NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HONGZAN "หงส์ซาน" (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #19 : หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 60


    #17 จูบผ่านทาง


    #หงส์ซาน

    เรากลับมาถึงวิมานกันอีกครั้ง ได้ของฝากมาแยะเลย (เราขนซื้อกันก่อนขึ้นเครื่อง) พี่หมอซื้อเยอะสุด เห็นจำนวนที่ขนแล้วคิดว่าพี่หมอจะเอาไปขาย เยอะมาก พี่หมอบอกคนที่ต้องการเอาไปฝากเยอะกว่าจำนวนที่หอบได้ซะอีก

     

    ผมได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเองได้ แต่ต้องมีซันไรส์เดินทางไปด้วย รุ่งขึ้นผมจึงขนของฝากที่ซื้อมาใส่รถ (ซันไรส์เป็นคนขับ) พากันกลับบ้าน ผมเลือกกลับช่วงเย็นๆ คนในบ้านจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พอถึงผมก็เอาของฝากไปแจกทุกคน โดนแซวอย่างหนักว่าผิวพรรณผ่องใส

     

    แน่นอนสิ เพิ่งกลับมาจากสถานที่ฟอกปอดไม่ให้ดีได้ไง

     

    ผมอยู่คุยกับทุกคนโขมงโฉงเฉง กระทั่งได้เวลากลับ ผมถึงขอตัวทุกคนขึ้นไปเอาของที่ห้อง เฮียฮันเดินตามมาด้วย

     

    “เฮียดีใจที่ลื้อปรับสภาพได้นะหงส์”

     

    ผมมองหน้าพี่ชายตัวเอง 

     

    “ช่วยไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่ให้ได้จนกว่าจะหย่า”

     

    เฮียฮันจ้องหน้าผม ทำสีหน้าลำบากใจ

     

    “เฮียว่าอาจไม่มีวันนั้นก็ได้”

     

    “หะ เมื่อกี้เฮียว่าอะไรนะ”

    ได้ยินไม่ชัดครับ

     

    “เปล่าหรอก หงส์รู้สึกอะไรกับไป่หลงแล้วรึยัง”

     

    ผมทำหน้าแหยงใส่ทันที

     

    “รู้สึกสิ”

     

    “รักเขาแล้ว?”


    “เปล่า เกลียดมากต่างหากล่ะ”

    ผมตอบกลับทันที เฮียฮันมองหน้า ส่ายหัวไปมา ลูบหัวผมเบาๆ ผมมองอาเฮียตาปริบๆ เดินไปหยิบของที่ต้องการมาใส่กล่อง ไม่ลืมหยิบตุ๊กตาหมีตัวโปรดมาด้วย มาครั้งที่แล้วไม่กล้าเอาไปด้วยเพราะกลัวไอ้บ๊วยมันล้อ 

     

    “เฮียว่าไป่หลงเขาเป็นคนดีนะ”

     

    ผมหันไปมองคนพูด

     

    “ดีตรงไหน ดีแต่ออกคำสั่ง บังคับกันตลอด”

     

    “เขาทำร้ายร่างกายลื้อเหรอ”

    เฮียฮันถามมาด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม ผมชะงักทันที ขืนบอกว่าใช่ เฮียต้องรู้แน่ๆ ว่าผมตกเป็นของหมอนั่นทางพฤตินัยแล้ว

     

    “ปะ เปล่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย” ผมเกาแก้ม “เพียงแต่บังคับเรื่องอื่นๆ น่ะ เฮียๆ เอากล่องนั่นให้อั๊วหน่อย”

    ผมรีบเสความสนใจให้หยิบของที่อยู่สูงๆ ให้ เฮียฮันหันไปมองตาม เดินไปหยิบให้


    ผมพ่นลมหายใจแรง รับกล่องมาถือ ดึงเอาเฉพาะของที่ต้องการออกจากกล่อง ปิดฝาไว้ตามเดิม ยื่นคืนให้เฮียเก็บเข้าที่ 

     

    ผมมองไปรอบๆ อีกทีว่ามีอะไรให้ต้องเอาอีกไหม แต่ไม่มีแล้วครับ

     

    เฮียฮันมองหน้าผมอีกรอบ จ้องตา ทำท่าจะพูดแล้วเงียบเสียงลง ก่อนเอ่ยแผ่ว

     

    “เฮียไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดนี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายนะ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็เปิดใจหน่อยละกัน แต่ถ้าไม่ไหว เฮียพร้อมช่วยเสมอ เพราะไงหงส์ก็น้องเฮีย”

     

    ผมฉีกยิ้มกว้าง เฮียอาสาถือกล่องให้เพราะค่อนข้างหนัก พอเปิดประตูออกไปก็เห็นซันไรส์ยืนคอย รายนั้นเดินเข้ามารับกล่องไปถือด้วยตัวเอง

     

    “มีแค่กล่องเดียวใช่ไหม”

    มันถามนิ่งๆ ผมพยักหน้า รายนั้นเดินไปที่รถ ผมเดินเคียงไปกับพี่ชายต่อ หลายคนเดินมาส่ง ผมยกมือไหว้รอบวง บอกลาทุกคนก้าวขึ้นรถไป

     

     




    บ๊วยมันยังไม่กลับเลยครับ สงสัยจะติดงาน ผมอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยเตรียมเข้านอน พออาบน้ำเสร็จประตูห้องนอนก็เปิดออก ผมมองคนเข้ามาใหม่ สีหน้ามันเพลียอย่างเห็นได้ชัดเลย

     

    ว่าจะไม่สนใจ แต่ไม่เคยเห็นมันในสภาพโทรมแบบนี้มาก่อนจริงๆ

     

    “งานมีปัญหาเหรอ”

     

    มันยิ้ม เดินเข้ามาใกล้ จับผมสูบพลังไปหนึ่งดอก พอปากผมชาได้ที่มันก็ปล่อย ลูบหัวผมเบาๆ

     

    “หงส์นอนก่อนละกัน ขอเฮียอาบน้ำก่อน”

     

    ใครถามวะ อยากอาบก็อาบ อยากนอนก็นอน แต่อย่ามายุ่งตอนนอนละกัน

     

    ผมไม่ได้รวนทางคำพูดครับ แค่ความคิด ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ มันพูดแค่นั้น หันหลังเดินดุ่มๆ หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    ผมเดินขึ้นเตียงก่อน ทิ้งตัวลงนอน อยากหลับไปก่อนเหมือนกัน แต่มันระแวงครับ กลัวโดนทำอะไร ผมนอนระแวงอยู่กระทั่งมันเดินออกมา สีหน้าดูสดชื่นขึ้นมาหน่อย

     

    ผมแกล้งหลับตาเมื่อมันมองมา พยายามนอนนิ่งๆ พักใหญ่มันก็ก้าวขึ้นมานอนเคียงข้าง ปิดไฟหัวเตียง ดึงร่างผมเข้าไปไว้ในอ้อมแขนอย่างที่มันชอบทำประจำ หัวใจผมไหวแรง ผมนอนหันหลังให้ มันขยับจูบแก้มผมเบาๆ กระซิบแผ่ว

     

    “ราตรีสวัสดิ์ หงส์ของเฮีย”

    อ้ากกกก ทำไมต้องมาทำอะไรสวีทหวานแหววใส่กันแบบนี้ด้วยวะ

     

    ผมไม่ตอบรับอะไรทั้งนั้น ทำเป็นนิ่งเสีย ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงลมหายใจของมันเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่ามันได้หลับสนิทไปแล้ว 


    ผมนอนฟังเสียงลมหายใจของมันอยู่นาน พยายามข่มใจให้หลับก็หลับไม่ได้สักที 


    ผมลืมตา จ้องนิ่งบนกำแพงว่างเปล่าจนสายตาชาชินกับความมืด ค่อยๆ ขยับพลิกหันหน้าเข้าหาคนตัวสูง ขยับให้เบาที่สุด เพราะไม่อยากให้มันตื่น มันยังไม่รู้ตัว นอนนิ่งแขนยังพาดนิ่งไว้บนลำตัวผม ผมเงยหน้ามอง 

     

    มันคงจะเหนื่อยมากจริงๆ ถึงได้หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ ผมค่อยๆ ยกมือขึ้นแตะปลายคางมันเบาๆ ไต่ขึ้นไปยังริมฝีปาก ร่องจมูก ปลายจมูก ดีดไปเบาๆ ทีเพื่อแก้แค้น

     

    มันยังไม่รู้สึกตัว

     

    “หลับเป็นตายเชียวนะ”

    ผมกระซิบต่อว่า มันยังคงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอตามเดิม

     

    หลากหลายความรู้สึกตีกันให้วุ่น หัวใจเต้นในจังหวะแปลกๆ ด้วย

     

    หัวใจ

    หัวใจ.. ความรัก

    หงส์รักเฮีย

     

    คำที่ผมถูกมันบังคับให้พูดแวบผ่านเข้ามาในหัว ผมรีบสลัดทิ้ง จ้องมองอกซ้ายของมัน ผมลองเลื่อนมือไปแตะ สัมผัสได้ถึงแรงเต้นชัดเจน ผมขยับเข้าไปใกล้อีกนิด จรดหน้าผากชิดนำไปก่อน ตามด้วยแก้ม แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ ออกจะหนาวนิดๆ ด้วย พอได้รับไออุ่นจากตัวมันแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นยังไงพิกล กลิ่นตัวมันหอมด้วย ผ่อนคลายยังไงบอกไม่ถูก

     

    ดวงตาผมค่อยๆ หรี่ปรือลงอย่างเชื่องช้า หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีก

     





     

    อืม..

    ผมขยับ เพราะรู้สึกถึงแรงรัดจากบางสิ่ง รู้สึกอุ่นๆ ที่หน้าผากด้วย ผมค่อยๆ ปรือตามอง

     

    “อรุณสวัสดิ์”

     

    ผมกะพริบตาปริบๆ มอง ใบหน้าคมคายคุ้นเคยอยู่เหนือผมขึ้นไป ปากร้อนแนบลงมาบนหน้าผากผมเบาๆ รู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่รัดมารอบตัวผมจนแน่น ผมตาโต รีบดันตัวออกอย่างรวดเร็ว ลุกนั่ง

     

    “เป็นครั้งแรกนะที่หงส์นอนหันหน้าให้เฮีย”

     

    “หลับหรอก ไม่รู้เรื่อง”

    ผมมุสาไป บอกได้ไงว่าตั้งใจพลิกหันมาหาเอง หนำซ้ำยังหลับไปง่ายๆ เพราะกลิ่นสาบอุ่นๆ ของเขาด้วย ผมโดดไปยืนอยู่ข้างเตียง

     

    “เฮียรีบอาบน้ำก่อนสิ จะได้ไปทำงาน”

     

    มันยิ้มนิดหนึ่ง ลุกอย่างขี้เกียจมานั่งข้างเตียง กางสองแขนยื่นมาด้านหน้าคล้ายพ่อหรือแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยวิ่งเข้าไปสู่อ้อมแขน 

     

    “ขอเฮียกอดรับอรุณหน่อย”

     

    “ถ้าเฮียจะลีลาขออั๊วอาบก่อนละกัน”

    ผมหันหลังทันที กำลังจะก้าว แต่ความเร็วระดับผมหรือจะสู้คนด้านหลัง สองมือมันรวบจับเอวผมไว้ทันทีลากจนผมก้าวถอยหลังไปนั่งแหมะอยู่บนตักมันในท่านั่งหันหลังให้นั่นแหละ แล้วมันก็ก้มหอมแก้มผมฟอดใหญ่ซ้ายขวาสลับกันไปมา ผมดิ้นดุ๊กดิ๊ก แต่ไม่หลุดหรอก วงแขนมันเหนียวอย่างกับเชือกล่ามช้าง

     

    “ปล่อย จะไปอาบน้ำ”

     

    “ขอเฮียเพิ่มพลังก่อนไปทำงานหน่อย”

     

    “โอ๊ย ถ้าอยากได้พลัง ไปขอซุปเปอร์แมนเลยไป!! แม่ครัวก็ได้ ข้าวต้มสักถ้วย ได้พลังเหมือนกัน”

     

    มันหัวเราะ หอมแก้มผมอีกฟอดใหญ่จนแก้มบี้

     

    ผมพยายามเอนตัวหลบ มันยอมปล่อยผมออกดีๆ เดิมฮัมเพลงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ผมยังยืนนิ่งอยู่กับที่ พอเห็นว่าประตูห้องน้ำปิดลงแนบสนิทแล้วถึงได้ยกมือขึ้นมาลูบแก้มเบาๆ

     

    มันร้อนผ่าว

     

    เลื่อนต่ำลงไปที่หัวใจ

     

    มันเต้นแรง

     

    ยกสูงขึ้นมากุมแก้มอีกรอบทั้งสองข้าง

     

    มันร้อนยิ่งกว่าเดิมอีก

     

    ผมรีบสลัดอาการแปลกๆ ในร่างกายทิ้ง หันรีหันขวาง แล้วผมจะทำอะไรระหว่างรอดี

     

    ผมเดินเกร่ไปทั่วทั้งห้อง หยิบหนังสือของไอ้บ๊วยที่มักมีวางไว้ยังมุมต่างๆ ขึ้นมาเปิดดู ดีว่าบ๊วยมันไม่ปัญญาอ่อนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแบบพี่หมอ กระทั่งประตูห้องน้ำเปิดออก ผมหันไปมอง


    มันเดินหน้านิ่งออกมา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวเท่านั้น ผมยัดหนังสือเก็บไว้บนชั้นตามเดิม เดินตรงไปหยิบผ้าขนหนูในตู้เพื่อเตรียมอาบน้ำต่อ เดินก้มหน้าก้มตาปลดกระดุมเสื้อนอนออก 


    ผมชะงักกึกก่อนถึงประตูห้องน้ำ 


    ตอนแรกคิดว่ามันเดินแยกไปทางตู้เสื้อผ้าแล้ว แต่ไม่ใช่ มันยังยืนเป็นยักษ์วัดแจ้งเวอร์ชั่นเกือบเปลือยอยู่หน้าห้องน้ำ สองมือกอดอก พิงไหล่กับขอบประตู ตัวมันแห้งแล้ว แต่ผิวยังดูชุ่มๆ อยู่ เส้นผมเปียกหน่อยๆ สีหน้าท่าทางดูมีเลศนัยยังไงพิกล 


    “ถอยไป จะอาบน้ำ”

     

    “ขอค่าผ่านประตูก่อน”

     

    ผมขมวดคิ้วมองทันที

     

    “อะไร”

     

    มันยิ้ม เอียงหน้า จิ้มแก้มซ้ายตัวเองเบาๆ


    ผมส่งเสียงหึในลำคอพอๆ กับยกยิ้มในความหมายว่า เหอะ อย่าหวัง

     

    “ถ้าไม่จ่ายค่าผ่านประตู เฮียไม่ถอยให้นะ”

     

    “ตามใจดิ อั๊วอาบตอนไหนก็ได้ แต่เฮียต้องรีบไปทำงานไม่ใช่รึไง ช้าเร็วก็เสียที่เฮียคนเดียว อั๊วไม่เกี่ยว”

    ผมทำท่าจะเดินกลับ แต่ไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกดักหน้าอีก

     

    มันไม่ดักเปล่า ยังกางแขนกว้างๆ กั้นไว้อีกด้วย

     

    “เล่นไรเนี่ย”

     

    “ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะจ่ายค่าผ่านทางก่อน”

     

    ผมไม่สนใจคนตรงหน้า หันหลังจะเดินเข้าห้องน้ำไปตามเดิม แต่ถูกรวบไว้ในอ้อมแขนแน่น

     

    คือ

    มันไม่ได้มาแค่แขนครับ มันมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวด้วย

     

    และถ้าผมจำไม่ผิด

     

    ผ้าเช็ดตัวผืนนี้น่าจะอยู่บนตัวมันไม่ใช่เหรอ

     

    แล้วถ้าผ้าเช็ดตัวของมันมาอยู่บนตัวผม แล้วตัวมันจะมีอะไรห่ออยู่ล่ะ

     

    ผมกลืนน้ำลายลงคอลงดังเฮือก ไม่จินตนาการต่อ ไม่พลิกหันไปพิสูจน์ ไม่ดิ้นด้วย

     

    “ค่าผ่านทาง”

    มันกระซิบพูดเรียบๆ แต่น้ำเสียงบ่งบอกว่าถ้าไม่ทำ ผมอาจต้องจ่ายเยอะกว่าแค่หอมแก้มก็ได้

     

    “ดะ ได้ แต่เอ่อ เฮียใส่ไอ้นี่ไว้เหมือนเดิมก่อนได้ไหม แอร์เย็น เดี๋ยวเฮียไม่สบาย”

     

    ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ จากคนด้านหลัง

     

    “ถ้าตุกติก เฮียจะไม่พูดอีกแล้วนะ จะ ‘รีด เอาค่าผ่านทางด้วยตัวเองเลย อาจ รีด’ จนหงส์ลุกไม่ขึ้นไปสามวันก็ได้”

     

    ผมกลืนน้ำลายลงคออีกรอบ ไม่อยากโดน ‘รีด’ เหมือนกัน ผมพยักหน้าหงึกๆ มันค่อยๆ คลายวงแขนออกพอๆ กับผ้าขนหนูบนตัวผม

     

    “เรียบร้อย”

    มันบอกเสียงเบา

     

    “ใส่แล้วแน่นะ”

     

    “ใส่อะไร”

    มันถามมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

     

    “ผ้าเช็ดตัว”

     

    ได้ยินเสียงหัวเราะอีกรอบ แล้วตอบ

     

    “ใส่แล้ว”

     

    ผมยืนกล้าๆ กลัวๆ เกรงว่าหันกลับไปแล้วจะเจออนาคอนด้าในสภาพหลับใหลเข้า ดีไม่ดีมันอาจตื่นขึ้นมารอเซย์ไฮหรือหนีห่าวผมอยู่ก็ได้

     

    ผมค่อยๆ พลิกหันไปมอง ลอบถอนหายใจเบาๆ ที่มันใส่แล้วจริงๆ มันยืนกอดอกอยู่เหมือนเดิม สีหน้ายิ้มๆ

     

    “ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้”

     

    “เพราะเคยเห็นไงถึงไม่อยากเห็นอีก”

    ผมสวนกลับไปทันที

     

    “เอาละ จ่ายค่าผ่านทางได้แล้ว”

     

    ผมยืนอิดๆ ออดๆ

     

    “เอ้า ช้า สงสัยว่าหงส์อยากให้เฮีย

    มันพูดพร้อมจับปมผ้าขนหนูทำท่าจะปลด

     

    “เดี๋ยว!!

    ผมตาโตรีบถลาเข้าไปหาทันที

     

    มันหยุดมือลง คลายปล่อย ผมขยับใกล้เข้าไปอีกนิด ห่างจากมันแค่ศอกเดียว 

     

    ผมอ้ำๆ อึ้งๆ ลำบากใจยิ่งกว่าตอนโดนบังคับให้บอกรักซะอีก

     

    เอาวะ ยิ่งช้ายิ่งอันตราย ผมรีบหลับหูหลับตาจับสองไหล่มัน เขย่งจนสุดปลายเท้าหอมแก้มอย่างว่องไว

     

    “เรียบร้อย ไปอาบน้ำได้ยัง”

    ผมรีบเขยิบไปยืนอยู่ห่างๆ มันฉีกยิ้มกว้าง จิ้มแก้มอีกข้าง

     

    “พอแล้ว ข้างเดียวก็พอ นี่เงินหมดกระเป๋าแล้วเนี่ย”

     

    มันหัวเราะ ส่ายหน้าไปมา ส่งสายตาว่าให้จ่ายอีกข้าง ผมอมลม

     

    เมื่อกี้มันคงเห็นผมลำบากเขย่งจูบมันเลยก้มหน้าลงมาหานิดๆ เสิร์ฟให้แทบจะถึงปาก ผมกัดฟัน หน้าร้อนฉ่าไปหมด

     

    มันจิ้มแก้มตัวเองอีกรอบเมื่อผมยังชักช้า ผมยื่นปากจุ๊บเบาๆ

     

    “จ่ายครบแล้ว”

    ผมรัวลิ้นบอก มันยิ้ม ยิ้มจริงๆ ครับ ยิ้มทั้งปากทั้งตา แต่ส่ายหน้า

     

    อ้าว ขี้โกงนี่หว่า

     

    “จ่ายตรงนี้อีกรอบ พร้อมพูดว่า หงส์รักเฮีย’ ด้วย”

    มันจิ้มไปที่ตำแหน่งหัวใจตัวเอง

     

    ผมส่ายหัวพรืด มันเลิกคิ้วสูงข้างหนึ่ง เลื่อนมือช้าๆ ต่ำลงไปที่เอว เป้าหมายคือปมผ้าขนหนู

     

    “ก็ได้ๆๆ”

    ผมรีบรัวลิ้นใส่ทันที

     

    โอ๊ย เมื่อกี้ว่าหนักแล้ว ตอนนี้ยิ่งกว่าอีก อยากวิ่งงอแงไปให้ปลาคาร์ปปลอบใจ

     

    ผมขยับกระดึบๆ เข้าไปใกล้ ดีว่ามันไม่เร่งมา ได้กลิ่นสบู่หอมๆ ลอยคลุ้ง ผมจ้องเป้าหมายคือตำแหน่งหัวใจมัน

     

    “ช้าๆ นะ ถ้าทำเร็ว เฮียจะให้จ่ายเพิ่มจนกว่าจะพอใจ”

     

    ผมตวัดค้อน มองแผงอกกว้างนั้นใหม่ หลับหูหลับตาแนบริมฝีปากกับแผงอกเปลือยเปล่านั้น ฝังนิ่งเบาๆ มันเย็นชืดเพราะน้ำที่อีกคนเพิ่งอาบมาปะทะแอร์เย็นฉ่ำภายในห้อง รู้สึกถึงสองมือที่เลื่อนมาโอบประคองไว้หลวมๆ รอบเอว

     

    “บอกรักด้วยสิ”

    มันกระซิบนำแผ่ว ผมถอนปากออกพูดเบาๆ กับหัวใจดวงนั้น

     

    “หงส์รักเฮีย”

     

    ตูม!!!!

     

    ได้ยินเสียงระเบิดจากภายในอก ไม่ใช่ของไอ้บ๊วยมันหรอกครับ

     

    ของผมเองนี่แหละ

     

    แรงระเบิดมีผลข้างเคียงทำให้หัวใจผมเต้นแรง หน้าร้อนตัวร้อน สะเก็ดระเบิดกัดกินสติให้รู้สึกเหมือนจะเป็นลม

     

    สงสัยว่ามันจะรู้ว่าผมกำลังบาดเจ็บสาหัส มันก้มลงมาจูบรักษาผมเบาๆ ที่หัว 

     

    แล้วคำบางคำก็ลอดผ่านริมฝีปากมันออกมา

     

    “เฮียก็รักหงส์”

    มันเลื่อนปากต่ำลงมาจูบที่หน้าผาก พวงแก้ม แล้วจบที่ริมฝีปากผมตามสูตรเดิม ไม่ได้ล่วงล้ำหรอกครับ แนบไว้เฉยๆ แล้วค่อยๆ คลายปล่อย ลูบหัวผมเบาๆ เดินไปยังตู้เสื้อผ้า

     

    ในขณะที่ผมยังยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ

     

    มะ เมื่อกี้ บ๊วยมันพูดว่าอะไรนะ?

     

    เฮียก็รักหงส์

     

    หงส์ไหน

     

    หงส์ขาว หงส์แดง หรือว่า

     

    หงส์ซานอย่างผม

     

    บอกรักเป็นภาษาไทยด้วย ชัดเจนเลย

     

    รักได้ไง เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน

     

    รักได้ไง ก็ในเมื่อเราไม่เคยคบหากันมาก่อน

     

    และอีกหลากหลายคำถามที่ถาโถม

     

    ผมพยายามประมวลผล

     

    เมื่อกี้มันบังคับให้ผมบอกรักมัน

     

    บอกรักทั้งที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันจริงๆ 

     

    แล้วเมื่อกี้มันก็บอกรักผม

     

    แล้วนี่มันพูดมาจากความรู้สึกจริงๆ หรือพูดไปงั้นเหมือนที่มันสั่งให้ผมบอกรักมันกันแน่

     

    ผมยืนคิดต่อ

     

    ผมว่าระยะเวลาเพียงสั้นๆ ไม่มีทางทำให้มันรู้สึกรักผมได้จริงๆ หรอก พูดไปเหมือนที่มันบังคับให้ผมพูดมากกว่า

     

    ผมเลิกสนใจ ก้าวเข้าห้องน้ำไปทันที พอออกไปก็ไม่เห็นบ๊วยมันแล้วล่ะครับ ผมเดินออกไปข้างนอก กวาดตามองหา 




    “เฮียล่ะ”

    ผมถามซันไรส์

     

    “ประชุมออนไลน์ด่วนในสวน ไม่เกิน 30 นาทีก็แล้วเสร็จ ท่านสั่งให้คุณหงส์รอก่อน”

     

    “รอทำไม เผื่อประชุมยืดเยื้อ ฉันจะกินก่อน”

     

    “ท่านบอกให้รอก่อน”

    มันบอกเสียงเครียดขึ้น ผมไม่ฟังจะเดินไปที่โต๊ะกินข้าว แต่ซันไรส์มันรั้งจับข้อมือผมไว้

     

    “ท่านอุตส่าห์เลือกประชุมสำคัญผ่านโน้ตบุ๊กเพื่อจะได้มีเวลาทานมื้อเช้ากับคุณนะครับ กรุณาอย่าทำให้ความตั้งใจของท่านต้องเสียไปเพราะความดื้อดึงของคุณหน่อยเลย”

     

    ผมอึ้งไป ซันไรส์มองมาด้วยสายตานิ่งๆ แต่จากลักษณะท่าทาง บอกได้เลยว่าผมไม่มีสิทธิ์ได้กินข้าวเช้าก่อนแน่ๆ

     

    “ก็ได้” ผมดึงข้อมือออกเบาๆ “เขาอยู่ในสวนใช่ไหม”

     

    ซันไรส์พยักหน้า

     

    “แต่อย่าเพิ่งไปกวนดีกว่า ประชุมเครียด”

     

    “ไม่กวนหรอก จะไปให้อาหารปลาคอย”

     

    “ผมว่าคุณเพลาๆ การให้อาหารปลาบ้างดีกว่า มันอ้วนจนจะกลายเป็นหมูว่ายน้ำได้แล้ว”

     

    “บ้า”

    ผมว่ามันไปแค่นั้น เดินเข้าไปในสวน บนโต๊ะเก้าอี้พักผ่อน เห็นบ้วยมันนั่งหันหลังให้ รัวพูดภาษาต่างประเทศ น่าจะฝรั่งเศส ผมเดินไปหยิบอาหารปลา ทิ้งตัวลงนั่งที่ประจำ หย่อนขา ปลาพวกนั้นรีบกรูกันเข้ามาหาผมอย่างรู้ดี ผมยิ้มให้พวกมันค่อยๆ โปรยอาหารลงไป


    ตะกละนะพวกแก 

    ผมพูดใส่ปลาในบ่อ มองพวกมันว่ายมางับอาหารเม็ดด้วยลักษณะต่างกัน บ้างก็ว่ายมากินอย่างรวดเร็ว บ้างก็มาแบบชิลล์ๆ เอื่อยๆ จนผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นปลาหรือว่าสล็อตกันแน่ บางตัวก็ว่ายไปว่ายมาไม่สนใจหันมางับกิน แม้ว่าอาหารปลาราคาแพงของผมจะลอยเกาะหัวมันไปก็ตาม 

     

    สงสัยจะอิ่มกันแล้ว

     

    ผมนั่งมองพวกมันอย่างเพลิดเพลิน หูฟังเสียงไอ้บ๊วยรัวภาษาต่างประเทศของมันไป ไทย จีน อังกฤษยังพอรู้เรื่องครับ นอกเหนือจากนั้นฟังไม่ออก 

     

    โห ฟังแล้วเครียดแทนเลย

     

    สักพักหนึ่งก็รู้สึกว่าเสียงของมันเงียบลง (มันใส่แฮนด์ฟรีคุย) ผมทำหน้าฉงน หันไปมอง บ๊วยมันเลิกประชุมแล้ว โน้ตบุ๊กถูกงับปิด มันนั่งไขว่ห้าง ผสานมือไว้บนตักมองมานิ่งๆ 

     

    “ประชุมเสร็จแล้วเหรอ กวนหรือเปล่า”

    ผมบอกไปอย่างเกรงใจ เพิ่งเห็นมันทำงาน มิน่า ถึงบอกว่าเครียด เพราะงานมันโหดหินแบบนี้นี่เอง ขนาดวันนี้วันเสาร์มันยังทำ

     

    “เรียบร้อย หงส์หิวรึยัง”

     

    “นิดหน่อย”

    ผมรีบปิดอาหารปลาลง กำลังจะลุกแต่หยุดนิ่งเพราะมีมือยื่นมาตรงหน้า ผมเงยมอง บ๊วยมันยืนอยู่ข้างๆ ยื่นมือมารับ

     

    ผมมองมือนั้น มันยิ้มนิดหนึ่ง ตอนแรกก็ว่าจะเล่นตัว แต่ไม่อยากกวนครับ สงสารมัน ผมวางมือลงบนมือมันเบาๆ ดีดตัวลุก มันออกแรงดึงให้ผมลุกด้วย ผมปัดก้นเบาๆ ตอนแรกคิดว่าจะกลับไปกินข้าวกันที่โต๊ะใหญ่ในบ้าน แต่เห็นซันไรส์กับวิกเซอร์เดินมาพร้อมถาดอาหาร

     

    มื้อนี้ไม่ใช่ข้าวต้มอย่างเคย แต่เป็นอาหารฝรั่งครบเซตเลย

     

    พวกนั้นนำมันมาวางไว้บนโต๊ะที่มันนั่งประชุมเมื่อกี้ วิกเซอร์ยกโน้ตบุ๊กออกไปแล้ว

     

    บ๊วยมันจับมือผม พาเดินไปยังโต๊ะที่กลายร่างจากโต๊ะนั่งเล่นสีขาวแนววินเทจค่อนไปทางจีนมาเป็นโต๊ะอาหารเช้าชั่วคราว พอได้ระยะ มันก็เลื่อนเก้าอี้ออกให้เบามือ ผมทำตัวแทบไม่ถูกกับการปฏิบัติแบบนั้น

     

    อยากรวนสักหน่อย แต่ไม่รู้ว่าจะรวนยังไงดี เลยทำได้แค่ทิ้งตัวลงนั่งเท่านั้น

     

    คำพูดของซันไรส์ก้องอยู่ในหูผม

     

    มันยอมประชุมงานสำคัญทางออนไลน์เพื่อจะได้มีเวลากินข้าวเช้ากับผม

     

    หน้าผมเห่อร้อนขึ้นมาทันที หยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาตักอาหารกินเงียบๆ

     

    “เรื่องงาน...”

    ผมพูดขึ้นเบาๆ มันละสายตาจากอาหารมองหน้าผม

     

    “เฮีย

    ผมนิ่งไปชั่วอึดใจ

     

    “ทำไม”

    มันถามกลับมาเมื่อผมยังไม่พูดต่อ

     

    “เฮียมีอะไรให้อั๊วช่วยหรือเปล่า บางทีสิ่งที่อั๊วเรียนมาอาจเป็นประโยชน์กับเฮียก็ได้นะ”

     

    มันจ้องหน้าผมนิ่ง ยิ้มละมุน เพราะมื้อนี้ไม่ได้ใช้ตะเกียบ เป็นช้อนกับส้อม บรรยากาศมันจึงดูโรแมนติกยังไงพิกล

     

    “แค่หงส์กินข้าวกับเฮีย ยิ้มให้เฮีย แค่นั้นก็พอแล้ว”

     

    ผมทำหน้าแหยงใส่

     

    “มักน้อยจัง”

     

    มันหัวเราะ หั่นไส้กรอกรมควันเป็นชิ้นพอดีคำ จิ้มซอสปรุงรสสูตรพิเศษของแม่บ้าน ยื่นมาจ่อไว้ใกล้ปากผม

     

    กำลังจะอ้าปากบอกว่ากินเองได้ แต่เห็นสายตาละมุนนั้นแล้วปฏิเสธไม่ลง

     

    ผมตัดสินใจอ้าปากงับเอาไส้กรอกคำนั้นเข้าปาก

     

    “อร่อยไหม”

     

    “แม่บ้านเราทำอาหารเก่ง”

    ผมตอบไม่ตรงคำถาม

     

    รู้สึกกระดากที่ต้องตอบตรงๆ นี่หว่า

     

    มันหัวเราะหึๆ ไม่เซ้าซี้เอาคำตอบ

     

    “เสาร์หน้าทำตัวให้ว่างนะ”

     

    “ทำไม”

     

    “เฮียจะพาไปขับรถเล่น”

     

    ผมตาโต

     

    “ที่ไหน!!

     

    “แล้วแต่หงส์เลย อยากไปที่ไหนเฮียจะพาไป”

     

    ผมเบิกตากว้างอย่างดีใจ

     

    “แบบไปเช้าเย็นกลับหรือว่าค้าง”

     

    “แบบไหนก็ได้ แล้วแต่หงส์อีกเหมือนกัน”

     

    โห ตามใจกันสุดๆ อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย ผมพยักหน้ารับ รู้สึกอาหารอร่อยขึ้นมาอีกมากโข

     

    ผมกินไป ใจนึกวาดภาพหนึ่งในการท่องเที่ยวแบบที่ผมอยากทำมานาน โดยมีสารถีคือไอ้บ๊วย

     

    แต่เดี๋ยวนะ

     

    ทำไมเดี๋ยวนี้ผมต้องวาดภาพตอนมีมันด้วยล่ะ!!!

     

    พอเงยหน้ามองก็เห็นแต่ออร่าสดใสหล่อเหลาของมัน

     

    เอาวะ ไปกับมันก็ไม่เสียหาย (แต่อาจมีเสียตัวนิดหน่อยหลังจากนั้น TT)




    To be Con 

    (ปล. เจอกันเมื่อเม้นท์ชน 1980 ค่าาาา) 

    (>>จองหนังสือ คลิกที่นี่<<) 

    อีบุ๊ค(e-book) หงส์ซาน (จบแล้ว เนื้อหาเหมือนหนังสือทุกอย่าง)

    (ราคา 339.- จากราคาปก 480.- เนื้อหานิยายมี 27 ตอน+ตอนพิเศษอีก 3 ตอน)

    [>>ดาวน์โหลดอีบุ๊คที่นี่ค่ะ<<]


    ไรท์ทอล์ก : 

    เดือนสิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติและเป็นวันเกิดแม่ไรท์ด้วย ไรท์จึงตั้งใจจะทำบุญด้วยการไถ่ชีวิตโคท้อง (ไถ่หนึ่งได้ถึงสอง) ฉนวนอยู่ที่ตัวละ 23,000 

    ปีที่แล้วทำไปแล้วหนึ่งตัว ตอนคล้องพวงมาลัยวัว เขาน้ำตาไหลเลยนะ เขารู้ไงว่ารอดแล้ว ปีนี้จะทำอีก เดี๋ยวประมาณกลางเดือนไรท์จะเอาหนังสือที่ไรท์สะสมไว้มาประกาศขาย และถ้าเป็นไปได้ กะจะเขียนนิยายสักเรื่อง(สั้น ๆ) แล้วรวมเล่มให้คนจอง (รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปเป็นค่าไถ่โค) กำหนดไถ่คือวันที่ 4 สิงหา ใครอยากร่วมบุญกดเพจไรท์ไว้นะคะ (ที่นี่) หรือเพจที่เอาไว้ขายพวกมือสองของไรท์โดยเฉพาะ (ที่นี่ค่ะ) 

    ประมาณวันที่ 8-10 ไรท์จะมาอัพเรื่องที่จะขาย เป็นนิยายวาย การ์ตูนวาย และอาจมีเสื้อผ้าบางชิ้น ตุ๊กตา  (ของสะสมไรท์ทั้งนั้นแหละ) ถ้าพวกหนังสือหรือเสื้อผ้าที่ไม่มีต้นทุน รายได้ทั้งหมดสมทบทุนไถ่โคหมดเลย 

    จริง ๆ ก่อนหน้านี้เก็บเงินสำหรับไถ่โคครบแล้วล่ะ แต่พอดีอยู่ ๆ ก็อยากจัดสร้างตู้และทำหนังสือพระไตรปิฏก จึงเทเงินทั้งหมดทำไป (แต่ไม่ครบหรอกนะ ครึ่งหนึ่งมีผู้ร่วมบุญมา) จึงต้องมานั่งสะสมกันใหม่ (ปกติไรท์จะหัก 10% จากทุกรายได้ไว้ทำบุญ ซึ่งถ้าใครอยากร่วมบุญกับไรท์ (แบบครบทุกบาททุกสตางค์) เวลาจองหนังสือหรือโอนเงินมาค่าอะไร โอนเข้าแบงค์กรุงเทพเลยนะคะ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ที่โอนเข้าแบงค์นั้นไว้ทำบุญล้วน ๆ เลย - แต่ถ้าโอนเข้าแบงค์อื่น ไรท์จะถอนออกมา 10% ตามที่บอก) 

    นี่คือพระไตรปิฏกที่ไรท์ถวายไป สวยมากกก ตู้ไม้สักทั้งหลังพร้อมหนังสือแบบบทขยายความจัดเต็มจำนวน 91 เล่ม ^^ โมทนาสาธุเอาได้บุญ 10% นะคะ ^^ 



    โชคดีทุกคนค่ะ 



    ADD FAB เป็นแฟนคลับเรื่องนี้จิ้มน้องหงส์ได้เลย

    {ADD FAD}


    แฮทแท็กเรื่องนี้ #หงส์ซาน 




    ติดต่อ-ติดตามการอัพนิยายไรท์เตอร์ได้ที่นี่ค่ะ 

    เพจ : facebook.com/memew28

    เฟส : facebook.com/memewfc

    ทวิต : @Memew28

    เมล : Memew28(แอท)gmail.com

    instagram : Memew28

    Line : Memew28 


    ปลื้มแรงกับคอมเม้นท์นี้ (ดึงแก้มมาจูบ โอ๊ะ! ขอโทษ น้ำลายติด) 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×