คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Sub event 1: Deep blue dream
Sub event: Deep blue dream
เปลือกตาบางเปิดขึ้น
ความวิงเวียนทำให้เธอมองเห็นเพดานสีขาวพร่ามัว
ถึงแม้จะเป็นสีขาวล้วนแต่ก็บอกได้เลยว่ามันไม่ชัด เธอปรับโฟกัสของสายตาตนเอง
ศีรษะทุยหันไปทางขวา วิวที่เห็นเป็นวิวที่คุ้นเคย ห้องกว้างในบ้านหลังใหญ่
เสียงนาฬิกาปลุกดังเบาๆ เป็นเสียงติ๊ด ติ๊ดธรรมดาที่เธอมักตื่นขึ้นมาก่อนมันร้องเสียอีก
5:59:48
อาบิเกล
แอนเดอร์สันอยู่ในห้องนอนของตัวเอง
แสงยามเช้าเริ่มส่องเข้ามาในห้องผ่านม่านสีน้ำเงินเข้มขับให้
เฟอร์นิเจอร์สีขาวซับสีคราม เธอลุกขึ้นมากดปิดนาฬิกาปลุกเพื่อไม่ให้มันดังขึ้นมาอีก
ฝ่าเท้าสวมเข้าไปในสลิปเปอร์ ใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง
หญิงสาวพาร่างของตนออกมาจากห้องนอน
เดินลงบันไดอย่างเงียบๆ
ทั่วทั้งบ้านยังไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตใดนอกจากตัวอาบิเกลเอง
แม้แต่ซิลเวสเตอร์—เจ้าแมวขนฟูก็ยังคงนอนเกียจคร้าน ไม่เรียกร้องขออาหาร
เธอทำตามความเคยชินของตนเอง หยิบขนมปังจากตู้เย็นออกมาพักไว้ และเปิดเครื่องชงกาแฟ
“ตื่นแล้วเหรอลูก?”
น้ำเสียงแช่มชื่นดังขึ้นทำให้อาบิเกลต้องหันไป
ทันใดนั้น ผมสั้นระต้นคอของเธอก็ยาวขึ้นจรดกลางหลังดูสวยงาม
ชุดนอนที่เป็นเสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงขาสั้นก็เปลี่ยนเป็นเดรสผ้าแพร
แต่นัยน์ตาสีฟ้ายังคงไม่ประกายความยินดีใดๆ มันจ้องมองไปยังสุภาพสตรีผู้มีใบหน้าสะสวยที่อายุไม่สามารถทำอะไรเธอได้
ใบหน้าของหญิงสาวประดับด้วยรอยยิ้มสดใส
“อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่”
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”
รุ่งสางเปลี่ยนเป็นยามเช้าอย่างว่องไว
แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในตัวบ้านสะท้อนให้เห็นเวลา 9 นาฬิกา
นางแอนเดอร์สันรับกาแฟมาจากลูกสาว เธอยิ้มให้อาบิเกลอย่างภาคภูมิใจ
“วันนี้ไปเซ็นเตอร์พาต้ากับแม่นะ
จะได้ไปดูชุดแล้วก็ทำผมด้วย” เสียงของสาววัยกลางคนยังคงพูดต่อ “ลูกแม่จะต้องเป็นคนที่สวยที่สุดในงานให้สมกับการเป็นบัณฑิตเกียรตินิยม!”
แต่ใบหน้าของผู้เป็นลูกกลับไม่ได้ยินดีขึ้นมา
มันฉายแววตรอมตรมกว่าเดิม
“แต่แม่คะ
หนูไม่ไปงานรับใบประกาศฯ” หญิงสาวประท้วง “ต้องให้หนูไปเจอใครก็ไม่รู้ หนูไม่---“
เสียงของเธอไม่ได้ออกมาตามที่เธอตั้งใจพร้อมกับสีหน้าของผู้เป็นแม่ที่แปรเปลี่ยนไป
มันเป็นความเฉยชาและความไม่พอใจ อาบิเกลพยายามเปล่งเสียงเพื่อเถียงกับมารดาของตนต่อ
แต่มันกลับไม่ออกมา เธอตื่นตระหนก
“ไม่ไปไม่ได้”
เสียงนั้นไม่ใช่ของมารดา
แต่เป็นเสียงทุ้มของผู้ชายที่หลุดออกจากริมฝีปากสีแดงของมารดา เสียงของบิดา—นายแอนเดอร์สัน
“ลูกต้องไปเพื่อเกียรติยศของครอบครัว”
เธอรู้สึกว่าผมของเธอหนาและยาวขึ้นเรื่อยๆ
ปลายของมันรัดคอเธอแน่น
“พ่อกับแม่ทุ่มให้ลูกเท่าไหร่
รู้บ้างไหม?”
เสียงของบิดาและมารดาผสมกันก้องกังวานอยู่ในทุกประสาทการรับรู้เสียงของเธอ
“ทำไมไม่เห็นคุณค่าของมันบ้าง
ไม่มีพ่อแม่คนไหนมอบสิ่งเลวร้ายให้กับลูกหรอก”
ใบหน้าของมารดาเข้าใกล้ขณะที่ลมหายใจของเธอเข้าปอดน้อยลงทุกที
“ที่ทำไปทั้งหมดนี่ก็เพราะว่ารักลูกนะ
ไปซะ ทำให้พ่อกับแม่ภาคภูมิใจ”
มือเรียวของสาววัยกลางคนแตะที่บริเวณหัวใจเธอเบาๆ
แต่แรงผลักมหาศาลผลักให้เธอล้มหงายหลังสู่พื้น อาบิเกลไม่ล้มลงกระแทกพื้น
เธอรู้สึกเธอกำลังร่วงหล่น
มือเล็กปัดป่ายค้นหาสิ่งยึดเหนี่ยวของตนไว้จนคว้าได้กับ...
...โต๊ะไม้
เบื้องหน้าของเธอคือโต๊ะไม้แถวหน้าสุดของห้องเลคเชอร์ที่เธอจำได้แม่นว่ามันคือคลาสวิชาคณิตศาสตร์
6 ของคุณสมิธ กระดานชอล์กสีเขียวตัดกับพื้นหลังที่เป็นไม้สีอ่อน
รายละเอียดเนื้อหาการสอนก็ยังอยู่บนกระดานครบ
บรรดานักศึกษาที่ทยอยออกไปบ่งบอกว่านี่เป็นเวลาเพิ่งเลิกเรียน
อาบิเกลอยู่ในคลาสเรียน ผมยาวหนาของเธอเหลือยาวถึงไหล่
ผมถูกทำอย่างเรียบร้อยพร้อมกับแว่นทรงกลมประกอบใบหน้า
ใบหน้าของเธอหันไปสำรวจรอบห้อง ก่อนจะเจอกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่เธอเห็นหน้าไม่ชัด
คนกลุ่มนั้นล้อมเธอไว้พร้อมเสียงเจื้อยแจ้ว
“อาบิเกล
เลคเชอร์คราวนี้น่ะฝากด้วยนะ”
“ฉันขอด้วยนะแอ๊บบี้”
“งานกลุ่มน่ะ
รอส่วนของเธออยู่นะ”
“เป็นอาบิเกลเนี่ย
ดีจังเลยนะ”
อะไรกันน่ะ
ไม่เห็นดีเลย เป็นตัวของฉันเนี่ยนะ...
“ข้อนี้ฉันไม่ค่อยเข้าใจ
ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
“ได้ยินว่าพ่อของเธอไปเปิดโครงการอีกโครงการหนึ่งนี่นา
ดีจังเลย”
“ฉันอยากเป็นแบบเธอบ้างจังเลย”
พอทีได้ไหม?
ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไว้คนเดียวเถอะ
“อาบิเกล!”
พอที!!!!
อาบิเกลตะโกน
แต่ไม่ว่าจะตะโกนอย่างไรเสียงของเธอก็ไม่ออกจากลำคอ เสียงกรีดร้องไม่มีใครได้ยิน
มือของคนกลุ่มนั้นแตะตัวเธอจากหนึ่งเป็นสอง สองมือเป็นสาม
ทุกคนจึงยื้อยุดฉุดหญิงสาวที่พยายามจะดิ้นออกไปจากวงล้อม
น้ำตาปกคลุมดวงตาสีฟ้าใสปริ่มขอบตา
แล้วแรงยื้อก็หลุดออกไปส่งผลไม้เธอล้มลงไปข้างหน้า เธอตกลงมาจากห้องเลคเชอร์
เมื่อกระพริบตาอีกที เธอก็ยืนอยู่ท่ามกลางป่า
แต่เป็นป่าที่เต็มไปด้วยป้ายหลุมศพ
สายฝนเทลงมาไม่ขาดสายทำให้ระยะการมองเห็นไม่เกินห้าเมตร
หากภาพตรงหน้าเธอแจ่มชัด บาทหลวงแก่ๆ หนึ่งคนกำลังทำพิธีส่งวิญญาณให้ใครบางคน
ใครบางคนในโลงแก้ว ใครคนนั้นหลับตาลงอย่างสงบสุขราวกับปลดเปลื้องความทุกข์ทั้งหมดแล้ว
ผมของอาบิเกลกลับมาสั้นระต้นคอ
เธออยู่ในชุดเดรสสีดำเรียบๆ มือข้างขวากำด้ามร่มเอาไว้ มือข้างซ้ายถือดอกไม้สีขาว
และน้ำตาไหลอาบแก้ม แม้มีร่มสีดำ ร่มนั้นไม่ได้ป้องกันร่างกายหรือจิตใจของเธอ
มันเปียกชื้นไปหมด
คำพูดที่บาทหลวงกล่าวส่งมาไม่ถึงเธอ
ฝนได้กลบทุกอย่างแต่ไม่อาจกลบความจริงได้ว่าเธอเป็นคนที่สมควรไปอยู่ในโลงนั้นมากกว่าอีกคนหนึ่ง
เซลีนไม่สมควรตาย
ชายฉกรรจ์สองคนเตรียมยกโลงเพื่อวางลงไปในหลุมซึ่งถูกขุดเตรียมไว้
อาบิเกลยังไม่ทันเตรียมใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เธอยังไม่ได้เตรียมใจ เธอไม่พร้อม
และเซลีนไม่ใช่คนที่ควรลงไปอยู่ในนั้นจริงๆ สิ่งของในมือหญิงสาววัยยี่สิบสี่ตกลงเปื้อนดินโคลน
ปลายเท้าถูกถีบเพื่อส่งตัวเองพุ่งไปข้างหน้า ปลายทางคือหลุม อาบิเกลส่งตัวเองลงไปโดยไม่สนใจเสียงโหวกเหวกโวยวาย
เธอทำเพื่อที่จะจบเรื่องทุกอย่าง
อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องทุกข์ทรมานกับสภาพปัจจุบันที่เธอไม่เคยได้เลือก...
ร่างกายถูกฉุดกระชากลงไปในหลุมที่ไม่มีจุดสิ้นสุด เธอดิ่งลงไป ดิ่งลงไป ดิ่งลงไปเรื่อยๆ จนอาบิเกลสะดุ้ง ถึงเวลาที่เธอควรจะตื่นแล้ว
ความคิดเห็น