คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หงส์ซาน #1 ตี๋เล็ก
________________________________________________
ตอนที่ 1 ตี๋เล็ก
ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากวันนั้น
“ป๊า!! อั๊วเป็นผู้ชาย จะให้ไปแต่งงานกับผู้ชายได้ยังไงกัน”
“ได้ไม่ได้ลื้อก็ต้องแต่ง เพื่อครอบครัว เพื่อธุรกิจของเรา”
ผมส่ายหัวไปมา
“ไม่ใช่เพื่อครอบครัว ไม่ใช่เพื่อธุรกิจ แต่เป็นเพื่อตัวป๊าเองต่างหาก อั๊วไม่แต่ง!!”
“ยังไงลื้อก็ต้องแต่ง!!”
ผมคิดว่าทุกอย่างคงจบลงแล้ว ตั้งแต่วันที่เจ้าสาวผมหนีการแต่งงานไป
แต่ผมมันโชคร้ายเองที่เกิดมาในตระกูลนี้
ผมถูกบังคับให้แต่งงานอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะเจ้าบ่าว แต่เป็นเจ้าสาวต่างหากเล่าโว้ย!!!!!
..........
.....
...
.
“หงส์ซาน”
ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากทางด้านหลัง ผมที่กำลังฉีกยิ้มเฮฮาท่ามกลางผู้คนที่มางานเลี้ยงวันเกิดหันไปมอง
“เฮียหยก!!”
ผมเบิกตากว้างทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร รีบวิ่งถลาเข้าไปหา สวมกอดคนตัวสูงแน่น เฮียหยกกอดตอบแน่นไม่ต่าง
“สุขสันต์วันเกิดอายุครบ 40 นะ”
“20 เหอะ”
ผมถอนตัวออกมาค้านงอนๆ
“อ้าวเหรอ เห็นหน้าแก่ขึ้น”
“ถ้าอั๊วหน้าแก่ เฮียก็คงจะใกล้เข้าโลงแล้วแน่ๆ”
เฮียหยกหัวเราะร่วน ก้มดูหน้าผมดีๆ อีกที จับคางผมเขย่าเบาๆ
“สงสัยว่าเฮียจะเมาเครื่องบินแฮะ นั่นน่ะสิ หงส์ของเฮียออกจะหน้าละอ่อนเหมือนเด็กสามขวบแบบนี้”
“นั่นก็เด็กเกินไป”
เราสองคนพากันหัวเราะครึกครื้น
“ไหนบอกว่ามาไม่ได้”
“เซอร์ไพรส์ไง”
“เซอร์ไพรส์มากกกก”
ผมลากเสียงยาว กอดเฮียหยกอีกรอบโยกตัวไปมาอย่างสุดแสนคิดถึง
เฮียหยกเป็นพี่ชายคนโตของผมเอง เป็นคนที่ผมรักและสนิทด้วยที่สุด แต่ตอนนี้แกไม่ได้อยู่เมืองไทยหรอก ถูกป๊าส่งให้ไปดูแลธุรกิจของครอบครัวเราที่สิงคโปร์ ผมเคยร้องขอตามไปอยู่ด้วย แต่ป๊าไม่ยอม
เฮียหยกดันผมออกมองอีกรอบ
“หล่อขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”
“แน่นอนสิ น้องใครให้มันรู้ซะบ้าง”
เฮียหยกหัวเราะ ขยี้หัวผมแรง หันไปพูดจาทักทายพี่น้องคนอื่นต่อ
สิงคโปร์อยู่ใกล้ไทยก็จริง แต่เฮียไม่ค่อยว่างบินมาเท่าไหร่หรอก งานเยอะ
“เฮีย แล้วของขวัญอั๊วล่ะ”
ผมทวงอย่างนึกขึ้นได้ ไม่เห็นแกหิ้วอะไรติดตัวมาสักอย่าง
เฮียหยกหน้าตื่น
“เออ! เฮียลืมไปเลยตี๋น้อย”
ผมหน้าบูด
“อะไรวะ มางานได้ แต่ลืมเอาของขวัญมาให้เนี่ยนะ”
“ใช่”
ผมหน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิม
“เฮียลืมว่าต้องเอาของขวัญชิ้นเล็กๆ มาให้ พอดีมันใหญ่จนเอาเข้าบ้านไม่ได้น่ะ ตอนนี้อยู่หน้าบ้านแน่ะ”
ผมตาโต รีบวิ่งถลาออกไปนอกบ้านทันที
“ว้าว”
ผมเบิกตากว้างไปกับสิ่งที่เห็น
มันคือรถมอเตอร์ไซค์ครับ ดูคาติสีแดงเพลิง ตัวที่ผมร่ำร้องอยากได้นักหนา
อย่างเท่เลย
แต่มันจะมาหลุดเท่ก็ตรงริบบิ้นติดโบว์สีชมพูแปร๋นแหล๋นให้รู้ว่าเป็นของขวัญรอบรถนี่แหละ
ผมพยายามมองข้ามสีแปร๋นๆ ของโบว์วิ่งถลาเข้าไปลูบๆ คลำๆ
ป๊าผมรวยก็จริง แต่ก็เค็มเหมือนเกลือ การจะให้ของขวัญมีราคาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เกิดเป็นลูกคนจีน น้องสุดท้องเป็นยิ่งกว่าหมาหัวเน่า เพราะส่วนใหญ่ ป๊าจะเอาอกเอาใจพวกพี่ๆ มากกว่า
ผมรีบกระชากโบว์ออกทันที ขยับขึ้นคร่อม
“เดี๋ยวๆ เฮียไม่ได้ซื้อรถให้ลื้อ เฮียซื้อไอ้นั่นให้ต่างหาก”
เฮียแกชี้ไปยังริบบิ้นที่ผมดึงทิ้งเมื่อกี้
ผมหัวเราะ รู้หรอกว่าเฮียแกแกล้งเล่น
“อั๊วไม่อยากได้ไอ้นั่น แต่อยากได้ไอ้นี่มากกว่า”
ผมยกขาตั้งขึ้น ทดลองสตาร์ทเครื่อง เสียงมันดังกระหึ่มฟังแล้วหัวใจเต้นตูมตาม
เท่จริงๆ
“เดี๋ยวๆ จะไปไหนอาหงส์ เจ้าของวันเกิดจะขี่มอไซค์หนีได้ไง ลงมาก่อน วันหลังค่อยไปขี่”
เฮียหยกรีบรั้งผมลง
“ขอสักรอบก่อนไม่ได้เหรอเฮีย”
“จะกี่รอบก็ได้ แต่ตอนนี้เข้าไปในงานก่อน”
ผมจำต้องบอกลาน้องดูคาติสีถูกใจ ก้าวลงจากรถไปสวมกอดเฮียหยกแน่นอีกรอบ
ผมเคยแง้วๆ ขอรถคันนี้กับป๊าหลายรอบ แต่ป๊าไม่ให้โดยให้เหตุผลว่ามันอันตรายเกินไป
“รักเฮียที่สุดเลย บุญนี้ขอให้เฮียอย่ามีตีนกามากล้ำกราย โรคภัยไข้เจ็บวิ่งหนีหางจุกตูด”
“อวยพรเฮียดีๆ หน่อยอาหงส์ ฟังไม่รื่นหูเลย ไปๆ”
เฮียแกรั้งคอผมให้ก้าวเข้าไปภายในด้วยกัน
งานวันเกิดผมถูกจัดขึ้นอย่างอลังการระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่เพื่อผมโดยตรงหรอก ป๊าคงหาทางพบปะเครือข่ายหุ้นส่วนของป๊ามากกว่า ผู้ใหญ่แยกไปคุยกลุ่มหนึ่ง รุ่นๆ ผมอีกกลุ่ม เด็กเล็กๆ วิ่งไล่ดึงผมเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันอีกกลุ่ม
“ว่าแต่ลื้อเคยเห็นว่าที่เจ้าสาวลื้อรึยัง”
เฮียหยกหันมาถามหลังจิบเครื่องดื่มไปหนึ่งอึกใหญ่
“ยังไม่เคยเจอตัวจริงเลยเฮีย แต่เคยเห็นรูปแล้ว สวยดีนะ”
เฮียหยกหัวเราะ ชี้นิ้วที่ถือแก้วเครื่องดื่มอยู่ใส่หน้าผม
“ป๊าเลือกให้ซะอย่าง รับรองได้ว่าครบถ้วนสมบูรณ์แบบแน่ๆ เหมือนอาซ้อลื้อไง”
ผมพยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วทำไมอาซ้อกับอาเล่ยไม่มาด้วยล่ะ”
“อาเล่ยติดสอบ”
ผมพยักหน้าเข้าใจ
“เสียดาย อดเจอหลานเลย”
“เดี๋ยวพามาทีเดียววันแต่งลื้อเลย”
ผมยิ้มดีใจ
“นี่อาซ้อยังไม่ท้องอีกเหรอ หลายปีแล้วนะ อาเล่ยคงเหงาแย่”
เฮียหยกยักไหล่
“สงสัยน้ำยาเฮียจะบูด”
ผมหัวเราะร่วน
“ทำงานหนักไปน่ะสิ”
เฮียไม่ค้าน หันไปพูดจาเฮฮากับคนอื่นที่เวียนกันเข้ามาทักทายไม่ขาดสาย
ผมเป็นลูกคนที่ 8 เป็นน้องคนสุดท้องของบ้าน เป็นตี๋เล็กของพี่ๆ ถ้าเป็นคนไทยแท้ๆ ลูกคนเล็กคงได้รับการเอาอกเอาใจสารพัด แต่ครอบครัวคนจีนนี่ตรงข้ามเลย ผมน่าจะเป็นลูกที่ป๊าม้าให้ความสำคัญด้วยน้อยที่สุด
“เฮียจะอยู่กี่วัน”
เฮียหยกเปลี่ยนสีหน้า ลูบหัวผมเบาๆ
“พรุ่งนี้เฮียก็กลับแล้ว”
ผมหน้าสลด รู้อยู่หรอกว่างานยุ่ง แค่ปลีกตัวมางานวันเกิดผมได้นี่ก็เก่งแล้ว
“อย่าทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนี้สิ เฮียใจไม่ดี ลื้อต้องเข้าใจเฮียนะ”
“อั๊วอยากไปอยู่กับเฮีย”
“ลองขอป๊าสิ”
ผมยิ้มแค่น
“คงได้หรอก ป๊ากลัวอั๊วไปกวนเฮียจะตาย”
เฮียลูบหัวผมอีกรอบเบาๆ
“ลื้อ 20 แล้วนะหงส์ อีกไม่นานก็ต้องแต่งงาน มีลูกมีเมีย มีหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบ โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว”
“บางทีอั๊วก็ไม่อยากโตเลย”
“ถ้าลื้อทำได้ เฮียก็ไม่อยากแก่เหมือนกัน”
ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง
“นั่นน่ะสิ อั๊วต้องทำใจใช่ไหม”
“ใช่”
เฮียตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมหัวเราะอีกรอบ พยายามใช้เวลาที่มีน้อยนิดอยู่กับพี่ชายคนโปรดให้มากที่สุด
วันเวลาผันผ่าน เมืองไทยมีหลายฤดู แต่กรุงเทพมีแค่ฤดูเดียวคือฤดูร้อน(จัดมาก)
มันตอกบัตรเข้าทำงานทุกวันอย่างขยันขันแข็ง ผมนั่งลิ้นห้อย แหวกคอเสื้อออกกว้างหวังให้ลมเป่า จริงๆ เข้าไปนั่งในบ้านจะเย็นกว่า แต่ผมชอบนั่งเล่นในสวนข้างบ่อปลามากกว่า
“คิดว่าหมาที่ไหนมานั่งหอบอยู่ตรงนี้”
ผมหันไปมองคนพูด
เจ้หลิน พี่สาวคนที่ 2 ของผมเดินถือถาดสีแดงเข้ามาใกล้ ภายในบรรจุจานผลไม้สดกับกาน้ำชาลายดอกหลิวสีน้ำเงินปนขาว
“หมาบ้านเจ้หล่อขนาดนี้เลยเหรอ”
เจ้หลินหัวเราะ วางถาดผลไม้ไว้ข้างๆ
“โตแล้วนะอาหงส์ อีกไม่กี่เดือนก็แต่งงานแล้ว ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อย”
ผมถอนหายใจเบาๆ
เอาตามจริงแล้วผมยังไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวกับใครเลย ผมว่าอายุ 20 มันยังเร็วไป น่าจะสัก 25 หรือ 30 ก็ยังดี
แต่ก็นั่นแหละ แต่งงานการเมือง รอนานขนาดนั้นมันอาจช้าเกินไปก็ได้
สำหรับครอบครัวผม ลูกคนไหนอายุครบ 20 จะถูกจับแต่งงานหมด โดยคนเลือกคู่ครองให้คือป๊ากับม้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนในตระกูลมีชื่อที่เกี่ยวข้องกันทางธุรกิจนั่นแหละ
“เจ้รู้สึกยังไงที่ต้องแต่งงานไปกับคนที่เราไม่ได้รักหรือไม่ได้เลือกเอง”
เจ้หลินมองหน้าผม ถอนหายใจแรง ลูบหัวผมเบาๆ
รองจากเฮียหยกก็เจ้หลินนี่แหละที่เอ็นดูผมเหมือนแม่
“แรกๆ เจ้ก็กลัวนะ กลัวไปหมดทุกอย่าง แต่พอแต่งงานกันจริงๆ มันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด”
“แล้วเจ้หลินรักเฮียซ้งไหม”
เจ้หลินยิ้มละมุน
“รักสิ รักมากด้วย รักมากจนเจ้รู้สึกว่าโชคดีแล้วที่ได้แต่งงานกับเขา เจ้ยังไม่รู้เลยว่าถ้าเจ้เลือกเอง เจ้จะได้คนดีๆ แบบนี้มาเป็นสามีหรือเปล่า”
“เนอะ หาเองคงได้ประเภทหน้าขี้ริ้วนิสัยขี้เหร่แน่ๆ”
“อาหงส์!!!”
จากการลูบหัวแบบเอ็นดู กลับกลายมาเป็นผลักหัวผมแรงจนผมเซล้มทั้งนั่ง
“แอบโหดว่ะเจ้”
“ปากหมาทำไมล่ะ อั๊วชักสงสารอาเหมยแล้วที่ต้องมาแต่งงานกับคนไม่เต็มอย่างลื้อ”
“ไม่เต็มตรงไหน อั๊วออกจะหน้าตาดี มีใบเพ็ดดีกรีพร้อม”
เจ้หลินหัวเราะ ส่ายหัวไปมา
“เจ้กลับละ ต้องรีบไปรับเด็กๆ ที่โรงเรียน ถ้าเหงาก็ไปนั่งเล่นที่บ้านได้ เด็กๆ บ่นคิดถึง”
ผมพยักหน้า
เจ้หลินลุกยืน ผมลุกตามเดินไปส่งที่รถ คนขับรีบวิ่งเข้ามาเปิดประตูให้ เจ้หลินยังไม่นั่ง หันมาเผชิญหน้ากับผมอีกรอบ
“จำไว้นะอาหงส์ หลังจากแต่งงานแล้ว ชีวิตไม่ได้เป็นของเราเพียงคนเดียว แต่มันจะเป็นของคู่ครองเราด้วย เพราะงั้นทำอะไรคิดให้ดีก่อนทำ และที่สำคัญ…”
ผมนิ่งฟังอย่างตั้งใจ
“ห้ามนอกใจเด็ดขาด”
ผมมองตาคนพูด
“คิดว่าจะให้อั๊วเลิกติ๊งต๊องซะอีก”
พี่สาวผมพ่นลมหายใจแรง บอกลาด้วยน้ำเสียงระอิดระอา
“เจ้กลับล่ะ”
ผมหัวเราะ ยกมือบ๊ายบาย
“ฝากบอกเด็กๆ ด้วยนะว่าอั๊วคิดถึง”
พี่สาวผมพยักหน้า ขยับขึ้นไปนั่ง คนขับปิดประตูให้ วิ่งอ้อมไปยังฝั่งตัวเอง ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่ม พี่สาวหันมามองหน้าผมอีกรอบ ยิ้มหวาน
แล้วรถคันนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนที่ออกจากลานจอดรถไป
ผมเดินย้อนกลับไปนั่งข้างบ่อปลาตามเดิม หยิบชมพู่ทับทิมที่ถูกหั่นชิ้นเรียบร้อยกัดกินดังกรวบ
มันหอมหวานและกรอบอร่อย รสชาติกำลังดีเลย ผมจ้องมองธรรมชาติที่ถูกรังสรรค์โดยคนสวนตรงหน้า ปลากำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ผมมองพวกมันยิ้มๆ
ก่อนละสายตาจากปลาเงยหน้าขึ้นมองทิวไม้ประดับที่กำลังถูกสายลมพัดไหว อีกสองวันผมจะได้เจอตัวจริงของเหมยแล้ว เราคงเข้ากันได้ดีเพราะเป็นน้องเล็กด้วยกันทั้งคู่
สายลมพัดไหวแรงขึ้นให้รู้สึกเย็นผิวกาย ผมหลับตา สูดลมหายใจเอาไอดินกลิ่นน้ำเข้าปอด ลองนึกวาดภาพถึงชีวิตหลังแต่งงานกับเหมยคร่าวๆ
เขาบอกไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต
แต่ทำไมไม่มีใครบอกผมบ้าง! ว่าแทนที่ผมจะได้เป็นเจ้าบ่าวให้เจ้าสาวแสนสวยอย่างอาเหมย กลับกลายต้องไปเป็นเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวซังกะบ๊วยคนนั้นแทน!!!
To be Con...
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ อยากแต่งนิยายแนวมาเฟียมานานละ สมใจอยากสักที -,.-
ตอนแรกเขียนพล็อตไว้อีกแบบ เป็นหงส์ซานเวอร์ชั่นที่ถูกบังคับให้แต่งงานเหมือนกัน แต่พระเอกมีคนรักอยู่แล้วจึงจงเกลียดจงชังนายเอกนายมาก ซีนดราม่าเยอะ แต่งไปได้แค่ 5 แถวก็ต้องโยนพล็อตเดิมทิ้งแล้วแต่งแบบไม่มีพล็อตแทน จากแนวดราม่ากลายเป็นแนวฮาไปเลย
หนึ่งเม้นท์หนึ่งกำลังใจน้าาาาาา
Add Feb เรื่องนี้จิ้มนุ้งหงส์ได้เลยค่าา
ติดต่อ & ติดตามการอัพนิยายได้ทุกช่องทางตามนี้ค่ะ
เพจ : facebook.com/memew28
ทวิต : @Memew28
เมล : Memew28(แอท)gmail.com
Line : Memew28
ความคิดเห็น