินแสคนนี้ตาบอดซะอีก ผมเคยเห็นเขาบ้าง เพราะค่อนข้างมีชื่อ แต่ก็อย่างที่บอก ป๊าม้าไม่เคยเรียกใช้อีกเลยหลังจากผมคลอด เพิ่งเห็นเขาโผล่มาที่บ้าน ไม่รู้เรียกมาคุยเรื่องอะไร ได้ยินเสียงหัวเราะร่วนเลย


    “คุณหงส์ซาน เชิญด้านในค่ะ”


    ผมลุกจากบ่อปลาเดินหน้าหงิกเข้าไปหา ทำความเคารพเล็กน้อย เพราะไงก็เด็กกว่า


    “หน้าตาน่ารักเชียว” 

    เขาพูดด้วยภาษาไทยลิ้นแบบคนจีน ผมมองตาขวาง เกลียดสุดเวลาถูกมองว่าน่ารักนี่แหละ


    หล่อสิเว้ยหล่อ


    “หึๆ”

    อ้ากกก ผมเกลียดพวกชอบหัวเราะแบบนี้ด้วย!!


    ร่างหลักผมยังยืนนิ่งอยู่กับที่ แต่ภายในวิ่งไปเอาปากกามาวาดหนวดแมวใส่มันเรียบร้อย 


    “หาฤกษ์ให้อีหน่อย ซินแสจางให้มาแล้ว ถามลื้ออีกรอบว่าฤกษ์เดียวกันไหม หรือต้องเอาฤกษ์ใหม่”


    ล่ายๆ” 

    เขารับปาก จัดการดึงอุปกรณ์มากมายออกมาจากกระเป๋า นั่งหลับตา (จริงๆ คงพยายามลืมตาแล้ว แต่ลืมได้แค่นั้น)


    ผมยืนกอดอกมอง

    ความเงียบปกคลุมไปทั่ว ผมชักเมื่อยไปหาเก้าอี้นั่ง แคะขี้เล็บคอย หาไปทำไม ไงก็ต้องหย่า เห็นอาป๊าพูดจาซุบซิบ ผมนึกอะไรขึ้นได้


    เออ ซินแส เป็นไปได้หาฤกษ์ที่ทำให้หย่าให้เร็วที่สุดนะ

    ซินแส ป๊าม้าเงยหน้ามองผมพร้อมกัน ป๊าคิ้วขมวดแต่ไม่พูดอะไร ก้มลงไปมองซินแสต่อ ผมนั่งหงุดหงิดคอย


    ฤกษ์เดียวกับอาซินแสจางนั่นแหละ ดวงอาไป่หลงแรง แต่ดวงอาหงส์แรงกว่า สองคนนี้เขาเกิดมาเพื่อกันและกัน ดวงอาหงส์มันดวงเสริมสามี

    เดี๋ยวนะ ได้ข่าวว่าผมเป็นผู้ชาย


    อยู่ด้วยกันแล้วร่มเย็นเป็นสุข

    สุขตรงไหน เมื่อกี้จะต่อยกันตายในห้องน้ำแล้ว


    มีทายาทสองคน

    เดี๋ยวๆ ได้ข่าวว่าผมไม่มีรังไข่ จะท้องได้ไง


    ทายาท?” อาป๊ากับอาม้าทำหน้างง ได้ไง อาหงส์เป็นผู้ชาย

    นั่นน่ะสิ ป๊าถามได้ดีมาก


    วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ นี่ ดวงมีลูกสืบสกุลแน่ๆ ลูกชาย สองคน

    ผมอ้าปากค้าง ม้ากับป๊าทำหน้าดีใจ ผมดีดตัวลุก


    ไร้สาระ อั๊วไม่คิดจะใช้ชีวิตกับผู้ชายยันแก่ยันเฒ่ามีลูกมีหลานหรอกนะ


    อาหงส์ ลื้อนั่งอยู่เฉยๆ” ป๊าปราม


    ป๊า!


    เงียบ!!

    ผมจำต้องหุบปากลงฉับ


    ดวงอาหงส์เกื้อหนุนครอบครัว ในบรรดาพี่น้อง ดวงอับเรื่องงานที่สุด

    ผมอ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม


    ดีแล้วที่ลื้อไม่ให้อีแตะงาน ไม่งั้นเจ๊ง!

    มิน่า ป๊าถึงไม่ยอมให้ผมทำงานเลย


    แต่ดวงอีเสริมสามี เสริมครอบครัว ให้อยู่เฉยๆ น่ะดีแล้ว


    เฮ้ย!!” ผมโวยลั่น


    อาหงส์ หุบปาก!!

    ผมหุบปากลงฉับตามคำป๊า นั่งควันออกหู ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ ดังมาจากแถวๆ ประตู ผมหันขวับไปมอง เห็นซันไรส์ยืนหน้านิ่ง


    มันต้องหัวเราะผมอยู่แน่ๆ


    อีเป็นผู้ชาย แล้วจะให้อีแต่งตัวแบบไหนวันแต่ง


    แต่งแบบเจ้าสาวเต็มยศเลย แต่งหน้าให้สวยๆ นะ ยิ่งสวยยิ่งดี เฮง เฮง เฮง

    ผมแทบกรีดร้องออกมาเป็นภาษาตุรกี ไปบริจาคเอาเลือดจีนออกตอนนี้สภากาชาดจะรับไหมครับ


    อั๊วไม่ยอม!!” ผมค้านลั่น


    ได้” ม้าไม่สนใจคำค้านผมเลย


    สองคนนี้เขาเป็นเนื้อคู่กัน” 

    ตรงไหนวะ!!! ไอ้ซินมั่ว!! 


    ป๊า ศักดิ์ศรีบ้านเราอยู่ตรงไหน อั๊วเป็นผู้ชาย ป๊าไม่อายรึไง จับลูกชายแต่งหญิง เขาจะว่าลูกป๊าเป็นตุ๊ดนะ” 


    ป๊าปัดมือไปมากลางอากาศ

    ถ้าลื้อเป็นตุ๊ดแล้วทำให้ครอบครัวเราเฮง ป๊ายอม


    อ๊ากกกกกกกกกกก


    ผมสะบัดตูดออกไปจากตรงนั้นทันที เดินกระฟัดกระเฟียดเข้าห้องปิดประตูดังปัง กระโดดเทคตัวแรงหน้าทิ่มหมอน ทุบปักๆ อย่างเจ็บใจ


    ทำไมผมไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงจริงๆ เลยนะ จะได้ตัดปัญหาเรื่องต่างๆ ออกไป ผมนอนทอดอาลัยตายอยาก กระทั่งหลับไป







    ผมพยายามยื้อเวลาเอาไว้สุดฤทธิ์สุดเดช ถ้าเวลาคือคนผมก็คงจับแขน เบรกด้วยส้นเท้าจนดินตรงนั้นครูดหายไปเป็นทาง แต่เวลามันไม่เคยหยุดเดิน ไม่เคยมูนวอร์กแบบพี่ไมเคิล แจ็กสันด้วย เพราะงั้นผมฉุดรั้งมันไว้แค่ไหน สุดท้าย ผมก็ต้องพลิกปฏิทินใบเก่าทิ้ง วันมหาวิบัติกับชีวิตของผมก็มาถึง


    และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่บ้านตัวเอง บอกลาพี่หมีที่อาเฮียหยกเคยซื้อให้ (ตอนแรกผมจะเอาไปด้วย แต่ม๊าสั่งห้าม) ไม่เป็นไร มาขนเอาวันหลังก็ได้


    ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะบ้านเราจัดงานกันหลายรอบจนหลับตาผมก็บอกได้ว่าต้องทำอะไรยังไงก่อน แต่ผิดกันตรงที่ผมต้องแต่งเข้าบ้านเขาไม่ใช่รับเจ้าสาวเข้าบ้านแบบที่วางแผนไว้แต่แรก (มารอบนี้ผู้ใหญ่ให้จัดแบบจีนแท้ครับ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามที่ซินแสแนะนำ)


    ผมถูกซันไรส์ปลุกตั้งแต่ตีสี่เพื่อแต่งหน้า ผมตื่นขึ้นมาแบบไม่เต็มใจสุดๆ เบ้หน้าเมื่อเห็นชุดสีแดงสด ตั้งแต่กิ๊บติดผมยันรองเท้า ม๊าเรียกช่างแต่งหน้ามือดีมาสองคน คนหนึ่งแต่งหน้า อีกคนทำผม ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการเป็นเจ้าสาวต้องอดทนนั่งเอาสารพัดครีมสารพัดแป้งพอกกันหนาเตอะขนาดนี้


    ดีแต่ว่าบรรดาอาเจ้ผมเคยมีประสบการณ์พอกหน้ากันมาก่อน จึงแนะนำว่าควรจะโบ๊ะบางๆ เพราะเดี๋ยวหนักหน้าเปล่าๆ ผมนั่งเบื่อให้คนไถลคิ้ว กรีดตา วาดกรอบปาก ลงรองพื้นปาก ลงสีลิปติก หลังจากนั้นช่างก็มาทำผมต่อ ต่อให้ผมสั้นเขาก็จัดแต่งออกมาได้ หลังจากผมก็ตามด้วยชุด เขาให้ผมยืน แล้วจัดการสวมใส่ให้ทีละชิ้น ยิ่งแต่งศักดิ์ศรีแห่งความเป็นชายตลอดยี่สิบปียิ่งถดถอยลงเรื่อยๆ และก่อนที่มันจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ผมรีบฉุดมันขึ้นมาครองอกอีกรอบ


    ไม่ได้ แค่แต่งตัวเป็นผู้หญิง แค่ต้องแต่งงานในฐานะผู้หญิง ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีหรือค่าแห่งความเป็นชายของผมหายไปสักหน่อย ไอ้คนบังคับให้ผมต้องทำหน้าที่นี้ต่างหาก (ไม่รวมป๊าม๊านะครับ มันบาป)


    ผมยืดตัวตรงหลังชุดแต่งงานมาอยู่บนตัวครบ 


    “อาหงส์...”


    ผมละสายตาจากที่มองเหม่อไปมองอาเจ้หมวยคนเรียก เจ้หมวยยืนทำหน้าตะลึง


    เหอะ ก็น่าจะตะลึงอยู่หรอก อุตริจับผู้ชายมาแต่งหญิง ขายหน้าขึ้นมาผมไม่รับผิดชอบเด็ดขาด


    “ลื้อรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองสวยขนาดไหน เหมือนเห็นตัวเองส่องกระจกเลย”


    อ้าว


    ผมรีบหันไปมองกระจกทันที 


    แล้วยืนนิ่งไป


    เพราะคนที่ยืนอยู่หน้ากระจกตอนนี้ ไม่ใช่ผมหรอก มันคือเจ้หมวย พี่สาวคนสวยของผมชัดๆ ใบหน้าเรียวได้รูป ดวงตาเฉี่ยว ใบหน้าหวานขึ้นเป็นกอง ชุดก็ออกแบบมาให้เข้าทรง ไม่ใช่แบบจีนแท้ที่จะตัวใหญ่เทอะทะเกินไป 


    อื้อหือ


    โห


    ขนาดนี้เลยเหรอ


    “ว้าว สวยจัง” 

    ม้าเดินมาจากไหนไม่รู้ ถลาเข้ามาจับผมพลิกซ้ายพลิกขวาดู แล้วบรรดาพี่ป้าน้าอาก็เข้ามามะรุมมะตุ้มรุมดูผมเป็นการใหญ่(เฉพาะผู้หญิงครับ) แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็จับผมมานั่งรอเวลาให้เจ้าบ่าวยกขันหมากมาสู่ขอ


    ผมนั่งถอนหายใจแรงใส่อากาศ จริงๆ วันนี้เป็นวันมงคล ไม่ควรถอนหายใจผลาญปอดตัวเองแบบนี้ แต่ผมไม่อยากให้มันมงคลไง อะไรที่อัปมงคลผมก็อยากจะทำ


    “สวยดี”


    ผมหันไปมองคนพูด เบ้หน้า 

    “ไม่ชมจะดีใจมากเลย ไม่ไปอยู่กับเจ้านายนายรึไง”


    “ผมมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยคุณหงส์ทุกฝีก้าว”


    “ไม่เข้ามาขี้ด้วยเลยล่ะ” 

    ผมว่าฉุนๆ มันยกยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร

     



    “เจ้าบ่าวมาแล้ว เจ้าสาวเตรียมตัวนะคะ”

    ใครสักคนตะโกนบอก หัวใจที่เต้นด้วยจังหวะเบื่อหน่ายขยับถี่เร็วขึ้น เพราะไม่กี่นาทีหลังจากนี้ ศักดิ์ศรีที่ผมหวงแหนนักหนา กำลังจะถูกพรากจากไป


    จากมันนั่นแหละ


    ไอ้เจ้าบ่าวซังกะบ้วย!!!





    เนื่องจากฤกษ์ดี(มาก)มีแค่วันเดียว เพราะงั้นเราจึงจัดพิธีทั้งหมดภายในวันเดียว ม้าเดินเข้ามาหา แตะแก้มผมแผ่วเบา ใจหายยังไงบอกไม่ถูก อารมณ์พวกเจ้าสาวแต่งออกเป็นงี้ใช่ไหม ม้าเป็นคนจูงมือผมออกไป


    โคตรอาย


    ผมเป็นผู้ชายนะคุณ มาแต่งตัวด้วยชุดผู้หญิงแบบนี้ ผมนี่ไม่กล้ากระโดกกระเดกเพราะเกรงใจชุดสุดๆ ที่สำคัญมันเป็นกระโปรงด้วย กะเล่อกะล่ามีหวังหน้าทิ่มให้อายแขกเหรื่อที่มา


    ผมเดินก้มหน้าออกมาตลอดทาง ไม่มองหน้าใครทั้งนั้น อายครับ คนเขารู้กันหมดว่าผมเป็นผู้ชาย แต่ต้องแต่งงานในฐานะผู้หญิง รู้ถึงไหน อายถึงนั่น ดีว่าผมไม่ใช่คนของสังคมมาก (พูดง่ายๆ คือถูกเลี้ยงดูให้เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน งานการพ่อก็ไม่ยอมให้ทำอย่างที่บอก)


    ตอนแรกผมเข้าใจว่าหลังแต่งงาน พ่อจะไว้ใจให้ผมทำงานสักงาน หรือผมสามารถออกไปหางานทำเองได้ ที่ไหนได้ เขาเลี้ยงผมแบบไม่ให้แตะงานนี่เอง


    ได้ยินเสียงซุบซิบมาให้ได้ยินตลอดทางว่าเจ้าสาวสวยมาก


    อยากล้องห้ายยยย เอาศักดิ์ศรีกูคืนมา T^T


    ผมเงยหน้ามองนิดหนึ่ง ปลายทางเดินมีเจ้าบ่าวผมยืนอยู่ ขนาดใส่ชุดเจ้าบ่าวแบบจีน มันยังหล่ออย่างกับพระเอกหนังจีนหลุดมา มันมองผมนิ่งๆ สายตาไม่ได้บ่งบอกว่ากำลังชื่นชมหรือเยาะเย้ยที่เห็นผมในสภาพนี้ ผมเผลอเม้มปากเน้น ก่อนรีบคลายปล่อย 


    ลืมไปว่าทาลิปติกมา เดี๋ยวเลอะ


    ผมเดินไปหยุดอยู่ใกล้ๆ มันเพื่อเริ่มพิธี


    ความรู้สึกของผมตอนนี้ เหมือนกำลังจะเดินเข้าสู่แดนประหาร เจ้าบ่าวมอบสินสอดทองหมั้นให้กับพ่อแม่ฝ่ายผม เงินทองเพชรนิลจินดา ป๊ากับม๊าเรียกค่าสินสอดเยอะเอาการอยู่เหมือนกัน


    พิธีกรสั่งให้ทำอะไร ผมก็ทำ กระทั่งมาถึงพิธีสวมแหวน เราแต่งกันแบบจีนแท้ แต่เป็นจีนแท้สมัยใหม่ไม่ใช่แบบโบราณที่ขั้นตอนจุกจิกจะเยอะกว่า


    ผมนั่งอยู่บนพื้นพรมตรงหน้ามัน ตลอดเวลาผมเฝ้าภาวนาให้เกิดแผ่นดินไหว สึนามิเข้า เหตุด่วนเหตุร้าย อิรักทิ้งระเบิดที่ไทย พิธีการบ้าๆ นี้จะได้พังลง


    แต่ความหวังของผมมันริบหรี่เต็มทนเมื่อไอ้บ้าตรงหน้าจับมือผมขึ้นไปถือครอง หยิบแหวนบนพาน แล้วบรรจงสวมลงมาช้าๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอ อยากกระชากมือออก แต่ผมรู้ว่าไม่ควรทำ ขาผมก้าวลงขุมนรกมาได้เกินครึ่งทางแล้ว


    เขาสั่งให้ผมสวมให้เจ้าบ่าวด้วย ผมทำตามอย่างขัดใจ


    หลังจากจบพิธีหมั้น เจ้าบ่าวก็ออกไป เพื่อกลับมาใหม่แล้วเข้าสู่พิธีแต่ง ผมยืนคอยอยู่ในห้องโถงเดิม ได้ยินเสียงล้งเล้งอย่างสนุกสนาน กระทั่งผมเห็นเจ้าบ่าวตัวเองอีกรอบ ในมือถือช่อดอกไม้สีแดงสด เดินตรงเข้ามาหา เขายื่นให้ ผมรับมาถือไว้ ในใจอยากจับฟาดหน้ามันแรงๆ แต่ก็ทำได้แค่ในจินตนาการเท่านั้น แล้วก็พากันไป


    หลังจากนั้นก็เป็นพิธีคำนับฟ้าดิน เรายืนอยู่เคียงกัน หันไปคำนับฟ้าดินตรงจุดที่เขาเตรียมไว้ หันกลับมาคำนับพ่อแม่ แล้วจึงหันหน้าเข้าหากันและคำนับซึ่งกันและกัน ผมกัดปากแน่น ตาคลอ คนอื่นคงคิดว่าผมกำลังซาบซึ้งที่ได้แต่งงาน แต่ผมกำลังเสียใจต่างหาก คิดในใจ ไปอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ ผมจะป่วนให้มันอยากเลิกกับผมเร็วๆ 


    หลังจากนั้นก็ถึงพิธีถีบตูดผมออกจากบ้าน ผมไม่มีน้องชายจึงให้หลานชายเป็นผู้ถือโคมไฟนำหน้า พากันออกจากบ้านไปขึ้นรถ รถขบวนของเรามีจำนวนสิบกว่าคัน คันที่ผมจะนั่งถูกประดับด้วยผ้าสีแดงสด ออกไปคนก็เห็นกันหมด


    ป๊าเป็นคนจูงมือผมออกไปที่รถ อวยพรยาวยืด พรมน้ำมนต์ให้ด้วย ผมกลืนบางสิ่งลงคอ ม๊าจับแก้มผมไว้เบาๆ นัยน์ดูเศร้านิดๆ แล้วบรรดาเพื่อนมีตังค์ของป๊ามารับหน้าที่ต่อ คนแรกเปิดประตูออกให้ คนที่สองจูงขึ้นรถ คนที่สามร่ายกลอนที่ไม่เข้าหูผม พอประตูปิดลงคนที่สี่ก็พรมน้ำมนต์มารอบรถ เรามีรถนำขบวนหนึ่งคัน โดยมีอาฮงหลานชายผมเป็นคนถือโคมนำหน้า


    จะนำไปทำไม ท้องเองก็ไม่ได้


    รถเคลื่อนขบวนช้าๆ ใจผมหายวูบ เพราะหลังจากนี้ผมต้องไปนอนบนเตียงบ้านหมอนี่ ไปอยู่กับพ่อแม่คนอื่น และหวังว่ามันจะแยกห้องกับผมนะ


    ในรถส่งตัวเขาไม่ให้เจ้าบ่าวพูดกับเจ้าสาว ผมไม่อยากพูดกับมัน แต่อยากด่าเลยละ อยากหายตัวได้ หรืออย่างน้อยอยากให้เวลายืดออกไปอีกสักหน่อย แต่เวลาไม่เคยเข้าข้างผม ไม่นานรถก็ขับมาถึง


    เอิ่ม


    ราชวังน่าจะถูกกว่า บ้านผมว่าใหญ่แล้ว มาเจอบ้านหมอนี่ อลังการมาก


    พอรถจอด มีคนมาเปิดประตูให้ เจ้าบ่าวก้าวออกไปก่อน ผมก้าวตามลงไป เพื่อเข้าสู่พิธียกน้ำชา ผมกับมันต้องพากันไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษกันก่อนเพื่อขออนุญาตมาอาศัยอยู่กับเขา แต่ผมอธิษฐานในใจว่าขอให้ทุกท่านช่วยถีบผมส่งออกจากบ้านเร็วๆ ด้วยเถอะ เพราะผมไม่อยากอยู่จริงๆ หลังจากนั้นก็เป็นพิธียกน้ำชาให้พวกท่านดื่ม


    นับจากวินาทีที่เรารินน้ำชากลับลงกา ผมได้กลายเป็นเมียผู้ชายโดยสมบูรณ์แบบแล้วครับ

     


    หลังจากนั้นก็เป็นพิธีส่งตัวเข้าหอ (แบบพอเป็นพิธีครับ เพราะเดี๋ยวต้องออกไปกินเลี้ยงและดูแลแขกกันต่อ) ผู้ใหญ่ที่รออยู่แล้วเข้าไปจัดการปูที่นอนให้ พาผมกับเจ้าบ่าว(ซังกะบ้วย)เข้าไปนั่งริมเตียง ผมขนลุกซู่ ตัวร้อนผ่าว ไม่ได้เกิดอารมณ์ แต่แหยงครับ เพราะนี่คือเตียงหอ


    ผมไม่ยอมนอนกับมันจริงๆ แน่ๆ


    มีใครสักคนบอกให้เจ้าบ่าวหอมแก้มผม ผมตาโต รีบส่ายหัว ใช้สายตาปรามบอกไม่ให้มันทำ แต่มันทำเป็นตาบอด ก้มหน้าลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ผมนั่งกัดลิ้น


    มึง.. มึง.. มึงจำไว้ เสร็จงานเมื่อไหร่ หน้าแหกแน่


    พอเป็นพิธีสำหรับการส่งตัวเข้าหอ เราพากันออกไปด้านนอกเพื่อร่วมงานเลี้ยงและดูแลแขกเหรื่อ


    “เจ้าสาวลื้อสวยมาก” 

    อากงชมเปราะ


    กง ผมเป็นผู้ชาย ผมเป็นผู้ชาย!


    คนเชื้อสายจีนค่อนข้างเชื่อถือเรื่องดวงกันมาก พอซินแสบอกว่าผมกับมันคือเนื้อคู่กันเท่านั้นก็พากันรับได้กันหมด


    ค้านกันสักคนก็ได้นะครับ ผมจะได้ไม่เดือดร้อน T^T


    ไม่ว่าจะแต่งแบบจีนหรือไทย เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว ผมว่าเหนื่อยเหมือนกันหมดแหละ ผมต้องปั้นหน้ายิ้มรับแขกคนนู้นคนนี้ เพราะเรากินเลี้ยงกันที่บ้านเจ้าบ่าวเป็นหลัก (บ้านผมกินเลี้ยงแบบพอเป็นพิธี)


    กว่าจะพากันเดินถ่ายรูปกับแขก กว่าจะต้อนแขกกลับบ้านกันหมดก็ปาเข้าไปตีสอง เหนื่อยมาก ขาผมนี่ล้าจนต้องนั่งแล้วนั่งอีก


    “ไปพักได้แล้ว เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป” 

    อาม้าของมันตบต้นแขนผมเบาๆ บอก ผมรอเวลานี้มานาน รีบบอกลาทุกคน ไม่สนใจเจ้าบ่าววิ่งลิ่วกลับขึ้นห้องก่อน ข้าวของผมอยู่ในห้องนั้นหมดแล้ว ขออาบน้ำล้างหน้าก่อนเถอะครับ หนักหน้ามาก เหนื่อยมาก อยากนอน


    ไม่มีใครเตือนผมบ้างว่าเครื่องสำอางล้างยาก กว่าจะถูเอาไปที่โบ๊ะๆ อยู่ออกใช้เวลาเกือบชั่วโมง ผมหยิบชุดนอนตัวเก่งมาสวม ออกไปเห็นเตียงพิธีแล้วขนลุก น่าจะมีโซฟาสักอัน ไม่มีทางเลือกครับ ผมรีบกระโดดขึ้นเตียงทันที มุดหน้ากับหมอน แล้วหลับไปเลย







    เอ๋ ผมว่าผมนอนนะ แต่ทำไมรู้สึกได้กลิ่นเหล้า


    “อือ” 

    ผมครางในลำคอ พยายามเบี่ยงหน้าหนีกลิ่นเหล้าและบางสิ่งคล้ายๆ กับโดนอะไรอุดปาก ผมปรือตามอง ใบหน้าขยับไปตามแรงกด ก่อนเบิกตากว้างเพราะรู้ที่มาของกลิ่นเหล้าแล้ว


    ผมรีบผลักคนที่มาขโมยจูบผมออกทันทีแรง


    ย้ำว่าแรง!


    แต่แม่ง มันเป็นไอร่อนแมนรึไง ตัวไม่ขยับสักนิด


    โอเค ผมเหนื่อย ความเหนื่อยทำให้เรี่ยวแรงหดหาย


    มันยังโหมจูบผมอยู่ ผมรวบรวมกำลังอีกรอบ ผลักมันออกแรง คราวนี้ได้ผลครับ ตัวมันเด้งออก ผมอาศัยจังหวะนั้น ขยับลุก กระเถิบขึ้นไปนั่งติดหัวเตียง


    เจ้าบ่าวผมอาบน้ำแล้วเรียบร้อย ใส่ชุดนอนแบบมีกระดุมหน้าผ้าเรียบลื่น ก่อนนอนผมปิดไฟ ตอนนี้มันสว่างจ้าจนเห็นชัดทุกรูขุมขน มันเป็นผู้ชายที่ซ่อนกล้ามนี่หว่า เป็นลอนเชียว (แต่ไม่บึกนะครับ)


    “ทำอะไร!!” 

    ผมถามเหมือนคนโง่


    เอ้อ หรือว่าผมจะโง่วะ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าโดนจูบ


    “ผัวเมียเขาทำอะไรกันก็กำลังจะทำแบบนั้นแหละ”


    ผมตาโต


    “นี่อาเฮียหลง บอกไว้ก่อนเลยนะ อั๊วยอมเข้าพิธีแต่งงาน ยอมจดทะเบียนสมรสด้วยก็เพื่อธุรกิจล้วนๆ มากกว่านั้นไม่ยอมแน่ๆ” 

    ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง 


    ตามันมองผมครับ แต่มือมันกำลัง


    แม่ง!!!!


    มันไม่ฟังผมเลย มันกำลังคลี่ปลดกระดุมเสื้อออกช้าๆ เผยกล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใน เป็นลอนสวยๆ ไม่ได้ลูกใหญ่ แต่สมส่วนน่ามอง


    “พูดภาษาคนไม่เข้าใจรึไงวะ!!” ผมโวยวาย “มึงเลิกถอดเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” ผมสั่งอย่างร้อนรน พยายามคิดถึงท่าต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่ต้องไม่ใช่บนเตียงแบบนี้


    “พูดเพราะๆ อาหงส์”


    ผมไม่ฟัง รีบก้าวลงจากเตียง แต่มันรวบจับเอวผมไว้ กดให้นอนลงที่เดิม


    “ปล่อย!!!


    มันยกยิ้ม ขยับมากระซิบข้างหู


    “ฉันเคยเตือนแล้วใช่ไหมอาหงส์”


    เตือนอะไร ไม่รู้เว้ย เหนื่อย ง่วง เป็นอัลไซเมอร์ชั่วคราว ผมเริ่มต้นดิ้น พลิกตัวหมุนร่างคว่ำลงแล้วมุดๆ ไปที่ปลายเตียง กำลังจะพ้นขอบเตียงแล้วเชียว ถ้าไม่ถูกตะครุบเอวไว้


    “ฉันชอบปราบเด็กดื้อ”


    งั้นมึงก็รู้ไว้เลยว่ากูดื้อไม่ธรรมดา 

    ผมรีบหันไปเหวี่ยงหมัดเท่าที่แรงจะมีใส่คนตรงหน้า แต่มันก็เร็วชะมัด รับหมัดผมไว้ได้


    หมัดขวาถูกยึด หมัดซ้ายยังมี มันจับเอาไว้ได้อีก ผมจะออกอุบายเดิมคือโหม่ง แต่มันเล่นงานผมก่อนด้วยการจับผมนอนหงายกดสองแขนขึงพรืดกับเตียง


    ผมจ้องมันตาขวาง


    “ปล่อย” 

    กัดฟันขู่ฟ่อ มันยกยิ้ม ละสายตาจากหน้าผมก้มสำรวจต่ำลงไปด้านล่าง แล้วหยุดสายตาไว้แถวๆ หน้าอก


    ให้ตายเถอะ


    ผมกลืนน้ำลายลงคอ


    สวัสดิภาพผมชักไม่ปลอดภัยซะแล้ว มันเหลือบขึ้นมาสบตาผมนิดหนึ่ง ยกยิ้ม แล้วก้มหน้าลงต่ำ

     

     

     

     To be Con....


    หึๆ บอกแล้วว่ามันไม่ได้จบแค่นี้ ฤกษ์ดีมีแค่วันเดียว เพราะงั้นต้องทำพิธีให้ครบ 

    ใช่ค่ะ เมคเลิฟในคืนเข้าหอก็เป็นหนึ่งในพิธีการสำคัญเหมือนกัน (ซินแสไม่ได้บอก แต่อิไรท์บอกเอง ฮาาา) 

    น้องหงส์เสร็จแน่  


    ชื่อตอนต่อไปคือ หงส์ซาน 05 คืนเสียตัว (แหม แค่ชื่อตอนก็น่าจะรู้ว่าหงส์ซานไม่รอดแน่ๆ)


    เจอกันเมื่อเม้นท์ชน 230 ค่ะ

    ADD FEB เป็นแฟนคลับเรื่องนี้จิ้มน้องหงส์ได้เลยค่า










    น้ำจิ้ม : 

    “ทำอะไร!!” ผมถามเหมือนคนโง่


    เอ้อ หรือว่าผมจะโง่วะ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าโดนจูบ


    “ผัวเมียเขาทำอะไรกันก็กำลังจะทำแบบนั้นแหละ”







    Tag Me #หงส์ซาน 



    Follow and Contact writer Memew here 

    เพจ : facebook.com/memew28

    ทวิต : @Memew28

    เมล : Memew28(แอท)gmail.com

    Line : Memew28 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×