คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Sub event 2: Nostalgic dream
Sub
event: Nostalgic Dream
เผลอไปเผลอมา...อาบิเกลก็มาอยู่ที่นี่ประมาณเดือนหนึ่งแล้ว
ช้ากว่าที่คาด
แต่ก็เร็วกว่าที่คิด
และพอได้มาสัมผัสการใช้ชีวิตจริงๆ
เธอก็พบว่าเงินมันหายากกว่าที่คิดเยอะเลย! คิดได้ดังนั้น หญิงสาวก็หัวเราะออกมาเบาๆ
เธอรู้หรอกว่าเงินมันหายาก แต่ให้ตายเถอะ มันไม่ได้รวดเร็วและมากมายอย่างที่คิด
กระนั้นเธอก็ยังรู้สึกผ่อนคลายกว่าตอนอยู่ที่บ้าน แม้จะต้องทำบัญชีหนักกว่าตอนที่เรียน
แม้จะต้องออกแรงหนักกว่าตอนทำงานบ้าน
แต่เธอยิ้มมากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย
มันไม่ใช่รอยยิ้มที่อาบิเกลมักใช้ปกปิดความรู้สึก
หรือรอยยิ้มที่ใช้บอกว่าเธอไม่เป็นอะไร มันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากภายใน
บางครั้งหญิงสาวยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
นึกได้ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
เธอก็ยิ้มออกมา ความรู้สึกแย่ค่อยๆ ละลายหายไป แก้มข้างที่ไม่เป็นแผลของเธอแนบไปกับแขน
เสียงฮัมเพลงอย่างรู้สึกดีดังคลอไปกับหน่วยความคิด ร่างกายโยกเบาๆ
ท่ามกลางความสบายของแสงจันทร์
สังคมที่นี่ไม่เหมือนกับสังคมที่เธอจากมา
อาบิเกลแทบจะเดาความคิดของคนที่นี่ไม่ได้เลย
พวกเขามีความหลากหลายและเป็นตัวของตัวเองมากเหลือเกิน เธอต้องปรับตัวเยอะมาก
ทั้งสภาพภูทิประเทศ สภาพอากาศ สังคม ผู้คน การใช้ชีวิต นั่นไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก
ดีมากเลยต่างหาก ดีที่เธอได้มาสัมผัสอะไรใหม่ๆ ได้รู้จักอะไรแปลกๆ ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ไม่สัมผัส
เธอดีใจที่หนีจากกรงขังนั้นมาได้
คิ้วเรียวสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อคิดถึงที่บ้าน เปลือกตาค่อยๆ ขยับเปิดขึ้นและสิ่งที่เข้ามาแทนที่เสียงฮัมเบาๆ
คือเสียงถอนหายใจ นัยน์ตาสีฟ้าสะท้อนกับแสงจันทร์จนเป็นประกายเมื่อเธอหันหน้าไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง
คืนนี้ฟ้าค่อนข้างเปิด เธอเห็นดวงดาวมากมายรายเรียงกัน
มันยิ่งทำให้เธอคิดถึงท้องฟ้าที่มักสว่างไสวด้วยแสงไฟจนไม่เห็นแสงดาว
อาบิเกล
แอนเดอร์สัน บุตรสาวเพียงคนเดียวของฮันเตอร์และแอนนา แอนเดอร์สัน
นักธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จและโดดเด่น ฮันเตอร์นั้นเก่งและฉลาด
เขาสามารถคำนวนและคาดเดาสถานการณ์ของราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้แม่นยำราวกับตาเห็น
ส่วนแอนนาก็เป็นนายหน้าที่จัดได้ว่าไม่เคยพลาด ทั้งสองทำงานเคียงคู่กันมาตลอด
โดยมีพยานรักคือลูกสาวคนเดียวของพวกเขา
อาบิเกลเป็นเด็กสาวน่ารัก
ใบหน้าจิ้มลิ้มคล้ายบิดา ผมยาวสีน้ำตาลเข้มไม่เคยถูกปล่อยให้ยุ่ง ผิวขาวนวลตัดกับดวงตาสีฟ้าสดใสที่ได้มาจากมารดาที่ใครเห็นก็เป็นเอ็นดู
แน่นอนทุกคนเอ็นดูอาบิเกล และความเอ็นดูนั้นมาพร้อมความคาดหวัง
คาดหวังว่าเธอจะต้องยอดเยี่ยมทัดเทียมบุพการี
เด็กสาวตระหนักถึงบ่วงที่รัดคอเธอครั้งแรกเมื่ออายุสิบสองปี
วันประกาศผลการเรียนที่ใบเกรดของเธอมีตัว B+
โผล่มาหนึ่งตัว
เพียงแค่ตัวหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล ผู้เป็นแม่ไม่พอใจกับมันเอามากๆ
ทั้งที่มันเป็นเกรดของวิชาพละศึกษาที่เธอไม่ค่อยถนัด มันเป็นแค่ B+ หนึ่งตัว
คุณนายแอนเดอร์สันไม่ชอบใจถึงขนาดกักบริเวณเธอและเริ่มทำตารางการฝึกร่างกายให้
เมื่อกระพริบอีกหนึ่งที
ชีวิตของเธอก็เต็มไปด้วยตารางเวลาที่เธอไม่ได้จัดเอง
ทุกวิชาที่เธอเรียก
ทุกกิจกรรมที่เธอผ่านการรับรองโดยผู้ปกครองมาแล้วทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่การคบเพื่อนหรือกิจกรรมผ่อนคลายยามว่าง
นึกย้อนไปอาบิเกลสงสัยว่าเธอทนกับตารางเหล่านี้ได้อย่างไร
และเหตุใดเธอจึงตัดสินใจหนีทันทีที่เรียนจบมหาวิทยาลัย คำถามเหล่านี้คั่งค้างอยู่ในจิตใจจนเธอรู้สึกราวกับตัวเองเป็นเด็กไม่รู้จักโต
ไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมว่าทุกวันนี้เวลาเธอจะทำอะไร
เธอยังมีความคิดที่จะโทรไปปรึกษามารดาของตนอยู่บ่อยๆ แม้จะบอกว่าไม่อยากอยู่ใต้เงาของทั้งสองคนอีกแล้ว
เธอเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่บอกว่าจะออกไป แล้วทำให้พวกเขาเสียใจ
เหมือนกับทุกครั้งที่เมื่อเธอยังคิดถึงภาระผูกพันกับที่บ้าน
บุคคลอีกคนก็จะปรากฏขึ้นในศีรษะเธอทุกครั้ง
รอยยิ้มจากริมฝีปากกว้างกับผมสีสตรอว์เบอร์รี่บลอนด์สะท้อนแสงอาทิตย์
อาบิเกลคนที่นั่งอยู่บนเตียงหน้าหน้าต่างบานใหญ่ยิ้มบางๆ
อีกครั้งกับความทรงจำถึงจุดเปลี่ยน แต่เธอยั้งความคิดของตัวเองไม่ให้คิดถึงเซลีนอีก
เซลีนหรอ...
ชื่อนี้ที่ได้ยินทีไรก็ปวดใจทุกครั้ง
และภาพความทรงจำก็อดทำให้นึกถึงวันที่ฝนกระหน่ำลงมาที่สุสานไม่ได้ ความรู้สึกที่เกินจะรับไหวในวันนั้นราวกับมันเป็นกรรมที่เธอทำให้ใครหลายคนต้องเสียใจและผิดหวัง
เกินรับจนเธอตัดสินใจที่จะหนีมาที่เมืองแห่งนี้
หญิงสาวดึงตัวเองออกมาจากภวังค์
ความง่วงและความเมื่อยขบเริ่มเข้าจู่โจมร่างกาย
รวมถึงความหนาวเย็นอาจทำให้เธอเป็นหวัดได้ อาบิเกลรีบสะบัดผ้าห่มชื้นๆ
ออกแล้วเปลี่ยนชุดมาเป็นชุดนอนสบายๆ ของตน
ศีรษะอิงไว้กับหมอนเรียบร้อย
หญิงสาวก็กล่อมให้ตัวเองให้หลับเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่วันพรุ่งนี้
ความคิดสุดท้ายที่ทิ้งไว้ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเธอจะดำดิ่งสู่จิตใต้สำนึกคือ
ถึงจะเป็นการหนี
แต่ก็เป็นการหนีที่ไม่เลวเลยนะ...
ความคิดเห็น